บท
ตั้งค่า

Chapter 9 ทิ้งฉันไปทำไม

2 สัปดาห์ผ่านไป

พี่โจมาเล่าให้ฉันฟังว่าเขาดีกับแฟนแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำแนะนำของฉันทำให้เขาคิดได้ขึ้นมา แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะคิดได้แบบนี้ไปนานๆไหม จริงๆมันไม่ได้เกี่ยวกับคำแนะนำของฉันหรอก มันขึ้นอยู่กับคนสองคนเท่านั้นแหละ

และวันนี้ฉันมาที่บ้านของพี่โจกับเหนือและหมอกเพราะวันนี้เป็นวันเกิดเขาและเขาจัดปาร์ตี้ที่บ้าน

ไม่คิดเหมือนกันนะว่าเขาจะชวนฉันมาด้วย

สวบ~

เมื่อเรามาถึงบ้านเราก็ลงจากรถทันที บ้านของพี่โจเป็นหมู่บ้านจัดสรรค์ เราจึงจอดรถไว้ด้านนอกรั้วบ้านแทนที่จะขับเข้าไปจอดในบ้านเพราะมันมีปาร์ตี้ไง คนเยอะพอสมควรเลยแหละ

"เฮ้ย ไอ้เหนือคุยด้วยหน่อย"

พี่โจวิ่งออกมารับเรา เขาเข้าไปรั้งแขนเหนือไว้ก่อนจะพยักหน้าให้หมอกเข้าบ้านไปก่อน ส่วนฉันก็จะเดินตามหมอกไปเพราะคิดว่าเขาคงมีเรื่องคุยกันแต่พี่โจดันรั้งฉันไว้อีก

"ข้าว อย่าเพิ่งเข้าไป"

"คะ?"

มีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ

"มีไรพี่"

เหนือขมวดคิ้วถามเขา ฉันเองก็ด้วย พี่โจยิ้มแหยๆพลางเกาหัวตัวเองก่อนจะพูด

"คืองี้นะ..."

"..."

เราสองคนเงียบฟังเขา เขาเหลือบมองซ้ายขวาก่อนจะดึงฉันให้เข้าไปยืนใกล้ๆเหนือแล้วกระซิบพูด

"ทั้งสองคนช่วยเป็นแฟนกันหน่อยได้มั้ย"

"ห๊ะ?"

นี่ร้องถามพร้อมกันเลยนะ ทั้งฉันทั้งเหนือ

"อะไรของพี่"

"ก็แบบ มีนมันไม่ไว้ใจ..."

"กลัวพี่จะชวนกิ๊กมาว่างั้น"

"ก็เออ"

"แล้วทำไมต้องไม่ไว้ใจข้าวล่ะคะ"

"จริงๆตอนนี้มันไม่ไว้ใจผู้หญิงทุกคนเลยล่ะ วันนั้นมันเห็นข้าวที่ผับด้วยไง มันก็ถามบ่อยๆว่าข้าวเป็นใครเห็นสนิทกัน มีเฟซกัน พี่ก็เลยบอกมันไปว่าข้าวเป็นแฟนไอ้เหนืออ่ะ"

"หาเรื่องใส่ตัว โกหกเพื่อ?"

"ก็จะให้ทำไงได้ล่ะวะ"

"ข้าวเข้าใจนะคะ ก็พี่โจอ่ะ ทำกับพี่เค้าแบบนั้นเขาก็เลยไม่ไว้ใจเอาน่ะสิ"

"พี่รู้แล้วครับน้องข้าว พี่ขอแค่วันนี้วันเดียว พี่ไม่อยากให้มีนมาติดใจอะไรข้าว ไม่อยากให้มีปัญหากัน...นะ"

"ก็ได้ค่ะ"

ฉันพยักหน้าตอบจนเหนือหันควับมามองเลยล่ะ ทำไมอ่ะ ก็แค่แกล้งเป็นแฟนกันเอง

"แล้วมึงล่ะ ไอ้ฮีโร่ของพี่"

"ไม่ต้องมาอ้อน"

"น้องเขายอมช่วยกูแล้วนะ"

เหนือหันมามองฉันอีกครั้ง ฉันพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าช่วยพี่เค้าเถอะ ประมาณนั้น

"ไอ้เหนือ...นะ"

"เออ ก็ได้"

"เยส รักมึงที่สุดเลย มายฮีโร่"

พี่โจจะเข้าไปกอดเขาแต่เหนือดันไว้ก่อน

"โจ ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เข้าไปในบ้าน?"

แล้วเราทุกคนก็หยุดชะงักเมื่อแฟนของพี่โจเดินออกมาที่หน้าบ้าน พี่โจกระโดดเข้าไปหาแฟนเลยล่ะ

"อ้อ กำลังจะเข้าไปแล้ว"

พี่โจพูดพลางดึงแขนแฟนของเขาที่กำลังมองฉันอยู่

"อ่า นี่น้องข้าวหอมไง...แฟนไอ้เหนือมัน"

แล้วเขาก็แนะนำฉันให้แฟนของเขารู้จัก เธอมองฉันแบบชั่งใจ

"นี่พี่มีนแฟนพี่เองนะ"

"สวัสดีค่ะ"

ฉันยกยิ้มและเอ่ยทักทายเธอ ก่อนจะหันไปสอดแขนคล้องกับแขนของเหนือไว้

"เราเข้าข้างในกันเถอะ...เหนือ"

เหนือหันมามองฉันแบบอึ้งๆแต่ฉันยิ้มหวานให้เขาและกระตุกแขนเขาเบาๆ

"พอดีข้าวอยากเข้าห้องน้ำด้วยอ่ะ"

"เออ ไอ้เหนือเข้าบ้านกัน รีบพาแฟนไปเข้าห้องน้ำด้วย"

พี่โจตีแขนเขาเบาๆพลางดึงแขนแฟนของเขาให้เดินเข้าไปในบ้าน เธอพยักหน้าให้เราสองคนและยอมก็เดินตามพี่โจเข้าไป

"ไปเถอะค่ะ"

ฉันหันไปบอกเขาก่อนจะดึงเขาให้เดินตามเข้าบ้านไปอีกคน

ตึก ตึก ตึก~

เมื่อเข้ามาในบ้าน พี่โจก็ให้เหนือพาฉันมาที่ห้องน้ำชั้นล่างซึ่งอยู่ในตัวบ้านนั่นแหละ

"จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ"

เมื่อเข้ามาในบ้านฉันก็หยุดเดิน เหนือจึงหันมาถาม

"อ๋อ ค่ะ"

"ทางนั้น"

เหนือพยักเพยิดเป็นเชิงบอกทางให้ฉัน ฉันก็พยักหน้าและเดินไปที่ห้องน้ำ จริงๆฉันไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำหรอกแต่เขาอุตส่าห์พาฉันมาแล้วนี่เนอะ ก็เติมเครื่องสำอางค์สักหน่อยแล้วกัน

เมื่อเช็คความสวยของตัวเองเรียบร้อยแล้วฉันก็เดินออกจากห้องน้ำ แต่โทรศัพท์ดันดังขึ้นซะก่อนฉันก็เลยก้มหน้าลงไปควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพาย

Rrrr~

อ่า พี่เชนโทรมาแหะ...

ฉันหลุบตาลงมองเบอร์ของปลายสายก่อนจะเงยหน้ามองเหนือที่ยืนรออยู่ไม่ไกล

Rrrr~

เสียงมือถือดังขึ้นเป็นรอบที่สองคงดังสู้กับเสียงเพลงจากปาร์ตี้ไม่ได้ เหนือถึงไม่ได้ยินแม้ว่าฉันจะเดินเข้าไปหาเขา ฉันปล่อยให้พี่เชนวางสายไปก่อนจะปิดเครื่อง

พรึ่บ~

ฉันสอดแขนเข้าไปในวงแขนของเหนือ เขาตกใจและหันควับมามองทันที

"ข้าว!"

"ตกใจเหรอคะ อิอิ"

ฉันพูดกลั้วหัวเราะจนเขาทำหน้านิ่งใส่

"เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าค่ะ"

"พี่ยังไม่หิว"

"แต่ข้าวหิวแล้ว"

"..."

เขาหลุบตาลงมองฉันและฉันกระตุกยิ้ม

"นะคะ...คุณแฟน"

23.30 น.

ปาร์ตี้ตอนนี้กำลังคึกครื้น แขกจะเป็นเพื่อนของพี่โจซึ่งส่วนมากเป็นผู้ชาย มีทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพื่อนรุ่นพี่และเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งเหนือเองก็เป็นเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งของพี่โจจึงได้ถูกยื้อไว้ให้ดื่มกับพวกเขา ทุกคนกำลังเมาได้ที่เลยแหละ

สวบ~

"แอบมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวล่ะ"

ฉันที่ปลีกตัวออกมาเพราะเห็นว่าหมอกเดินออกมาจากตรงนั้นสักพัก ตามหาอยู่ไม่นานก็พบว่าเขาหลบมาอยู่แถวๆสวนหลังบ้านของพี่โจ

"อ้าวข้าว ไม่อยู่กับเฮียเหรอ"

หมอกหันมาถามฉัน เขานั่งอยู่บนม้านั่งยาวๆตัวหนึ่ง ในมือถือแก้วไวน์อยู่ด้วย

"อยากออกมาสูดอากาศสักหน่อยน่ะ ขอนั่งด้วยได้มั้ย"

"อื้ม นั่งสิ"

ฟลุ่บ~

เมื่อหมอกพยักหน้าฉันจึงทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งตัวเดียวกันกับเขา

"นายดูไม่ค่อยสนุกนะ"

"ก็สนุกอยู่แหละแต่มันแค่เบื่อๆ ถึงจะเข้ากับคนง่ายแต่พี่โจห่างกับฉันตั้งสี่ปี เพื่อนๆเขาก็รุ่นน่าเคารพมากกว่ามาคุยเล่นน่ะ"

"นายไม่ค่อยสนิทกับพี่โจเหรอ"

"จริงๆก็สนิทระดับนึง พี่โจมาหาเฮียบ่อยๆ แต่ก็อย่างว่าแหละเราห่างกันเยอะ พอดีเพื่อนเฮียอีกสองคนก็มาไม่ได้ด้วยสิ ถ้าพี่สองคนนั้นมาฉันก็ยังพอเข้ากับพวกเค้าได้มากหน่อย"

"อ้อ"

ฉันพยักหน้ารับรู้

"แล้วกับพี่เหนือนายสนิทกันมากหรือเปล่า"

"กับเฮียอ่ะเหรอ สนิทตั้งแต่เด็กๆแล้วเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่รู้มั้ยยิ่งกว่านั้นเฮียเป็นไอดอลของฉันเลยนะ"

"ยังไงเหรอ?"

ฉันถาม เวลาที่หมอกพูดถึงเฮียเหนือของเขาหมอกดูชื่นชมเภขาจริงๆนะ

"ก็เฮียน่ะเก่งตั้งแต่เด็กๆแล้ว เก่งแทบทุกด้านเลย เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็เก่ง ดนตรีก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะด้วย"

"โอ้โห เทพทรูว่างั้นเถอะ"

"ฮ่าๆ เฮียเป็นแบบนั้นสำหรับฉันน่ะนะ แต่เฮียก็ชอบว่าฉันโอเว่อร์เวลาพูดถึงเค้าแบบนั้น"

ฉันหัวเราะตามเขาและหมอกก็พูดต่อ

"ฉันน่ะอยากจะเป็นแบบเฮียมากเลยนะ เพราะตอนเด็กๆฉันตัวเล็กเลยโดนเพื่อนแกล้งบ่อยๆแต่เฮียก็เข้ามาช่วยทุกครั้งเลย มีอยู่ครั้งนึงเฮียบอกให้ฉันสู้พวกนั้นและฉันก็ทำ ฉันผลักเพื่อนล้มหัวแตกแต่เฮียมารับความผิดแทนฉัน โดนครูลงโทษแล้วก็กลับมาโดนพ่อของเฮียตีด้วย เฮียไม่ให้ฉันยอมรับว่าเป็นคนทำ ไม่ใช่ว่าเฮียถือหางฉันหรอกนะแต่เฮียบอกว่าเป็นเพราะเฮียเองที่บอกให้ฉันทำแบบนั้น เฮียเป็นคนผิดตั้งแต่แรก"

"นายดูรักเขามากเลยเนอะ"

พอได้มาฟังหมอกพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกเลยว่าที่ฉันรู้จักเหนือมันเป็นแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น ยิ่งฟังฉันก็ยิ่งรู้สึก...

"อื้ม ถ้าเธอคบกับเฮียไปนานกว่านี้เธอก็จะรู้สึกแบบเดียวกับฉันแน่"

หมอกไม่รู้เรื่องที่เราตกลงกับพี่โจไว้ เขาเองก็เพิ่งมารู้ตอนที่พี่โจแนะนำฉันกับเพื่อนๆเขาว่าเป็นแฟนเหนือ หมอกดูรักและเคารพเฮียเหนือของเขาอย่างที่บอก เขาดูเชื่อทุกอย่างที่เฮียเขาพูดและทำ โดยไม่คิดจะเอ่ยถามอะไรทั้งนั้น เผลอๆเขาอาจคิดว่าฉันกับเหนือคงไปตกลงคบกันจริงๆโดยที่เขาไม่รู้ก็ได้

แต่ฉันคงไม่มีทางจะได้รู้สึกแบบเดียวกับหมอกหรอก ถ้าหากว่าเขายังเป็นเหยื่อของฉัน...

"เอ้อ หมอก"

"ว่า?"

"นายจำที่เราเคยตกลงกันได้มั้ย ตอนที่ฉันช่วยเป็นแบบให้นายวาดภาพ"

"อ้อ จำได้ดิ ว่าแต่รู้แล้วเหรอว่าจะขออะไรแลกเปลี่ยน"

"อื้อ รู้แล้ว"

"อะไรล่ะ"

"ก็...จากที่ฉันฟังนายเล่า ทำให้ฉันรู้เลยว่าฉันรู้จักเฮียของนายไม่มากพอ ซึ่งต่อไปฉันจะต้องรู้ให้ได้มากกว่านี้แน่ๆ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันอยากรู้ตอนนี้"

"เรื่องอะไรล่ะ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฮียฉันรู้หมดนั่นแหละ"

"นายสัญญานะ ว่าจะบอกฉัน"

"..."

หมอกหันมามองหน้าฉันอย่างชั่งใจจนฉันต้องย้ำเขา

"เป็นข้อแลกเปลี่ยนของเราไง"

"อ่า...ก็ได้"

ในที่สุดเขาก็ยอมตกลง ฉันเห็นเขาแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่

ฉันกระตุกยิ้มพลางเปิดโทรศัพท์มีเบอร์ของพี่เชนโทรเข้ามาอีกสามสายและมีเบอร์พี่รินด้วย ฉันไม่สนใจแต่กดเข้าไปที่อัลบัมรูปและเปิดรูปที่เซฟไว้ให้เขาดู

"ผู้หญิงคนนี้กับเขา..."

"พี่แจน!"

หมอกเบิกตาทันทีที่เห็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่ง

"นายพูดว่าเธอชื่ออะไรนะ?"

ฉันถามซ้ำ เมื่อกี้ฉันได้ยินนะ แต่ประเด็นคือผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ชื่อแจนไง หรือมันจะมีอะไรมากกว่านั้นเพราะหมอกกลืนน้ำลายลงคอทำหน้าเหมือนว่าตัวเองหลุดพูดอะไรออกมา

"คือ...เธออยากรู้เรื่องนี้เหรอ"

เขาเงยหน้ามามองฉัน มันดูเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากพูดถึงที่สุดเลยในตอนนี้ แต่ทำไงได้ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องพูด

"ฉันสังเกตุมาสักพักแล้วนะ นายบอกฉันได้มั้ย"

"ฉัน..."

"สองคนนี้เขาเจอกันแล้วนะ"

"เจอกันแล้วจริงๆเหรอ"

"อื้อ หลายครั้งแล้วด้วย"

"..."

หมอกพึมพำ เขาขมวดคิ้วมุ่นเลยล่ะ

"ฉันอยากรู้ นายคงไม่อยากให้ฉันเลิกกับเขาเพราะผู้หญิงคนนี้หรอกใช่มั้ย"

วันนี้ฉันตั้งใจมาเจอจีน่ากับพี่เชนที่ห้างแห่งหนึ่ง สองคนนั้นกำลังร่วมทำกิจกรรมโปรโมทซีรี่ย์ที่เล่นด้วยกันอยู่

กรี้ดดด~

เสียงกรีดร้องแสดงความฟินเวลาที่สองคนนั้นใกล้ชิดกันบ่งบอกได้ดีว่าพวกเขาก็เป็นที่จับตามองอยู่เหมือนกัน ยัยจีน่ายิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม คงเพราะคิดว่าตัวเองกำลังจะประสบความสำเร็จ

หมับ~

"ไปไหนคะ?"

ฉันหันไปคว้าแขนของเหนือไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีไป วันนี้ฉันชวนเขามาที่นี่เองแหละ ฉันรู้เรื่องของเขาจากหมอกแล้ว ยอมรับเลยว่าสงสารและเห็นใจเขามาก แล้วก็ดูออกด้วยว่าเขายังตัดใจไม่ได้ทั้งๆที่มันผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว

"ดูหนังกันมั้ย"

เหนือหันมาถามฉันโดยที่ไม่มองไปบนเวทีนั้นเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขาแต่ฉันพาเขามาเพื่อให้เขาตัดใจ ฉันจะปล่อยเขาไปถ้าเขาไม่กลับไปหามันอีก

"ข้าวขอดูตรงนี้ก่อนนะคะ"

ฉันบอกเขาและรั้งแขนเขาไว้ เขาทำสีหน้าอึดอัดและอยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดด้วย

แต่ฉันจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุด...

"พี่ว่าสองคนนั้นเค้าแค่จิ้นกันหรือคบกันจริงๆคะ"

ฉันถามเขา เหนือเอาแต่มองหน้าฉันเพราะไม่รู้จะมองไปทางไหน เขาถอนหายใจออกมาบ่อยมาก

"ไม่รู้"

"พี่จำผู้หญิงได้มั้ยคะ เราเคยถ่ายงานด้วยกันด้วยนะ"

"..."

"ตอนนั้นแค่เป็นนางแบบแต่ตอนนี้จะดังแล้ว ยิ่งได้ประกบคู่กับพระเอกที่กำลังฮอตอย่างพี่เชน ก็ดังได้ง่ายๆเลยนะคะเนี่ย"

ฉันพูดแล้วทำท่าตื่นเต้น มองแววตาเจ็บปวดของเหนือแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ฉันมีปมกับคนที่เจ็บปวดกับความรักนะ

"ถ้าสองคนนั้นคบกันจริงๆก็คงจะเหมาะสม..."

"ปวดหัวว่ะ"

ฉันชะงักไปเลยเมื่อเหนือโพล่งขึ้นมา เขาพูดกับฉันค่อนข้างฮาร์ดคอนิดหน่อย

"ถ้าไม่ไปดูหนัง จะกลับแล้วนะ"

เขาตวัดสายตามองฉันอีกครั้ง ฉันมองตาเขาได้ไม่นานก็ต้องหลบสายตาแล้วพยักหน้าแทน

"โอเคค่ะ ไปดูหนังกัน"

จากนั้นเราก็ไปดูหนัง ฉันเป็นคนเลือกหนังที่จะดูส่วนเหนือไม่ได้ใส่ใจอะไรเท่าไหร่ เขาไม่ได้อยากดูหนังจริงหรอกแค่หาเรื่องออกมาจากตรงนั้นมากกว่า หลังจากเราดูหนังกันจบฉันก็พาเขามากินไอศกรีม ระหว่างรอฉันก็คุยกับเขา

"หนังตอนจบพระรองน่าสงสารนะคะ พี่เหนือว่ามั้ย"

"อื้ม"

เขาตอบเบาๆพลางหลุบตาลงอ่านเมนูเล่นไปพลางๆ

"พี่เหนือรู้มั้ยคะ ว่าทำไมพระรองถึงไม่มีคู่"

"ไม่รู้สิ"

เขาตอบแบบไม่ได้ใส่ใจ ฉันมองเขาก่อนจะพูดต่อ

"เพราะพระรองยอมจมอยู่กับความรักแบบนั้นไงคะ ทั้งที่รู้ว่านางเอกเริ่มต้นใหม่กับพระเอกไปแล้วและไม่มีทางกลับมาอีก แต่พระรองก็ยังยอมที่จะปิดหูปิดตาและไม่มองหาใครใหม่ ทั้งๆที่มีผู้หญิงอีกมากมายผ่านเข้ามา"

พอฉันพูดแบบนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองฉันก่อนจะเลื่อนสายตามองไปทางอื่น

"ผู้กำกับเขาคงต้องการให้มันออกมาเป็นแบบนั้น"

เขาตอบเหมือนไม่ใส่ใจสิ่งที่ฉันพูด แต่จริงๆฉันรู้ว่าเขาก็แอบเข้าใจ

"ค่ะ แต่ถ้าข้าวเป็นผู้กำกับ ข้าวจะให้พระรองตัดใจจากนางเอกแล้วก็มีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิต พระรองไม่ต้องลืมนางเอกค่ะแต่ข้าวจะให้พระรองเริ่มต้นใหม่ แล้วหนังมันก็จะมีภาคต่อที่พระรองคนนั้นกลายเป็นพระเอกที่มีนางเอกของเขาเอง"

"..."

"พี่เหนือล่ะคะ ถ้าเป็นผู้กำกับพี่จะทำยังไง"

เขามองฉันนิ่งในจังหวะที่ไอศกรีมมาเสิร์ฟพอดี เขาก็หลุบตาลงตักมันกิน ฉันมองเขาก่อนจะพูดอีกครั้ง

"ชีวิตเราก็เหมือนกับหนังม้วนหนึ่ง ถ้าเราเป็นผู้กำกับ เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้เรื่องราวชีวิตของเราเป็นยังไง พี่เหนือไม่คิดแบบนั้นเหรอคะ?"

หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอกับเหนืออีก ฉันกะว่าจะปล่อยเขาไปจริงๆ ตอนนี้เป้าหมายของฉันคือพี่เชนคนเดียว

สวบ~

แต่ว่าวันนี้ฉันมาที่บ้านหลังหนึ่ง ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกสิ่งทุกอย่างแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย

ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตัดสินใจกดออดหน้าบ้าน

ออด~

รอไม่นานประตูก็เปิดออก เป็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสี่สิบกว่าๆ เมื่อเห็นหน้าฉันก็ยิ้มออกมา

ฟลุ่บ~

ฉันโผเข้ากอดผู้หญิงคนนั้นไว้

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะข้าวหอม"

"ขอโทษนะคะที่ข้าวไม่ได้มาหาป้าดาเลย"

ฉันพูดน้ำตาเอ่อคลอออกมาด้วยความคิดถึง ฉันหายไปจากบ้านหลังนี้เป็นเวลาเกือบสี่ปีเห็นจะได้

"อื้ม หนูก็มาแล้วนิจ๊ะ เข้าบ้านก่อนสิ"

ท่านบอกฉัน ฉันก็เลยเดินตามท่านเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม โต๊ะตัวเดิม ตู้ตัวเดิม ชั้นหนังสือก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม เว้นแต่ว่าผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ในกรอบรูปบนชั้นวางของหายไป

"คิดถึงจังเลย..."

ฉันหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมาพลางเกลี่ยนิ้วไปบนใบหน้าของเธอผ่านกระจกของกรอบรูป

ฉันโตมากับเด็กผู้หญิงคนนี้ เพราะพ่อแม่ของฉันเสียไปป้าดาที่เป็นแม่ของเธอและเป็นเพื่อนรักของแม่ฉันก็เลี้ยงฉันมาตั้งแต่ฉันอายุแปดขวบ

ฟลุ่บ~

ป้าดาเข้ามากอดฉันจากทางด้านหลัง ท่านหลุบตาลงมองรูปในมือฉัน

"วันนี้วันครบรอบสินะ"

ท่านพูด ฉันพยักหน้า วันนี้ครบรอบวันตายสี่ปีของเธอ

"ขอโทษนะที่ฉันเพิ่งจะมาหาเธอ ฮึก"

ฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่มันก็กลั้นไม่อยู่ ที่ผ่านมาฉันขี้ขลาดมาก ฉันทั้งรักและผูกพันกับเธอมาก เธอเป็นทั้งเพื่อน พี่และน้องได้ในเวลาเดียวกัน ฉันอยู่กับผู้หญิงคนนี้ทุกวันแต่ในวันสุดท้ายของชีวิตเธอ วันที่เธอต้องการฉัน ฉันกลับไม่ได้อยู่ข้างๆเธอ

"ข้าวไม่ผิดนะลูก อย่าโทษตัวเองเลย"

คุณป้าลูบผมฉัน และใช่ ฉันโทษตัวเองมาตลอดว่าถ้าฉันมาทัน...เธอก็คงไม่ทำแบบนั้น

"หนูขอโทษนะคะป้า ฮึก"

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร"

ฉันหันไปกอดท่าน ท่านเหมือนแม่คนที่สองของฉัน ฉันติดต่อท่านบ้างแต่ไม่เคยมาหาตัวเป็นๆแบบนี้ จนกระทั่งวันนี้แหละ

"เดี๋ยวเราไปหาดรีมกันนะข้าว"

"ค่ะ"

ฉันพยักหน้าพลางปาดน้ำตาออก ป้าดาลูบผมฉันอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านและกลับลงมาพร้อมกับสมุดโน้ตเล่มหนึ่งที่ระบุชื่อของฉันด้านหน้าด้วยลายมือของดรีม

"นี่จ่ะ"

"ของข้าวเหรอคะ"

"ใช่จ่ะ ดรีมเขียนไว้ให้ข้าว ป้าไปเจอตอนที่เก็บห้องของดรีมแต่ตอนนั้นข้าวไม่อยู่แล้วป้าก็เลยยังไม่ได้ให้"

ฉันรับสมุดโน้ตนั้นมา มันเป็นสมุดโน้ตที่มีตัวล็อกและต้องปลดรหัส ดูแล้วป้าดาคงไม่ได้เปิดอ่านและคนที่เปิดอ่านได้คงมีแค่ฉัน

"ขอบคุณนะคะ"

ฉันเก็บสมุดเล่มนั้นใส่กระเป๋าสะพาย จากนั้นเราก็เดินออกจากบ้านเพื่อไปหาดรีม

ไม่นานเราก็เดินทางมาถึงที่สุสานแห่งหนึ่ง ดรีมของเราอยู่ในนั้น ฉันกับป้าดาเดินตรงไปที่สุสานของดรีมและถือช่อดอกไม้ที่ดรีมชอบไปด้วย

สวบ~

เมื่อมาหยุดยืนที่หน้าแท่นสุสานของดรีมฉันก็เห็นช่อดอกลิลลี่สีขาวที่ดรีมชอบวางอยู่แล้ว

"เขามาเหรอคะ"

ฉันเอ่ยถามทันที ป้าดาวางช่อดอกลิลลี่ของเราลงข้างๆช่อดอกไม้นั้น

"ใช่ เขามาหาดรีมทุกปีนั่นแหละจ่ะ"

ป้าดาบอกฉัน ฉันกัดฟัน

"ไม่รู้สึกผิดบ้างหรือไง ถึงกล้ามาหาดรีม!"

"คงไม่ใช่หรอกจ่ะ ป้าว่าเขาคงรู้สึกผิดจริงๆ จำได้มั้ยว่าวันนั้นเขาก็มาหาดรีมแต่เขาก็มาไม่ทันเหมือนกับข้าว"

"แต่เขาไม่มางานศพดรีมด้วยซ้ำ"

"จริงๆเขามานะลูก เขามาหลังจากที่พระสวดเสร็จและทุกคนกลับไปแล้ว เขามากราบขอโทษป้า"

"เขาก็สมควรทำแบบนั้นค่ะ"

"ป้าให้อภัยเขานะลูก ข้าวก็ต้องให้อภัยเขานะ ป้าเชื่อว่าดรีมคงต้องการแบบนั้น"

ป้าดาลูบบ่าฉันเบาๆ ฉันมองหน้าท่านก่อนจะหันไปมองรูปของดรีม

"ฉันจะให้อภัยเขาก็ได้นะดรีม..."

'แต่ฉันจะให้ก็ต่อเมื่อเห็นกับตาว่าเขาเจ็บปวดที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องตายแล้วเท่านั้น!'

ประโยคหลังนี้ฉันพูดในใจ ผู้ชายที่เรากำลังพูดถึงคือแฟนของดรีม ฉันรู้จักกับเขาเพราะดรีมเล่าให้ฟังทุกวันแต่ฉันเคยเจอเขาบ้างเป็นบางครั้ง สองคนนั้นเรียนคณะเดียวกันและแฟนเธอเป็นนักแสดงด้วย ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนคนแรกของดรีมและดรีมรักมาก ฉันก็เห็นว่าสองคนนี้รักกันดี จนวันหนึ่งดรีมก็โทรมาร้องไห้และบอกฉันว่าเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้ว บอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา วันนั้นฉันอยู่หอของเพื่อนเพราะมาทำรายงาน ฉันกำลังเรียนปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ส่วนดรีมกับแฟนก็เรียนอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง ฉันรู้ว่าดรีมเป็นคนหัวอ่อนมาก เธอไม่ค่อยแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ เธอไม่มีภูมิต้านทานด้านความเจ็บปวดเลย ฉันรู้ว่าถ้าเธอเสียใจมากๆเธอจะทำอะไรได้บ้าง ฉันจึงรีบกลับไปหาดรีม

แต่ฉันไปไม่ทัน...

ฟลุ่บ~

หลังจากที่เราอยู่กับดรีมสักพักเราก็กลับมาบ้าน วันนี้ฉันจะนอนที่นี่ ตอนเรากลับมาฉันเห็นกระเช้าดอกไม้วางอยู่หน้าบ้านของป้าดา ท่านบอกว่าเป็นของผู้ชายคนนั้น เขาเอามาให้ทุกปีพร้อมกับคำว่า'ผมขอโทษครับ'

หึ ก็อีแค่คำว่าขอโทษที่ไม่รู้ว่าจริงใจหรือเปล่าด้วยซ้ำ!

ฉันนั่งอยู่บนเตียงของดรีม พลางกำลังปลดรหัสล็อกสมุดโน้ต ฉันเดาว่าดรีมน่าจะใช้รหัสง่ายๆ

วันเกิดฉันไง...

กริ๊ก~

แล้วฉันก็เดาถูก เมื่อรหัสถูกปลดล็อกฉันก็เปิดสมุดโน้ตอ่าน เป็นสมุดโน้ตที่ดรีมเขียนถึงฉันทุกปีในวันเกิดของฉัน ฉันนั่งอ่านมันทั้งน้ำตา

"ฮึก"

กว่าจะอ่านถึงหน้าสุดท้ายที่ดรีมเขียน น้ำตาฉันก็ไหลพรากแล้ว

'ขอโทษนะข้าว ที่วันนี้ฉันเขียนมันก่อนจะถึงวันเกิดเธอ แต่ฉันคงอยู่ไม่ถึงวันนั้นแล้ว นี่คงเป็นข้อความสุดท้ายจากฉันถึงเธอ...'

"อึก"

'ตอนนี้ฉันเจ็บปวดมากจริงๆ ฉันรักเขามาก มากจนจะขาดใจ ฉันรู้สึกเหมือนจะตาย เขามีผู้หญิงคนใหม่มาแทนที่ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นสวยกว่าฉัน ดูดีกว่าฉัน เก่งกว่าฉัน...'

นี่สินะเหตุผล ไอ้ผู้ชายเลว!

'ฉันไปเจอผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว ฉันสู้อะไรเธอไม่ได้เลยสักอย่าง ฉันขอร้องเธอแล้วแต่เธอไม่ยอม แล้วคนอย่างฉันจะเอาอะไรไปสู้เค้าได้ ฉันไม่มีทางทำได้เลย ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะรับเรื่องแบบนี้ ฉันไม่ไหวแล้ว...'

"ทำไมเธอทิ้งฉันล่ะดรีม ทำไมไม่รอฉันก่อน ทำไมไม่รอระบายมันกับฉัน ทำไมต้องเขียนมันแล้วทำแบบนั้น ฮือ"

ยิ่งอ่านฉันก็ยิ่งร้องไห้ ฉันรู้เหตุผลที่ดรีมฆ่าตัวตายแล้ว น้ำตาของฉันหยดลงไปบนหน้ากระดาษ มันหยดลงไปปะปนบนรอยสีแดงที่หยดเป็นคราบและเคยแห้งสนิทไปแล้ว...น้ำตาฉันทำให้รอยเลือดหยดหนึ่งบนกระดาษเปียกชื้นขึ้นมาอีกครั้งนึง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel