บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ตบหัวแล้วลูบหลัง

รถสปอร์ตของคิรินมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ อลิซนั่งเงียบมาตลอดทาง…พอเห็นว่ามาถึงบ้านเธอก็หยิบกระเป๋ามาสะพาย หันไปมองหน้าคิรินที่นิ่งเงียบเหมือนเคย

“ขอบคุณนะคะ”

“…”

“พี่คิรินไม่รักอลิซก็ไม่เป็นไร ให้อลิซรักพี่คิรินฝ่ายเดียวก็ได้…”

“สักวันเธอจะเบื่อไปเอง”

“ไม่หรอก อลิซไม่ใช่คนเบื่อง่ายขนาดนั้น…แต่อลิซมีหนึ่งเรื่องจะขอ…” เธอมองเขาด้วยแววตาเศร้าหมอง เห็นแล้วก็น่าเอ็นดู และหากคนตรงนี้เป็นผู้ชายสักคนที่ไม่ใช่คิริน เขาจะยกทั้งหัวใจให้เธอโดยที่เธอแทบไม่ต้องร้องขอ

“อะไร?”

“อย่ารำคาญอลิซได้ไหมคะ? แค่อลิซรักพี่คิรินข้างเดียวก็น่าเศร้ามากแล้วนะ อย่ารำคาญกันเลยนะ” เธอทำเสียงออดอ้อน แต่ทำตาน่าสงสาร ช่างเป็นยัยตัวแสบได้อย่างไร้ที่ติ

“ก็อย่าพูดมาก…” แล้วเขาก็ต้องยอมเธอตลอด เพียงแค่ไม่ใช่หัวใจกับความรัก เขาให้เธอได้ทุกอย่าง

“ถ้าแค่ไม่พูดมากพี่คิรินก็จะไม่เบื่อใช่ไหม?”

“อืม”

“งั้น…ก็ยังจะรับสายอลิซใช่ไหม? ถ้าขอให้พาไปกินไอติมก็ยังจะมาใช่ไหม?”

“…”

“ใช่ไหมคะ?”

“ก็แล้วเคยไม่มาเหรอ?”

“ไม่ค่ะ” อลิซส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม “งั้นมีอีกเรื่องที่อยากจะขอค่ะ”

“ไหนว่าเรื่องเดียว?”

“ขออีกเรื่องนะคะ นะๆ” คราวนี้เธอยื่นดวงหน้าสวยปนน่ารักราวกับตุ๊กตาเข้าไปใกล้เขา เผลอตัวเอาหน้าอกนุ่มนิ่มที่โตเกินอายุเข้าไปแนบชิดเขา บางครั้งเธอก็ไม่เคยทันคิดว่าคิรินเป็นผู้ชาย…และที่เธอไม่เคยรู้คือเขาชอบเรือนร่างของผู้หญิงมากกว่าอะไรทั้งนั้น

“พูดมา” คิรินกัดกราม ความนุ่มนิ่มทำให้เขารู้สึก มันเริ่มปั่นป่วนอยู่ข้างใน บอกตามตรงว่าถ้าอลิซไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนรัก เธอเสร็จเขาไปตั้งนานแล้ว ไม่มีทางอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้แน่

“ถ้าวันนึงที่พี่คิรินอยากจะรักใครสักคน…ขอให้คนคนเป็นอลิซนะคะ”

“…”

“อย่าลืมนะคะ…อลิซจะรอวันนั้น…” จบคำนั้นยัยตัวแสบก็ลงจากรถไปพร้อมกับรอยยิ้ม ทิ้งให้คิรินได้แต่มองตาม…คิดอยู่ในใจว่าเรื่องนี้จะจบยังไง เพราะไม่ว่าอลิซจะรอไปนานแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันรักเธอ

พอกลับมาถึงบ้านก็เป็นเรื่องปกติที่อลิซจะต้องไปนั่งดูโทรทัศน์และกินผลไม้ร่วมกับคุณปู่ คุณป้าและพ่อกับแม่ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ อลิซเป็นคนโปรดคนใหม่ของบ้านหลังนี้ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ทุกคนก็พร้อมที่จะฟัง ไม่ว่าเธออยากได้หรืออยากทำอะไร พวกเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยเฉพาะกับคุณปู่…ที่เห่อหลานสาวคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเกิดจนถึงตอนนี้

หลังจากที่อลิซดูละครกับครอบครัวจบ เธอก็ขึ้นมาบนห้องนอน ร่างบางรีบกระโดดขึ้นเตียง เมื่อเธอได้เห็นถึงแบรนด์ดังวางอยู่ ไม่รอช้าเธอรีบเปิดของข้างในออกมาดู รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก…มันคือกระเป๋าที่เธอไปดูมาวันนี้ และคนคนเดียวที่รู้ก็คือคิริน…นี่เขาซื้อกระเป๋าราคาเหยียบสามแสนให้เธออีกแล้ว…ทั้งที่ปากบอกว่ารำคาญเธอ ทั้งๆที่บอกว่าไม่มีทางรักเธอ แต่เขาใส่ใจเธอ…เขาให้สิ่งของพวกนี้ในทุกครั้งที่เธออยากได้เสมอ

“ชิ! แบบนี้เรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ” อลิซไม่พอรอ เธอพูดกับตัวเองพลางหยิบมือถือขึ้นมาโทรออกหาคิริน

“พี่คิริน…”

[อืม]

“ขอบคุณนะคะ แต่อลิซบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องซื้อ”

[จะเอาไปคืนไหม?]

“งื้อ! ซื้อมาแล้วจะคืนได้ไงล่ะคะ? เนี่ย…พี่คิรินชอบทำแบบนี้ อลิซไม่รักยังไงไหว?”

[แค่นี้นะ…]

“อย่าเพิ่งวางนะ บอกมาก่อนว่าทำไมถึงซื้อให้”

[เพราะมันง่ายดี]

“หมายความว่าไงคะ?”

[ก็ตามที่พูด แค่นี้…] แล้วเขาก็วางสายไปทันที อลิซได้แต่นั่งคิดว่า ‘เพราะมันง่ายดี’ มันหมายความว่ายังไง อะไรง่าย?

อลิซมาโรงเรียนพร้อมกับกระเป๋าใบใหม่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ…ผู้ชายมองมาที่เธอด้วยความตะลึง รอยยิ้มของเธอสะกดให้ต้องเหลียวหลังมอง ส่วนผู้หญิง…ไม่ได้มองเพราะเธอสวยน่ารัก แต่มองเพราะเธอเป็นคนแรกของโรงเรียนที่ได้สะพายชาแนลคอลเลคชันใหม่เสมอ และแน่นอนว่าเธอชินแล้วกับสายตาเหล่านั้น

“โอเค…ชาแนลใบใหม่” เหมยลี่เอ่ยทักทายเพื่อนขณะที่เพื่อนเดินเข้ามาในบริเวณล็อกเกอร์ของนักเรียนเกรดสิบสอง

“สวยไหม? พี่คิรินซื้อให้”

“ก็ต้องสวยสิวะ นี่ชาแนลนะ ฉันต้องไปตำบ้างแล้วล่ะ…น้ำอิงแกเอาด้วยไหม? เราสามคนจะได้มีเหมือนกันไง”

“ไม่อะ ฉันไม่ชอบใช้ของแบรนด์เนม แกก็น่าจะรู้” น้ำอิงปฏิเสธ

“บางทีมันก็ต้องมีบ้างปะวะ?”

“ก็แล้วทำไมต้องมี? ไม่ใช่ของจำเป็นด้วยซ้ำ”

“อย่าเถียงกันน่ะ ฉันมีแผนสำหรับคืนนี้แล้วนะ…” อลิซปรามเพื่อน ก่อนจะทำหน้าตื่นเต้น อยากจะเล่าแผนสำหรับเที่ยวคลับคืนนี้ให้เพื่อนฟัง

“แผนเหรอ? ครั้งที่แล้วตอนแกบอกว่ามีแผน สรุปคือพ่อแม่จับได้ว่าเที่ยวคลับ” เหมยลี่กลัวทุกครั้งที่อลิซบอกว่ามีแผน

“แต่ครั้งนี้รับรองว่าไม่โป๊ะ”

“ว่ามา…”

“ฉันบอกแด๊ดดี้กับหม่ามี้ว่าจะไปค้างกับพี่อาเธอร์…แต่เดี๋ยวสักเที่ยงๆฉันจะแกล้งป่วย แล้วให้พี่เขามารับฉัน ช่วงพี่อาเธอร์ยุ่งๆ เขาไม่มีทางมานั่งเฝ้าฉัน เพราะงั้น…ฉันจะมีเวลาแปลงโฉมตัวเอง”

“แปลงโฉม?”

“ก็ครั้งที่แล้วเราโดนจับได้เพราะเราทำตัวหน่อมแน้มน่ะสิ ครั้งนี้ฉันจะแต่งหน้าแต่ตัวให้เหมือนสาวมหาลัย…รับรองว่าการ์ดจับไม่ได้แน่ๆ”

“แล้วไงต่อ?” เหมยลี่เริ่มเห็นว่าแผนของอลิซเข้าท่า

“พอแต่งตัวเสร็จฉันจะบอกพี่อาเธอร์ว่าหายป่วยแล้ว แล้วก็จะไปอ่านหนังสือบ้านแกแล้วก็จะค้างกับแกด้วย แล้วเราก็เที่ยวกันไง! เป็นไง…แผนฉันเจ๋งไหม?”

“มันก็เจ๋ง…ถ้าแผนสำเร็จอะนะ” เหมยลี่ว่า

“มันจะสำเร็จ…เพราะฉันคิดแผนนี้มาทั้งคืน” อลิซยกยิ้มอย่างมั่นใจ

“งั้นเหรอวะ?” ผิดกับเหมยลี่ที่ได้กลิ่นทะแม่งๆก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ

“แต่แกไม่ไปจริงๆใช่ไหมน้ำอิง?”

“ไม่อะ ฉันมีเรียนภาษาจีน…” น้ำอิงตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไป แล้วเหมยลี่ก็รั้งแขนอลิซที่กำลังจะเดินตามน้ำอิงไว้

“อะไร?”

“ฉันว่าน้ำอิงมันแปลกๆว่ะ เมื่อวานมันบอกว่ามีเรียนเปียโนกับไวโอลิน แต่วันนี้มันบอกว่าเรียนภาษาจีน”

“แล้ว?”

“มันโกหกไง…มันแค่ไม่อยากไปเที่ยวกับพวกเรา แล้วก็หาเรื่องโกหกไปเรื่อย”

“ช่างมันเถอะ แกจะไปเอาอะไรกับมัน…น้ำอิงมันอาจจะไม่ชอบเที่ยวคลับก็ได้”

“ก็ไม่เห็นต้องโกหกปะวะ?” เหมยลี่ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ คนเราเป็นเพื่อนกัน…มีอะไรควรจะบอกกับเพื่อนตรงๆ ไม่ใช่มาโกหกแบบนี้ เพราะมันแสดงออกถึงความไม่จริงใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel