บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7

ติ๊ง!!!

กรึก..

ตอนนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง..ว่าทำไมกับการแค่อุ่นอาหาร ข้าวมันไก่..แค่นี้ ทำไมผมจะต้องยิ้มด้วย

ข้าวมันไก่ ที่ยัยหมวยซื้อให้ผมเป็นมื้อเย็นอีกห่อ..หลังจากที่มื้อเที่ยงเธอก็เลี้ยงผม

ชีวิตของไอคิน..รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ให้ผู้หญิงเลี้ยงข้าวตั้งแต่มื้อแรก..หึหึ

แต่ก็นะ...ก็ผมจนนี่นา..ผมจะทำยังไงได้ นอกจากยอมให้เธอผู้หญิงที่แสนจะขี้งกคนนั้น เลี้ยงข้าว..

ใช่ ถึงเธอจะขี้งกยังไง..เธอก็ยังมาเลี้ยงข้าวผมอยู่ดี..รวมถึงมื้อนี้ที่ผมกำลังถือจานร้อนเพื่อเดินไปนั่งกินในห้องนั่งเล่น ภายในคอนโดของผมอีกด้วย

ตอนที่ผมไปร้านของเธอในวันแรก ผมก็ไปตามที่แม่ผมบอกนั่นล่ะ.. และยอมรับเลยว่า ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอ ผมเองก็แปลกใจไม่น้อย..

อย่างแรก..เธอดูเป็นผู้หญิงธรรมด๊าาธรรมดา ที่มีใบหน้าขาวอมชมพูธรรมชาติ ใบหน้าที่ไม่ได้ผ่านการแต่งเติมด้วยสารเคมี และก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อมากมาย รวมถึงการแต่งตัวที่ไม่ได้โฉบเฉี่ยว เปรี้ยวเข็ดฟัน แต่กลับแต่งตัวด้วยเสื้อธรรมดาแขนยาวกางเกงยีนส์ขายาวเท่านั้น.. และทุกอย่างที่กล่าวมานั้น มันตรงข้ามกับ ผู้หญิงที่ผ่านมาของผมทุกคน..

อย่างที่สองคือ รอยยิ้มและใจรักบริการขั้นสูง...เธอยิ้มและให้บริการทุกคนอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าจะบ่นและโวยวายตอนคุยกับน้องชายไปบ้าง..แต่เจอแบบนั้น ไม่หงุดหงิดเลยก็แปลกคนแล้วล่ะ แต่พออยู่ต่อหน้าลูกค้า เธอก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม

และด้วยเหตุนี้ มันเลยทำให้ผมเกิดความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองว่า....ถ้าผมเป็นลูกค้านิสัยไม่ดีล่ะ..เธอจะออกอาการบ้างหรือเปล่า..ยังจะยิ้มแบบนี้อยู่อีกมั้ย และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมแสดงพฤติกรรมเป็นลูกค้านิสัยไม่ดีออกมา.. และก็พบว่า เธอเองก็ดูมีลิมิตที่ตั้งไว้สูง..แต่สุดท้ายก็ทนผมไม่ไหว จนต้องวิ่งตามออกมา..และก็แสดงพฤติกรรมที่ผมให้คำนิยามว่า..ร้ายน่ารัก..

ก็นั่นล่ะ ตามนั้น ยัยหมวย..เธอ ร้ายๆแบบน่ารัก ไม่ว่าจะโกรธ ตกใจ หรือไม่พอใจ มันก็ดูน่ารักไปหมด..

และมันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า..ช่วงเวลานี้...มีอะไรให้ผมได้เล่นสนุกๆแล้วล่ะ.. และแน่นอน มันไม่ใช่เรื่องเรียน ไม่ใช่เรื่องงานด้วย..

บ้านของผม ตระกูลฟรองค์ พวกเราเป็นอันดับต้นๆของโลก ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา โดยพ่อของผม คือคนที่ดูแลโซนเอเชีย..ส่วนในทางยุโรปนั่นก็คือคุณลุง พี่ชายของพ่อ..ที่เป็นพ่อบุญธรรมของเฮียไค พี่ชายคนโตของผม

ครอบครัวผมมันค่อนข้างจะซับซ้อนแต่ก็ไม่ได้เข้าใจยาก..

เอาเป็นว่า เมื่อตอนเด็ก ทางบ้านผมมีเรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นกับพ่อและแม่ผม ทำให้ม๊าไม่สามารถเดินได้ช่วงหนึ่ง ส่วนเฮียไคพี่ชายคนโตต้องไปอยู่อังกฤษกับคุณลุง ในขณะที่เฮียเคและผมอยู่ไทย..

ส่วนเรื่องกิจการพ่อผม อย่างที่บอกว่าพ่อดูแลของฝั่งเอเชีย ซึ่งมันเยอะมาก และผมกับเฮียเคก็คือความหวังของท่านที่จะให้มาสานต่อ ทำให้ตอนนี้แด๊ดกำลังค่อยๆทยอย ให้พวกผมดูแลกิจการของท่าน แต่ก็นะ คนที่ทำออกมาดี ก็คือเฮียเค.. ไม่ใช่ผมหรอก

...เฮียดูแลกิจการหลักต่อจากพ่อของผม ในขณะที่ผม รับในส่วนงานย่อยๆอีกที ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร อันที่จริง ผมก็เป็นคนจริงจังกับงานนะ ถ้าผมได้รับมอบหมาย นั่นก็คืองานที่ผมต้องทำให้สำเร็จและทำออกมาให้ดี.. และผมก็ไม่เคยทำเล่นๆเลยซักครั้งเดียว เพราะนั่นมันก็คือแบรนด์ของครอบครัวผมเหมือนกัน.. แต่ว่าถ้ามีโอกาสผมก็มักจะหาข้ออ้างและวิธีหลบหลีกที่จะไม่รับทำงานแนวนี้อยู่เสมอ ก็นั่นล่ะ ผมอยู่ไม่ค่อยอยู่นิ่งหรอก ให้มาบริหาร ดูตัวเลข ดูเอกสารทุกวันแบบเฮียเค...บอกตรงๆ นั่นมันไม่ใช่สไตล์ของผมเลยซักนิด

.. ผมอยากเป็นแค่เจ้าของกิจการร้านเล็กๆ ที่ขายอุปกรณ์รถยนต์ เครื่องยนต์ อะไรแนวๆนี้มากกว่า ซึ่งมันก็ตรงสายเดียวกับเฮียซัน..เพื่อนของเฮียเค.. ทำให้ผมก็ชอบไปนั่งคุยเล่นกับเฮียซันบ่อยๆ

และอีกคนก็คือเฮียเคน..ที่เหมือนพี่ชายของผมอีกคน นอกจากจะชอบรถเหมือนกันแล้ว เฮียเคน ยังเป็นเจ้าของลานแข่งรถ ที่ผมชอบไปแข่งอีกด้วย..

แต่ว่าถึงอย่างนั้น ตอนนี้ผมก็เลี่ยงที่จะช่วยงานบริหารของทางบ้านไม่ได้อยู่ดี ..ทำให้ผม ต้องปรึกษา เพื่อนเฮียเคอีกคน ก็คือเฮียไนท์..ที่โคตรจะเก่งในทุกเรื่องๆเลย โดยเฉพาะเรื่องการแพทย์และเรื่องบริหาร

เอาจริงๆคือ กลุ่มของเฮียเค..หรือกลุ่ม Devil Prince ที่ใครๆหลายคนเรียกกัน จริงๆแล้ว มันก็คือการรวมตัวอัจฉริยะนั่นล่ะ ..นี่ยังไม่รวมเฮียโซ่อีกคน.. ที่ตอนนี้มีปัญหา ทำให้ต้องแตกกันไป แต่ถ้ารวมตัวกันได้เมื่อไรนะ บอกเลยว่า..พวกเขาทั้ง 5 คน สมชื่อกับกลุ่มที่ถูกตั้งไว้จริงๆ เพราะ พวกเฮียเป็นเหมือนเจ้าชาย ที่มีดีทั้งหน้าตา ความรู้ ความสามารถ และก็มีความร้ายกาจในแบบของปีศาจกันทุกคน..

ส่วนผมนะเหรอ ... ผมไม่อยากเป็นหรอกเจ้าชาย ขอเป็นมนุษย์เดินดินที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ..และได้สนุกกับการใช้ชีวิต ก็พอแล้ว..ส่วนผมจะมีโอกาสกลายร่างเป็นปีศาจมั้ย..อืม... อันนี้ก็ไม่รู้สิ เพราะที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ผมโกรธมากๆได้เลยซักครั้ง..

ส่วนเรื่องเรียนก็เหมือนกัน ผมไม่ได้เรียนในคณะที่ผมชอบ หรือมันส่งผลต่ออนาคตของผมหรอก.. ก็อย่างที่รู้ๆ ผมเรียนคณะท่องเที่ยวและการโรงแรม..คณะที่ผมสุ่มปาเป้า..แล้วมันก็ไปตกที่คณะนี้..

ผมไม่สนใจเรื่องคณะหรอก เพราะสุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่เข้าเรียนอยู่ดี..ก็นี่มันมหาลัยทางบ้านผม และผมก็ทำคะแนนออกมาดีเสมอ และที่สำคัญ..เวลาผมไปเรียน ผมไม่ชอบสายตาของคนในมหาลัยเท่าไร..ที่ชอบมองเหมือนว่า ผมเป็นเจ้าชาย เหมือนกับพี่ชายของผม..และเข้าหาผมเพราะหวังผลประโยชน์..

อ้อ..ยกเว้นคนหนึ่ง ขวัญข้าว..ที่ผมคิดว่า..เธอน่าจะได้มาเป็นพี่สะใภ้ของเฮียผมคนหนึ่งแน่ๆล่ะ.. และผมก็ภูมิใจสุดๆ เพราะนั่นคือ ฝีมือการจับคู่ของผมเอง..หึหึ

ใช่แล้วครับ ที่พูดมาทั้งหมด ผมก็เป็นแค่เด็กนิสัยเสีย.. และก็เป็นคนที่ชอบเล่นสนุกไปวันๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนที่แม่ผมเคยบอก..แต่ผมก็คิดว่า มันก็ไม่ได้เดือดร้อนใครหรือเปล่า..

และตอนนี้ผมก็มีเรื่องสนุกให้ผมโฟกัสใหม่แล้วด้วยในตอนนี้..นั่นก็คือ ยัยเหมยลี่..

“คุณคินครับ..คุณมีนามาหา..”

แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังนั่งกินข้าวมันไก่เพลินๆ พร้อมกับนึกถึงเรื่องของใครบางคน เสียงของเลขาสนิทของผม ก็รายงานดังเข้ามา..

มีนา..คู่ควงล่าสุดของผม..ที่ผมบอกแยกย้ายกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว..และภายในเดือนนี้ เธอก็มาหาผมเป็นครั้งที่ 2 แล้วเช่นกัน..

มันเป็นปกติของผมสำหรับเรื่องนี้ ที่ผมจะทำข้อตกลงกับผู้หญิงทุกคน.. ผมต้องการเรื่องบนเตียง ส่วนพวกเธอก็แค่ต้องการให้ผมซื้อของให้ ไปกินข้าวนิดหน่อย เพื่อให้เธอเหล่านั้นได้อวดผมกับเพื่อนๆของเธอ แต่ว่าเราจะไม่แสดงความเป็นเจ้าของ หรือ แสดงตัวออกสื่อใดๆทั้งสิ้น.... และทุกอย่างต้องจบลงภายใน 1 เดือน

เมื่อครบ..ก็แยกย้าย

เพราะผมรู้ว่ายิ่งผ่านไปนาน. พวกเธอก็จะยิ่งสร้างพันธะกับผมเรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเธอก็จะเริ่มงี่เง่าและแสดงความเป็นเจ้าของกับผม.. จนผมรำคาญ

เหมือนรายนี้ ที่ผมบอกแยกย้ายไปแล้วก็ยังไม่ยอมจบ..แต่วันนี้ผมต้องทำให้มันจบให้ได้แล้วล่ะ..

“ให้ไปรอที่ห้องเดิม”

คอนโดที่ผมอยู่ มันมี 4 ตึก เป็นคอนโดของเฮียไนท์ ที่พวกเฮียๆไม่รวมเฮียโซ่จะอยู่กันคนละตึก และผมก็อยู่ตึกเดียวกับเฮียเค..แต่ว่าอยู่กันคนละชั้น..

ซึ่งอันนี้มันคือ ชั้นส่วนตัวของผม..ส่วนสาวๆที่ผมควงนั้น..ผมจะให้เข้าถึงได้แค่ชั้นล่างเท่านั้น..และบอกเลยว่า เรื่องนี้เฮียเคบ่นผมตลอด รวมถึงม๊าด้วย แต่ว่า..ผมก็ขี้เกียจไปไหนไกลไง.. จัดการเสร็จ ก็ขึ้นมานอนที่ห้องตัวเองข้างบนต่อ สะดวกจะตาย..นั่นเลยทำให้ผมทำแบบนี้บ่อยๆ จนสุดท้าย เฮียกับม๊าก็คงขี้เกียจบ่นผมแล้วล่ะ..

ส่วนห้องที่ผมอยู่ตอนนี้นะเหรอ..ผมไม่ให้ใครเข้ามาในคอนโดห้องส่วนตัวผมหรอก.. ยกเว้นคนในครอบครัวและพวกๆเฮียเท่านั้น

และหลังจากที่ผมกรอกเสียงตอบกลับเลขาผมไป ผมก็จัดการลงมือกินข้าวมันไก่ในจานต่อ.. พร้อมกับหยิบมือถือมาเพื่อเปิดวีดีโอ..วีดีโอที่ผมเพิ่งบันทึกไปสดๆร้อนๆในวันนี้มาเปิดดูพร้อมกับกินข้าวไปด้วยอย่างสบายใจ และอดไม่ได้ที่จะยิ้มขันอีกครั้งเมื่อเห็นภาพนั้น

ฮงฮวาเปียวปี๊ ถงคว้าไห้ฮว่า ฮว้าฮวาฮว้าฮวาาา นีหน๊คงสูหวังเหยียงอีเอียงเอี๊ยงง ซานีฮีชาชว้าชวาชว้า ฟงวาฮาวา เหล่ากงฮงฮ๊งฮงงง ฉึ่ง ฮวาฮว๊าฮว่าาาฮวาาา ตึ๋ง ตึ๊ง ตึ๊ง~

พอยิ่งได้เห็นหน้าเธอที่แต่งงิ้วแล้ว มันก็ทำให้ผมคิดว่า..

ให้ตายเถอะ ผมก็ไม่เคยกินข้าวกับผู้หญิงคนไหนเหมือนกับยัยหมวยมาก่อนเลย

หลังจากวันนั้นที่ร้านอาหาร..ผมก็ให้คนตามดูเธอเอาไว้ ส่วนผม ในขณะนั้น ก็เริ่มมีงานเข้าที่ผมไม่ชอบจากพ่อของผมให้ทำ ก็เลยทำให้ผมต้องทำงานอย่างจริงจังไป..จนกระทั่งวันนี้ที่งานผมเสร็จ และผมก็ได้มีเวลาว่าง ก็เลยตามเธอไปที่ศาลเจ้าแม่ลิมกอนีตามที่ลูกน้องรายงานมา

และบอกตรงๆว่า ภาพที่ผมเห็นเธอ มันทำให้ความเครียดและคลายความน่าเบื่อของผมในอาทิตย์ที่ผ่านมา หายเป็นปลิดทิ้งในทันที

จะไม่ให้ผมหายเครียดได้ยังไงในเมื่อ เธอกำลังอยู่ในสภาพชุดงิ้ว ที่หน้าแน่น..เสื้อจัดเต็ม แล้วไหนจะ..ท่ารำงิ้วแก้บนของเธอที่ผมอัดคลิปไว้และกำลังดูอยู่ในตอนนี้อีก..

แต่ว่า..เรื่องเธอรำงิ้ว มันยังไม่เซอร์ไพรส์เท่าเรื่องที่เธอมาเช็ดหน้าเธอต่อหน้าผมในร้านอาหารหรอก..

ตั้งแต่ในชีวิต ผมกินข้าวกับผู้หญิงเป็นร้อยครั้ง.. ไม่เคยมีการกินข้าวด้วยกันครั้งไหนที่ประทับใจเท่าครั้งนี้มาก่อน ครั้งที่ผู้หญิงที่นั่งด้วย ..นั่งเช็ดเครื่องสำอางค์ต่อหน้าผม..และ ยิ่งเช็ดออก เธอก็ยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆซะด้วยสิ แล้วไหนจะคำพูดคำจาที่ไม่มีจริตจะก้านเหมือนคนอื่น รวมไปถึงความคิดของเธออีก

อาจจะเป็นเพราะเธอไม่รู้ด้วยล่ะมั้งว่าผมคือใคร...เธอก็เลยแสดงท่าทีเช่นนั้น..แต่เอาเถอะ หลังจากนี้ผมคงต้องได้เจอกับเธออีกเยอะ.. ก็แน่ล่ะ เพราะหลังจากวันพรุ่งนี้ ผมจะไม่ใช่ ฟรองค์ คินหันต์ ว่าที่ CEO บริษัทในเครือ Kgroupแล้ว แต่ผมคือ ไอ้คิน เด็กหนุ่มยากจน สู้ชีวิต พนักงานร้านฉิงป่อไช่ไงล่ะ.. หึหึ

.

.

.

“คุณคินขาาา.. ทำไมให้มีนรอนานจังเลยคะ..”

ทันทีที่ผมมาถึงห้องที่นัดมีนาไว้..หญิงสาวตรงหน้าก็พุ่งตัวมาเกาะผมเหมือนที่ทำบ่อยๆในทันที..พร้อมกับพูดด้วยถ้อยคำที่ออดอ้อนในแบบของเธอ ที่คิดว่า..น่ารัก

ทั้งๆที่ใบหน้านั้น มีของแท้แค่ตาดำเท่านั้น.. แม้แต่ผิวหน้าตอนนี้..ก็ยังมีเครื่องสำอางค์หนามาปกปิดเลย..และพอได้เห็นในระยะใกล้แบบนี้แล้วบอกเลยว่า..

นี่มันหน้าคนหรือดวงจันทร์?

ขนาดป้ายมาหนายังมองเห็น ขัดกับอีกคนที่ไม่ต้องป้ายอะไรก็หน้าเนียน

แต่จะว่าไป..นี่ผมเคยควงผู้หญิงแบบนี้ จริงดิ?

“กินข้าวมันไก่อยู่”

และนั่นก็คือคำตอบของผมที่ตอบออกไปนิ่งๆ ก่อนที่จะค่อยๆแกะมือที่เหนียวเหมือนกับปลาหมึกออก.. จากนั้นก็เดินไปนั่งตรงเก้าอี้ในห้องและผายมือบ่งบอกให้อีกฝ่ายไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัว.. แม้ว่าอีกฝ่ายจะชะงักกับคำตอบของผมไปเล็กน้อยก็ตามที..

“แหมม คุณคินก็..ขี้เล่นไม่เปลี่ยนเลยนะคะ..หรือคุณคินหมายถึงข้าวมันไก่ที่อิมพอร์ตมาจากสิงคโปร์เลยใช่มั้ยล่ะ..”

“อยากได้เท่าไร..”

และผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร นอกจากเข้าประเด็นที่ต้องการเลย..

“แหมม..เท่าไรอะไรล่ะคะ คุณคินก็..มีนาก็แค่คิดถึง..”

“มีนา ผมเคยคุยแล้วใช่มั้ย..ว่าข้อตกลงของเราคืออะไร..การที่ผมยอมมานั่งคุยกับคุณ และถามคุณว่า อยากได้เท่าไร..แค่นี้มันก็ใจดีสุดๆแล้วนะครับ..แต่ถ้าคืนนี้เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง..”

กรึก..

หลังจากที่ผมพูดจบ..ผมก็หยิบวัตถุสีดำ..ขึ้นมาวางบนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างผมและเธอนั่งอยู่ในทันที..วัตถุสีดำ ที่ใครๆหลายคนก็เรียกมันว่า..ปืน

และเมื่อเธอเห็นของสิ่งนั่น เธอก็ชะงักไปทันที ก่อนที่จะโพล่งปากออกมาอย่างลนลาน..

“ล้านนึงค่ะ!!”

พรึ่บ..

ทันทีที่เธอพูดเช่นนั้น ผมก็หยิบปืนขึ้นมาและลูบๆคลำๆมันเล็กน้อย ก่อนมองออกไปหาเธอ และพูดนิ่งๆออกมา

“พูดใหม่..”

หนึ่งล้าน..กับผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาไม่รู้กี่สิบคนเนี่ยนะ.. ไม่มีทาง..

ที่สำคัญ ผมนอนกับเธอแค่สิบครั้ง ก็เท่ากับว่า ผมนอนกับเธอครั้งละ แสน..ถ้าผมยอม ผมก็บ้าแล้วล่ะ..

“อะเออ..ห้าแสน..”

แกร๊ก..

ทันทีที่ได้ยินเธอเสนอราคาใหม่ ผมก็เริ่มชักปืนทันที...

“อะเออ.. งั้น..แสนนึง!”

และคราวนี้ผมก็..เริ่มเล็งปลายกระบอกไปทางเธอ..และนั่น..เลยทำให้เธอพูดในสิ่งที่ผมอยากได้ยินซักที..

“ง งั้น..แล้วแต่คุณคินเลยค่ะ! อย่าทำอะไรมีนาเลยนะคะ!!!”

“หึหึ..”

หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น ผมก็ค่อยๆวางปืนลง..ก่อนจะเขียนตัวเลขลงในเช็คทันที และหันใบเช็คให้เธอดู ซึ่งทันทีที่เธอเห็น

“หนึ่งพันเนี่ยนะ!!! อาหารที่คุณคินพามีนาไปกินยังแพงกว่านี้เลย..!!”

“ก็ใช่ไง.. ที่ผ่านมา เธอก็ได้กินอาหารแพงๆ ได้กระเป๋า เสื้อผ้าแพงๆแบบที่เธอต้องการไปเยอะแล้ว แล้วตอนนี้ผมให้คุณหนึ่งพันยังเยอะไปด้วยซ้ำ..ก็เลือกเอาเองนะ ว่าจะรับเช็คใบนี้ หรือจะรับ..เม็ดเล็กๆที่อยู่ในกระบอกนี้...แทน”

พรึ่บ

แต่แล้วทันทีที่เธอเอื้อมมือมาหยิบใบเช็คมูลค่าหนึ่งพัน ผมก็กระตุกมือหนีทันที..ก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมาอีกครั้ง

“หวังว่า ผมจะไม่เห็นคุณเข้ามาในชีวิตของผมอีกนะครับ..เพราะครั้งหน้าคุณจะไม่ได้รับ..เป็นกระดาษแน่ๆ ”

“ค ค่ะๆ มีนาจะไม่มารบกวนคุณคินอีกแล้วค่ะ”

หลังที่เธอพูดจารู้เรื่อง ผมก็ยื่นใบเช็คไปตรงหน้าอีกครั้ง และเธอก็รีบคว้าทันที ราวกับว่าใบนั้นมีมูลค่า ห้าล้าน..ทั้งๆที่มันก็แค่หนึ่งพัน.. และเมื่อใบขาวนั้นไปอยู่ในมือเธอ เธอก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องนี้เหมือนรู้งานในทันที

ส่วนผมก็ค่อยๆถอนหายใจเล็กน้อย..ก่อนที่จะมองปืนตรงหน้า..ปืนที่ไม่มีลูกกระสุนซักอันอยู่ข้างใน..

แม้ว่า..ผมจะไม่ใช่มาเฟียเหมือนพวกเฮียๆ แต่ว่าผมก็โตมากับพวกเฮีย ทำให้ผมได้รับการถูกฝึกให้ต่อสู้ ใช้อาวุธ และฆ่าคนไม่ต่างจากพวกเฮียๆหรอก ..แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่เคยฆ่าใคร..และก็ไม่ได้คิดจะฆ่าใครด้วย..แต่ถ้ามันจำเป็น..มันก็ไม่แน่..

แต่แล้วระหว่างที่ผมหยิบปืนกระบอกนั้นเก็บลงกระเป๋าที่เดิม..ลูกน้องของผมก็เดินเข้ามารายงานในสิ่งที่ผมให้ไปทำ พร้อมกับสิ่งของที่อยู่ในมือ

“นี่ครับ เสื้อผ้าเก่าๆ และมือถือเก่าที่คุณคินสั่ง..”

“อืม..ขอบคุณนะครับ..ช่วยเอาไปไว้บนห้องให้ผมด้วย...”

“ครับ”

เอาล่ะ วันนี้ผมเหนื่อยมาเยอะแล้ว..ผมว่า..ผมไปจัดเสื้อผ้าเตรียมตัวย้ายบ้านพรุ่งนี้ดีกว่า..หึหึ

แล้วเจอกันนะครับ เจ้านายของผม..ยัยหมวย..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel