รักร้ายอันตรายหัวใจ

98.0K · จบแล้ว
พวงชมพู
52
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

' นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวัยรุ่นที่แต่งไว้นานแล้ว กดอ่านตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ สำนวนและภาษาเป็นแนววัยรุ่นทั้งหมดค่ะ ' ‘’นายทำอะไรของนายเนี่ย ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ’’ ร่างฉันก็ถูกอุ้มพาดบ่าโดยฝีมืออีตาโฟกัสนั่น ‘’ ก็อุ้มเธอน่ะสิ ถามอะไรโง่ๆ’’ ‘’ วางฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน’’ ‘’ หุบปาก!’’ เขาตะคอกดังลั่นจนฉันต้องหยุดการเคลื่อนไหวนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด แค่สองคำสองพยางค์ของเขา มีผลต่อร่างกายของฉันขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย ฉันถูกโยนลงบนโซฟาตัวโตในห้องกว้างๆ ภายในตึก ภายนอกที่ดูว่าน่ากลัวอยู่แล้ว ยังเทียบไม่ได้กับภายในที่ดูน่าขนลุกยิ่งกว่าหลายเท่า อุณหภูมิที่เย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจในห้องนี้ทำเอาฉันปากสั่นมือเย็นจนพูดไม่เป็นภาษาคน นี่มันห้องแช่ศพรึไงเนี่ย ‘’หว่า~พาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่กลับมาอีกล่ะ’’เสียงเหนื่อยๆ ของใครบางคนโพล่งขึ้นทำให้ฉันได้รู้ ว่าห้องนี้ไม่ได้มีเพียงเราสองคนอีกต่อไป ยังมีชายหนุ่มรูปงามที่กำลังนั่งจ้องหน้าฉันอยู่อีกฝากหนึ่งของโซฟา พะ....ผู้ชายหล่อ นี่ฉันมองข้ามหัวมนุษย์โลกที่มีหน้าตาหล่อเหลาสามคนนี้ไปได้ยังไงเนี่ย

นิยายรักโรแมนติก

บทนำ

สวัสดีค่ะ โค้ง1ที ฉันชื่อแอเรียล ชื่อฉันเพราะใช่ไหมล่ะ มันเป็นชื่อของเจ้าหญิงเงือกน้อยในนิทานประรำประราที่คุ้นหูคุ้นตาของผู้คนทั่วทั้งโลกนั่นแหละค่ะ แต่ฉันไม่มีหางที่เท้า แถมยังพูดได้เวลาอยู่บนบกด้วย ฉันเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลที่(เคย)ใหญ่โต มีหน้ามีตาอยู่ในแวดวงไฮโซ พ่อที่แสนดีของฉันทำงานเป็นเจ้าของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าฐานะทางบ้านฉันจึงค่อยข้างดีเยี่ยม ฉันถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีภายในครอบครัวที่อบอุ่น มีผู้คนล้อมหน้าล้อมหลังคอยเอาใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนฉันสะกดคำว่า "ลำบาก" ไม่ค่อยจะถูกต้องตามหลักภาษาไทยเท่าไหร่นัก

ฉันมีทุกอย่างที่เด็กทั้งโลกใฝ่ฝันอยากจะมี เงินทองที่พ่อกับแม่ช่วยกันก่อร้างสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงนั้น มันทำให้ฉันสามารถใช้อย่างไม่มีวันหมดไปจนตาย ชีวิตที่เลิศเลอโก๋หรูของฉัน เล่าให้ใครฟังก็คงถูกอิจฉาริษยาไม่ใช่น้อย

แต่นั่นมันเป็นเรื่องของเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

‘’ความซวย’’ มันไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ จู่ๆ พระเจ้าก็ทอดทิ้งฉันและครอบครัว ทำให้ฉันต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่เนื่องจากธุรกิจที่บ้านล้มละลายจนคุณพ่อต้องจำใจขายบริษัททิ้งเพื่อที่จะเอาเงินมาใช้หนีสินที่กองเป็นภูเขาแต่ใช้ยังไงก็ไม่หมดสักที พ่อกับแม่จึงตัดสินใจหอบผ้าหอบผ่อน ลี้ภัยไปอยู่ที่ต่างประเทศกันสองคนตั้งแต่ฉันอายุได้เจ็ดขวบ

ทิ้งให้ฉันต้องฝืนกัดฝืนทนอยู่กับป้า ที่วันๆ ไม่ทำอะไร จ้องแต่จะขายฉันให้กับไอ้เสี่ยหัวล้านๆ พุงโล้นๆ

แต่ฉันก็อุตส่าห์เอาชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยที่เวอร์จิ้นยังคงไม่ได้หนีหายตายจากไปแต่อย่างใด

ชีวิตฉันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าในเวลาชั่วข้ามคืน แถมยังต้องจำใจมาอาศัยอยู่กับป้าแท้ๆ ที่ไม่เคยมองฉันเป็นหลานเลยสักครั้ง เพราะในสายตาของเขา ฉันเป็นเพียง....คนใช้ที่ซื่อสัตย์ดีดีนี่เอง ป้ามีลูกสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน แต่นิสัยกลับคนละขั้วอย่าบอกใครอยู่หนึ่งคน

ยัยโหดนั่นมีชื่อว่า ‘ยิปโซ’ ใครจะเชื่อล่ะว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างยัยนั่นน่ะ จะมีดีกรีเป็นถึงหัวหน้านักเลงประจำโรงเรียนชื่อดังอย่างเซนต์วีซ่า โรงเรียนลูกผู้ดีอันธพาลที่ฉันเองก็เคยเรียนแต่นั่นมันก็นานมาแล้ว

ในย่านนี้จะมีโรงเรียนชื่อดังอยู่สามแห่งนั่นก็คือ

เซนต์วีซ่า โรงเรียนแห่งแสงสว่าง

เซนต์ปาร์ตี้ โรงเรียนแห่งสันติสุข

และสุดท้าย เซนต์ซารารี่ โรงเรียนแห่งความมืดมิด

สามโรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งโดยผู้มีอิทธิพลทั้งสามที่เคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาแต่ช้านานเลยไม่แปลกที่นักเรียนของทั้งสามโรงเรียนจะเจริญรอยตามผู้ก่อตั้งของแต่ละโรงเรียน และดูเหมือนว่า โรงเรียนที่มีอำนาจมากที่สุดจะหนีไม่พ้น ''เซนต์ซารารี่''

โรงเรียนที่ไร้แสงไฟ เหตุผลที่ทำให้โรงเรียนแห่งนี้มีอิทธิพลมากกว่าสองโรงเรียนที่เหลือ ก็คงจะเป็นเพราะโรงเรียนนี้ สามารถส่งหมายเรียกตัวไปให้นักเรียนอีกสองโรงเรียนได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งิสิ้น และแน่นอนว่า..หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือละเมิดกฎ จะต้องพบเจอกันสิ่งเลวร้ายที่เหนือกว่าความตาย

และวันนี้! ฟ้าดินคงจะต้องสะเทือนเลื่อนลั่นดั่งภูเขาไฟฟูจิระเบิดแน่ๆ เพราะจู่ๆ ยัยยิปโซจอมโหดลูกพี่ลูกน้องตัวแสบของฉันดันโดนหมายเรียกตัวที่ว่านั่น!! จากโรงเรียนชื่อดังที่เต็มไปด้วยชื่อ(เสีย) อย่าง S R หรือที่รู้จักกันในนาม ‘'เซนต์ซารารี่'’

เนื่องมาจากยัยยิปโซมีดีกรีเป็นถึงหัวหน้านักเลงหญิงที่โด่งดังและเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถทางด้านตบ ตี กัด ต้อย ทะเลาะวิวาท ทางโรงเรียนที่ว่านั้นเลยส่งหมายเรียกให้ยัยนั่นไปศึกษาหาศัตรู ซึ่งไอ้หมายเรียกที่ว่านั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากใบสั่งตาย เพราะหากแต่ผู้ใดที่ได้รับ แล้วเกิดหลีกเลี่ยง หลบหนี จะพบเจอกับความตายที่น่าอนาจอย่างไม่คาดคิด! ทุกๆ ปีจะมีหัวโจกนักเลงในแก้งต่างๆ ได้รับหมายเรียกที่ว่านั่นกันอย่างถ้วนหน้า

ไม่เกี่ยงอายุ

ไม่เกี่ยงเพศ

ไม่เกี่ยงความเก่งกล้าสามารถ

ทันทีที่ยัยโหดยิปโซเห็นหมายเรียกปัญญาอ่อนนั่นเข้า ยันนั่นก็ถึงกลับเป็นลมล้มพับไปเลยทีเดียว ก็ใครเขาใช้ให้ยัยนั่นสู้เก่งจนเกินหน้าเกินตาล่ะ แถมไอ้โรงเรียนเส็งเคร็งนั่นก็ช่างกล้า รู้อยู่แก่ใจว่าผู้หญิงโหดเกินกว่าครึ่งที่โรงเรียน(นรก)นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นศัตรูตัวฉกาจของยัยยิปโซทั้งสิ้น

แต่คิดถึงตอนที่ยัยโหดนั่นย่างกายเข้าไปในโรงเรียนนรกนั้น ฉันก็เสียวสันหลังแทนแล้ว

‘’แม่ค่ะ! หนูไม่มีวันไปเรียนไอ้โรงเรียนเส็งเคร็งนั่นแน่‘’ ยัยยิปโซตะโกนดังลั่นบ้านพร้อมกับฉีกจดหมายเรียกตัวทิ้งก่อนจะปาใส่หน้าฉันที่นั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แววตาสีดำสนิทเผยให้เห็นความโกรธกริ้วที่มีอยู่บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด คิ้วหนาทั้งสองเริ่มขมวดเป็นปมเชือกเข้าหากัน ใบหน้าขาวเนียนละเอียดดูแล้วน่าเอ็นดูนี้ บอกไปใครจะเชื่อล่ะว่า....ยัยนี่มันก็ปีศาจในคราบนางฟ้าดีดีนี่เอง

‘’ใจเย็นสิลูกรัก แม่เชื่อว่าเราจะต้องมีทางออกที่ดี’’หญิงชราวัยกลางคนพูดปลอบลูกสาวก่อนจะเสหน้ามองไปยังหญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งปัดเศษกระดาษออกจากหัวอยู่เบื้องหน้าอย่างพินิจพิจารณา

‘’ทางออกทางไหนล่ะค่ะแม่! หนูไม่เห็นจะมองเห็นทางสว่างเลย ถ้าหนูไปเรียนที่นั่นหนูยอมตายยังจะดีซะกว่าอีก!!’’ถ้าแกตายไปสักคน โลกเราคงน่าอยู่ขึ้นเยอะ

‘’วันๆ แม่เห็นแต่ลูกรังแกยัยแอเรียล แล้วที่ลูกบอกว่าผู้หญิงเกินครึ่งในโรงเรียนนั่นเป็นศัตรูของลูกเกือบจะทั้งหมดน่ะ ลูกเอาเวลาที่ไหนไปมีเรื่องกับพวกมันล่ะห๊ะ!’’

‘’ โถ แม่คะ หนูเป็นถึงหัวหน้านักเลงหญิงแห่งเซนต์วีซ่า ทำไมต้องออกโรงไปมีเรื่องกับพวกกระจอกนั่นด้วย หนูแค่นั่งเฉยๆ แล้วออกคำสั่งไปเท่านั้นเองแหละค่ะ’’ยัยยิปโซว่าก่อนจะยกเท้าขึ้นมาพาดบ่าฉันเล่นอย่างถือวิสาสะ แกด่าพวกนั้นว่ากระจอก แต่กลับกลัวที่จะต้องไปเรียนร่วมกับพวกกระจอกพวกนั้นเนี่ยนะ

‘’ งั้นก็แสดงว่าไอ้พวกที่จ้องจะเด็ดหัวแก มันก็ไม่เคยเห็นหน้าแกเลยน่ะสิ!!’’ป้าสมทรงพูดก่อนจะส่งยิ้มปีศาจมาให้ฉัน ฉันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะเนี่ยแค่นั่งเป็นบ่าวรองรับเท้าของลูกสาวสุดโหดของป้าก็มีความผิดแล้วเหรอ โอ้จอร์จ~

‘’ก็ใช่น่ะสิคะ แม่ถามทำไม ’’ ยัยยิปโซถามขึ้นอีกคราก่อนจะยกเท้าออกจากบ่าฉัน แต่กลับเอาไปพาดไว้ที่หัวแทน

‘’งั้นก็...ทำเหมือนที่แกทำทุกครั้งสิ!’’

‘’ทำอะไรค่ะแม่’’ ก่อนจะสั่งให้ยัยปีศาจนี่ทำอะไร ช่วงสั่งให้มันเอาเท้าออกจากหัวฉันก่อนจะได้ม้ายยย~

‘’ก็ตัวตายตัวแทนยังไงล่ะ’’ป้าว่าก่อนจะกระชากฉันขึ้นมาจากพื้นและออกคำสั่งที่ฉันได้ยินเป็นต้องอยากฆ่าตัวตายด้วยประโยคโหดร้ายที่ว่า...

‘’นังแอเรียล! ฉันขอใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าชีวิตสั่งแก ไปเก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวไปเรียนที่. เซนต์ซารารี่ แทนลูกสาวฉัน!’’

นี่มัน!

อะไร!

กันวะเนี่ย!

‘’แต่ป้าคะ! ป้าก็รู้ว่าไอ้โรงเรียนนั้นมัน...’’

‘’หุบปาก!’’

‘’แต่ว่าหนู..’’

‘’ห้ามเถียง!’’

‘’แต่ว่ายิปโซเขา..’’

‘’เงียบเดี๋ยวนี้นะ! แกลืมไปแล้วรึไง ว่าใครเป็นคนให้ข้าวให้น้ำแกมาจนถึงทุกวันนี้!’’ป้ายืนกรานเสียงแข็ง คำก็บุญคุณ สองคำก็บุญคุณ! บุญคุณกับครอบครัวนี้ จะเป็นอะไรที่ฉันไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตเลย

ทุกๆ เช้าฉันจะแหกขี้ตาตื่นแต่ตีห้า ทำอาหารเช้าสำหรับสองคนแม่ลูกนรกนี่ ทำความสะอาดบ้านทั้งหลังคนเดียวทั้งๆ ที่คนใช้บ้านนี้มีอยู่ด้วยกันถึงสามคน ตกเย็นฉันถึงจะได้กินอาหารที่เหลือจากเศษจานข้าวของยัยสองแม่ลูกนี้. หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ

ชีวิตฉัน! เป็นอะไรที่มากกว่าคนใช้ซะอีก งานทุกอย่างสากกะเบือยันเรือรบผ่านมือฉันมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมาเฝ้าบ้านเวลาที่สองแม่ลูกออกไปแรดนอกรั้วออกไปมั่วนอกบ้าน ไล่ทวงหนี้จากพวกลูกหนี้จอมหนืด เป็นตุ๊กตาไขลานไว้ให้ยัยยิปโซซ้อมเวลาหงุดหงิดหรือไม่มีอะไรทำ และยังมีอีกมากมายถ้าจะให้เล่าคงเปลือกหน้ากระดาษแย่

นี่น่ะเหรอ! นี่เขาเรียกว่าบุญคุณน่ะ คนพวกนี้น่ะเหรอ? คือคนที่ฉันจะต้องตอบแทนบุญคุณด้วย ถ้าเปลี่ยนเป็นแก้แค้นก็ว่าไปอย่าง

‘’ยังไงซะ หนูไม่มีวันไปเรียนที่โรงเรียนนั้นแน่ค่ะ ป้าจะตบจะตีจะฆ่าหนูยังไงก็เชิญเลย ชีวิตทุกวันนี้ อยู่ก็เหมือนตายอยู่แล้ว’’ฉันยืนกรานเสียงแข็งพร้อมกับกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาในไม่ช้า มันไม่คุ้มเลยจริงๆ ที่ฉันจะต้องมาเสียน้ำตาให้กับสัตว์โลกที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์อย่างคนพวกนี้น่ะ มันไม่คุ้มกันเลยจริงๆ

‘’แกกล้าขัดคำสั่งแม่ฉันรึไงห๊ะ!’’ ยัยยิปโซตะคอกเสียงดังก่อนจะย่างกายเข้ามาเตรียมประเคนฝ่ามือพิฆาตมาให้ฉันเหมือนที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน แต่เสียงยัยแม่มดก็ดังขึ้นขัดซะก่อนที่ฝ่ามืออาบยาพิษของยัยนั่นจะมาถึงหน้าฉันเพียงชั่วอึดใจ

‘’ฉันจะไม่บังคับแกก็ได้! แต่แกอย่าลืมสิ ว่าฉันคือคนเดียวที่รู้ว่าพ่อกับแม่แกหนีไปอยู่ที่ไหนน่ะ ฉันล่ะ...ไม่อยากจะคิดเลย ว่าไอ้พวกเจ้าหนีของพ่อจะให้รางวัลอะไรฉันกับฉัน ถ้าฉันบอกที่อยู่พ่อกับแม่แกให้พวกมันไปน่ะ หึ หึ’’ บังคับเหอะงั้นนะ - - ?คำพูดที่แฝงไปด้วยความโหดร้าย สีหน้าที่เต็มไปด้วยชัยชนะของผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า ฉันเกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน เกลียด....เข้ากระดูกดำ!!

‘’ตกลง หนูจะไป’’ ทันทีที่ได้รับคำตอบจากฉัน สองแม่ลูกอสรพิษก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความพอใจก่อนจะเดินกอดคอกันเข้าบ้าน(นรก)ไปอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้ฉันยืนแน่นิ่งอยู่คนเดียวโดยมีน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่เป็นเพื่อน

ตลอดระยะเวลา10ปีเต็มที่ฉันจำใจอาศัยบ้านที่ดูภายนอกสวยหรูแต่ภายในกลับปกคลุมไปด้วยกลิ่นไอปีศาจร้ายหลังนี้ ฉันไม่มีใครคอยเป็นที่พึ่ง ฉันมีแค่เงาของตัวเองในกระจกที่คอยปลอบใจ มีเพียงน้ำตาเป็นเพื่อนที่แสนดี.....

ฉันไม่รู้ว่าจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเจอะเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่รู้ๆ คงไม่มีอะไรจะน่าเกลียดน่ากลัวได้เท่ากับสองแม่ลูกนี้อีกแล้วล่ะ ไม่มีเลยจริงๆ