บทที่ 3 บททดสอบแรก
“แล้วถ้าฉันเกิดไม่มีงานจริง ๆ แกจะทำยังไง?” เพื่อนสนิทปาดน้ำตาที่ไหลกลิ้งบนใบหน้าออกก่อนจะเงยหน้าสบตามองเธอ
ณัฐนารีมองเพื่อนกลับไป หัวใจที่เต้นเชื่องช้ากลับเต้นเร็วขึ้น และเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่พาดผ่านแววตาตื่นกลัวคู่นั้นของเพื่อน หญิงสาวก็เบือนสายตามองไปทางอื่น
“หรือว่าเราควรติดต่อคุณพ่อแกไปดี…” คนพูดค้างประโยคไว้ที่แค่นั้นเมื่อโดนสายตาของณัฐนารีมองกลับมา
“แกอยากเจอพ่อฉันมากหรือไง…อยากรู้ใช่ไหมว่าพ่อฉันเป็นอย่างข่าวลือพวกนั้นหรือเปล่า?”
ณัฐนารีถามกลับ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำ เธอพยายามที่จะเดินหนีแล้ว แต่เพื่อนสนิทกลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น
“ไม่ใช่แบบนั้นนะลี! ฉะ ฉันแค่คิดว่าท่านอาจจะช่วยได้ อะไรก็ตามที่แกอยากได้ แค่บอกลุงคนนั้น มันก็มากองอยู่ตรงหน้าแล้ว แค่นั้นเองฉันคิดแค่นั้น” มือบางที่กำลังกรีดกรายเลือกชุดเดรสที่จะสวมใส่ออกไปงานวันเกิดเป็นงานที่รับไว้ชะงักไป
“งั้นเหรอฟีน…” โดยเพื่อนย้อนเข้ามาด้วยถ้อยคำเรียบ ๆ
แต่สำหรับฟีนแล้วเหมือนในอกมันสุ่มด้วยกองไฟขนาดใหญ่ ฟีนยกมือขึ้นเช็ดหยดเหงื่อที่ไหลตามกรอบหน้าของตัวเองและหุบปากฉับ
มือข้างหนึ่งเธอเกาะประตูห้องนอนมองแผ่นหลังบอบบางของณัฐนารีอยู่แบบนั้น ทั้งที่เพื่อนถามกลับมาด้วยเสียงเรียบ ๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนจับความผิดได้
“ฉันไม่ได้มองแกแบบนั้นลี ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าคุณพ่อแกสามารถบันดาลให้แกได้ทุกอย่าง ทำไมแกถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากเขามันก็แค่นั้น”
“ถ้าแกไม่ได้มองฉันแบบนั้นแกคงไม่พูดประโยคนี้ออกมา” ณัฐนารีเลือกชุดมาได้หนึ่งตัวก่อนจะวางทาบบนเรือนร่างบางระหงของตัวเอง และหันมามองหน้าเพื่อนสนิท
“ฉัน…” ฟีนกลืนก้อนสะอึกลงลำคอ หลบสายตาเพื่อนสนิท
“เงินค่าตัวจากละครเรื่องนั้นแกจะได้ 10% ถ้าฉันไม่ติดปัญหาอะไร แต่มันดันติดปัญหาขึ้นมาไง เงินก้อนนั้นจึงหายวับไปกับตา…แกเร่งรีบจะใช้เงิน และต้องใช้จำนวนมากด้วย”
“...”
“แกไม่รับเงินฉันไปฟรี ๆ แต่แกเลือกที่จะทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”
ณัฐนารีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอเกล้าผมขึ้นทั้งยังใช้สายตามองเพื่อนสนิทที่ยืนก้มหน้าอยู่หน้าประตูห้องผ่านกระจกเงา
“ฉันไม่เคยหักหลังแก! ไม่เคยทำอะไรแบบนั้น!” ฟีนปฏิเสธและก้มหน้าตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“งั้นแกบอกฉันสิว่าแกไปหาผู้จัดการส่วนตัวของคชามาศทำไม? ถ้าแกไม่อยากจะร่วมมือฉันทำลายฉัน!”
