บท
ตั้งค่า

Chapter 7 สายตาของเขา

09.05 น.

ตอนนี้ฉันกำลังนั่งเบ้ปากดูข่าวบันเทิงช่องหนึ่งอยู่ การตอบสัมภาษณ์และอาการบิดเขินของผู้หญิงในทีวีทำให้ฉันคลื่นไส้

เสแสร้ง มารยา!

ติ๊ด~

เมื่อการสัมภาษณ์จบลงฉันก็ปิดทีวี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาใครบางคน

ตรู้ดดด~

(ฮัลโหล ฮัลโหล น้องข้าวเหรอครับ)

"ค่ะ พี่เชน"

(โอ้ววว นี่พี่ตกใจนะเนี่ยที่น้องข้าวโทรหาพี่ก่อน)

"ไม่สะดวกหรือเปล่าคะ ข้าวจะได้วาง..."

(สะดวกครับ พี่อยู่คอนโด น้องข้าวห้ามวางนะ)

แหม รีบเชียว

"ค่ะ ถ้าสะดวกข้าวก็ไม่วางหรอก เพราะข้าว..."

(ครับ?)

"ข้าวคิดถึงพี่เชนค่ะ"

(โอ้ยยย พูดแบบนี้พี่อยากเจอหน้าเลยเนี่ย)

"อิอิ รอก่อนนะคะ ว่าแต่ ข้าวเห็นสัมภาษณ์ของพี่กับพี่จีน่าแล้วนะคะ"

(น้องข้าวอย่างเข้าใจผิดนะ พวกพี่ท่องสคริปต์นะ พี่ไม่ได้คิดอะไรกับจีน่าเลย จริงๆนะ)

"แต่ข้าวว่าพี่จีน่าคิดนะคะ"

(หืม ข้าวรู้ได้ยังไงครับ)

"ผู้หญิงด้วยกันดูกันออกค่ะ"

(แต่เอ๊ พูดแบบนี้...หึงพี่เหรอครับเนี่ย)

"ข้าวไม่มีสิทธิ์ซะหน่อย"

(รู้ได้ยังไงว่าไม่มีสิทธิ์ล่ะครับ)

เข้าใจหยอดนะยะ พ่อพระเอกดาวรุ่ง

"หืม นี่จีบป่ะคะเนี่ย"

ฉันพูดกลั้วหัวเราะ พี่เชนเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ

(ถ้าจีบล่ะครับ)

เอ้อ ติดกับไวกว่าที่คิดแหะ

"แหม พี่เชนอย่าล้อเล่นสิคะ"

(พี่จริงจังนะ)

อูยยย

สวบ~

"ข้าว ทำไมไม่ล็อกประตู...อ้าว คุยโทรศัพท์อยู่เหรอ"

ฉันหันกลับไปทางต้นเสียงก็เห็นว่าพี่รินมาหา ฉันยิ้มเพราะพี่รินมาทันเวลาพอดีเลย

"ข้าวขอวางสายก่อนนะคะ พอดีพี่รินมาคุยงานอ่ะค่ะ"

(อ่าๆ พี่ได้ยินเสียงแล้ว งั้นวางก่อนก็ได้ครับ)

และเสียงของพี่รินคงแทรกเข้าไปในโทรศัพท์ พี่เชนถึงยอมวางง่ายๆ แต่ก่อนจะวางเขาก็ไม่ลืมหยอดฉันอีกรอบ

(น้องข้าว)

"คะ"

(อย่าลืมเอาไปคิดดูนะ ที่พี่พูดไปพี่จริงจังนะครับ)

"โอเคค่ะ ข้าววางก่อนน๊า"

พูดจบฉันก็ตัดสายเลย จากนั้นก็หันไปหาพี่ริน

"คุยกับหนุ่มที่ไหน ทำไมไม่บอกพี่เลย"

พี่รินแซวทันที ฉันลุกจากโซฟาไปเอาน้ำมาให้เธอ

"ใช่พ่อหนุ่มตากล้องคนนั้นหรือเปล่าคะน้องสาวพี่"

"ทำไมพี่คิดว่าเป็นเค้าล่ะ"

ฉันนั่งลงข้างๆเธอ พี่รินเอียงคอมองฉัน

"พี่ว่าต้องเป็นเค้า พี่ว่าเขาดูใช่สำหรับข้าว"

"อืม...ข้าวก็ว่างั้นนะ"

เอาตรงๆมั้ย ยอมรับนะว่านิสัยและบุคลิกของเหนือตรงเสป็กฉันสุดๆเลยล่ะ แต่ก็นะ...มันคงเป็นไปไม่ได้

ฉันไม่คิดจะชอบเหยื่อ ถ้าเขาคือตัวเลือกหนึ่งที่ฉันจะใช้เอาชนะจีน่า เขาก็คือเหยื่อเหมือนกับพี่เชน

"แต่ไม่ใช่เขาหรอก"

"อ้าว งั้นใครล่ะ?"

ฉันยิ้มและส่ายหัวให้แทนคำตอบ ก่อนจะชวนพี่รินเปลี่ยนเรื่องคุย

*Paradise Pub

"ขอแบบนี้อีกแก้วครับ"

"พี่เริ่มเมาแล้วน๊า"

ฉันหันไปบอกเขา ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าบาร์เงยหน้ามองฉัน

"พี่โจ ยังไม่ดีกับแฟนเหรอคะ"

วันนี้พี่โจมาเดี่ยว เขามานั่งดื่มตั้งแต่หัวค่ำ ท่าทางเฮิร์ทน่าดูเชียวล่ะ

"อื้ม ครั้งนี้โกรธนาน ไม่ยอมให้อภัยพี่เลย"

ก็แหงล่ะ เล่นมาเห็นกับตาแบบนั้นเป็นใคร ใครก็โกรธทั้งนั้นแหละ

"แสดงว่าพี่ทำแบบนี้บ่อยใช่มั้ยคะ"

ฉันแกล้งพูดกลั้วหัวเราะ พี่โจพยักหน้ายอมรับ

"ก็บ่อย...แต่พี่ก็รักคนเดียว"

อืม นี่แหละนะผู้ชาย

"พี่ง้อทุกทางแล้วนะน้องข้าว แต่เมียพี่ไม่ยอมให้อภัยพี่เลย ดีแต่บอกว่าให้ห่างกันสักพัก"

และตอนนี้คนเมาตรงหน้าฉันกำลังระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา ฉันยิ้มก่อนจะพูดตอบเขา

"พี่อยากให้ข้าวช่วยมั้ยคะ"

"หืม ช่วยได้เหรอ?"

"จริงๆก็ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่าหรอกค่ะ แต่ข้าวจะแนะนำอะไรให้พี่บางอย่าง แต่มีข้อแม้น๊า"

"อะไรล่ะ ตอนนี้พี่ยอม พี่ไม่อยากเลิกกัน"

"ข้าวอยากรู้เรื่องของ...พี่เหนือค่ะ"

"ไอ้เหนือ?"

ฉันพยักหน้า พี่โจมองฉันแบบชั่งใจสักพักก่อนจะพยักหน้า

"ก็ได้นะ แต่จริงๆพี่ก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอก น้องข้าวก็น่าจะดูออกว่ามันเป็นคนไม่ค่อยพูด ว่าแต่ น้องข้าวอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ"

"ข้าวแค่อยากรู้ว่า พี่เหนือมีแฟนหรือยังคะ?"

"หืม จะจีบมันเปล่าเนี่ย"

พี่โจหรี่ตาแซวฉัน ฉันหัวเราะพลางผสมเครื่องดื่มยื่นให้เขา

"ก็ไม่รู้สิคะ"

"ฮ่ะๆ ถ้าเป็นน้องข้าวรู้ไว้เลยว่าพี่เชียร์อยู่นะ"

ฉันยิ้ม และเขาก็พูดต่อ

"ไอ้เหนือมันไม่มีแฟนหรอก"

"จริงเหรอคะ"

"จริงสิ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ ตั้งแต่พี่รู้จักกับมันมา พี่ไม่เคยเห็นมันมีแฟนเลย ควงผู้หญิงสักคนยังไม่มีเลย"

"อ่า เขาน่าจะเป็นผู้ชายเต็มร้อย..."

"เห้ย อย่าคิดแบบนั้น น้องพี่มันแมนทั้งแท่งนะ แต่พี่ว่าที่มันไม่ยอมมีแฟน มันน่าจะมีปมอะไรในใจสักอย่างแน่ๆ"

"ปมเหรอคะ?"

"อื้ม แต่พี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าปมอะไร ไม่รู้จริงๆ"

ฉันทำหน้าเสียดาย พี่โจกระดกเครื่องดื่มก่อนจะพูดต่อ

"แต่ถึงพี่ไม่รู้ พี่ว่ามันมีคนนึงที่รู้"

ฉันมองเขาอย่างตั้งใจ พี่โจเลยพูดต่อ

"ไอ้เนี่ยมันชื่อหมอก เป็นลูกพี่ลูกน้องของไอ้เหนือ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันมาก พี่ว่ามันต้องรู้ แต่พี่ก็ไม่เคยถามมันหรอกนะ มันรู้ว่าพี่ปากโป้ง มันคงไม่อยากพูด"

พี่โจบอก ฉันพยักหน้ารับรู้ ฉันน่าจะถามผิดคนซะแล้วสิ

ญาติของเขาที่ชื่อหมอกเหรอ...อืม

"ขอบคุณนะคะที่บอกข้าว"

ฉันยิ้มให้เขา พี่โจพยักหน้าหงึกหงักพลางกดโทรศัพท์ดูอัลบัมรูปถ่าย เป็นรูปแฟนของเขาน่ะ

"คราวนี้ถึงตาข้าวพูดบ้างแล้วเนอะ"

เขาเงยหน้ามองฉันก่อนจะหลุบตาลงมองรูปแฟนต่อ

"คิดถึงเค้าใช่มั้ยคะ"

"ใช่ พี่คิดถึงมาก"

"พี่ขอโทษเค้าแล้วใช่มั้ยคะ"

"อื้ม พี่ทำแล้ว"

"ทำแบบไหนคะ"

"พี่ก็..."

เขานึก ก่อนจะพูดขึ้น

"พี่ซื้อดอกไม้ไปขอโทษ ซื้อตุ๊กตา ซื้อของชอบไปให้ โทรหาตลอดทั้งวัน ส่งข้อความไปขอโทษ แชท เฟซ ไลน์ ไอจี พี่ทำหมดแล้ว"

"..."

ฉันนิ่งฟังเขา พี่โจเริ่มพูดต่อ คงเพราะเมาด้วยนั่นแหละถึงได้พูดมากขนาดนี้

"เมื่อก่อนพี่ทำแบบนี้ก็หายโกรธทุกที ทำไมครั้งนี้มันยากจังก็ไม่รู้"

"อ้อ เพราะอย่างนี้เอง"

ฉันพูดออกมา พี่โจเงยหน้ามามองฉันแบบสงสัย

"ข้าวขอพูดตรงๆนะคะ"

"อ๋อ อื้ม พูดเลยครับ"

"เพราะพี่โจคิดแบบนี้ พี่โจคิดที่จะทำแบบนี้แล้วมาขอโทษทีหลังเมื่อแฟนจับได้ สำหรับพี่มันทำง่ายมากเพราะแฟนให้อภัยพี่ตลอด พี่ถึงได้ทำซ้ำ"

"..."

"แล้วพี่เคยคิดมั้ยคะ ว่ามันง่ายสำหรับแฟนพี่มั้ย ที่จะต้องมาทนเจอเรื่องราวทำร้ายจิตใจและยอมให้อภัยพี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ สำหรับผู้หญิง ข้าวบอกเลยนะคะว่ามันไม่ง่ายเลย"

พี่โจยิ้มแหยๆใส่ฉัน ฉันมองหน้าเขาแล้วพูดต่อ

"ข้าวเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมแฟนพี่ถึงบอกว่าให้ห่างกันสักพัก"

"..."

"เพราะแฟนพี่ต้องการให้พี่คิดทบทวนสิ่งที่พี่ทำ ต้องการให้พี่คิดว่าที่พี่ลงทุนขอโทษทั้งหมดพี่ต้องการเค้าจริงๆหรือแค่เสียดาย"

"น้องข้าวพูดซะพี่สะอึกเลยนะเนี่ย"

"ข้าวแค่อยากจะบอกพี่ว่า ถ้าพี่ทบทวนดูแล้ว พี่ต้องการเค้าจริงๆ พี่ไม่ต้องหาอะไรไปกองตรงหน้าเค้าเลยค่ะ พี่ก็แค่เดินไปหาเค้าแล้วพูดขอโทษเค้า ขอโทษจากใจจริงๆ ขอโทษจากความรู้สึกจริงๆ ขอโทษเพราะอยากจะขอโทษไม่ใช่ขอโทษให้ทุกอย่างมันจบและวนลูปไปแบบเดิมซ้ำๆ"

"โอ้โห ฟังแบบนี้แล้วพี่รู้สึกว่าน้องข้าวมีสมองกว่าพี่อีกนะเนี่ย"

พี่โจกำลังหัวเราะกลบเกลื่อนใส่ฉัน ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะพูดอีกครั้ง

"ไม่ใช่หรอกค่ะ เพียงแต่ข้าวเข้าใจผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น แล้วข้าวก็เข้าใจด้วยว่าที่แฟนพี่พูดแบบนี้นั่นหมายถึงการเตือนแล้วนะคะ"

"เตือน?"

"ค่ะ เค้ากำลังเตือนว่า ในวันข้างหน้าเค้าอาจพร้อมที่จะอยู่ตัวคนเดียวได้แล้วถ้าหากว่าพี่ทำแบบนั้นอีก เพราะเขายอมดึงตัวเองออกห่างจากพี่ได้แล้ว"

พี่โจนิ่งไปเลยพอฉันพูดแบบนี้ จริงๆฉันไม่สามารถรับรู้ได้หรอกว่าแฟนของพี่โจกำลังคิดแบบไหน แต่ฉันแค่ขู่เขาไว้ จากที่ฉันฟังเขาพร่ำเพ้อถึงแฟนเขาก่อนหน้านี้ ฉันก็พอรู้ว่าแฟนเขาน่าจะเป็นคนดี อย่างน้อยๆเธอก็ซื่อสัตย์กับเขามาตลอดสิบปีที่คบกันทั้งๆที่เขาคอยจะมีกิ๊กอยู่ตลอดเช่นกัน ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งต้องทนกับผู้ชายเจ้าชู้ที่ตัวเองรักมากขนาดไหน แต่ฉันเชื่อว่าเธอคงเจ็บปวดมามากเหมือนกัน ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงดีๆต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้ ใจจริงฉันจะไม่พูดก็ได้ รอดูสองคนนี้เลิกกันก็ได้ แต่ที่ฉันทำไม่ได้คือ...

ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนี้เสียใจเพราะเลิกกับคนรักจนถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ฉันไม่อยากรับรู้เหตุการณ์แบบนั้นอีก!

15.40 น.

วันนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้ารั้วมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้ข้อมูลจากพี่โจฉันก็เข้าไปส่องหาเฟซของหมอกแล้วก็เจอ ฉันคิดว่าน่าจะใช่คนนี้ดูจากความสนิทสนมและอะไรหลายๆอย่างแล้วน่ะนะ เขาระบุว่าเขาเรียนที่นี่และเราอายุเท่ากัน ฉันกำลังนั่งมองไปเรื่อยๆจนเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย หนึ่งในนั้นคือเป้าหมายของฉัน

เคยเป็นไหม ความรู้สึกที่มีใครจ้องมองนานๆแล้วรู้ตัวว่าถูกมอง...นั่นแหละ ฉันทำแบบนั้น ฉันจ้องมองเขาจนเขารู้สึกตัวว่าถูกใครสักคนมองและหันมาทางนี้

ควับ~

พอเขาหันมาฉันก็หันหนีพลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย ฉันลุกขึ้นจากม้านั่งและกำลังจะเดินไปทางอื่น

"เดี๋ยวครับ..."

ฉันได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลัง แต่ฉันก็ทำเป็นคุยโทรศัพท์และจะก้าวเดินต่อ

หมับ~

"อ๊ะ!"

แต่เขามาถึงตัวฉันเร็วกว่าที่คิด เขาคว้าแขนฉันให้หันไปหาเขา ฉันตกใจและอุทานออกมา มองเขาแบบสงสัย

"แค่นี้ก่อนนะ ฉันรอหน้ามอล่ะ"

ฉันบอกกับปลายสายแล้วกดตัดสายไปก่อนจะพูดกับเขา

"มีอะไรหรือเปล่าคะ?"

"คือว่า...นั่น"

เขาบอกฉันพลางชี้มือไปที่ม้านั่งที่ฉันเคยนั่ง บนนั้นมีกระเป๋าเงินใบหนึ่งอยู่

"อ่า กระเป๋าฉัน"

ฉันพูดพลางรีบเข้าไปหยิบมันขึ้นมา

"พอดีมัวแต่คุยโทรศัพท์เลยลืมว่าหยิบกระเป๋าเงินออกมาว่าจะไปซื้อน้ำน่ะ ขี้ลืมจริงๆเลย"

ฉันบ่นตัวเองพลางเกาต้นคอแก้เก้อ เขายกยิ้มนิดหน่อย

"ถ้าไม่ได้..."

"หมอกครับ"

"อ่า ค่ะ ถ้าไม่ได้หมอก เราแย่เลยนะเนี่ย"

"ไม่เป็นไร หันมาเห็นพอดีน่ะ"

"อื้อ เราชื่อข้าวหอมนะ เรียกข้าวก็ได้"

"อ่า อื้ม..."

"เห้ย ไอ้หมอก มึงจะม่อสาวอีกนานมั้ยวะ"

แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเพื่อนของเขาที่มาด้วยกันซึ่งยืนมองอยู่ไม่ไกลพูดแซวขึ้น

"ม่อพ่อง"

หมอกหันไปด่าเพื่อนเขา ก่อนจะหันกลับมาหาฉัน

"ไม่ต้องถือสาพวกมันนะ ไอ้พวกนี้มันก็เห่าไปเรื่อย"

"อื้ม ไม่เป็นไรหรอก"

ฉันยิ้มให้เขาและเขาก็ยิ้มให้ฉัน

"อุ๊ย มาแล้ว มาแล้วววจ้า"

จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก เมื่อแชมมี่เพื่อนชายหัวใจสาวของฉันเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย ก็คนที่ฉันคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อกี้นี่แหละ เสียงมันมาก่อนตัวเลยล่ะ

ฉันใช้แชมมี่เป็นข้ออ้างเพื่อมาที่นี่ เพื่อนเยอะก็ดีแบบนี่แหละ

"นึกยังไงมาหาฉันเนี่ย"

แชมมี่เดินผ่านหมอกมาหาฉันก่อนที่จะหันไปมองหน้าเขา

"อ้าวหมอก รู้จักกันด้วยเหรอ"

แชมมี่ก็ต้องรู้จักหมอกด้วยสินะ เรียนมหาลัยเดียวกันนี่ ที่สำคัญหมอกก็หล่ออยู่นะ เรื่องผู้ชายหน้าตาแบบนี้เพื่อนฉันคงไม่พลาดหรอก

"เพิ่งรู้จักเมื่อกี้นี้แหละ"

หมอกพูด แชมมี่หันมาหาฉัน

"อ้ะ ยังไง นี่แกจีบหมอกของฉันเหรอยะ"

"เขาเป็นของแกเหรอ"

ฉันถามพลางดึงแก้มเพื่อน หมอกมองเราสองคนพลางเกาหัว

"ถ้าเป็นของเพื่อนฉันก็ไม่จีบหรอกน่า"

"ฮ่ะๆ ไม่ใช่หรอก"

"โอ้ย หมอก ทำไมตัดเยื่อใยกันแบบนี้ล่ะ ลืมไปแล้วเหรอเรื่องเมื่อตอนปีหนึ่งที่เราจุ๊บปากกันน่ะ"

"ห๊ะ จริงเหรอ?"

"เห้ยๆ อย่าเข้าใจผิดนะ แค่ตอนรับน้องโดนรุ่นพี่แกล้งอ่ะ"

"หึ ยิ่งพูดก็ยิ่งตอกย้ำ เห็นชะนีดีกว่าเรา เชอะ"

แชมมี่ทำท่าสะดีสะดิ้งจนน่าหมั่นไส้ หมอกมองฉันพลางหัวเราะก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้เขา

"ฉันว่านายไปหาเพื่อนเถอะ"

ฉันบอกเพราะว่าเห็นเพื่อนของเขายืนมองอยู่นานแล้ว

"อ่า งั้นไปนะ"

"เดี๋ยว นี่จะไม่ง้อกันเลยเหรอยะ"

"นี่จะไปกับเพื่อนหรือจะมาบังคับให้ผู้ชายง้อห้ะ อีแชมป์"

"อ๊าย แชมมี่ แชมมี่นะ เรียกใหม่เดี๋ยวนี้"

มันรีบแก้ชื่อตัวเองใหม่ทันที ฉันกับหมอกหัวเราะก่อนที่เขาจะแยกตัวออกไป

"ไป เดี๋ยววันนี้เลี้ยงติม"

ฉันก็เลยดึงแชมมี่ให้เดินไปอีกทาง

"แกพูดแล้วนะ แต่เดี๋ยวก่อน"

"อะไรอีกล่ะ"

"รูปแผ่นหลังอันเย้ายวนที่ลงเฟซวันนั้นคงไม่ใช่หมอกของฉันหรอกใช่มั้ยยะ?"

"ไม่ใช่ เขาก็บอกอยู่ว่าเพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้"

"แกมันร้าย ไว้ใจไม่ได้อีสวย!"

"เอ้า"

แชมมี่หันมาจ้องฉัน ฉันจ้องตามันกลับ

"ฉันไม่ได้อะไรกับเขาทั้งนั้นแหละ อย่ามาจ้องจับผิด เดี๋ยวจิ้มตาบอดเลยนิ"

"โว๊ะ ไม่คิดก็ไม่คิด"

"เออ ไปกันได้แล้ว หิวแล้วเนี่ย"

พูดจบฉันก็ลากแชมมี่ขึ้นรถแท็กซี่ทันที

หลังจากนั้นฉันก็คุยกับหมอกอีกหลายครั้ง มันแปลกนะ เมื่อเราไม่เคยรู้จักใครสักคนเราก็จะไม่เคยพบเจอเขาเลยสักครั้ง แต่พอเราได้รู้จักเราก็มักจะพบว่าคนพวกนั้นจะวนเวียนอยู่รอบๆตัวเราเสมอๆ อย่างเช่นวันนี้

"ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะอยู่ตรงข้ามกันแค่นี้เอง"

ฉันมาเจอกับหมอกที่คอนโดของเขาซึ่งเขาอยู่กับเหนือที่นี่ วันนี้หมอกจะพาฉันขึ้นห้อง

แต่อย่าเข้าใจผิดนะ! เราขึ้นไปทำงานกันน่ะ

"อืม ว่าแต่พี่เหนืออยู่ห้องเปล่าอ่ะ"

และเขาก็รู้ว่าฉันรู้จักกับเหนือเพราะเราเคยเจอกันตอนที่เขากับเหนืออยู่ด้วยกันด้วย

"ไม่นะ เห็นว่าไปหาเพื่อน ไม่รู้จะกลับเมื่อไหร่"

"อ่า งั้นฉันต้องอยู่ห้องกับนาย..."

"เฮ้ย ไม่ต้องห่วง มีเพื่อนฉันรออยู่ข้างบนอีกสองคน ผู้ชายหนึ่ง ผู้หญิงหนึ่ง"

"อ้อ แหะๆ"

ฉันหัวเราะให้เขาจากนั้นเราก็ขึ้นลิฟต์ไป

ถามว่าฉันมาทำงานอะไรกับเขาน่ะเหรอ...ฉันมาเป็นแบบให้เขากับเพื่อนวาดภาพ หมอกเรียนสายศิลป์ เขากำลังหานางแบบอยู่พอดีและฉันดันเข้ามาถูกจังหวะเขาก็เลยจ้างให้ฉันมา แต่ฉันไม่ได้เอาเงินเขาหรอกนะ ฉันแค่มีข้อแลกเปลี่ยนกับเขาซึ่งยังไม่ได้บอกเขาหรอกว่าคืออะไร

แอด~

เมื่อมาถึงห้องหมอกก็เปิดประตูเข้าไป ภายในห้องกว้างขวางถูกตกแต่งแบบเรียบง่ายเพราะมีผู้ชายเป็นเจ้าของห้อง ฉันก้าวเดินเข้าไปในห้องก็เห็นเพื่อนของหมอกทั้งสองคนกำลังนั่งดูทีวีและกินขนมกันอยู่

"เห้ย สบายเลยนะพวกมึง"

หมอกทักทันทีที่เห็น เพื่อนของเขารีบหันควับมาทันที

"มาแล้วเหรอครับคนสวย"

เพื่อนผู้ชายของเขาทักฉันทันที จำได้มั้ยผู้ชายคนนั้นที่แซวหมอกกับฉันวันแรกที่เราเจอกันน่ะ คนนี้เลย

"ม่ออีกแล้วนะมึง ไอ้แซม"

เขาชื่อแซม

"ตลอด กูแค่ทักทายป้ะ"

แซมย้อนเขา ก่อนที่ผู้หญิงอีกคนจะกระโดดลงมาจากโซฟา คนนี้ฉันยังไม่เคยเจอ เธอเข้ามาหาฉันแล้วมองแบบยิ้มๆ

"สวัสดี เราชื่อจิ๊กซอว์นะ เรียกซอว์เฉยๆก็ได้"

"อื้ม สวัสดี เราชื่อข้าวหอม เรียกข้าวสั้นๆก็ได้"

เราสองคนทักทายกัน จิ๊กซอว์ดูชอบฉันมากเลย เธอดูเป็นผู้หญิงแต่ลักษณะนิสัยห้าวนิดๆ คงเพราะคบกับเพื่อนผู้ชายเยอะล่ะมั้งก็เลยไม่ค่อยอ่อนหวานเท่าไหร่ วันนี้เธอก็แต่งตัวแบบสบายๆคือใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ

"เตรียมทุกอย่างไว้หรือยัง มัวนั่งกินขนมดูทีวีอยู่ได้"

หมอกหันไปพูดกับจิ๊กซอว์ เธอหันควับไปหาเขาก่อนจะตอบ

"เออ เตรียมเสร็จแล้วดิ"

"แล้วชุดล่ะ"

"เตรียมแล้วเว้ย"

จิ๊กซอว์ตอบ ดูเหมือนสองคนนี้จะเป็นเพื่อนสายฮาร์ดคอเนอะ

"สองคนนี้มันก็แบบนี้แหละ แซมว่าเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะนะ"

แซมถือโอกาสที่หมอกกับจิ๊กซอว์จ้องตากันเข้ามาหสฉัน เขาจะเอื้อมมือมาจับข้อมือฉันแต่โดนทั้งจิ๊กซอว์และหมอกตีมือไว้ได้ทัน

เพี๊ย~

"โอ้ย พวกมึง!"

"อย่าเนียนไอ้แซม"

"ไปเถอะข้าว เดี๋ยวเราพาไปเปลี่ยนเอง"

จิ๊กซอว์ไม่สนใจเพื่อนของเธออีก เธอดึงมือฉันพาเข้าไปในห้องนอนห้องหนึ่ง ซึ่งให้ฉันเดาน่าจะเป็นห้องของหมอก เธอส่งชุดให้ฉันและบอกให้ฉันเปลี่ยน มันเป็นชุดสายเดี่ยวผ้าลื่นๆสีเนื้อซึ่งค่อนข้างเซ็กซี่นิดนึงจากนั้นเธอก็มาจัดทรงผมให้ฉันและเอามงกุฏดอกไม้มาประดับกับผมของฉันด้วย

"แล้วเราจะวาดภาพที่ไหนกันเหรอ"

ฉันหันไปถามจิ๊กซอว์เมื่อเราเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเดินออกจากห้อง

"ก็ตรงระเบียงห้องอ่ะ ไอ้หมอกมันจะเป็นคนวาด"

"อ้อ"

"ต้องนั่งนิ่งๆท่าเดิมๆเมื่อยหน่อยนะ"

"ไม่เป็นไรสบายมาก ว่าแต่หมอกวาดเองคนเดียวหมดเลยเหรอ"

"เปล่าหรอก หมอกมันวาดคนเก่ง ส่วนพวกพื้นหลังที่เป็นดอกไม้กับรายละเอียดต่างๆเราจะเป็นคนเก็บ แล้วไอ้แซมเห็นอย่างนั้นมันลงสีสวยนะ สรุปก็คือแบ่งหน้าที่กันไป"

"อื้อ แบ่งกันได้ลงตัวมาก"

"ใช่มั้ยล่ะ ฮ่ะๆ"

ฉันยิ้มให้ในจังหวะที่จิ๊กซอว์หัวเราะและเปิดประตูห้องนอนของหมอกและเราก็เดินออกมา

"อ้าว เฮียเหนือ สวัสดีค่ะ"

กึก~

ฉันที่เดินตามหลังมาหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเธอทักทายผู้มาใหม่

เป็นเหนือจริงๆ ฉันเห็นว่าเขายืนอยู่ตรงประตูใหญ่ของห้อง คิดว่าน่าจะเพิ่งกลับมาและเขาหันมาทางนี้

เขามองฉันและหยุดสายตาไว้...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel