บท
ตั้งค่า

Chapter 6 คุยไม่เก่ง

18.50 น.

ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ใต้คอนโดของเหนือ ถามว่ามานั่งทำไมตอนนี้น่ะเหรอ?

"ข้าวหอม"

"มาแล้วเหรอคะ"

ฉันยิ้มพลางหันไปหาผู้ชายร่างสูงที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา เขาคงเพิ่งกลับมานั่นแหละ

"ช้าไปหน่อย..."

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่ค่ะ"

ฉันพูดพลางยื่นกระเป๋าเงินให้เขาไป เมื่อประมาณหกโมงเย็นฉันทักเฟซไปหาเขา บอกเขาว่าทำกระเป๋าเงินตกไว้ที่ห้องฉันและฉันเพิ่งกลับจากมหาลัยและถ่ายงานถึงได้เห็นว่าเขาทำตกไว้

"นึกว่าหล่นหายไปแล้วซะอีก"

เขารับไปพลางลูบต้นคอตัวเอง

"ขอบใจนะ"

"ค่ะ งั้นข้าวไปก่อนนะ"

ฉันพูดพลางทำท่าทางรีบนิดหน่อยจนเขาต้องถาม

"จะไปไหนเหรอ"

"อ๋อ จะไปผับค่ะ วันนี้ต้องรีบหน่อยเพราะดูเหมือนฝนจะตกแล้วกลัวเข้างานไม่ทันน่ะค่ะ"

ฉันพูด ฟ้าฝนก็เป็นใจจริงๆนั่นแหละ เพราะตอนนี้เหมือนฝนจะตกจริงๆ มีเสียงฟ้าร้องและอากาศครึ้มๆมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆแล้ว

"สงสัยคงไม่ทันแล้ว"

เหนือพูดขึ้นพลางหันไปมองนอกคอนโด ก็จริงของเขา ตอนนี้ฝนลงเม็ดแล้ว

"อ้า งั้นต้องรีบไปเรียกรถ..."

หมับ~

ฉันกำลังจะวิ่งออกไปแต่เหนือคว้าแขนฉันไว้ให้ฉันหยุดชะงัก ฉันหันไปมองหน้าเขาแบบงงๆส่วนเขาเองก็ปล่อยแขนฉัน

"เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้"

เกินความคาดหมายแหะ

"อ่า มอเตอร์ไซด์เหรอคะ?"

ฉันถาม เพราะเขาขับมอเตอร์ไซด์ ถ้าขืนให้เขาขับไปส่งมีหวังฉันเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำแน่ๆกว่าจะถึงผับน่ะ

"ไม่ๆ พี่มีรถใหญ่อยู่"

เขาบอก ฉันขมวดคิ้วแบบงงๆนิดหน่อยแต่ก็ยอมตกลงให้เขาไปส่ง

บรื้น~

ระหว่างทางที่เราอยู่บนรถ ฉันก็มองออกไปนอกหน้าต่างเรื่อยๆก่อนจะหันกลับมามองเขา

"ทำไมพี่ไม่ค่อยขับรถใหญ่ล่ะคะ ข้าวเห็นแต่พี่ขับมอไซด์"

"รถคันนี้แม่พี่ส่งมาให้ แต่พี่ชอบใช้รถตัวเองมากกว่า"

เขาตอบ ฉันพยักหน้า ด้านนอกฝนตกหนักขึ้นแล้วล่ะ

"อ้อ แสดงว่ารถคันนี้คงไม่ค่อยมีสาวๆนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถใช่มั๊ยล่า"

ฉันพูดหยอกล้อเขา เหนือยิ้มออกมานิดหน่อย เขาดูผ่อนคลายกับฉันมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี

"ก็...คงงั้น"

"จริงเหรอคะ น่าปลื้มใจจัง"

ฉันพูดกลั้วหัวเราะ เขาเหลือบมามองฉันแล้วก็ยิ้มบางๆ จากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงผับ

*Paradise Pub

"ฝนตกหนักเลยอ่ะ"

ฉันยังนั่งอยู่ในรถของเขา มองออกไปตอนนี้ฝนเทลงมาหนักมากเลยล่ะ ดีที่ในลานจอดรถมีหลังคาไม่อย่างนั้นเวลาฉันลงจากรถได้เปียกซกแน่ๆ

"พี่เหนือ น่าจะเข้าไปรอข้างในก่อนนะคะ ฝนหนักแบบนี้คงอันตราย"

ฉันหันไปพูดกับเขา เขามองสายฝนที่ตกลงมาก่อนจะปฏิเสธฉัน

"ไม่เป็นไรหรอก"

"เอางั้นเหรอคะ"

ฉันถามเขาและเขาพยักหน้ายืนยัน

"อ่า ข้าวแค่เป็นห่วงน่ะค่ะ ถ้าพี่ขับกลับไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ข้าวต้องโทษตัวเองแน่ๆเลย"

ฉันทำหน้าหงอยพลางพูดออกไปด้วยถ้อยคำที่แสดงถึงความเป็นห่วง

"ยังไงพี่ก็ขับรถดีๆนะคะ"

ฉันก็ไม่ได้จะบังคับเขา ถ้าเขาอยากจะไปฉันก็ให้เขาไปนั่นแหละ

"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ"

พูดจบฉันก็ลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าผับฉันก็ไม่ลืมหันมาย้ำเขาอีกรอบ

"ขับรถกลับดีๆนะคะ ข้าวเป็นห่วง"

"อื้ม"

ปึ้ก~

จากนั้นฉันก็ปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปในผับ ตรงไปเปลี่ยนชุดฟอร์มของผับแล้วเดินออกมาก็พบว่ายาหยีนั่งรออยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์แล้ว

"ฝนตกหนัก มายังไงเนี่ย?"

เมื่อฉันเดินมาที่หลังเคาน์เตอร์บาร์ยาหยีก็ถามขึ้น ฉันกระตุกยิ้ม

"มีราชรถมาส่งค่ะ"

"แหม เดี๋ยวนี้ฮอตเหรอคะเพื่อน"

"คงงั้น..."

ฟลุ่บ~

การสนทนาระหว่างฉันกับเพื่อนก็สิ้นสุดลงเมื่อมีใครคนหนึ่งเดินมาทิ้งตัวลงนั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์ใกล้ๆกับยาหยี เราสองคนหันไปมองและฉันก็ต้องยิ้มออกมา

"ข้าวนึกว่าพี่จะกลับไปแล้วซะอีก"

ฉันหันไปพูดกับเขา เขาหันมามองฉันก่อนจะเกาต้นคอตัวเอง

"ก็ คิดไปคิดมา...รอฝนซาสักหน่อยก็ดี"

"^^"

ฉันมองเขาแล้วยิ้มให้ เหนือก็ยกยิ้มบางๆจนเสียงกระแอมไอจากยาหยีทำให้เราละสายตาจากกัน

"ฉันควรจะอยู่ตรงนี้มั้ยเอ่ย"

ยาหยีคงมองเราสองคนอยู่ เธอถึงได้เอ่ยแซวออกมาแบบนั้น

"อยู่สิ จะรีบไปไหนล่ะ"

ฉันหันไปพูดกับเธอ เหนือหันไปมองยาหยีเหมือนกัน ฉันควรจะแนะนำให้สองคนนี้รู้จักกันตามมารยาทนะ

"เอ่อ ยาหยีนี่พี่เหนือ"

"อ้อ สวัสดีค่ะ"

"พี่เหนือคะ นี่ยาหยีเพื่อนข้าวเองค่ะ"

"อ่า ครับ"

เขายิ้มนิดหน่อยแบบเป็นมิตร ฉันโน้มตัวไปหายาหยีที่ดึงแขนฉันไปกระซิบ

"คนนี้ใช่มั้ยที่แกลงรูปวันนั้นอ่ะ"

แหม เดาเก่งจริงๆเลยเพื่อนฉัน

"หืม จะใช่ดีมั้ยน๊า?"

ฉันแกล้งเลิ่กคิ้วและกระตุกยิ้ม

"นี่แหน่ะ หมั่นไส้"

ยาหยีดึงแก้มฉันด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะยืดตัวตรง

"ฉันว่าฉันไปดีกว่า"

"อ้าว จะไปแล้วเหรอ"

"อื้ม จะไปห้องน้ำด้วยน่ะ ไปนะคะ"

"อ่า ครับ"

ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วยาหยีก็ลุกออกไป เหลือแค่ฉันกับเขา ฉันยิ้มพลางหยิบแก้วมาเตรียมผสมเครื่องดื่ม

"วันนี้อยากดื่มอะไรมั้ยคะ?"

ฉันถามเขา เหนือเงยหน้ามามองฉัน

"ยังดีกว่า"

"งั้น ข้าวไปทำงานก่อนนะ"

ฉันพูดเมื่อมองเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามานั่งที่เคาน์เตอร์อีกสองสามคน เขาพยักหน้าฉันก็เลยเดินไปหาลูกค้าที่นั่งอยู่ห่างจากเหนือไปไม่มากนัก

ฉันก็ทำหน้าที่ของฉันไปเรื่อยๆ หันไปอีกทีเหนือก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

เช้าวันใหม่

บรื้น~

ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถของเชน เขาเป็นคนมารับฉันจากหน้าคอนโดเอง ฉันลงทุนวิ่งข้ามถนนจากอพาร์ทเม้นต์ตัวเองมาที่หน้าคอนโดที่ฉันบอกเชนคราวก่อนเลยนะ แถมต้องแอบคอยระแวงว่าจะเจอเหนือด้วยเพราะเขาพักคอนโดนั้น

"น้องข้าวดูเหนื่อยๆนะครับ"

เขาหันมาพูดกับฉันขณะที่ขับรถไปด้วย ฉันยิ้มให้เขาพลางแอบปาดเหงื่อเบาๆ

"ค่ะ ข้าวว่าวันนี้อากาศมันร้อน ข้าวก็เลยเหนื่อยๆเพลียๆอ่ะค่ะ"

"งั้นเหรอ...เดี๋ยวพี่เร่งแอร์ให้นะ"

เชนขมวดคิ้วนิดหน่อยกับคำตอบของฉันแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาเอื้อมมือไปเร่งแอร์รถให้ฉันตามที่บอก

"ขอบคุณนะคะ เย็นขึ้นแล้ว^^"

ฉันยิ้มให้เขาพลางยื่นหน้าไปตากแอร์ แสดงอาการว่าร้อนจริงๆ

"น่ารักจัง"

"คะ?"

ฉันหันไปถามเขา

"พี่บอกว่าข้าวหอมน่ารักครับ"

"แหม พี่เชน ชมข้าวซึ่งๆหน้าแบบนี้ข้าวก็เขินนะคะ"

ฉันแกล้งเขินบิดตัวไปมา เขาเหลือบมองฉันพลางหัวเราะ

"ฮ่ะๆ ยิ่งเขินยิ่งน่ารักครับ"

"พี่เชนอ่ะ"

ฉันยกมือกุมแก้มทั้งสองข้างของตัวเองพลางเอนหลังพิงเบาะรถเขาแล้วแกล้งหลบสายตาเขาไปทางอื่น ที่กุมแก้มน่ะฉันไม่อยากให้เขาเห็นว่าแก้มฉันไม่ได้แดงเหมือนคนเขินอายอะไรเลยต่างหากล่ะ

เชนเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของฉันเพราะเขาเองก็คือเป้าหมายของจีน่าเหมือนกัน ฉันไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวอะไรกับจีน่าแต่ฉันแค่ไม่ชอบและรู้สึกอยากเอาชนะเธอ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ เรียกว่าฉันเป็นพวกขี้อิจฉาก็ได้ อันนี้ก็ยอมรับฉันเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ฉันก็จะอิจฉาและหมั่นไส้เฉพาะคนที่นิสัยไม่ดีเท่านั้น ส่วนคนที่ดี ฉันจะไม่อิจฉาพวกเขาเลย จะยินดีด้วยซ้ำถ้าหากว่าพวกเขาได้ดี

ฉันกับจีน่าเหมือนกำลังเล่นชักคะเย่อกันอยู่ เราสองคนอยู่คนละฝั่งและเชนเป็นเชือก ใครแรงดีกว่าก็จะชนะไป และดูเหมือนตอนนี้ฉันจะแรงดีกว่าด้วยแหละ

เอี้ยด~

ไม่นานรถของเขาก็จอดที่หน้ามหาวิทยาลัย ไม่สิ รถคันนี้เป็นรถเก่าของผู้จัดการเขาซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานต่างหาก เขายืมมาใช้เพราะฉันบอกว่าไม่อยากถูกจับตามองและไม่อยากให้เขาเป็นข่าว คิดดูสิว่าถ้าเป็นรถเขาเองก็ต้องมีคนจำได้ ใช่ไหมล่ะ

"ขอบคุณนะคะที่มาส่งข้าว"

ฉันหันไปยิ้มให้เขาและกำลังจะเปิดประตูรถแต่เขาก็เอื้อมมาจับข้อมือฉันไว้ก่อน มือไวจริงนะ

"คะ?"

ฉันหันไปถามเขา พี่เชนมองฉันยิ้มๆ

"ตั้งใจเรียนนะครับเด็กดี"

"ฮ่ะๆ ค่ะ...คุณพ่อ"

ฉันหยอกเขากลับทันที

"โอ้โห เป็นพ่อเลยเหรอ พี่ยังไม่แก่ขนาดนั้นน่ะ"

"แต่ตีนกาพี่ขึ้นแล้วนะคะ"

ฉันแกล้งชี้รอยตีนกาบนหน้าเขา พี่เชนปล่อยข้อมือฉันพลางจับหน้าตัวเอง เขาใช้หน้าตาทำมาหากินนี่นา ก็ต้องห่วงเรื่องความหล่อเป็นธรรมดา

"จริงเหรอ พี่ไม่รู้ตัวเลยนะ"

"ข้าวล้อเล่นค่ะ"

"น้องข้าวอ่ะ"

เขาทำหน้างอนๆใส่ฉัน จนฉันต้องจิ้มแก้มเขา

"โอ๋ อย่างอนนะคะ ข้าวเปลี่ยนให้พี่เป็นโอปป้าก็ได้อ่ะ"

พอฉันพูดแบบนั้นเขาก็ยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนจะหยอดมุขเสี่ยวใส่ฉันอีก

"เรียกโอปป้าไม่ถนัด เรียกที่รักเลยได้ป้าว"

"พี่เชน เสี่ยวอ่ะ"

ฉันหัวเราะเขา ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าเขาจะมีมุมแบบนี้ด้วย

"ฮ่ะๆ ชอบเหรอ พี่จะได้เล่นบ่อยๆ"

"ก็ชอบค่ะ"

"ชอบก็จีบสิครับบบ"

"พี่เชนนน"

ฉันลากเสียงยาว พอเห็นว่าฉันชอบหน่อยก็เอาใหญ่เลย ยิงได้ยิงเลยจ้า แหมถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นนี่คงละลายลงไปกองกับเบาะรถแล้วเนี่ย

"พอแล้ว มัวแต่หยอดมุกแบบนี้ข้าวจะเข้าเรียนไม่ทันนะคะ"

ฉันบอกพลางสะพายกระเป๋า พี่เชนทำหน้าเสียดายแต่ก็ยอมพยักหน้า

"ก็ได้ครับ"

"ข้าวไปนะคะ"

"ไว้เจอกันอีกนะครับ"

"ค่ะ ไปน๊า"

ฉันบอกก่อนจะเปิดประตูลงมาจากรถและโบกมือให้เขาจากนั้นรถที่ติดฟิล์มสีชาคันนี้ก็ขับเคลื่อนออกไป

จริงๆพี่เชนเขาก็น่ารักดีนะ หล่อ นิสัยก็ถือว่าใช้ได้ ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นเชือกระหว่างการแข่งขันของฉัน เราคงเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ดีต่อกัน ทุกอย่างมันก็คงดีกว่านี้

*Paradise Pub

พักนี้เหนือมาดื่มบ่อยๆ ส่วนมากเขาจะมากับพี่โจและมานั่งดื่มที่บาร์ วันนี้ก็เหมือนกันตอนแรกเขามากับพี่โจแล้วแฟนของพี่โจก็ตามมาทีหลังและดันมาจ๊ะเอ๋อีตอนที่เขาเจ๊าะแจ๊ะอยู่กับผู้หญิงพอดี สุดท้ายก็เลยโดนลากกลับไปเคลียร์กันโดยทิ้งเหนือไว้ที่นี่ ระหว่างฉันกับเขาเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆเพราะได้คุยกันบ่อยและเจอกันบ่อยขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังดูออกว่าเขายังไม่สนิทใจเท่าไหร่

ตอนนี้ฉันเลิกงานแล้วและเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังจะกลับ

กึก~

ฉันเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแต่เห็นว่าเหนือยังนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ถึงได้เดินเข้าไปหาเขา

"พี่เหนือ ยังไม่กลับเหรอคะ"

ฉันถาม เขาเก็บโทรศัพท์ในมือใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหันมาหาฉัน

"อื้ม กำลังจะกลับ"

เขาลุกขึ้นยืนแต่เซ คงเพราะดื่มเยอะไป

ฟลุ่บ~

และฉันเข้าไปช่วยพยุงเขาไว้โดยอัตโนมัติ เขาหลุบตามองฉันก่อนจะถามขึ้น

"กลับด้วยกันมั้ย"

นี่พูดจริงเหรอ?

"คะ?"

แกล้งถามสักหน่อยดีกว่า

"ก็...ทางเดียวกันนิ"

"อ้อ...ได้ค่ะ ดีเลย"

"..."

"แต่มีข้อแม้นะคะ"

เขาหลุบตาลงมองฉัน ฉันยิ้มก่อนจะพูดขึ้น

"ขอกุญแจรถด้วยค่ะ"

ฉันแบมือตรงหน้าเขา เหนือมองฝ่ามือฉันก่อนจะขมวดคิ้ว

"ให้ข้าวขับนะคะ พี่เมาอ่ะ"

"ไม่เมามาก..."

"พี่เซแล้วนะ"

ฉันเงยหน้ามองเขา พลางทำหน้าอ้อนๆ

"ข้าวขับปลอดภัยกว่า...นะคะ"

"..."

เขาเงียบสักพักแต่สุดท้ายก็วางกุญแจรถใส่มือฉัน วันนี้เขาขับรถใหญ่มา

จากนั้นเราก็เดินมาที่รถแล้วก็เข้าไปนั่งในรถ ฉันเหลือบมองเขาที่นั่งนิ่งๆ ดูทรงเหมือนจะนอยด์อะไรสักอย่างอีกแล้วแหละ เกี่ยวกับโทรศัพท์เมื่อกี้หรือเปล่านะ

บรื้น~

แล้วฉันก็สตาร์ทรถและขับออกไป ระหว่างทางเราสองคนเงียบมาก ปกติฉันก็จะคุยเก่งอยู่แต่นี่มันดึกแล้วไง บางทีฉันก็ง่วงบ้างอะไรบ้าง เรียกง่ายๆว่าใกล้หมดฤทธิ์แล้วนั่นแหละ

"เงียบจังเลย..."

ฉันพูดออกมา ไม่อยากให้เงียบจริงๆนะ มันง่วง

"ง่วงเหรอ"

เขาถามฉัน ฉันพยักหน้า

"ก็...นิดหน่อยค่ะ"

"งั้นพี่ขับ..."

"ไม่เป็นไรค่ะ แค่พี่คุยกับข้าวตลอดทางก็พอ"

"พี่คุยไม่เก่ง"

"งั้น ข้าวพูดเอง พี่ก็ฟังนะ"

"อื้ม ก็ได้"

ฉันยิ้ม พลางใช้นิ้วเคาะกับพวงมาลัยรถเพื่อคิดหาเรื่องมาพูด

"พี่รู้จักแบดเกิร์ลมั้ยคะ"

"หืม เกิร์ลกรุ๊ปเหรอ?"

"ฮ่ะๆ ไม่ใช่ค่ะ แก๊งนี้ออกจะดังนะพี่ไม่รู้จักเหรอ"

เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ฉันรู้อยู่แล้วแหละก็แค่หาเรื่องมาพูดเฉยๆ

"แก๊งนี้มีเพจในเฟซบุ๊คด้วยนะ พี่ลองหาดูได้เลย สมาชิกมีสี่คน มีลูกโซ่ ปลายฟ้า ยาหยี แล้วก็ข้าวหอม"

"ข้าวหอม?"

เขาหันมามองฉันพลางถามย้ำชื่อฉันเป็นเชิงสงสัย

"ค่ะ ข้าวหอมคนนี้นี่เอง"

ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพลางหัวเราะ เหนือหลุดยิ้มออกมานิดหน่อย

"เป็นแก๊งเน็ตไอดอลเหรอ"

เขาหันมาถามฉันอีก เหมือนเรื่องที่ฉันเอามาพูดจะดึงความสนใจของเขาได้อยู่นะ

"ไม่ใช่ค่ะ"

"อ้าว"

"เป็นแก๊งผู้หญิงแบดๆแก๊งหนึ่ง..."

"..."

เขามองหน้าฉันพลางหุบยิ้มลงและขมวดคิ้วทันที

"พี่ลองดูสิคะ แล้วพี่จะรู้"

ฉันบอกเขาและยื่นมือถือที่เพิ่งเปิดเข้าหน้าเพจแก๊งแบดเกิร์ลเมื่อกี้ให้เขา เหนือรับไปเลื่อนดูเงียบๆ

"หืม?"

เขาครางในลำคอพลางเหลือบมองฉัน ก็ในนั้นน่ะรวมวีรกรรมของพวกเราทุกคนไว้นี่นา

"แบดมั้ยล่ะ"

ฉันถามเขา เขาเงยหน้ามามองฉันแบบไม่อยากเชื่อ

"..."

และเขาก็ยังเลื่อนดูไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่โพสต์หนึ่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ในข้อความที่โพสต์ระบุไว้ว่า

'สาวข้าวหอมสุดเซ็กซี่ประจำแก๊งที่มีหนุ่มๆรุมล้อมอยู่เป็นประจำ ล่าสุดนางเข้าโรงพยาบาลจ้า วงในเม้าท์มอยกันมาว่านางตกเลือดเพราะกินยาขับ! แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่กระจ่างน๊า รอดูต่อไปว่าจะจริงหรือไม่ แต่ถ้าจริงนี่ก็ใจไม้ไส้ระกำเกินไปหน่อยน๊า แอดรับไม่ได้'

"พี่เชื่อมั้ยคะ ว่าข้าวทำ"

ฉันถามเขา เขาดูอึ้งไปเลยกับความร้ายกาจของพวกฉันและข่าวนั้น

"..."

เงียบจุง

"แสดงว่าเชื่อ"

"ปะ เปล่า"

เขาตอบอึกอัก ฉันว่าเขาครึ่งๆกลางๆมากกว่า

"จริงๆข้าวก็อยากรู้นะว่าไอ้แอดมินเพจนี้มันเป็นใคร ทำไมรู้ทุกอย่างเหมือนแปลงร่างเป็นขนหน้าแข้งอยู่กับพวกเราตลอด แล้วไอ้วงในนี่มาจากวงไหน วงไพ่หรือเปล่า ถึงได้รู้ดีกว่าเจ้าตัวเหลือเกิน"

"แสดงว่าไม่ได้ทำ?"

"ข้าวยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ"

เขามองหน้าฉัน ฉันยิ้มก่อนจะพูดอีก

"จริง?"

"จริงสิคะ มีผู้ชายเข้าหาข้าวเยอะก็จริง แต่ข้าวไม่สนใจหรอกเพราะรู้ว่าคนพวกนั้นต้องการอะไร แต่ถ้าเป็นคนที่ข้าวสนใจ...ข้าวจะเข้าหาเขาเองเลยค่ะ"

ฉันยกยิ้มและมองเขา เหนือกระพริบตาพลางหลุบตาลงมองมือถือ

"แล้วไม่คิดจะแก้ข่าวเหรอ"

"ไม่หรอกค่ะ"

"ทำไมล่ะ"

"ข้าวบอกแล้วว่าเราทำอะไรเรารู้ คนอื่นที่เขาไม่รู้ อยากจะพูดอะไรก็ให้พูดเถอะค่ะ ดอนท์แคร์อย่างเดียว"

"แต่ก็จะมีคนพูดถึงแบบนี้"

"ก็แล้วแต่พวกนั้นเถอะ ข้าวจะบอกแค่กับคนที่ข้าวแคร์เท่านั้นแหละ..."

ฉันหันไปมองเขาก่อนจะพูดขึ้นอีก

"ว่าข้าวไม่ได้ทำ"

"อะ อื้ม"

เหนือพยักหน้าหงึกหงักพลางยื่นมือถือคืนให้ฉัน

"เก็บใส่กระเป๋าให้หน่อยได้มั้ยคะ"

ฉันบอก เขาชะงักนิดหน่อย

เพราะกระเป๋าวางอยู่บนหน้าขาของฉัน ฉันหลุบตาลงมองก่อนจะเงยหน้าไปมองเขา

เขาถึงได้รีบเอื้อมมาหย่อนโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วรีบกลับไปเอนหลังพิงเบาะพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น

ดูเหมือนจะมีคนแอบเขินอยู่แถวนี้แหะ ?

-เหนือ-

(เหนือ...)

"..."

(เหนือ ได้ยินที่จีน่าพูดหรือเปล่า...)

"อืม"

ผมครางตอบรับกับปลายสาย ผมได้ยินทุกคำพูดแต่ตอนนี้สายตาผมกำลังมองไปที่หน้าจอทีวีที่ไอ้หมอกมันเปิดทิ้งไว้แต่ตัวเองดันออกไปหาเพื่อน ตอนแรกผมกะจะเดินมาปิดแต่ดันมีรายการข่าวบันเทิงมาพอดี ผมเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ผู้ชายคนนั้นผมไม่รู้จัก แต่ผู้หญิงคนนั้น...

"ไม่ต้องย้ำหรอก รู้แล้ว"

ผมบอกกับปลายสาย ตั้งแต่เจอกันโดยบังเอิญในวันนั้น เธอก็โทรมาหาผม ทุกครั้งที่โทรมาคำพูดก็เหมือนเดิม

'ฉันกำลังจะทำตามความฝันสำเร็จแล้ว ฉันได้เล่นซีรี่ย์ มีคนรู้จักฉันมากขึ้นแล้ว นายดีใจกับฉันใช่มั้ย'

ใช่ ฉันดีใจด้วย...ผมตอบแบบนั้น

'ฉันรู้อยู่แล้วแหละว่านายต้องดีใจกับฉัน แล้วฉันเองก็ดีใจนะที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง'

ผมก็ดีใจ ผมรอคอยเวลานี้มาตั้งสี่ปีเชียวนะ แต่เหมือนการกลับมาเจอกันของเราสองคนมันผิดจากสิ่งที่ผมคาดหวังไปหมดเลย

'แต่ว่า...เราจะทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันกันมาก่อนได้มั้ย'

ผมอึ้งกับสิ่งที่เธอขอร้อง เธอกำลังขอร้องผมให้ไม่รู้จักเธอ

'ฉันรู้ว่าอดีตของเรามันไม่ได้เลวร้ายอะไร เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ว่า...เราจะให้คนอื่นรู้เรื่องของเราไม่ได้ ถ้ามีคนรู้ ทุกอย่างต้องจบแน่ มันกำลังไปได้ดี ขอร้องนะ...เหนือ'

ผมจำใบหน้าอ้อนวอนของเธอได้ มันทำให้ผมรู้ว่าถ้าเรื่องนี้มีคนรู้ เธอจะดับตั้งแต่ยังไม่ทันดัง และผมจะกลายเป็นคนทำลายความฝันของเธอ

"ใช่ เธอกำลังไปได้ดี"

ผมพูดแต่หูของผมไม่ได้ฟังเสียงจากปลายสายแล้ว ผมฟังเสียงจากทีวี ฟังสองคนนั้นตอบสัมภาษณ์

สรุปใจความ คือสองคนนั้นเล่นซีรี่ย์ร่วมกัน ฝ่ายหญิงพลิกผันตัวเองจากการเป็นนางแบบและตัวประกอบขึ้นมารับบทนางเอก โดยประกบคู่กับพระเอกที่กำลังเป็นที่นิยม คาดว่าจะต้องไปได้สวย ได้รับการยอมรับแน่ๆเพราะทั้งสองคนเคมีเข้ากันมาก และสถานะตอนนี้ถึงยังคลุมเคลือแต่ทั้งสองก็ดูสนิทกันมากจนคนดูจิ้นให้คบกันตั้งแต่ซีรี่ย์ยังไม่ออนแอร์ด้วยซ้ำ และดูเหมือนเธอจะแสดงออกว่าชื่นชอบเขาเอามากๆ

"กับผู้ชายคนนั้น..."

(เหนือ...)

"อืม วางเถอะ ฉันเข้าใจทุกอย่าง"

ผมพูดจากนั้นก็เป็นคนตัดสายทิ้งซะเอง ยิ่งได้ยินเสียงเธอผมก็ยิ่งเจ็บว่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel