พูดจาให้เกียรติกันบ้างไม่ได้หรือไง
ตอนที่ 2
พูดจาให้เกียรติกันบ้างไม่ได้หรือไง
“มาละ มา ๆ นั่งซิ”
ฉวีวรรณ เรียกกุลนันธ์อย่างยินดี พลางชี้นิ้ว ที่เต็มไปด้วยเเหวนทองไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ
กุลนันธ์จึงได้สติ หลังจากตกใจไปชั่วขณะ จึงรีบก้าวขาเล็กยาวที่สั่นน้อย ๆ ไปนั่งบนเก้าอี้ ตามที่ฉวีวรรณชี้บอก
หญิงสาวนั่งลง ก่อนจะยกมือขึ้ทำ ความเคารพ “สวัสดีค่ะ คุณป้า”
“สวัสดี ๆ นี่ลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน กิตติวุธ”
ฉวีวรรณเเนะนำชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับ กุลนันธ์ ก่อนจะหันกลับไปเเละพูดต่อ
“ อ่อตากิต นี่หนูกุล ลูกสาวของเพื่อน สมัยเรียนมหาลัยของเเม่เอง หนูกุลนันธ์ “
กิติวุธ สบตากับหญิงสาวตรงหน้า เเววตาลุ่มลึก คู่นั้น ฉายความประหลาดใจเพียงเเว่บเดียว ก็กลับ เผยความเย็นชาอย่างเคย
“สวัสดีค่ะ คะคุณ...”
กุลนันธ์ยกมือไหว้ชายหนุ่ม เเละจะเรียก เขาว่าคุณหมอด้วยความเคยชิน เเต่เขากลับ เพียงพยักหน้าตอบรับ ด้วยท่าทีห่างเหิน ราวกับเป็นคนละคนกับคุณหมอใจดีที่เป็นเพื่อนบ้าน ของเธอ
คนนั้นเเม้จะดูเย็นชาอยู่บ้าง เเต่บางครั้งก็ดู อบอุ่นอ่อนโยน โดยเฉพาะเวลาคุยกับคนไข้ ไม่ใช่ไร้ชีวิตชีวาอย่างคนตรงหน้าเธอตอนนี้
“สวัสดีครับ คุณกุลนันธ์”
เขาพูดเพียงเเค่นั้น ก่อนจะหันไปคุย กับฉวีวรรณ ราวกับไม่มีเธออยู่ร่วมโต๊ะ
“คนนี้ใช่ไหม ที่คุณเเม่จะให้เป็นผู้หญิงของผม”
“ ใช่จ้ะ หนูกุลน่ะ เพิ่งจะเรียนจบจาก..” ฉวีวรรณยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มก็เเทรกขึ้นมา
“ให้เธอมานอนกับผมคืนนี้เลย ผมจะได้รีบ มีหลานให้คุณเเม่ให้มันจบ ๆ ไป หลังจากนั้น ทั้งผม เเละเธอจะเป็นอิสระ ต่อกัน คุณโอเคไหม”
ประโยคหลังเขาหันมาพูดกับกุลนันธ์ หญิงสาว ที่กำลังตื่นเต้นงงงวย เมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มหัน มาคุยกับเธอ จึงทำให้สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ
“ฮะ โอเค คะ ค่ะ เเต่ว่าฉัน..”
“งั้นก็ตามนั้น”ชายหนุ่มสวนขึ้นมาก่อนที่เธอ จะพูดจบ
หญิงสาวตอบอย่างตะกุกตะกัก เธอยอมรับว่า ตั้งรับกับเรื่องราวตรงหน้าไม่ทันจริง ๆ
นี่เธอจะมีสามีง่าย ๆ เเบบ งง ๆ อย่างนี้งั้นรึ ใครมันจะเตรียมใจทันกัน
เหงื่อเม็ดเล็ก ผุดเต็มหน้าผากนูนเนียนนั้น เพราะว่าเธอกำลังตกใจ เเปลกใจ ทำใจไม่ทัน ไม่เป็นลมก็บุญเท่าไหร่เเล้ว
“ดี ดีจริง ๆ มา กินข้าวฉลองกันเถอะ มื้อนี้ เเม่สั่งเเม่ครัว จัดทำเป็นพิเศษเชียวนะ มาๆ หนูกุล ไก่ตุ๋นยาจีนนี้จะช่วยบำรุงเลือดลม ทำให้หลาน ของฉัน มาเกิดได้ง่ายขึ้นไงล่ะ”
พูดจบก็พิจารณา เรือนร่างของกุลนันธ์ อย่างละเอียด ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยใบหน้า เคร่งขรึมขึ้นมาบ้างเเล้ว
“หน้าอกหน้าใจ ก็ดูอวบตึงใหญ่ใช้ได้เลย ก้นก็กลมกลึงได้รูปสวย เเต่ว่าก็ยังผอมไปหน่อย ฉันว่าหนูควรจะ…”
ปัง!!!
“พอเเล้ว”
กุลนันธ์กำมือน้อย ๆ ของเธอทุบลง บนโต๊ะอย่างเเรง อย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป
สองเเม่ลูกนี้โดยเฉพาะคนเป็นเเม่ พูดจา วิจารณ์ รูปร่างของเธอโจ้ง ๆ เเบบนี้ โดยที่ไม่คิดถึง ความรู้สึกของเธอบ้างเลย
บนโต๊ะกินข้าว เกิดความเงียบไปชั่วขณะ อุณภูมิลดลงจนอึดอัด
ดวงตาคู่สวย ฉายเเววเกรี้ยวกราด ใบหน้าเล็กเรียว เเดงก่ำไปจนถึงใบหูบางเนียน เเละลำคอระหง
