4
“คุณน้องแก้ว...มาได้ยังไง” เอ่ยทักเชิงตกใจ และเต็มไปด้วยความไม่พอใจด้วย
“น้องเองก็มีส่วนในการรับผิดชอบหอนี้ ยังไงเรื่องมันเกิดขนาดนี้ น้องก็มีสิทธิที่จะเข้ามาช่วยคุณพี่ ไม่ใช่หรือคะ?” รอยยิ้มเย็นๆ ดูสงบใจดีของผู้เป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน ทำเอาเหมยลดาต้องเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เพราะว่าที่ผ่านมา...พี่ก็ดูแลหอนี้แต่เพียงผู้เดียวมาตลอด ไม่เคยคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากใคร”
“แต่ถ้าดูแลแล้ว...ยังเกิดความเสียหาย ก็ควรที่จะเปิดใจรับความช่วยเหลือบ้างนะคะ โดยเฉพาะนักศึกษาปี4 ที่กำลังจะจบไปเป็นบุคลากรคุณภาพชั้นนำที่ดีที่สุดของ M-Group” วาจานิ่มๆ ผสานด้วยถ้อยคำเชือดเฉือนอย่างสุภาพ ได้กรีดลึกลงไปในใจของเหมยลดา
รวมไปถึงเหล่านักศึกษา ที่แอบเห็นใจอาจารย์แม่ของตัวเองอยู่ไม่น้อย
เพราะถึงแม้เหมยลดาจะโหดแค่ไหน คุมเข้มสารพัด เสียงดังโหวกเหวกและรั่วในบ่อยครั้ง แต่ก็มีความเมตตาและเข้าอกเข้าใจพวกเธอเป็นที่หนึ่งมาเสมอ
“รับผิดชอบอยู่เรื่องเดียวแท้ๆ ก็ยังทำไม่ได้ดี ก็ไม่ควรที่จะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะเอาเรื่องนี้อยู่ได้หรอกนะคะคุณพี่”
“เหมยแก้วกาญจน์...” กัดฟันเอ่ยเรียกชื่อน้องสาวด้วยทีท่าเดือดดาล แต่ก็พยายามที่จะสงบใจ
“แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ น้องจะให้โอกาสคุณพี่อีกครั้ง เพราะภาระหน้าที่ของน้องเนี่ย ยั้วเยี้ยไปหมด คุณสามี...เขาไม่อยากจะให้น้องทำงานหนักสักเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากคุณพี่ด้วยนะคะ” แล้วก็ค่อยๆ เดินหมุนเยื้องย่างกลับไปอีกทาง ปล่อยให้เหมยลดา ทำได้เพียงยืนกำหมัดแน่น
นึกไปถึงความหลัง...ที่ตอกย้ำให้ตัวเองต้องเจ็บปวด!
‘ผู้หญิงน่ะ...ถ้าหาสามีไม่ได้ ก็ไร้ประโยชน์ ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว!’ สุ้มเสียงของบิดาผู้ล่วงลับดังก้องไปทั้งใจ ในคราที่เธอไม่อาจตกลงปลงใจกับผู้ชายคนไหนได้
‘ก็หนูไม่ได้รักเขา!’
‘แล้วคนที่แกรักเขา เขารักแกไหม!’
นั่นคือเหตุผลอันสมบูรณ์ที่สุด ที่ทำให้เหมยลดาต้องอยู่บนคานทองตลอดมา ไม่เลือกคนที่รักเรา คนที่เรารักเขาก็ไม่เลือก
เพราะเธอเชื่อมาเสมอว่า...ต้องเลือกคนที่ ‘รักกัน’ เพื่อที่จะได้มีความสุขในความรักอย่างแท้จริง
“แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีไง!” เสียงตะโกนที่ไม่ได้แค่อยู่ในใจ ทำเอานักศึกษาชั้นปีที่ 4 มองมาที่เหมยลดาเป็นตาเดียวกัน
“มีอะไรรึเปล่าคะอาจารย์แม่...” กวางตุ้งเอ่ยถามอย่างห่วงใย แต่ก็แบบกลัวๆ กล้าๆ
“เปล่า! ทั้งหมดแถวตรง!” และแถวก็ตรงขึ้นอัตโนมัติ
“ฉันจะคัดเลือกคนที่มีความน่าจะเป็นว่าจะเป็นเจ้าของเสียงนั่น...” พร้อมค่อยๆ เดินผ่านหน้าทีละคนอีกครั้ง แบบหยุดพิจารณามองหน้า อย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ยังไง ฉันก็จะต้องหาตัวคนผิดให้เจอ...เพราะฉันคืออาจารย์แม่!” สาวอ้วนท้วนอย่างคำหวาน หลับตาปี๋เชิงทนสู้ความกดดันไม่ไหว
“เกวลิน!”
“ขาอาจารย์แม่...”
“ออกมา!” แล้วก็ขยับเรียกชื่อสาวๆ ที่หน้าตาดีไปเรื่อยๆ ให้ไปยืนกองรวมกัน
“นางสาวบุญใหม่ ยัยผกากรอง...หมวยมัดแกะ ออกมาให้หมด” แล้วก็เดินไปหยุดที่คนหน้าตาธรรมดา ไม่ได้สวยโดดเด่นอย่างปิ่นวลีเพียงครู่
“ปิ่นวลี”
“ขาอาจารย์แม่” ตอบรับเชิงตกใจ แต่ก็พยายามยืดอก
“ที่ฉันไม่เลือกเธอ ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่สวยหรอกนะ...แต่เพราะว่าฉันเชื่อ ว่าเธอไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้แน่ ไป...ไปเตรียมของไปนวดให้คุณแม่ ท่านรอเธออยู่” คงจะเป็นโทนเสียงที่ดีที่สุดแล้ว ในวันนี้ของเหมยลดา ที่มอบให้เด็กสาวผู้เป็นลูกศิษย์รักคนนี้เสมอ
“ค่ะอาจารย์แม่ ขอบคุณค่ะ” แล้วเธอก็รีบเดินละออกไป ปล่อยให้คนที่ถูกคัดเลือกมองตามอย่างอิจฉา
“ส่วนคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือก เชิญไปพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย” กวางตุ้งและคำหวานรีบแสดงความดีใจ ก่อนจูงมือกันเดินแบบเร็วๆ ไปอีกทาง
“ส่วนพวกเธอ เธอ เธอและเธอ! ทั้งหลาย ยืนตัวตรง หน้ากระดานเรียงหนึ่ง ปฏิบัติ!” สาวสวยทั้งหมดที่คัดมาแล้ว ได้ทั้งหมด 8 คนนั้น รีบปฏิบัติด้วยความหวาดกลัว
“เกวลิน!”
“ขาอาจารย์แม่!” ตอบรับเชิงตกใจ เมื่อคนเรียกมาหยุดตรงหน้า
“พูดคำว่า...โอ้ว...ให้ฉันฟังหน่อย โอ้ว...ยาวๆ”
“อะไรนะคะ?” เกวลินว่าเชิงไม่เข้าใจ
“ฉันอยากจะรู้ว่าเสียงของใคร มันเหมือนกับที่ฉันได้ยินมากที่สุด!” บุญใหม่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบส่ายหน้า
“สาบานสิ ว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
“นางสาวบุญใหม่! บ่นอะไร เธอด้วย..เตรียมตัวร้องเลย เกวลินรีบเข้า ร้องก่อนเพื่อน!”
“ค่ะอาจารย์แม่...อะ...โอ โอ้ โอ๊...”
“ร้องอะไรแบบนั้น ไม่ใช่ร้องหมอลำซะหน่อย มาโอ่โอ้โอ๊อะไร เอาใหม่!” แล้วเสียงร้องของสาวๆ จากฝั่งหอพักก็ดังระงมไปจนทั่ว สลับกับเสียงหัวเราะดังมาเป็นระยะ
โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า เจ้าของเสียงตัวจริง...กำลังถอนหายใจอย่างโล่งอกอยู่
