บทที่3
‘’ พวกมันมีสิบสองคน แบ่งกันคนละหกก็แล้วกันนะ ^^’’
‘’ แบ่งกับผีน่ะสิไอ้บ้า!! ฉันเป็นผู้หญิงนะ แล้วที่สำคัญ......ฉันก็ตบตีกับใครไม่เป็นด้วย’’ฉันพูดพร้อมกับบีบน้ำตาเรียกคะแนนความสงสารเห็นใจทันที
‘’ เฮ้ย! นี่พวกแกจะกระซิบกระซาบกันอีกนานไหมวะ’’ไอ้อ้วนที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าแก้งพูดขึ้นดังลั่นจนฉันสะดุ้งโหยง
‘’ รอเดี๋ยวสิวะ!’’ นายหน้าหล่อหันไปตวาดก่อนจะหันมามองหน้าฉันอีกรอบ
‘’ ก็ใครว่าฉันจะให้เธอใช้กำลังเล่ายัยโง่ นับถึงสามแล้ววิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเลยเข้าใจไหม’’
‘’ ไม่!’’
‘’ หนึ่ง’’
‘’ เดี๋ยวสิ!’’
‘’ สอง ‘’
‘’ อย่าเพิ่ง!’’
‘’ วิ่ง!’’ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด~ ก็บอกว่าเดี๋ยวว่าเดี๋ยวก่อนยังไงเล่าอีตาบ้า แต่ถึงฉันจะพูดอย่างงั้นก็เถอะ ฉันออกตัววิ่งก่อนที่เขาจะนับถึงสามซะอีก เรื่องฉิ่งเนี่ยขอให้บอก ฉันถนัดนัดล่ะ ถ้ารอดไปได้คราวนี้ฉันจะไปลงสมัครเป็นนักวิ่งทีมชาติให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย~
‘’ แฮกๆๆๆ เธอเนี่ย เห็นขาสั้นๆ แบบนี้ วิ่งเร็วชะมัด!!’’นายหน้าหล่อถามขึ้นขณะที่เขาวิ่งตามฉันมาติดๆ
‘’ แฮกๆๆๆ อย่าเพิ่งมาชวนคุยตอนนี้จะได้ไหม เรากำลังจะถูกฆ่านะโว๊ยย~’’ฉันตะโกนดังลั่นอย่างหมดความอดทนพร้อมกับเร่งฝีเท้าเต็มพิกัด นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันวะเนี่ย แค่มาเหยียบที่นี้วันแรกก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วนี่ฉันจะทนอยู่ที่นี้ไปได้สักกี่น้ำกันล่ะเนี่ย~
หลังจากวิ่งหนีตีจากไอ้หน้าหล่อมาฉันสามารถเอาชีวิตรอดได้อย่างหวุดหวิดฉิวเฉียดความตายแค่เส้นยาแดงผ่าแปดฉันกำลังนั่งหอบเป็นหมาลิ้นห้อยอยู่หน้าห้องน้ำชาย!!
นี่ฉันวิ่งมาทำบ้าอะไรที่นี้! มัวแต่กลัวหัวหดจนต้องหลับหูหลับตาวิ่งจนลืมมองทาง แล้วไอ้ที่ตรงนี้ที่ฉันยืนอยู่นี่มันอยู่ส่วนไหนของแผนที่โลกกันล่ะเนี่ย แถมไอ้หน้าหล่อนั่นก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหนแล้ว ไอ้เราอุตส่าห์ช่วยชีวิตเอาไว้แท้ๆ ขอคุณสักคำก็ไม่มี ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปแท้ๆ เลยฉัน
[อีกด้านของโรงเรียน ฝั่งตะวันตก]
ห้องต้องห้าม ไม่อยากตาย ห้ามเข้า!!
ป้ายมหึมาถูกแปะไว้หน้าห้องด้านบนสุดของตึกสีดำสนิท ตึกที่แม้แต่ผู้ที่เป็นถึง ผ.อ โรงเรียนก็ยังไม่กล้าที่จะเฉียดเข้าใกล้ ภายนอกของตึกถูกพ่นด้วยสเปย์หลากสีเป็นถ้อยคำด่าทอโคตรเง่าศักราชของศัตรู
‘’ ขะ...ขอโทษครับหัวหน้า พวกผมเกือบจะจับตัวมันมาสังเวยหัวหน้าได้อยู่แล้ว ตะ...แต่ว่า..’’ เสียงสั่นครอนราวกับคนกำลังร้องขอชีวิตของชายร่างอ้วนท้วมดังขึ้นภายในห้องที่เย็นฉ่ำจนหัวใจเกือบจะจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็ง เสียงหายใจเบาๆ กำลังพ่นจรดหัวชายร่างอ้วนอย่างเป็นจังหวะ พร้อมกับเสียงที่เยือกเย็นพอๆ กับอุณหภูมิห้องที่หนาวเหน็บ
‘’แต่อะไร’’ ชายร่างสูงเจ้าของเรือนผมสำดำสง่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมีอำนาจ และทรงพลัง นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองชายร่างอ้วนที่อยู่ตรงหน้าอย่างคาดโทษด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์มากเท่าที่ควร คิ้วหนาทั้งสองข้างเริ่มขมวดเขาหากันแสดงถึงความไม่พอใจอย่างหนักกับข่าวคราวที่เพิ่งจะได้ยินเมื่อสักครู่
‘’ตะ..แต่มีคนมาช่วยมันไปได้ครับ’’ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะตรึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ชายร่างอ้วนจึงเปิดปากพูดต่อพร้อมกับเอามือซับเหงื่อที่เริ่มจะไหลออกตามขมับซ้ายขวาอย่างลวกๆ ทั้งๆ ที่อากาศออกจะหนาวจนจับขั้วหัวใจแท้ๆ แต่เหงื่อเจ้ากรรมกลับไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด
‘’ ใคร ‘’ เสียงเยือกเย็นพูดขึ้นอีกครั้ง
‘’ผู้หญิงครับ ผู้หญิงที่ไม่คุ้นหน้า คงจะเป็นนักเรียนใหม่ที่ได้รับหมายเรียกน่ะ...ครับ ’’ ชายหนุ่มร่างอ้วนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน สีหน้ารับรู้ถึงชะตาชีวิตของตัวเองที่ใกล้จะขาดผึ่งเต็มที
‘’ ซันเจ’’ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำพูดก่อนจะตวัดสายตาไปหาชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟาสีดำสนิทอย่างไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว เมื่อเห็นว่าชายอีกคนไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นตามเสียงเรียกชายหนุ่มจึงตัดสินใจหยิบแจกันขึ้นมาชูเหนือหัวเป็นเชิงขู่...
‘’เฮ้อ~รู้แล้วๆ ให้มันได้อย่างนี้สิเฮีย ทั้งๆ ที่วันนี้ผมกะจะถือศิลกินเจไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแท้ๆ พวกเอ็งนะพวกเอ็ง ทำให้ข้าบาปอีกจนได้’’ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลเข็มพูดขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะลากคอชายร่างอ้วนที่ปฏิบัติงานผิดพลาดออกไปจากห้องโดยเร็ว
‘’ผู้หญิง? ผู้หญิงที่ไหนวะ’’ ทันทีที่ชายทั้งสองออกไปจากห้องชายอีกคนจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่อยากรู้เต็มประดาแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่หนังสือการ์ตูนในมือ
‘’ไม่น่าถามเลยนะมึงไอ้เจแปน จะเป็นใครไปด้ายยย~ ก็พวกเราส่งหมายเรียกตัวให้กับคนแค่สองคนเท่านั้น ผู้หญิงที่ว่านั่น ก็คงจะเป็น ยัยจอมโหดแห่งเซนต์วีซ่า ยิปโซ’’
เปรี้ยง!
ทันทีที่ชายร่างสูงโปร่งเผลอพูดชื่อต้องห้ามนั้นออกมา โต๊ะที่ก่อนหน้านี้เคยรองอยู่ที่เท้าของชายเรือนผมสีดำก็กระเด็นกระจายไปทั่วห้อง สร้างความตกใจให้ชายทั้งสองเป็นอย่างดี
‘’อย่าได้บังอาจเอ่ยชื่อยัยนั่น ผู้หญิงจิตใจต่ำทรามคนนั้นอีก’’ชายหนุ่มเรือนผมสีดำพูดขึ้นก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกจากห้องไปทิ้งให้ชายทั้งสองยืนมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
'' ไอ้โฟกัสมันเป็นอะไรของมันวะ''
'' มันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่หว่า จะเอาอะไรกับมัน คนอย่างมันมีหัวใจซะที่ไหนกัน''
'' นั่นน่ะสินะ ฮ่าๆๆ''จบประโยคสนทนาชายทั้งสองเสมองตามร่างสูงของสหายรักที่เดินออกไปก่อนจะพร้อมใจกันตะเบงเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั้ง
‘’ ในที่สุด ก็มาจนได้สินะ ยิปโซ’’ หลังจากพ้นเขตประตูห้อง ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า
ความแค้นระหว่างฉันกับเธอ มันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีดีเถอะ ยัยผู้หญิงโสโครก!
