ตอนที่ 2 พบกันอีกครั้ง (1/2)
พีรดา หญิงสาววัยยี่สิบสามปี ทำงานในบริษัทออกแบบสื่อโฆษณาแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนสวยและมีหนุ่มๆมากมายมาติดพัน แต่พีรดาก็ไม่ได้สนใจหรือรับรักใคร เธอรู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครที่สามารถทำให้เธอหลงรักหรือใจเต้นแรงได้เลยสักคน จนคิดว่าตัวเองนั้นตายด้านในเรื่องของความรักไปแล้ว
ทุกๆเช้าโต๊ะของเธอจะเต็มไปด้วยดอกไม้ ขนม เครื่องดื่ม และการ์ดมาวางไว้อยู่เสมอจนเพื่อนร่วมงานสาวๆต่างก็อิจฉาเธอ
“เลือกๆไปสักคนเหอะแก” กนกนาถ เพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกันเอ่ยขึ้นมา แล้วหยิบขนมที่วางอยู่ไปกินหน้าตาเฉย
พีรดายิ้ม เธอไม่เคยกินของที่มีคนเอามาเลย และแน่นอนว่ามันจึงตกเป็นของส่วนรวมที่ใครอยากจะมาหยิบกินก็ได้
“ก็ยังไม่ได้ชอบใครเลยนี่นา” พีรดาบอกกนกนาถยิ้มๆ
“หรือว่าแกรอคอยคนรักที่สัญญาว่าจะกลับมารักกันในชาตินี้อยู่ เหมือนในละคร” กนกนาถพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะเบาๆกับความคิดของตัวเอง
“ไม่ได้รูสึกเหมือนเฝ้ารอใครนะ แค่ไม่ได้รู้สึกอยากมีความรักเลยมากกว่า” พีรดาบอกตามความรู้สึกจริงๆ ที่เธอมี
“จ้าแม่คนใจแข็ง แม่คนสวยเลือกได้” กนกนาถพูดประชดประชันแล้วกลับไปนั่งทำงานที่ตัวเอง
“แพม วันนี้คุณจะต้องออกไปพบบริษัทธนศาล เรื่องแบบนะ ผมมอบหมายงานนี้ให้คุณแทนดลยา” ผู้จัดการเดินเข้ามาบอกพีรดา
“พี่ดลคลอดแล้วเหรอคะ” พีรดาถามถึงหัวหน้างานของเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด
“ยัง แต่หมอให้พัก เลยโทรมาลาตั้งแต่เช้า ดลยาบอกว่าคุณรู้รหัสผ่านเข้างานในเครื่องเธอดี งานนี้คุณไหวมั๊ย” เขาถามเธอ
“ไหวค่ะ” พีรดาตอบอย่างยินดี
***************************
อธิชนม์ ธนศาลเสรี เป็นเจ้าของบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ โดยสืบทอดกิจการจากพ่อแม่ที่ตอนนี้วางมือให้เขาบริหารด้วยตนเอง
อธิชนม์มีคนเข้าหาเขาไม่น้อย แต่เขาก็ไม่สนใจใคร เขาเลือกเที่ยวกลางคืนและควงสาวไปนอนอยู่บ่อยครั้ง แต่พวกเธอเหล่านั้นก็ได้รับค่าตอบแทนไม่น้อย แต่อธิชนม์ไม่เคยสานต่อกับใครเกินหนึ่งครั้งเลย เพราะเขาไม่อยากผูกมัดกับใคร
“วันนี้ตอนบ่ายทีมโฆษณาจากบริษัทรวมสื่อดีจะมาคุยกับทางฝ่ายขาย ท่านประธานจะเข้าไปนั่งเลือกแบบด้วยรึเปล่าคะ” นงนุช เลขานุการวัยสี่สิบสามปีถามขึ้น
“ไม่ดีกว่าครับพี่นุช ให้ผู้จัดการฝ่ายขายเขาตัดสินใจด้วยตัวเองเลย พอดีช่วงบ่ายผมอยากออกไปข้างนอก” อธิชนม์บอก
“ท่านประธานจะหลบคุณมาลินีเหรอคะ” เลขานุการสาวใหญ่ถามอย่างรู้ทัน
อธิชนม์ยิ้มไม่ปฏิเสธ เขาไม่ชอบมาลินี คนที่พ่อแม่ยัดเยียดให้เขาออกเดทด้วย เธอสวยและดูดีก็จริง แต่อธิชนม์ดูไม่ถูกชะตากับเธอเอาเสียเลย
อธิชนม์หลบหน้าเธอขนาดนี้ มาลินีก็ยังไม่สนใจ แสดงว่าเธอคงพอใจเขาในระดับหนึ่ง ถึงไม่ยอมรามือจากเขาง่ายๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ได้พึงพอใจในตัวเธอเลย
ในตอนบ่ายอธิชนม์ไม่ได้พักเที่ยง เขาตั้งใจนั่งเคลียร์งานให้เสร็จทันบ่ายสามโมง เพื่อที่จะได้รีบออกไปจากบริษัท ก่อนที่มาลินีจะมา งานของเขาเสร็จทันในตอนบ่ายโมงกว่าๆ อธิชนม์ยิ้ม เก็บปากกาใส่ในกระเป๋าเสื้อสูท ตัดสินใจถอดสูททิ้งไว้ที่ห้อง เพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อนพอสมควร
เขาลงลิฟต์ไปชั้นล่างเพื่อที่จะเดินต่อไปยังลานจอดรถที่ด้านหลัง พอประตูลิฟต์เปิด เหมือนเวลาทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหวเมื่อเขาได้สบตากับพีรดาที่กำลังจะเดินเข้ามาในลิฟต์
ทั้งสองคนเหมือนว่าเคยรู้จักกันมาก่อน แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก พีรดารู้สึกว่าเธอตกหลุมรักผู้ชายตรงหน้า รู้สึกถูกชะตา หัวใจเธอเต้นแรง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนอธิชนม์นั้นบอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ใจเขาเต้นแรงดีใจเหมือนได้เจอสิ่งที่ตามหามานาน รู้สึกโหยหา และความรู้สึกแรกเจอคือรักและไม่อยากปล่อยให้เธอหลุดมือไป
ทีมของพีรดาสะกิดเธอให้เข้าลิฟต์ ส่วนอธิชนม์ที่ตอนแรกว่าจะออกไป แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว เพราะคนที่ยืนข้างๆเขาตอนนี้
“บริษัทธนศาลอยู่ชั้นห้า ชั้นหก และชั้นเจ็ด แล้วฝ่ายขายอยู่ชั้นไหนล่ะแพม” กนกนาถถาม
“ชั้นห้า” พีรดาตอบ ตอนนี้ใจเธอเต้นรัวที่ได้ยืนอยู่ข้างๆเขา อธิชนม์ก็ไม่ต่างกัน เขาตื่นเต้นมากที่เธอยืนอยู่ข้างๆเขาตอนนี้
“จากบริษัทรวมสื่อดีรึเปล่าครับ” อธิชนม์ถาม สบตาพีรดานิ่ง
“ใช่ค่ะ” พีรดาตอบ หน้าแดงด้วยความเขิน
“ผมทำงานที่นี่ เดี๋ยวผมพาไปที่ห้องประชุมเองครับ” อธิชนม์เสนอความช่วยเหลือ
“ขอบคุณนะคะ” กนกนาถตอบ แล้วมองสองคนที่ยืนอยู่ด้านในสุดของลิฟต์ที่จ้องตากันไม่กระพริบ แล้วหันไปพยักพเยิดกับคนในทีมอีกสองคน
อธิชนม์เดินนำกลุ่มของเธอไปที่แผนกขายของบริษัทและตรงไปที่ห้องประชุม โชคดีที่เขาเคยบอกพนักงานว่าไม่ต้องไหว้เขาบ่อย ไม่อย่างนั้นคนที่เดินตามมาอาจเกร็งก็ได้
อธิชนม์พาทีมของพีระดาไปนั่งที่โต๊ะประชุมแล้วบอกให้คนเอากาแฟและน้ำเปล่ามาเสิร์ฟทีมออกแบบสื่อที่เขากำลังจะจัดจ้างเพื่อให้ทำโฆษณาให้
สักพักฝ่ายขายก็เริ่มทยอยเข้ามา แล้วแยกย้ายไปนั่งประจำที่ ผู้จัดการฝ่ายขายงงเล็กน้อยเมื่อเห็นประธานกรรมการเข้าร่วมการประชุมเล็กๆนี้ด้วย ทั้งๆที่เลขานุการของเขาบอกแล้วว่าจะไม่มาฟัง
อธิชนม์ให้ผู้จัดการฝ่ายขายนั่งเก้าอี้ตัวแรก เป็นนัยว่าให้เขาเป็นคนตัดสินใจในการประชุมครั้งนี้
เขามองพีรดาและทีมแนะนำตัวเอง จำชื่อของเธอเอาไว้ พีรดาหรือแพมที่ทีมของเธอเรียก
พีรดาและทีมนำเสนอรูปแบบโฆษณามาสามรูปแบบ น่าสนใจทั้งสามแบบ ผู้จัดการขอความเห็นเขา เขาบอกแล้วแต่ผู้จัดการ เพราะเขาชอบทั้งสามแบบ ผู้จัดการเลยเลือกแบบแรก เพราะตรงคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ที่สุดแล้ว อธิชนม์พยักหน้าเห็นด้วย