ตอนที่6 จะจบที่ตรงไหน
“อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน” สิ้นสุดคำพูดนี้ตัวปราชญ์ก็ไม่ได้รั้งเธอไว้อีก เขากดท้ายทอยของเธอลงมาบดจูบเข้าริมฝีปากอิ่มเอิบนั่นอย่างไม่เบาเลย
“อื้ม!” เธอจูบตอบเขาอย่างไม่รู้จักคำว่าเจ็บแม้แต่น้อย บดเบียดร่างกายของตัวเองเข้าใส่ลำตัวของเขาจนสัมผัสกับความฉ่ำแฉะจากใจกลางรักของเธอ
ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปที่แผ่นหลังบาง ปลดตะขอเสื้อชั้นในจนมันหลุดแล้วดึงออกโดยเจ้าตัวก็ไม่รอช้าที่จะขยับถอดมันทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ
เธอขยับกายควานหาสิ่งที่ต้องการจนเจอ จ่อส่วนหัวไปยังรอยแยกของตัวเองอย่างไม่รอช้า
“อื้ม!” เหมือนกับพอใจในสิ่งที่ได้มากจนส่งเสียงร้องออกมา พยายามกดตัวเองลงไปอย่างยากลำบาก
“.....” ปราชญ์ผละออกจากจูบหลุบตามองการกระทำด้านล่างพร้อมกรามแกร่งขบแน่นจากความรัดรึงและเจ็บส่วนหัว
“อื้อ!” ลาทิชากัดริมฝีปากแน่นเมื่อพยายามสุดความสามารถแล้วแต่มันยากเกินกว่าเธอจะทำได้
ทั้งที่รู้สึกดีและอยากได้มากกว่าเดิม แต่มันก็ยากลำบากที่จะคืบคลานเข้าไปให้ลึกล้ำอย่างที่เธอต้องการ
ตุบ!
ร่างบางถูกยกพลิกให้อยู่ด้านล่างเมื่อเธอทำไม่สำเร็จสักที ปราชญ์จับแยกขาเรียวออกจากกันกว้างกว่าเดิม มองเห็นกลีบอวบอูมตรงหน้าที่ปิดแน่น ตรงกลางรอยแยกมีสีระเรื่อดูสดใหม่จนเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคอ
“อื้อ!” เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นพร้อมกับหยัดตัวเข้าใส่เขาอย่างทนไม่ไหว เฝ้ารอสิ่งที่เธอไขว่คว้าแต่ยังไม่ได้มาก่อนหน้านี้ต่อ
“.....” ปราชญ์มองคนใต้ร่างอีกครั้ง สิ้นสุดความลังเลใดๆ ควบคุมความแข็งเขื่องของตัวเองไปยังรอยแยกแล้วค่อยๆ กดมันเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน
“อ๊ะ! อื้อ!” เสียงร้องครางดังขึ้นหนักๆ มือจิกลงกับที่นอนทั้งรู้สึกเจ็บแต่ก็เสียวจนเธอแยกไม่ออก
“.....” ปราชญ์ขบกรามแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนกับความรัดรึงที่ได้รับ แต่ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่คิดจะหยุด
ส่งความแหลมคมเข้าไปอย่างไม่ผ่อนแรง จนในที่สุดก็คืบคลานได้สุดความยาว
ปึก! กึด!
“อ๊า!!!” เสียงร้องดังขึ้นก่อนจะหอบหายใจหนักออกมากับความเจ็บปวดที่แทรกซึมเข้ามาในอารมณ์ปรารถนานี้ของเธอ
แต่ไม่นานเธอก็สามารถละทิ้งและมองข้ามความรู้สึกนี้ออกไปได้ สะโพกสวยหยัดเข้าใส่ร่างแกร่งอย่างไม่รอช้า รู้สึกดีอย่างมากกับการเสียดสีบดเบียดของสิ่งที่เชื่อมติดกันอยู่ตอนนี้
“.....” ปราชญ์มองของเหลวสีใสที่ปนเปื้อนมากับสีแดงของเลือดในแกนเนื้อของเขา ก่อนจะมองยังเจ้าของร่างที่ไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากความต้องการของตัวเอง
สุดท้ายเขาก็เลิกคิดเรื่องต่างๆ ก่อนจะเริ่มสาวสะโพกแกร่งเข้าออกยังร่องรักคับแน่นของเธอตามที่อีกฝ่ายต้องการทันที
ปึก! ปึก! ปึก!
ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ก็ไม่ได้เบาเลยสักนิดสำหรับมือใหม่อย่างเธอ แต่ด้วยอารมณ์แห่งแรงปรารถนานี้กลับทำให้เธอขัดใจเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“อ๊ะ! อ๊า! ระ...แรงอีก” เธอครางสุขสมก่อนจะออกปากสั่งอีกฝ่ายอย่างที่ต้องการ พยายามบดเบียดตัวเองใส่ตามแรงกระสัน
เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยสักนิด เพราะเขาไม่เคยคิดจะทะนุถนอมใครในเรื่องเซ็กซ์อยู่แล้ว
ขาเรียวถูกยกขึ้นพาบ่าแกร่งสะโพกสวยสูงขึ้นตามไปด้วย เอวสอบสาวตัวตอกกระแทกเข้าใส่รอยแยกนั่นอย่างหนักหน่วงถี่ระรัว
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะๆๆ อ๊า!!!” ดูเธอจะพอใจไม่น้อยกับความรุนแรงระดับนี้ ครวญครางอย่างสุขสม มือหนึ่งจิกผ้าห่มแน่น มือหนึ่งบีบเต้าสวยของตัวเองไม่หยุดอย่างเย้ายวน
เป็นภาพที่ยั่วยวนบุรุษเพศได้อย่างดีไม่น้อย ปราชญ์สาวเอวสอบตอกกระแทกเข้าออกซ้ำๆ แบบนั้นอีกนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่นานนักเขาก็ปล่อยลงก่อนจะก้มลงไปครอบครองเต้าสวยขนาดแทบจะเกินตัวของเธอด้วยฝ่ามือใหญ่ของเขา
“อื้อ!” เจ้าของเต้าครางหวาน แอ่นอกให้เขาอย่างเชื้อเชิญ
และเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธการฉกชิมนี้จากเธอ ก้มลงไปครอบครองยอดปทุมถันสีสดนั่นอย่างไม่หักห้ามใจ
มันหวานอย่างที่เขาไม่ได้คิดไว้เลย หวานจนทำให้เขามัวเมาอย่างไม่ใช้ความคิดใดๆ ตะโบมลิ้นระรัวตวัดเกี่ยว ริมฝีปากดูดดึงราวกับมีน้ำหวานหลั่งออกมาให้ช่วงชิมไม่หยุด
“อะ! อูว!” เสียงกระเส่าดังขึ้น ขาเรียวตวัดสะโพกแกร่งไว้แน่น มือบางจิกทึ้งกลุ่มผมของเขาระหว่างแอ่นอกขึ้นสู้
เป็นการเริ่มเกมด้วยความดุเดือดและกำลังพักยกด้วยความกระสันเสียวค่อยเป็นค่อยไป ได้ทุกรสชาติจนเธอทนไม่ไหว
“อะ! อ่า!” ร่างบางกระตุกเกร็งตอดรัดแกนเนื้อแข็งนั่นถี่ๆ บ่งบอกว่าถึงจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อย
“.....” ปราชญ์เห็นแบบนั้นก็ผละออกจากเต้าสวย แยกขาเรียวออกจากกันกว้าง ตอกเอวสอบสะโพกแกร่งของตัวเองใส่เธอถี่ระรัวเพื่อส่งตัวเอง
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะๆๆ อ๊าๆ” คนพึ่งเสร็จสมแต่ก็ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ครวญครางกับจังหวะของเขาระงม
“ซี๊ด!” และไม่นานร่างสูงก็กระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาใส่ร่องรักของเธออย่างรู้ดีว่าเขาไม่ได้ป้องกันตั้งแต่แรก
แต่มันไม่ใช่สิ่งที่จะกังวลในตอนนี้ มันมีวิธีแก้ปัญหาได้ไม่ยากในวันพรุ่งนี้ นั่นเลยทำให้เขาไม่ได้สนใจ
เธอเองก็ไม่ต่างกัน หลังจากเขาหยุดก็หอบหายใจหนักๆ จากความเหนื่อย แต่การพักเหนื่อยของเธอดูจะเร็วมาก เธอดันอกแกร่งไปด้านข้างรีบขยับตัวลุกแล้วดันเขาลงไปกับเตียงอีกครั้งก่อนจะทาบทับเขาไว้เหมือนกับตอนแรก
ไม่ได้รอช้าเลยที่จะก้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากของเขาอย่างดูดดื่ม เป็นฝ่ายรุกจูบแต่กลับต้องเดินตามเขาอย่างไม่ประสาเท่าไหร่ แต่เธอไม่ได้สนใจเลยว่าจูบเป็นไม่เป็นคืออะไร เธอเอาแต่ดูดดึงแข่งกับเขา ตวัดเกี่ยวลิ้นของเขาเหมือนที่เขาทำกับเธอ
จูบจนพอใจก็ผละออกพรมริมฝีปากไปทั่วใบหน้าของเขาไม่หยุด ไล้ต่ำลงไปซอกคอแกร่งจูบซับเผลอขบเม้มจนเป็นรอยแดง
แต่ปราชญ์ก็ไม่ได้ว่าอะไรและปล่อยให้เธอทำอย่างที่ปกติเขาไม่เคยให้ผู้หญิงที่ไหนจูบปากพร่ำเพรื่อ ยิ่งไม่มีทางทิ้งร่องรอยนอกร่มผ้าเขาได้
เขาถูกเธอปลุกเร้าอีกครั้งอย่างง่ายดาย ปล่อยให้เธอทำทุกอย่างที่อยากทำโดยเขาก็ตอบรับอย่างพอใจอยู่ใต้ร่าง
ร่างบางขยับต่ำลงไปเล็กน้อย ฝ่ามือบางครอบครองกับความแข็งเขื่องขนาดใหญ่ของเขา ชักรูดเบาๆ ราวกับเจอของเล่นใหม่ที่พึงพอใจ
เธอยกสะโพกสวยขึ้นก่อนจะส่งมันเข้าไปยังรอยแยก ค่อยๆ กดตัวนั่งทับกลืนกินลงไปอย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้ยากเท่ารอบแรก
“อะ อ่า!” เสียงครางต่ำดังขึ้นอย่างหนักเมื่อกลืนกินความแหลมคมจนสุด
มันอึดอัด จุกเสียด แต่ก็เสียวซ่านสะท้านทั้งร่างด้วยเช่นกัน
ไม่ได้ยากกับการปรับตัวของเธอเลยสักนิด เมื่อปรับตัวได้สะโพกผายก็เริ่มขยับขยี้ทำงานบดคลึงความแหลมคมที่กลืนกินอยู่อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหาจังหวะของตัวเอง
เธอเรียนรู้ได้รวดเร็วมาก ไม่รู้เพราะสัญชาตญาณหรือฤทธิ์ยาที่ควบคุมอยู่ ทำให้ความไม่ประสาในคราแรกค่อยๆ เปลี่ยนเป็นช่ำชองขึ้นตามลำดับ ทำให้ชายหนุ่มผู้นึ่งขรึมครางในลำคอซ้ำแล้วซ้ำอีก
ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเร่าร้อน เขาและเธอต่างกันผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใครหรือยอมแพ้ต่อสงครามสวาทครั้งนี้ ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่ามันจะจบลงที่ตรงไหนและเมื่อไหร่
