นายหญิงแห่งคาเนสัน
@คฤหาสน์ไซนาเซีย
รถหรูสีดำทมิฬแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์สีเทาขนาดมหึมา ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวลงมาจากรถยนต์ด้วยท่าทางนิ่งขรึมน่าเกรงขาม กวาดตามองเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดทั้งหมดที่ยืนอยู่หน้าประตู พร้อมกับก้มหัวโค้งคำนับให้กับนายน้อยของคฤหาสน์ไซนาเซีย
“ปู่อยู่ที่ไหน”
เสียงทุ่มต่ำแต่ดุดันของคนร่างสูงตวาดใส่เหล่าบรรดาชายชุดดำที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ประตูทางเข้าคฤหาสน์ ด้วยแววตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึก
“นายท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกครับนายน้อย”
ขายาวก้าวเข้าไปในบ้านทันทีด้วยความเร่งรีบ โดยไม่ชำเลืองหางตาหันมามองเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนหัวโด่อยู่ข้างหลังเลยแม้แต่น้อย
“มาถึงแล้วหรอหลานชาย นั่งลงก่อนสิ”
ชายชราร่างใหญ่เอ่ยทักทายหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูลด้วยท่าทางใจดี รอยยิ้มที่แสดงออกบนใบหน้าที่มีแต่รอยตีนกาต่างรู้ดีว่าหลายชายไม่อยากกลับมาที่รัสเซีย เพราะการแข่งขันทางธุรกิจที่โหดเหี้ยม ดีแต่ค่อยตัดแข่งตัดขาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเพื่อลดทอนอำนาจของอีกฝ่ายให้อ่อนแอ่กว่า
“ครับ”
ใบหน้าหล่อคมคาย ดุดัน เคร่งขรึม ไร้ซึ่งความรู้สึก ยิ่งทำให้วาดิเมียคาดเดาอารมณ์และความคิดของผู้เป็นหลานชายไม่ได้เลย
“แกคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“ที่ปู่เรียกแกกลับมา เพราะอยากให้แกขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่แทนพ่อของแก”
โดมินิครู้ตัวดีอยู่แล้ว ไม่วันใดวันหนึ่งถ้าเจ็คสละสิทธิ์จากการเป็นผู้นำตระกูลหรือแม้กระทั่งตายจากโลกนี้ไปแล้ว คนที่ต้องสืบทอดวงตระกูลคนต่อไปคงหนีไม่พ้นเขาอยู่ดี ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ววาดิเมียต้องตามเขากลับมาจากอิตาลีเพื่อทำหน้าที่ต่อจากผู้เป็นบิดา เขาจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรแม้แต่น้อยกับตำแหน่งที่วาดิเมียยัดเยียดให้ด้วยความไม่เต็มใจจะรับมัน
“เอไรอัน อาเนอร์ คาเนสัน มันฆ่าเจ็คกับจีน่า”
ใบหน้าหล่อคมคายรีบเงยหน้านิ่งขึ้นทันที ดวงตาคมกริบมองสบตาชายหนังเหี่ยวย่นอย่างวาดิเมียด้วยความหวัง
“ปู่รู้ว่าแกแค้น ปู่ยกหน้าแก้แค้นให้แกโดมินิค”
ความโกรธและความเกลียดเริ่มก่อตัวขึ้นฉับพลันอีกครั้ง น้ำตาเริ่มเอ่อล้นดวงตาคู่คม จมูกโด่งแดงก่ำจากการอดกลั้นความเจ็บปวดและความแค้นที่มีต่อตระกูลคาเนสันเอาไว้ในใจ
ปัจจุบัน
@คฤหาสน์คาเนสัน
บนโต๊ะอาหารสุดหรูภายในห้องโถงขนาดใหญ่ อาหารมากมายหลากหลายเมนู ทั้งอาหารรัสเซีย และอาหารไทยที่แก้วตาจัดเตรียมไว้ให้นายหญิงของเธอถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารับประทาน
“เป็นไงบ้างอเล็กซ่า ลุงให้คนจัดเตรียมห้องให้หนูเหมือนตอนที่เราเด็กๆเลย ชอบมั้ย”
“ลุงโอเนียหนูโตเป็นสาวแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ฮ่าๆ”
“อุ๊บ!! ฉันก็แอบคิดมาตลอดนะโอเนียว่าแม่สาวน้อยยาหยีของเรายังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม ฮ่าๆ”
เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังขึ้นกลางโต๊ะอาหารอย่างมีความสุข สามคนลุงและหลานต่างรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีอาเนียลหนุ่มใหญ่สายหวานค่อยเอนเตอร์เทนโอเนียและอเล็กซ่าอยู่ตลอดเวลา
“ลุงอาเนียลนี่ยังตลก คุยสนุกเหมือนเดิมเลยนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยปากชมผู้เป็นลุง ด้วยแววตาที่อิ่มเอิบและอบอวนไปด้วยความสุข แต่นั้นยังไม่ได้ทำอเล็กซ่ารู้ตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากนี้
“เออ!! อเล็กซ่าจ๊ะที่ลุงให้หนูกลับมาจากเมืองไทยเรามีเรื่องอยากจะขอหลานช่วยหน่อย”
“อะไรหรอค่ะ?”
“เออ..คือ…”
โอเนียได้แต่อำๆอึ้งๆ ไม่กล้าแม้กระทั่งสบตาหลานสวยที่นั่งยิ้มจางๆอยู่อีกฝังของโต๊ะอาหาร จนผู้เป็นน้องชายต้องรีบเอ่ยตักบท เพราะไม่ไว้ใจกับท่าทางน่าอึดอัดของพี่ชาย
“นี่โอเนียถ้าแกไม่กล้าบอกหลาน ฉันบอกเอง”
“เฮ้ยาหยี!! ที่เราให้เธอกลับมาจากเมืองไทยเพราะเราจะให้เธอกลับมาสานต่อธุรกิจทั้งหมดของตระกูลเราจ๊ะ”
สิ้นเสียงอาเนียลฉุดให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ด้วยความตกตระลึง เรียวปาดอวบอิ่มหุบยิ้มเกือบแทบไม่ทัน หญิงสาวได้แต่นั่งเงียบก้มใบหน้าสวยได้รูปต่ำลง พลางมองไปยังอาหารที่อยู่ในจานอย่างครุ่นคิด ความเงียบเข้ามาแทรกภายในวงสนทนากลางโต๊ะอาหารจนน่าตกใจ ดึงให้อารมณ์ของผู้เป็นลุงทั้งสองต่างเงียบสงบลงไปด้วย
โอเนีย และ อาเนียลจ้องมองหน้ากันสลับกันวนไปมาอย่างร้อนร้น ต่างกลัวว่าการขอร้องหลานสาวในครั้งนี้จะกระทบกับจิตใจของเธอหลังจากเสียพ่อ แม่และพี่ชายไปจากการขึ้นสานต่อธุรกิจของตระกูลต่อจากอีวานผู้เป็นตา
“เออ…คือลุงไม่ได้อยากจะบังคับหนูหรอกนะ แต่ต่อไปหนูก็ต้องขึ้นเป็นใหญ่ในวันข้างหน้าอยู่ดีนะอเล็กซ่า”
‘ถ้าพี่ไรอันยังอยู่ฉันคงไม่ต้องขึ้นคุมธุรกิจทั้งหมดเอง ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าวงการนี้มันอันตรายถึงชีวิตมากแค่ไหน มีแค่พี่ไรอันที่สามารถทำมันได้ เพราะเขาทั้งเก่งและฉลาดมาก แต่นั้นมันแค่ความคิดเห็นแก่ตัวของฉันสุดท้ายแล้วฉันก็ต้องเป็นคนสืบทอดตระกูลคนต่อไปอยู่ดี’
อเล็กซ่าได้แต่คิดดังวนอยู่ในใจ นั่งก้มหน้าเงียบไม่สบตาผู้เป็นลุงทั้งสองจนบรรยากาศเริ่มมาคุขึ้นมาทันที
“คืองี้นะยาหยีเรา…”
“หนูจะทำค่ะ มันถึงเวลาที่หนูต้องทำหน้าที่นั้นแล้ว ยังไงหนูก็หนีมันไม่พ้นหรอกนะคะ”
“เย้!! เห็นมั้ยโอเนียฉันบอกแล้ว”
อาเนียลปรบมือดังสนั่นอย่างพอใจ ระบายยิ้มระเรื่อออกมาอย่างไม่ยอมหุบปาก เขารู้สึกมีหวังว่าตระกูลของเราจะไปรอด เพราะหลานสาวสุดที่รักกลับมาสืบทอดธุรกิจต่อจากพวกเขาที่นับวันเริ่มแกชราลงเรื่อยๆ
“แต่!! หนูขอเวลาเรียนรู้และศึกษาธุรกิจขอเราก่อนสัก 6 เดือนได้ไหมค่ะ”
ถึงแม้ร่างบางจะอยู่ในวงตระกูลมาเฟียใหญ่มาตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆทางด้านธุระกิจเลยแม้สักครั้ง มีเพียงเอไรอันที่เตรียมตัวเข้ามาสานต่อธุระกิจจากผู้เป็นมารดา แต่ความโชคร้ายก็พรากชีวิตพวกเขาไปจากวงตระกูลคาเนสัน เหลือเพียงอเล็กซ่าคนเดียว
3 วันต่อมา
“แก้วตา!!”
เสียงหวานเอ่ยดังลั่นบ้าน ดวงตากลมสาดส่องมองหาหญิงสาวร่างผอมผู้เป็นสาวใช้ชาวเอเซียที่กำลังงุนง่านอยู่กับการหั่นผักเพื่อประกอบอาหารอยู่ในครัว
“นายหญิง มีอะไรหรือป่าวค่ะ”
ร่างผอมของสาวใช้รีบวางมีดลงพรางลุกลี้ลุกลนวิ่งออกมาจากในครัว ด้วยความตื่นตระหนก
“ฉันเห็นเขาประกาศจัดนิทรรศการศิลปะอยู่แถว สถานนีรถไฟฟ้า เขาจัดมากี่วันแล้วนะ”
“อ้อใช่ค่ะนายหญิง จัดมาได้ 2 วันแล้วค่ะ”
รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของหญิงสาวบ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกเป็นอย่างดี เธอยืนกอดอกจ้องหน้าสาวใช้เหมือนมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ภายในใจ
“ไม่นะคะ!! นายหญิงมันอัตรายมากแถวนั้นเป็นอณาเขตของไซนาเซียด้วย”
คำแก้วสาวใช้ชาวไทยเพียงคนเดียวในคฤหาสน์หลังนี้ เธอได้รับความช่วยเหลือจากอีวานมาตั้งแต่ถูกหลอกให้มาทำงานที่รัสเซีย ทำให้เธอรักและค่อยดูแลอเล็กซ่ามาตั้งแต่เด็กจนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพียงแค่หญิงสาวแสดงสีหน้าและท่าทางที่แปลกไปจากเดิมเล็กน้อย เธอก็พอจะคาดเดาออกว่านายหญิงของตนนั่นคิดอะไรอยู่
“เธอก็รู้จักฉันดีคำแก้ว ฉันไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงในที่แบบนั้นหรอกนะ”
คนร่างบางส่งยิ้มหวานให้สาวใช้ แต่ทว่ารอยยิ้มนั่นกลับแอบแฝงไปด้วยเลศนัย หญิงสาวแสดงสีหน้าและท่าทางกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้คำแก้วจับได้ก่อนจะรีบสะบัดตูดเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งอย่างว่าง่าย
