บท
ตั้งค่า

8

“ก็เพราะว่าลืมคิดอยู่เป็นนิจอย่างไรละคะ ก็เลยไม่ได้คิดสักที” เหมยแก้วกาญจน์ว่าขึ้น จนพี่สาวคนรองถึงกับต้องหันไปมองตาเขียวเชิงปราม

เหมยฟ้าห้ามทัพสองคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ จนโต ก็ยังไม่ลงรอยกันได้สักที อาจจะเป็นเพราะเหมยแก้วกาญจน์ชอบทำตัวเหนือผู้อื่นมาเสมอ และที่สำคัญตั้งแต่ที่พี่ชายคนโตได้เสียชีวิตไป เธอก็พยายามที่จะมีบทบาทใน M-group มากขึ้น

พยายามให้บริษัทของสามีเข้ามามีอิทธิพลและเป็นคู่ค้าคนสำคัญของ M-group ในทุกๆ ภาคส่วน เพราะเธอไม่มีบุตรชาย สิทธิในการเข้าถือหุ้นของบริษัทจึงลดน้อยตามไปด้วย

นั่นยิ่งทำให้เธอแค้นใจเหมยลดา ที่มีอำนาจในการดูแลหุ้นของพี่ชายที่มีมากที่สุด แต่กลับไม่ยอมให้เธอได้เข้าไปแตะต้อง

“อย่าเลยดีกว่าค่ะ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปดีกว่า...ให้อภัยกันไป ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะให้ความสำคัญอะไรมาก” แล้วสุ้มเสียงสงบนิ่งของใครบางคนก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับปรากฏกายด้วยชุดสีแดงเพลิง เข้ากันไปทั้งตัว

“ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอ เธอไม่มีสิทธิมาออกความเห็น” เหมยแก้วกาญจน์เอ่ยดักขึ้นในทันที แม้ผู้เข้ามาใหม่จะอายุมากกว่า แต่เธอก็ไม่คิดที่จะให้ความเคารพ

“ที่อยากจะให้เรื่องมันวุ่นวายขึ้นมานี่ เพราะอยากจะแก้ปัญหาจริงๆ หรือป่วนพี่สาวตัวเองให้หมดอำนาจกันแน่คะ” คนตรงไปตรงมาอย่าง จินดารา พิณพยศ ก็เอ่ยในสิ่งที่ทำให้เหมยแก้วกาญจน์ต้องลุกขึ้น

“คุณแม่ขา! ใจเย็นๆ ค่ะ” เด็กฉลาดอย่าง กิ่งแก้วกาญจน์ วิสุทธิวงศ์ รีบสิ่งเข้าไปห้ามปรามมารดา เมื่อรู้ว่าไม่คุ้มเสียแน่ ถ้าจะต้องเอาตัวเข้าแลกกับผู้หญิงที่ไม่มีค่าอะไรคนนี้

“กาฝากอย่างเธอ ไม่มีสิทธิมาพูดจาอะไรกับฉันแบบนี้” กัดฟันพูดขึ้น จ้องหน้าคนที่ต้อยต่ำกว่าด้วยสายตาเดียดฉันท์

“ถึงดิฉันจะไม่ได้ใช้นามสกุลมณฑลไพศาล แต่ในพินัยกรรมของคุณเมฆก็ระบุชัดนะคะ ว่าดิฉันมีความสำคัญอย่างไร เลขาและผู้ช่วยของว่าที่ท่านประธานใหญ่...ที่ห้ามใครมาไล่ออก” คำตอบของกาฝากสำหรับเหมยแก้วกาญจน์นั้น ทำเอาคนฟังตาโตขึ้นเล็กน้อย

“แกหมายความว่ายังไง” กัดฟันถามอย่างข่มอารมณ์

“เร็วๆ นี้จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น คาดว่าน่าจะคุยเกี่ยวกับการเลือกประธานบริษัทคนใหม่...และผู้ที่เหมาะสมที่สุด ก็คงจะไม่พ้นคนที่มีคุณสมบัติครบพร้อม...” สายตานิ่งของผู้มั่นใจในตัวเอง ปรายไปมองคนที่ยังคงสนใจงานในมือ เชิงเป็นคำตอบให้กับทุกคน

“แต่ตอนนี้ตาใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัวตามที่ระบุในพินัยกรรมของคุณพี่เมฆ จะมีสิทธิถูกคัดเลือกได้ยังไง” ว่าอย่างร้อนใจ แต่ก็ยังเก็บอาการอยู่

“ด้วยตำแหน่งที่ว่างมาถึงสองปี และผลงานอันเยี่ยมยอดของคุณใหญ่ ทำให้ผู้ถือหุ้นหลายท่าน...เห็นสมควรว่าจะทำการปรึกษาหารือ ให้ใช้การโหวตแทนการใช้จำนวนหุ้นที่ถือ คุณเหมยแก้วกาญจน์ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เลยหรือคะ” ความรอบคอบที่มากกว่าของเลขาที่เป็นภรรยาลับๆ ของมวลเมฆา ทำให้เธอได้อยู่ในบ้านหลังนี้แบบที่ไม่มีใครว่าอะไรได้

เธอยินดีที่จะอยู่ในความลับแม้จะไม่ได้ออกหน้าออกตา แต่ก็มีกินมีใช้ โดยการใช้ความสามารถเข้าแลก...มวลเมฆาดูแลเธอเหมือนภรรยา ทุกคนรับทราบดี แต่แค่ไม่ได้ควงออกงานสังคมก็เท่านั้น

และการตายของเขา ก็ทำให้เธอมีสมบัติมหาศาลพร้อมกับหุ้นในบริษัทที่ได้ในทันทีแบบไม่ต้องรออะไรด้วย

ความฉลาดและแยบยลของเธอ เป็นที่ไม่สบายใจของคนในตระกูลมณฑลไพศาล เพราะไม่รู้ว่าเธอจะสำแดงฤทธิ์ สร้างความเดือดร้อนให้กับตระกูลได้เมื่อไหร่

นี่คงเป็นเรื่องเดียวแล้ว ที่ผู้ล่วงลับยังถูกครหาในหมู่ญาติ

“คุณพี่คะ น้องขอตัวกลับก่อนนะคะ ไป...ลูก” แล้วเธอก็เชิดหน้าขึ้น เดินก้าวออกจากห้องโถงสีทองนี้ไป ด้วยความรีบร้อน

เรื่องนี้มีผลต่อแผนการของเธอ จนไม่อาจทนนั่งอยู่เฉยๆ ได้ นี่ถือว่าเป็นอีกความสามารถหนึ่งของจินดารา ทำให้คนวางตัวดีอย่างเหมยแก้วกาญจน์ เดือดพล่านได้

“ไปกันได้แล้วค่ะคุณใหญ่” แล้วเธอก็หันไปยังชายหนุ่มที่นั่งสนใจแต่งานในมืออยู่ และเขาก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เดินนำไปและยื่นกระเป๋าเอกสารส่งให้คนรอทำหน้าที่

ปล่อยให้สองพี่น้องหันไปมองหน้ากันอย่างรู้สึกหนักใจ เพราะไม่ชอบการสู้รบตบมือแก่งแย่งด้วยกันทั้งคู่

เหมยลดาเป็นสาวโสดที่ไม่มีข้อต่อรองและได้รับหุ้นจากการแบ่งสรรมรดกของบิดามาน้อยกว่าใคร และไม่ได้อยากได้อะไรมากไปกว่าการได้เป็นครูอย่างที่ตัวเองใฝ่ฝัน

เธอมีส่วนในการดูแลมหาวิทยาลัยตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น พอช่วงที่เริ่มเฟื่องฟูและเป็นธุรกิจมากขึ้น เธอก็เลยปลีกตัวออกมาดูแลในส่วนของหอพักนักศึกษาทุน เพียงอย่างเดียว ซึ่งบิดาก็ไม่ได้ขัดข้อง

ส่วนเหมยฟ้าได้แต่งงานออกไปกับนายทหารยศใหญ่ท่านหนึ่ง แต่ทนความเจ้าชู้ของสามีไม่ไหว ก็เลยขอแยกทางตั้งแต่ที่บุตรยังเล็ก

โชคดีที่เธอมีบุตรชายทั้งสองคน จึงได้รับความเมตตาจากบิดาได้หุ้นส่วนมามากกว่าใคร และท่านก็ขอให้หลานชายได้ใช้นามสกุลของตระกูล เพื่อสืบทอดต่อไป

แต่โชคร้าย...ที่บุตรชายกลับไม่ได้เรื่องสักคน!

ด้วยความที่ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายและไม่ชอบออกคำสั่ง ทำให้ไม่เคยจะบังคับบุตรชายได้ และไม่คิดที่จะบังคับด้วย...

“ดูจากสถานการณ์แล้ว คุณน้าแก้วคงจะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ง่ายๆ แน่” บันลือเอ่ยขึ้นอย่างรู้เท่าทันเหตุการณ์

“เฮ้อ แล้วจะทำยังไงกันดีคะคุณพี่ จะช่วยหลานยังไง การสนับสนุนให้ตาใหญ่ได้ขึ้นตำแหน่ง ก็เท่ากับกระตุ้นให้น้องสาวเราร้อนใจมากขึ้น ยิ่งสามีโลภมากขนาดนั้น...ทำได้ทุกอย่างแน่ๆ" เหมยฟ้าว่าอย่างอ่อนใจ ทราบกิตติศัพท์ของ ทรงพล วิสุทธิวงศ์ดี ว่าเขาต้องการอะไร

“ถึงน้องแก้วจะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเรา แต่ยังไงพี่ก็จะไม่มีวันยอมให้คนอื่น อย่างนายทรงพลมาฮุบกิจการของตระกูลเราได้หรอก” เหมยลดาว่าอย่างหมายมาด

“แต่คุณเลขาก็เป็นคนอื่นนะครับ” เด็กที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเฉยๆ แต่ไม่ชอบทำงานอย่างบันลือเสนอความเห็นขึ้นมาบ้างเชิงสงสัย

“ถึงจะเป็นคนอื่น แต่ฉันรู้ว่าแม่นี่มีข้อจำกัดของตัวเอง ผลประโยชน์ของตาใหญ่ก็คือผลประโยชน์ของเธอด้วย ตามที่ระบุในพินัยกรรม พี่เมฆเขาฉลาด...เขารู้ว่าเธอมีประโยชน์อย่างไรต่อตาใหญ่ ก็เลยทำทุกอย่างให้เธอยังอยู่ช่วยและขึ้นฮุบไม่ได้ง่ายๆ”

“แต่ก็ไม่แน่นะคะ ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้านิ่งนั้นจะซ่อนแผนการอะไรเอาไว้บ้าง เอาจริงๆ น้องไม่อยากจะไว้ใจเธอนัก”

“แต่พี่มั่นใจ ว่ายังไงคนฉลาดแบบนั้นคงจะไม่มีวันทุบหม้อข้าวตัวเองแน่ เพราะเห็นตาใหญ่จะเป็นอย่างนี้...ไม่ค่อยพูดอะไร ว่าง่าย แต่ไม่ใช่คนที่ใครจะมาจูงจมูกได้ง่ายๆ แน่นอน”

“โอย...อวยกันเข้าไปครับ! อวยตลอดเวลา!” บันลือตบหน้าขาดังปัง เชิงขัดใจผู้เป็นป้า

“ไม่ต้องเลยนะตาเล็ก เราน่ะ...ทำไมไม่รู้จักเอาอย่างพี่เขา ไปช่วยงานบริษัท จะได้ไม่ให้คนอื่นเข้ามาฮุบกิจการของตระกูลไป” เหมยฟ้าหันไปว่าบุตรชายเชิงอ่อนใจ เริ่มร้อนใจเป็นกังวลกับเรื่องนี้

“โอย ไม่เอาด้วยหรอกครับ อยู่แบบนี้ก็สบายใจดี...ไม่ต้องทำงานหามรุ่งห้ามค่ำ ปวดหลังเหมือนพี่ใหญ่”

“แกล่ะตากลาง เมื่อไหร่?” เมื่อคุยกับบุตรชายคนเล็กไม่ได้ ก็หันไปยังบุตรชายคนโตของตัวเองบ้าง

“อะไรนะครับแม่ จะผ่านด่านละ...เดี๋ยวผมคุยด้วยครับ” แล้วคำตอบของคนที่เหมือนจะไม่ได้ฟังตั้งแต่แรก ก็ทำเอาสองพี่น้องหันไปมองหน้ากันเชิงอ่อนใจ เพราะดูเหมือนว่าจะพึ่งพาสองหนุ่มไม่ได้เลย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel