บทที่ 2 บอกรักทุกวัน
เสียงกระซิบกระซาบที่เกิดจากนักเรียนไฮสคูลจำนวนหลายสิบคน ทำให้มันดังจนกลายเป็นเสียงฮือฮา เพราะเวลานี้ที่หน้าโรงเรียนนานาชาติชื่อดังมีรถสปอร์ตสุดหรูจอดอยู่ และร่างสูงที่ยืนพิงรถสูบบุหรี่ก็เป็นคนดังในโลกโซเชียล ทุกคนรู้จักเขาในนามว่าคิริน รู้ว่าเขาหล่อและฐานะดี จบการตลาดมาจากแอลเอเมื่อปีก่อน และเขากำลังจะเปิดคลับกับเพื่อนรักอย่างอาเธอร์ แต่นอกเหนือจากนั้น…ไม่มีอะไรเกี่ยวกับคิรินที่พวกเขารู้เลย เนื่องจากชายหนุ่มพูดน้อย โซเชียลก็มีไว้ทำการตลาดให้ธุรกิจที่กำลังเตรียมงาน และเขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องครอบครัวกับใคร มีแค่อาเธอร์ที่รู้…แต่ก็รู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
คิรินในวัยยี่สิบสามปีถูกทุกสายตาจับจ้อง สาวๆมองเขาพร้อมรอยยิ้ม บางคนปลื้มเขาราวกับปลื้มไอดอลเกาหลี บางคนก็เขินถึงขั้นบิดตัวจนแทบม้วนเป็นเลขแปด ส่วนเหล่านักเรียนชาย…บ้างก็มองด้วยความอิจฉา บ้างก็มองเพราะเห็นเขาเป็นไอดอล และบางคนก็มองเขาเป็นศัตรู…หัวใจ
“เก๊กฉิบหาย…ก็แค่หล่อ ต่อให้รวย…กูว่าแม่งก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้น” และคนคนนั้นก็คือไทเกอร์
“มึงรู้เหรอว่าพ่อแม่เฮียคิรินเป็นใคร?” ทามเอ่ยถามเพื่อน
“หึ ทำไมกูต้องสนใจแม่ง? แล้วทำไมมึงต้องเรียกมันว่าเฮีย?”
“ไอ้ห่า! ก็ต้องเรียกดิวะ! เขาแก่กว่ากู…แล้วเขาก็เลี้ยงเหล้ากูบ่อยด้วย ตกลงว่ามึงไม่รู้ใช่ไหมว่าพ่อเฮียคิรินเป็นใคร?”
“ออกสอบหรือไงที่กูต้องรู้?”
“กวนตีนกูได้…ไม่ว่าครับเพื่อน แต่อย่าไปทำหน้ากวนตีนใส่เฮียคิรินก็พอ นั่นอะ…ทายาทมาเฟียนะเพื่อน” ทามได้ยินมาจากวงเหล้าของรุ่นพี่ว่าคิรินคือลูกนอกสมรสของมาเฟียใหญ่ที่ชื่อคลาร์ก เจ้าของแก๊งซีอาร์
“แล้ว?” ไทเกอร์ไม่ได้แสดงท่าทีว่าต้องเกรงกลัว
“ก็แค่อย่าหาเรื่องไง”
“พี่คิริน!!!” เสียงสดใสดังขึ้นมา ก่อนที่คนตัวเล็กจะวิ่งฝ่ากลุ่มนักเรียนเข้าไปกอดแขนคิรินพร้อมรอยยิ้ม
“กูรู้แล้วว่าทำไมมึงถึงทำท่าเหม็นขี้ห้าเฮียเขา เพราะอลิซในดินแดนนรกอเวจีนี่เอง” ทามเอ่ยพร้อมน้ำเสียงปนหัวเราะแล้วกอดไหล่ไทเกอร์ “ศัตรูหัวใจสินะ”
“เสือก!” แต่แล้วไทเกอร์ก็ปัดแขนเพื่อนออกแล้วเดินออกไปพร้อมกับอารมณ์ไม่พอใจ
“ไปไหนวะ! รอกูด้วย!”
รถสปอร์ตวิ่งด้วยความเร็วปานกลาง ทั้งๆที่ปกติแล้วคิรินเป็นคนขับรถเร็ว แต่เมื่อไหร่ที่มีอลิซอยู่บนรถ ความเร็วจะจำกัดอยู่แค่แปดสิบถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง มันเป็นแบบนี้โดยอัตโนมัติ โดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ และมันเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว…ที่อลิซทำตัวติดเขาเป็นตังเม เจอทีไรเธอก็จะกอดแขนเขา อ้อนเขา บอกรักเขา ต่อให้เขาจะทำเมินและเงียบใส่ เธอก็ยังไม่คิดจะที่เลิกทำ เธอบอกว่าเธอรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ…ซึ่งก็คือเมื่อห้าปีก่อน และเธอรอเขาไปเรียนต่อนานถึงสี่ปี จนเวลานี้เขากลับมาแล้ว…เพราะอย่างนั้นเธอถึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขารักเธอกลับบ้าง
แน่นอนว่า…เขารับฟังและปฏิเสธเธอทุกครั้ง
“เมื่อกี้อลิซเห็นนะว่ามีพวกผู้หญิงมาส่งยิ้มให้พี่อะ” อลิซกอดอกหันมองคิรินที่ขับรถด้วยความเงียบงัน เวลาอยู่ด้วยกัน…จะมีแค่อลิซที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว
“…”
“ห้ามมองยัยพวกนั้นนะคะ ในสายตาของพี่คิรินต้องมีแค่อลิซคนเดียว”
“…”
“เพราะพี่คิรินเป็นของอลิซ…อลิซรักพี่คิริน”
“รำคาญ”
“งื้อ! ใครเขาพูดว่ารำคาญกับคนที่บอกรักกันคะ?”
“ฉันไง”
“พี่คิริน!”
“นั่งเงียบๆ”
“พูดทีละคำสองคำอยู่ได้! ทำไมทีกับพี่อาเธอร์ถึงพูดยาวๆแล้วกับอลิซพูดแค่สั้นๆ?”
“บอกให้นั่งเงียบๆ”
“บอกรักอลิซสิ…แล้วจะยอมนั่งเงียบๆเลย” เธอทำตาใส ยื่นหน้าพร้อมรอยยิ้มเข้าหาเขา ดึงแขนเขาเข้ามาอิงแอบ ทำอย่างที่ชอบทำ ตามประสาเด็กสาวที่ไม่ทันได้คิดอะไรลึกซึ้ง
“อย่า…” แต่คิรินก็เป็นชายหนุ่มสมวัย เวลาที่หน้าอกหน้าใจนิ่มๆมาถูไถ เขาก็มีความรู้สึก
“ทำไมชอบปฏิเสธอลิซจังเลยคะ? อลิซไม่น่ารักเหรอ? รู้ไหมว่ามีแต่พี่คิรินที่ไม่รักอลิซ คนอื่นเขารักกันหมด”
“ปล่อย…”
“ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือไง? จะหวงทำไมคะ?”
“อลิซ!”
“พี่คิริน…เมื่อไหร่จะยกหัวใจให้อลิซ? รู้ไหมว่าถ้าพี่คิรินรับรักอลิซนะ อลิซจะตั้งใจเรียนเลย จะไม่ดื้อ จะไม่ซน จะเชื่อฟังพี่คิรินทุกอย่างเลย”
“…”
“นะๆ รักอลิซหน่อยนะ”
“ไม่”
“ชิ! แต่อลิซรักพี่คิรินและจะบอกรักพี่คิรินทุกวันเลยนะ” เธอยิ้มให้เขาพร้อมคำบอกรัก ก่อนจะปล่อยแขนเขา แล้วยอมกลับมานั่งปกติ…และจังหวะนั้นคิรินก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง มันเป็นช่วงเวลาที่เขาขับรถเข้ามาจอดบนลานจอดรถของห้างดังพอดี
“เดี๋ยว!” เขารั้งแขนของอลิซเอาไว้ในตอนที่เธอกำลังจะลงจากรถ ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้เธอ ปลายจมูกโด่งไล่สูดดมหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ใบหน้าสวยหล่อใกล้กันเพียงคืบ การกระทำนั้นทำให้อลิซไม่กล้าขยับ จริงอยู่ที่เธอชอบกอดเขา แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่อ่อนต่อโลก และไม่คุ้นชินกับการที่ผู้ชายซึ่งนอกเหนือจากพ่อ ปู่และพี่ชายเข้ามาใกล้มากขนาดนี้
“พี่คิริน…จะทำอะไร?”
“กลิ่น…” เขาเอ่ย ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อลิซมากกว่าเดิม ไล่สูดดมใกล้ๆเรียวปาก ไล่ไปตามซอกคอ ต่ำลงมาที่บริเวณหน้าอก
“กะ…กลิ่นอะไร?”
“บุหรี่!” แล้วเขาผละตัวออก จ้องหน้าอลิซไม่วางตา “เธอสูบบุหรี่?”
“ไม่ใช่นะ! กลิ่นมันมาจากพี่คิรินต่างหาก! อลิซไม่ได้สูบ!”
“กลิ่นมาจากเธอ แต่เอาน้ำหอมกลบ”
“บอกว่าไม่ใช่ไง! ไอ้ไทเกอร์สูบ! เพื่อนอลิซต่างหากที่สูบ…ไม่ใช่อลิซนะ!”
“…” ไม่รู้ว่าเพราะเธอไม่เคยเล่า หรือเพราะเขาไม่ค่อยได้ใส่ใจเธอกันแน่ ถึงได้ไม่เคยรู้ว่าเธอมีเพื่อนผู้ชาย
“พี่คิรินต้องเชื่ออลิซนะ อลิซไม่ได้สูบบุหรี่จริงๆ”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน เพราะพ่อแม่เธออาจจะไม่เชื่อ” จบคำที่ยาวกว่าปกติ คิรินก็ลงไปจากรถ
“ไอ้บ้าไทเกอร์! พรุ่งนี้นายต้องโดนฉันแน่!”
