บทที่ 4 นัดล่วงหน้า
ลีมูซีนคันหรูเคลื่อนมาจอดที่ลานจอดรถชั้นสิบเอ็ด ก่อนที่ร่างบางระหงในชุดเดรสสีเงินสวมใส่รองเท้าสีเดียวกันจะเดินสับขาบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้ว และก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังที่มีบุรุษใส่สูทชุดดำเปิดประตูรออยู่
“พร้อมไหมครับ”
“ค่ะ”
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ ในระหว่างทางณัฐนารีไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับการออกไปร่วมงานวันเกิดคนสำคัญที่ไม่ได้เจอมากันมาร่วมห้าปี หญิงสาวกุมมือบางไว้เพียงบนตักเท่านั้น และในใจก็คิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนห้องพักกับเพื่อนสนิท
“ถามหรือยังครับ?” ณัฐนารีเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันออกไปมองทัศนียภาพนอกตัวรถยนต์แทนจะตอบคำถาม
งานวันเกิด หนึ่งในงานที่ผู้จัดการส่วนตัวรับมานานแล้ว แต่เพิ่งมาบอกเธอเอาก่อนหน้าที่จะเดินทางไปทางไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งมันผิดวิสัยน์ของการทำงานแบบที่ควรจะเป็น ทั้ง ๆ ที่เพื่อนสนิทรู้ตารางงานเพราะเป็นคนจัด แต่กลับไม่บอกเธอว่ามีงาน
ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีได้หรือเปล่า ที่งานนั้นเป็นงานที่เธอรู้ก่อนล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเธอจะต้องไป เพราะผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าข้างคนขับเป็นคนบอกกับเธอเอง ณัฐนารีเก็บงำความสงสัยนั้นไว้และรอดูพฤติกรรมเพื่อนอย่างเงียบเชียบ
‘ต้นเดือนหน้างานวันเกิดนาย…คุณลีเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ’
คุณบวรจะมาหาเธอทุกเดือน แต่วันไหนเขาจะเป็นคนนัด และวันนั้นเธอจะต้องว่าง
ผู้ชายคนนี้เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเธอ ‘ลุงคนนั้น’ ที่เพื่อนสนิทเธอพูดถึงก็คือคุณบวรนี่แหละ
“ผมจะหาผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ให้ครับ ถ้าคุณลียังอยากจะทำงานในวงการบังเทิงอยู่”
“คุณเขาไม่ชอบหรือคะ?” ณัฐนารีไม่เคยถามว่าผู้มีพระคุณที่เป็นเจ้านายของคุณบวรชอบในสิ่งที่เธอทำหรือเปล่า แต่ถ้าเขาบอกว่าไม่ก็คือไม่
“นายไม่ใช่คนหยุมหยิม แต่ท่านฝากมาเรื่องเพื่อนคุณครับ” ณัฐนารีเงียบเพราะกำลังไล่เรียงประโยคที่จะพูดออกมา
“ฟีนเป็นคนดีนะคะ เพียงแต่สามีเธอเป็นคนใช้เงินเก่ง” ณัฐนารียังไม่ตัดสินใจที่จะให้อภัยเพื่อนสนิท เพราะเธอไม่มีเวลาจะมาฟังคำอธิบาย เพียงทิ้งประโยคสั้น ๆ ว่าค่อยคุยกันเพราะเธอต้องรีบแต่งตัวไปออกงาน
“นั่นเป็นปัญหาของเพื่อนคุณครับ และผมจะจัดการแค่ปัญหาของคุณลี” ณัฐนารีไม่ได้บอกให้คุณบวรไปจัดการปัญหาเพื่อนเธอ แต่เธอแค่บอกเพื่อให้รู้ว่าเพื่อนสนิทมีเหตุจำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น โกหก หลอกลวงและ…
“คนที่คิดจะทำลายกันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง นั่นไม่เรียกว่าเพื่อนครับคุณลี เขาเรียกศัตรู”
