บุคคลไม่พึงประสงค์ 1/4
บทที่ 2 บุคลลไม่พึงประสงค์
“ปวดหัวจัง”
หญิงสาวครวญขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมากุมขมับ บีบคลึงเบาๆ เผื่อจะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนที่เป็นอยู่นี้ได้ ยิ่งนวดไปเท่าไรก็เหมือนช่วยเรียกสติของเธอกลับมา
แสงส่องเข้ามาถึงตรงที่เธอนอนอยู่นี้ไม่สว่างสักเท่าไร คนปวดหัวพยายามจะลืมตาขึ้นมองว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแต่ก็ทำไม่ไหว เธอรับรู้แต่ว่านอนอยู่บนที่นุ่มๆ และอุ่นสบาย แต่ร่างกายที่โผล่พ้นผ้าห่มก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็น คงเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศ แต่เธอกำลังนอนอยู่ที่ไหนและมานอนได้อย่างไร
ตอนนี้เวลาเท่าไร เช้าแล้วหรือเปล่าจึงมีแสงแดงส่องผ่านเข้ามา แต่เธอควรอยู่ในงานฉลองมงคลสมรสของลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่หรือ ทำไมมานอนได้ หรือเพราะไวน์ที่ดื่มเข้าไปทำพิษเข้าเสียแล้ว
คิดทบทวนหาคำตอบ หญิงสาวก็ปวดหัวจี๊ดจนต้องเลิกคิด เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่น่าดื่มไวน์ขวดนั้นเข้าไปเลย
คนปวดหัวค่อยๆ ใช้มือควานกวาดสำรวจที่ทางเพราะยังลืมตาไม่ขึ้นเสียเท่าไร ภาพรอบตัวเลือนรางไปหมดแต่ก็อยากรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน บางทีแม่หรือพี่สาว หรือไม่ก็ญาติสักคนอาจจะพามานอน แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าก่อนหน้าที่กรอกไวน์เข้าปากไป เธอเมาจนก่อเรื่องหรือเปล่า
ความทรงจำสุดท้ายก่อนหน้านี้ คือเธอเดินตุปัดตุเป๋เข้าไปหาแม่ ท่านก็โอบประคองไว้ จากนั้นก็เหมือนมีคนมามะรุมมะตุ้ม กอดรัดเธอ จับกอดจับพลิก เหมือนมีคนมาซุก มานอนทับตัวเธอ หญิงสาวรู้ตัวอยู่แต่ไม่มีสติมากพอจะฝืนได้ เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่กับความมัวเมา จากนั้นแล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“โอ๊ะ!”
เพียงแค่เริ่มขยับตัว หญิงสาวก็รู้สึกเลยว่าร่างกายมันระบม เจ็บช่วงล่างตรงท้องน้อย เจ็บจนสติของเธอกลับคืนมา
“เอ๊ะ!”
มนตร์ตระการร้องจนคิ้วขมวดเข้าหากันแน่นเพราะมือคลำไปเจอผ้าลูกไม้ห่มฟองน้ำบางๆ นุ่มนิ่มจนต้องรีบลืมตามอง ภาพตรงหน้าทำเอาเธอกลั้นหายไปเลย
นี่มันเสื้อชั้นในคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ดังแต่เธอเพิ่งได้มาในราคาพรีเซลล์ เพิ่งสวมเป็นครั้งแรกเพราะจะมาร่วมงานแต่งญาติก็เพราะอยากให้ตัวเองดูดีที่สุด แต่ทำไมมันหลุดออกจากตัวเธอมาวางอยู่ข้างหมอน
ด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบยันตัวลุกทั้งที่มือยังกำเสื้อยกทรงของตัวเอง แต่ขยับมือแค่นิดเดียวก็ไปสัมผัสเข้ากับชุดราตรีม่วงเม็ดมะปรางซึ่งตัดเย็บจากผ้าไหมอิตาลีเรียบลื่น ยิ่งกว่านั้นคือกางเกงชั้นในลูกไม้ที่วางกองอยู่ด้วยกัน เสื้อผ้าของเธอทั้งหมดหลุดออกจากตัวได้อย่างไร
“กรี๊ด!”
เธอตั้งสติไม่อยู่จนลุกขึ้นมาร้องกรี๊ด ผ้าห่มที่เคยปกปิดร่างกายอยู่ก็ร่วงลงไปกองที่บั้นเอว เผยให้เห็นเต็มตาว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นเดียว
ใครจับเธอถอดเสื้อผ้า!
หญิงสาวอ้าปากค้าง หายใจก็ไม่ออก โลกของเธอหมุนติ้วราวกับอยู่บนรถไฟเหาะตีลังกา แล้วยิ่งหัวใจจะวายเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้เลยว่าเป็นห้องของใคร แต่มีกล่องถุงยางอนามัยตกอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน เกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“มัดหมี่! เป็นอะไร”
นี่มันช็อกยิ่งกว่าช็อก สติอย่างเดียวที่เธอมีคือรีบหอบผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายไว้ หญิงสาวไม่รู้สึกอีกแล้วว่าตัวเองยังหายใจอยู่เมื่อเห็นหน้าคนที่วิ่งเข้ามาถาม
เขาออกมาจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว เป็นคนเดียวที่อยู่ด้วยกันในห้องนี้ และเป็นคนที่เธอไม่คิดจะมองหน้ามากว่าสิบปี
“ยังเจ็บอยู่เหรอ ลุกไว้หรือเปล่า”
“สรัช!”
หญิงสาวไม่ได้ตอบที่เขาถาม แต่เรียกชื่อดังลั่นด้วยความตกใจ ดวงตาก็เบิกกว้างแล้วจ้องเขม็งไปที่เขา ยังจำผู้ชายคนนี้ได้แม่นแม้จะไม่ได้เจอกันมานานแค่ไหน แต่ที่ไม่เข้าใจยิ่งกว่าคือเขามาอยู่ด้วยกันในห้องนี้ได้อย่างไร
“นาย… นายมาอยู่กับฉันได้ยังไง”
“เอ้า! ฉันก็อยู่กับเธอทั้งคืน เพิ่งลุกไปอาบน้ำเมื่อกี้นี้เอง”
สรัชตอบหน้าตายแต่ยิ่งทำให้เธออึ้ง ตกตะลึงแทบจะขยับตัวไม่ได้ ยิ่งมาเห็นเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หญิงสาวยิ่งตัวแข็งทื่อจนเหมือนคนขาดอากาศหายใจ
“แล้วเป็นอะไร เมื่อกี้ทำไมร้อง”
คนที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเข้ามานั่งที่ปลายเตียงนอนแบบทันทีทันใด หญิงสาวก็ถึงกับถดตัวถอยหนีไปด้วยความกลัว
“ยังไม่หายเจ็บเหรอ”
“ละ… แล้วทำไมเจ็บ”
หญิงสาวปากคอสั่นด้วยความกลัวและระแวง ยิ่งขดตัวถอยห่างสรัชมากเข้าไปทุกที แต่ก็จ้องไว้เพราะกลัวว่าเขาจะขยับเข้ามาหามากกว่าที่เป็นอยู่
“นายเข้ามาอยู่ในห้องกับฉันได้ยังไง!”
“อ้าว!”
สรัชขำเบาๆ แล้วย่างสามขุมเข้ามาหา แววตาเต็มไปด้วยความสุขสันต์เหมือนเพิ่งผ่านเรื่องสนุกมาและยังอิ่มเอมใจจนถึงตอนนี้
“ก็เธอนั่นแหละนอนกอดฉันทั้งคืน แล้วฉันจะออกจากห้องนี้ไปได้ยังไง”
“ไม่จริง!” หญิงสาวเถียงทันที “ฉันจะไปกอดนายได้ยังไง ไม่มีทาง!”
“โอ้โฮ… กอดทิ้งกอดขว้างแบบนี้ สงสัยต้องย้ำอีกสักทีแล้วมั้งว่าเมื่อคืนเรากอดกันแน่นแค่ไหน”
