บท
ตั้งค่า

10

“มันกล้ามากที่หลอกฉัน!” เหมยแก้วกาญจน์เอ่ยเสียงตะคอกทันที ที่ได้กดวางสายจากลูกน้องที่โทรรายงานความคืบหน้า

“ใจเย็นๆ สิคุณ...ผมบอกแล้วไง ว่าผมเอาอยู่” ทรงพลค่อยๆ โอบประคองเอวภรรยาเอาไว้อย่างหลวมๆ เชิงปลอบประโลม

“จะให้ใจเย็นได้ยังไง ดูมันสิ...มันกล้ามากที่ทำแบบนี้กับน้อง น้องเกลียดมันค่ะ” คนที่เอาแต่ใจกับทุกคนมาเสมอว่าเชิงฮึดฮัด โมโหที่ตัวเองไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้เลย

จริงอยู่ที่โดยปกติเหมยแก้วกาญจน์วางตัวได้เหมือนคนฉลาด ภายนอกดูเอาอยู่กับทุกสถานการณ์ แต่แท้จริงกลับไม่ใช่ทั้งหมด

ส่วนคนเยือกเย็นอย่างจินดารานั้นกลับฉลาดล้ำ ไม่ใช่แค่การอ่านเกมส์ต่างๆ แต่หมายรวมไปถึงความสามารถในการทำงานอย่างแท้จริงด้วย

“มันต้องการแค่จะยั่วยุ ให้เห็นวิธีและอารมณ์ในการแสดงออกของน้องก็เท่านั้น ยิ่งเราเคลื่อนไหวอะไรก็ยิ่งจะเข้าทางมัน อย่าลืมสิ่งที่พี่เตือนเสมอสิ” คนที่รักภรรยาอย่างแท้จริง ว่าเชิงเอาใจด้วยโทนน้ำเสียงอ่อน เหมือนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

แม้ว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดด้วยความโลภอยากจะฮุบสมบัติของ M-group นั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะทวงความยุติธรรมให้ภรรยาด้วย

“น้องรู้ค่ะ แต่น้องแค่อยากจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และจัดการมันซะ” และคนที่ใจเด็ดอย่างเหมยแก้วกาญจน์ก็พูดขึ้นด้วยแววตาเกลียดชัง จนผู้เป็นสามีต้องส่ายหน้า

“พี่มีวิธีที่ดีกว่านั้น”

“วิธีอะไรคะ” คนที่สงบและใจเย็นกว่า ยิ้มเยือนออกมาเล็กน้อย ขณะที่ภรรยามองมาที่ตัวเองเชิงอยากจะรู้คำตอบอย่างตื่นเต้น

“เราต้องมีแผนสำรอง แผนหนึ่งไม่ได้ก็ต้องมีแผนสอง...ไม่ว่าจะทางใด เราก็จะได้เสมอ ไม่คุ้มกว่ารึ” ภรรยาสาวเอียงศีรษะเชิงไม่เข้าใจ ขมวดคิ้วแน่น

“ยังไงคะคุณพี่?” ทรงพลจุมพิตที่ข้างแก้มของภรรยาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ก่อนเล่าแผนการของตนให้เธอฟังอย่างละเอียด

“วันนี้คุณท่านไอมาก สงสัยจะนั่งตากลมมาหลายวัน เอ็งก็เข้าไปดูแลท่าน นอนเฝ้าคืนนี้ อย่าให้คลาดสายตาเชียวล่ะ” แปรผัน ดวงช่อ หญิงชราผู้เป็นหัวหน้าแม่ครัวของที่นี่ เอ่ยบอกหลานสาว ที่ตัวเองรับมาอยู่ด้วยตั้งแต่เด็กๆ เพราะทางบ้านของเธอยากจน

หญิงโสดตัวคนเดียวที่พอจะได้งานทำมั่นคงอยู่บ้านหลังใหญ่โต ก็เลยอาสาอุปการะดูแลให้ที่พักและการศึกษา ซึ่งหลานสาวผู้นี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ตั้งใจเรียน ขยันทำงาน จนเป็นที่โปรดปรานของคนทั้งบ้าน

“จ้ะยาย” หมู่นี้ปิ่นวลีมานอนที่นี่บ่อย เพราะคุณท่านของบ้านเรียกหา เธอนอนกับท่านแล้วก็ย่องออกมาในช่วงเวลาที่ทุกคนหลับสนิท

แบบที่ไม่เคยมีใครตื่นมาเจอหรือสงสัย ถือว่าโชคคอยช่วยเธอมาเสมอ

“เรียนเป็นยังไง ฝึกงานจะได้ที่ไหน ทราบหรือยัง” คนที่แม้จะชราแล้ว แต่ก็ยังความจำดี มีความรู้เกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องเรียนของหลานสาว เอ่ยถามเชิงห่วงใย

“ก็กำลังเร่งเพราะใกล้สอบค่ะ สอบก่อนไปฝึกงาน สถานที่ฝึก ยังไม่ทราบแน่ชัดเท่าไหร่”

“แล้วอยากได้ที่ไหน” เด็กช่างอ้อนยิ้มกว้าง พร้อมขยับเข้าไปใกล้

“คุณยาย...จะบอกคุณๆ ให้เหรอคะ?”

“เปล่า แค่ถามดู ชอบนักรึใช้เส้นสายน่ะ” แล้วเธอก็รีบส่ายหน้า ซบศีรษะลงไปบนตักของท่าน จับมือเหี่ยวๆ นั่นแนบลงมากับแก้มใส

“ขอบคุณนะคะ ที่ดูแลและให้โอกาสที่ดีกับปิ่น” เอ่ยเสียงเครืออย่างซาบซึ้ง รู้สึกผิดกับบางสิ่งที่ตัวเองทำอยู่...ที่รู้แต่ก็หักห้ามใจไม่ได้!

“ข้าทำได้แค่ให้ การจะเอาหรือไม่เอา มันขึ้นอยู่กับเอ็งล้วนๆ ขอบคุณเหมือนกัน...ที่รับมันไปและทำมันได้อย่างดีมาตลอด” แล้วหยาดน้ำใสก็หล่นร่วงผล็อยลงไปกับหนึ่งข้างแก้ม บีบกระชับฝ่ามือเหี่ยวแน่นเข้า

“ถ้าสมมติว่า...ปิ่นทำมันออกมาไม่ดี คุณยายจะเสียใจมั้ยคะ” หญิงชราส่ายหน้า

“ก็บอกแล้วไง ว่าข้าทำได้แค่ให้ เอ็งจะเอาไม่เอา จะเอาไปหมดมั้ย จะเอาไปใช้ในทางที่ถูกรึเปล่า มันก็เรื่องของเอ็ง”

“จริงเหรอคะ?”

“ก็อาจจะมีเสียใจบ้าง แต่จะทำอย่างไรได้ เป็นทุกข์ไปแล้วอย่างไร ข้าไม่เคยคาดหวังว่าเอ็งจะต้องเป็นยังไง แต่ทุกอย่างที่ทำลงไป เอ็งก็จะต้องรับผิดชอบมันด้วยตัวเองได้ ทั้งหมด เพราะชีวิตใครก็ของใคร ข้าคงจะอยู่กับเอ็งไปตลอดไม่ได้หรอก” แล้วฝ่ามืออบอุ่นก็ค่อยๆ ลูบศีรษะหลานรักไปมา

“ขอบคุณนะคะยาย” ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลับๆ อยู่

แต่เธอก็มีเหตุผลของเธอ มีเป้าหมายและกำลังตั้งใจทำมันให้ดี แค่รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel