บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 มีทุกอย่างเพียบพร้อม

“ขอบใจมากนะ ล่วงเวลามาหลายชั่วโมงเลย เดี๋ยวผมจ่ายค่าล่วงเวลาให้พวกคุณสองคนเป็นกรณีพิเศษแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางสุขุม

“อ๊ะ! ไม่เป็นไรค่ะ กานเต็มใจ และน้องไอริณเองก็น่ารักมาก เป็นเด็กช่างพูดค่ะ”

“เวลาแต่ละนาทีมีค่า ผมดึงเวลาคุณไว้ ยังไงก็ต้องตอบแทน”

“ขอบคุณค่ะ” จีน่ารีบพูดตัดบทก่อนเพื่อนรักจะทำหน้าใหญ่ปฏิเสธเงินพิเศษอีกเป็นครั้งที่สอง

อารัณย์เดินไปปิดคอมฯ พร้อมหยิบกระเป๋าทำงาน แล้วหันกลับมาหาไอริณ ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟา เสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ก่อนย่อตัวลงนั่ง ทอดสายตาไปยังร่างของเด็กหญิงตัวเล็กพร้อมใช้นิ้วเขี่ยไปที่ปลายจมูกน้อย ๆ ของเธอ

“คุณพ่อขอโทษนะคะ ที่ทำให้หนูต้องรอนาน” ชายหนุ่มพูดกับลูกสาวด้วยความรัก ก่อนช้อนตัวหญิงขึ้นอย่างถนอม แล้วอุ้มเธอมายังรถประจำตำแหน่งที่จอดรอด้านล่าง

“เรียบร้อยแล้ว ออกรถเลย”

“ครับคุณรัณย์” แสงสีส้มที่อยู่ริมถนนสว่างวาบส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ พอให้เห็นใบหน้าของเด็กหญิงไอริณ ที่นอนหนุนตักคุณพ่ออยู่ พร้อมลูบศีรษะเธออย่างเบามือ นับจากเด็กหญิงลืมตาดูโลก ไอริณก็เป็นทุกอย่างในชีวิตเขา เป็นทั้งความสุข เป็นทั้งรอยยิ้ม และแรงใจให้สามารถฟันฝ่าสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ มาได้จนถึงทุกวันนี้

อารัณย์หวนนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ในตอนเป็นนักศึกษา เขานั่งรถเมล์สายประจำไปส่งดาริกา ที่บ้านของเธอในชุมชนหนึ่ง ที่อยู่กันอย่างแออัด ท่ามกลางเสียงจอแจของเด็กเล็กที่วิ่งเล่นกันไปมา และเสียงแม่ค้าที่ตะโกนเรียกให้ซื้อผลไม้ เป็นสิ่งที่อารัณย์เห็นประจำจนชินตา ก่อนชายหนุ่มจะหยุดเดิน แล้วส่งยิ้มให้กับแม่ค้า

“มะม่วงไหมจ๊ะ หวาน ๆ เลยจ้า” ดาริกาหันมองนึกอยากกิน

“ดาอยากกินมะม่วงไหม” น้ำเสียงอบอุ่นถาม พร้อมเตรียมควักเศษเงินในกระเป๋ากางเกงออกมานับ

“ไม่ดีกว่ารัณย์ เก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมดีกว่านะ”

“แค่ไม่กี่บาทเอง ไม่เป็นไรหรอก” อารัณย์หันไปหาแม่ค้า แล้วสั่งมะม่วงสุกมาให้ยื่นให้ดาริกา ก่อนที่เธอจะยิ้มกว้างรับมาด้วยความดีใจ

“ขอบใจมากนะรัณย์”

“อีดา! มึงให้มันมาส่งอีกแล้วเหรอ” หญิงกลางคนยืนเท้าเอวด้วยท่าทางเอาเรื่อง สายตาจ้องมองตรงมายังชายหนุ่ม ด้วยสายตาเหยียดหยัน

“แม่!” ดาริกาปล่อยมือจากอารัณย์ แล้ววิ่งไปหามารดาด้วยกลัวจะมีเรื่อง

“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มยกมือไหว้ อย่างนอบน้อม

“เอากองไว้ตรงนั้นแหละ นี่! ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ต้องมาส่งอีดามันแล้ว ทำไมยังหน้าด้านหน้าทนนักนะ แกก็เหมือนกันคุณชาญชัยเขามาจีบก็ไม่รู้จักเอา สนใจอยู่แต่กับไอ้หมอนี่ มันก็มีดีอย่างเดียวที่หน้าตานั่นแหละวะ แกอยากกินแกลบกับมันหรือไง” หญิงกลางคนจิ้มไปที่หน้าผากของดาริกาด้วยความหมั่นไส้ ที่ลูกสาวไม่เคยเชื่อฟัง

“พ่อเด็กวัด ฉันถามหน่อยจะมีปัญญาอะไรมาเลี้ยงดูลูกสาวฉัน เอาตัวเองยังไม่รอดเลย” สายใจรู้สึกชังน้ำหน้าคนหนุ่ม ด้วยเพราะดูแคลนในความยากจน

“โถ! แม่สายใจ ทำอย่างกับเอ็งและลูก เป็นคุณนายมีเงินมีทอง กองท่วมบ้านอย่างนั้นล่ะ ฉันก็ไม่เห็นว่าเอ็งจะมีอะไรเลย และพ่อหนุ่มก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เอ็งคิด” ป้าคนขายผลไม้เอ่ยขึ้นลอย ๆ ด้วยเพราะนึกหมั่นไส้

“แม่คะ หยุดพูด แล้วกลับบ้าน” ดาริกายู่หน้าด้วยความไม่พอใจ เพราะรู้สึกอับอายต่อสายตาคนรอบข้าง เธอจับมือมารดาแล้วลากหญิงกลางคนเดินกลับเข้าบ้าน

หลังจากยืนมองคนรักเดินไปจนสุดสายตา อารัณย์จึงหันหลังกลับ พร้อมเก็บความรู้สึกเสียใจไว้ในส่วนลึก เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับหลวงตามาตั้งแต่เด็ก ที่ซุกหัวนอนก็คือวัดไม่ใช่บ้านหรูหราราคาแพงเหมือนคนอื่นเขา

“น้อง! อย่าเอาคำพูดคนมาเก็บใส่ใจ สักวันคำดูถูกพวกนี้จะทำให้น้องเข้มแข็ง และประสบความสำเร็จ” ชายหนุ่มหันมายกมือไหว้ขอบคุณ กำลังใจจากป้าขายผลไม้ ก่อนจะเดินจากไป

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้อารัณย์มีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นบ้านราคาแพง หรือรถหรูนับคันไม่ถ้วน ทว่าสิ่งที่เขาคาใจมาตลอด คือการหนีหายจากไปของดาริกา ชายหนุ่มยังเฝ้าเวียน ทบทวนเรื่องราวในอดีต ที่ดาริกาทอดทิ้งเขาและลูกไปโดยไม่ติดต่อกลับมา

มือหนาวนลูบที่ใบหน้าเรียวเล็กของลูกสาว เมื่อรถคันหรูแล่นมาถึงบ้านหลังใหญ่ เขาจัดการอุ้มไอริณเดินจากรถจนมาถึงห้องนอน ก่อนวางเด็กหญิงลงอย่างเบามือ

“คุณพ่อรักหนูนะคะ หนูคือดวงใจของพ่อ” ชายหนุ่มกระซิบพลางก้มลงหอมหน้าผากเธออีกครั้ง แล้วหันกลับเข้าไปเปิดฝักบัวจนสุด นานหลายปีมาแล้วอารัณย์ไม่เคยเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต เพราะสิ่งที่คาใจมานานแสนนานยังไม่คลี่คลาย ดวงตาคมวาวระริกก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตกลงแล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” เขาเฝ้าถามตัวเองซ้ำ ๆ ยังแคลงใจในคำพูดของป้าสายใจที่บอกว่า ดาริกาหนีไปกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติ ก่อนอารัณย์จะนึกบางอย่างได้ เขาหยุดนิ่งครู่หนึ่ง พร้อมนัยน์ตาเป็นประกาย พลางรีบล้างสบู่ออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว

ในบ้านหลังเก่าซอมซ่อท่ามกลางชุมชนหนาแน่น สายใจเฝ้ารอรับโทรศัพท์จากลูกสาว เธอขาดการติดต่อไปสามเดือนแล้ว ไม่ติดต่อและส่งเงินกลับมาเหมือนก่อน ความกังวลใจของผู้เป็นแม่ทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ก่อนเสียงโหวกเหวกของเจ้าของบ้านเช่าดังลอดเข้ามา

“สายใจ แม่สายใจ มาเก็บค่าเช่า” หญิงกลางคนรีบหาที่แอบในทันที ด้วยเพราะขาดรายได้มานาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่ค้างไว้ แววตากังวลส่อระส่ำด้วยกลัวว่าเจ้าของบ้านจะจับได้ ว่าตนแอบอยู่ในห้องน้ำ จึงรีบเปลี่ยนที่ไปมุดอยู่ใต้โต๊ะแทน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel