บท
ตั้งค่า

บุคคลไม่พึงประสงค์ 4/4

บทที่ 2 บุคลลไม่พึงประสงค์

แม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหลังจากส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเสร็จ แต่เธอจะไม่มีวันปริปากแน่ว่าตัวเองหายไปทำอะไรมา

“แล้วมัดหมี่เป็นอะไร ทำไมปากเจ่ออย่างนั้นล่ะ”

พี่สาวทักเข้า คนเป็นน้องก็สะดุ้งโหยง เพิ่งรู้ว่าตัวเองปากบวม แต่จะเป็นฝีมือใครไปได้อีกล่ะ

“แพ้เหล้าหรือเปล่า” พอเธอไม่ตอบ แม่ก็ถามขึ้นมาด้วยอีกคน “แล้วนี่หายเมาค้างแล้วเหรอลูก”

“คะ!?!” ถูกแม่ถามอย่างนี้ มนตร์ตระการก็แทบลืมหายใจ “แม่รู้ด้วยเหรอว่าหนูเมา”

“อ้าว ดูสิ เมาจนจำไม่ได้เลย” พี่สาวของเธอหัวเราะอย่างเอ็นดู “นี่รู้ตัวหรือเปล่าว่าสรัชไปเจอมัดหมี่เมาคอพับอยู่ที่บาร์ริมสระ เขามาตามแม่กับพี่ไปดู แต่เราต้องไปส่งตัวนายเอิร์ตเข้าหอนี่ สรัชก็เลยอาสาพามัดหมี่ไปหาที่นอน”

“แล้วก็ปล่อยให้หนูไปกับเขาเนี่ยนะคะ!”

“ไม่เห็นจะเป็นไร สรัชก็คนคุ้นเคยกัน ไม่มีพิษมีภัยตรงไหนเลย”

ในสายตาแม่ก็คงจะใช่ ถ้าตลอดเวลาที่เธอไม่ได้กลับมาเยือนบ้านแล้วสรัชยังอยู่ที่เดิม บางทีแม่อาจจะสนิทกับเขามากกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ สนิทจนไว้ใจถึงขั้นฝากลูกสาวเอาไว้ได้ แต่แม่จะรู้ไหมว่าไว้ใจคนผิดไปแล้ว

“อีกอย่างนี่ก็รีสอร์ตของสรัช ให้เขาดูแลน่ะดีแล้ว”

“นี่รีสอร์ตของนายสรัชเหรอคะ!”

“ของพ่อเขา เพิ่งเปิดมาได้สี่ห้าปีนี่เอง มัดหมี่จำเสี่ยเลิศได้ไหม พ่อเขาหันไปทำเต็นท์รถมือสอง ก็เลยยกรีสอร์ตให้สรัชดูแลต่อ นี่พอนายเอิร์ตแต่งงาน สรัชก็มาดูให้ด้วยตัวเองเลยนะ ก็สมัยเรียนมัธยมเอิร์ตเป็นน้องรหัสของสรัชนี่”

แพรวพัสตราช่วยทวนความจำของเธอให้อย่างใจดี ดูจะชื่นชมสรัชอย่างกับเขาเป็นเทพบุตรก็ไม่ปาน แต่สำหรับเธอแล้วนายคนนั้นมันตัวมารชัดๆ แล้วถ้ารู้สักนิดว่านี่เป็นถิ่นใคร เธอจะไม่มีวันมาเหยียบเป็นอันขาด

“มัดหมี่ไม่อยู่ที่นี่ตั้งหลายปี สรัชเขากลายเป็นคนกว้างขวางไปแล้วนะ”

แม่เล่าไปก็ยิ้มไป ไม่รู้จะชื่นชมอะไรนายสรัชนักหนา หรือบางทีคนที่แม่พูดถึงอยู่ อาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียงกับเธอก่อนหน้านี้ก็ได้

“แล้วนี่สรัชหายไปไหน” แม่ยังถามหาแต่คนเดียวที่เธอไม่อยากได้ยินชื่อเอาเสียเลย “มัดหมี่เห็นเขาหรือเปล่า แม่ยังไม่ได้ขอบคุณเลยที่อุตส่าห์พาลูกไปหาที่นอน”

“ไม่ต้องไปขอบคุณอะไรเขาหรอกค่ะ!”

“เอ๋?...” พี่สาวชักขมวดคิ้วกับการที่เธอเสียงดังออกไป “สรัชทำอะไรให้โกรธหรือเปล่า”

“ปะ เปล่าค่ะ”

มนตร์ตระการปากคอสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกเลยว่าเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้าผากทั้งที่อากาศตอนเช้าริมสระว่ายน้ำหน้าชายหาดของรีสอร์ตแห่งนี้ยังเย็นสบาย แต่ลำคอของเธอกลับแห้งผากราวกับคนขาดน้ำอยู่กลางทะเลทราย เธอจะไม่มีทางปริปากบอกใครแน่ๆ ว่าตอนนี้โกรธสรัชเพราะเรื่องอะไร

“กลับบ้านกันเถอะค่ะแม่” คนที่ก้าวพลาดจนมีชนักติดหลังรีบเปลี่ยนเรื่องหนี “หนูอยากกลับบ้านแล้ว กลับเถอะนะคะ”

“ไปลาน้าฉายก่อน อีกอย่างเมื่อคืนเราน่ะเป็นอะไรถึงได้กินไวน์จนเมาหัวทิ่ม ยังไม่ได้อวยพรน้องเลยนะ นายเอิร์ตยังบ่นหาอยู่เลย”

แม่บอกค้อนๆ แล้วก็ตวัดหางตามองจนหญิงสาวได้แต่ถอนหายใจอย่างจำยอมเพราะไม่อาจปริปากบอกใครได้ว่าทำไมจึงไม่อยากอ้อยอิ่งอยู่ที่รีสอร์ตนี้อีกต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว

เธอไม่อยากรู้และไม่อยากคิดอะไร แค่ตอนนี้ต้องคุมตัวเองไม่ให้ไปนึกถึงเรื่องที่พลาดท่าไปเมื่อคืน มนตร์ตระการก็รู้สึกว่าแสนยากเย็น แต่เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาต่อหน้าญาติๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะแม่และพี่สาว จะไม่มีทางให้รู้เด็ดขาดว่านายสรัชที่พวกท่านไว้ใจกันหนักหนานั่น ลับหลังผู้ใหญ่เขากลับปู้ยี่ปูยำเธอจนไม่มีชิ้นดี

มนตร์ตระการได้แต่ทนอยู่กับความอัดอั้น รอให้แต่ละวินาทีผ่านไปอย่างช้าๆ จนเหมือนนานแทบขาดใจในตอนที่แม่บอกลาน้องสาวพร้อมกับอวยพรหลานชายกับหลานสะใภ้ก่อนจะกลับบ้านกัน

ทว่าสายตาของเธอไม่ได้อยู่กับใครในที่นี่เลย มนตร์ตระการผินมองไปยังชายหาดด้านนอก ตรงที่เป็นซุ้มดอกไม้ซึ่งน้องชายแต่งงานไปเมื่อวาน

ยิ่งคิด มนตร์ตระการยิ่งเหนื่อยใจ มากที่สุดคือเสียดายสิ่งที่เสียไปให้กับผู้ชายที่เธอไม่เคยอยากเห็นหน้าอีกเลยในชีวิตนี้

เธอไม่น่าดื่มไวน์ขวดนั้นเข้าไปเลย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel