บทที่ 6 ร้านพิเศษ
“นี่! นายฟังฉันนะ นายเองก็ทำใจมาหลายปีเกินไปแล้วนะเว้ย บางที เราก็ควรมองหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่จมปลักอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ทั้งที่นายยังหนุ่มยังแน่น สาว ๆ รุมตอมอย่างกับแมลงวันตอมขี้” อารัณย์ชะงักแล้วมองตรงมาอย่างเอาเรื่อง ก่อนอีกฝ่ายจะยิ้มแหย ๆ
“ล้อเล่น”
“ถ้านายพูดจบแล้ว ก็ไปทำงานทำการได้ละ” อารัณย์ไล่เพื่อนทางอ้อม เพราะหน่ายใจกับการรบเร้าของเขาเต็มทน
เจนภพคือเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขารับรู้สถานการณ์ในชีวิตของอารัณย์เป็นอย่างดี หลายครั้งที่อารัณย์ลำบาก เจนภพก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ ทำให้อารัณย์รักเพื่อนคนนี้อยู่มากทีเดียว
“ก็บ้านฉันเป็นกงสี ทำหรือไม่ทำก็ค่าเท่ากันแหละ นี่! นายลองไปเจอน้องสาวฉันหน่อยสิ นะ นะ”
“อย่ามาทำเสียงแบบนี้ ฉันไม่ใช่เมียนาย ฟังแล้วขนลุกพิลึก” อารัณย์ขนลุกวาบไปทั้งตัว ก่อนละจากงานแล้วหันมายังเจนภพ
“ไอ้ภพ ดูปากฉัน นายกลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
“นายก็รับปากฉันก่อนสิ แล้วฉันจะไป” เจนภพจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างตั้งมั่น พร้อมยืนหยัดหนักแน่นเช่นเดียวกัน ท่าทีของอีกฝ่ายทำให้อารัณย์แน่ใจแล้วว่า ไม่มีทางที่เจนภพจะยอมง่าย ๆ
“ถ้าฉันตอบตกลง นายจะกลับบ้านไปใช่ไหม” อารัณย์ทำเสียงเข้ม
“ถ้านายตอบตกลง ฉันจะเดินออกจากที่นี่ทันที ไม่อยู่รบกวนเวลาอันมีค่าของนายอีก” ชายหนุ่มลอยหน้ายืนยันอีกครั้ง
“โอเค ฉันไปจะทานมื้อเย็นกับน้องสาวของนาย พอใจหรือยัง” อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ก่อนที่อารัณย์จะมีข้อแม้บางอย่าง
“แต่! ถ้าฉันไปพบกับน้องสาวนายแล้ว ฉันไม่ชอบ ขอร้องเลยว่าห้ามพูดเรื่องนี้กันอีก”
“ได้ เย็นนี้เจอกัน” เจนภพลุกจากโต๊ะแล้วหันหลังเดินออกทันที พลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี อารัณย์ได้แต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างระอาใจ ก่อนกดโทรหาเลขาสาว
“ถ้าวันนี้นายเจนภพเข้ามาอีก บอกไปนะว่าผมไม่อยู่”
“รับทราบค่ะ ท่านประธาน” หลังจากนั้น อารัณย์จึงหันกลับมาวุ่นวายอยู่กับกองเอกสารมากมายตรงหน้า เขาเปิดดูรายละเอียดงานในหน้าต่าง ๆ ก่อนจะเซ็นชื่ออนุมัติไปหลายรายการ พร้อมกับเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เข็มนาฬิกาบ่งบอกเวลา 16.30 น. เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้อารัณย์ได้สติหันมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ
“ว่าไงภพ”
“ที่นัดไว้หวังว่าจะไม่ลืม”
“นายนี่มันจิกยิ่งกว่าไก่อีกนะ ฉันไปรับไอริณก่อนแล้วจะรีบไป” อารัณย์พูดพร้อมกับเก็บแฟ้มเอกสาร พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้เตรียมตัวเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้าที่
“ที่ร้านเดิมนะ” หลังจากเจนภพกดวางสายไป อารัณย์รีบออกจากบริษัทในทันที เพื่อมุ่งตรงไปยังโรงเรียนของไอริณ
“คุณพ่อขา” เด็กหญิงไอริณปรี่เข้ามาสวมกอดบิดาด้วยความคิดถึง ก่อนที่ชายหนุ่มจะหอมแก้มนวลตอบกลับด้วยความรัก ในขณะที่ครูพี่เลี้ยงยืนยิ้มรอส่งกระเป๋าใบเล็กให้ ด้วยกิริยางดงาม
“วันนี้น้องไอริณระบายสีสวยมากค่ะ ผลงานน้องอยู่ในกระเป๋านะคะคุณพ่อ”
“ขอบคุณมากครับ” อารัณย์พยักหน้า พลางส่งยิ้มอันหล่อเหลาให้กับครูพี่เลี้ยงอย่างนับดาว
“สวัสดีค่ะคุณครูนับดาว สวัสดีค่ะคุณครูรัตนา” เด็กหญิงตัวเล็กหันไปไหว้ลาทั้งสองด้วยกิริยาน่ารัก ก่อนจะถูกคุณพ่ออุ้มออกไป นับดาวยืนมองเด็กหญิงไอริณจนสุดสายตา แล้วกลับเข้ามาเก็บกระเป๋า เตรียมออกไปทานอาหารเย็นกับพี่ชายสุดแสบ
“วันนี้ดาวกลับเร็วหน่อยนะคะ”
“ไม่เป็นไร กลับก่อนได้เลยไม่ต้องห่วง ทางนี้พี่ดูแลเอง” ครูรัตนาแย้มยิ้มอย่างเข้าใจ ก่อนนับดาวจะเดินออกไปยืนรอพี่ชายที่หน้าโรงเรียน หญิงสาวก้มมองนาฬิกาครู่หนึ่ง ก่อนรถหรูของพี่ชายจะเข้ามาจอดเทียบ หญิงสาวแย้มยิ้มแล้วขึ้นรถไปอย่างง่ายดาย
“พี่มารับดาวทีไร ก็นึกเสียดายทุกที”
“เสียดายอะไรคะ ถ้าจะบ่นดาวเรื่องอาชีพของดาวล่ะก็ ไม่ต้องบ่นหรอกค่ะ ดาวฟังคุณพ่อคุณแม่บ่นจนเบื่อแล้ว พี่ภพก็รู้ว่าดาวรักงานนี้”
“ถ้าจะรักเด็กขนาดนี้ ทำไมไม่ประกวดนางงามแทนที่จะมาเป็นครูพี่เลี้ยงล่ะ”
“พี่ภพ กำลังประชดดาวอยู่ใช่ไหมคะ” หญิงสาวเม้มปากพลางมองชายหนุ่มอย่างรู้ทัน
“ใช่จ้ะ” เจนภพยอมรับอย่างลอยหน้าลอยตา ก่อนที่หญิงสาวจะปล่อยยิ้มให้กับความยียวนกวนประสาท
“เรียนสายอื่น แต่มาทำงานเป็นครูพี่เลี้ยง จะมีใครซับซ้อนเหมือนน้องสาวพี่ไหมนะ”
“ก็ตอนนั้นไม่มีใครเห็นด้วยกับดาวนี่คะ อยากให้ดาวเรียนบริหารเพื่อมาสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดาวก็เรียนให้ครอบครัวภูมิใจแล้วไงคะ” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เรียนให้น่ะถูกค่ะ แต่ดาวก็ดื้อที่จะไม่ยอมทำงานให้ที่บ้านไงคะ ยังจะเถียงพี่อีก”
“ดาวหิวแล้ว จะพาดาวไปร้านไหนคะ” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องไปดื้อ ๆ เพราะไม่อยากต่อความ อีกทั้งเสียงท้องร้องก็บ่งบอกความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
“ร้านพิเศษกับคนพิเศษ” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย กับคำพูดของชายหนุ่ม
“พูดแปลก ๆ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีค่ะ แต่พี่ยังไม่บอก” เจนภพทำท่ายียวนลอยหน้าลอยตา ก่อนรถหรูของพี่ชายจะเลี้ยวมาจอดเทียบที่ร้านอาหารชื่อดังในย่านนั้น เขาพานับดาวเดินเข้าไปยังสวนอาหารที่ตบแต่งอย่างดี อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีแม่น้ำไหลผ่านพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสวนดอกไม้
