บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“พ่อ พ่อคะ” จอมขวัญเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อทว่าขณะนั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากโรจน์เลยแม้แต่น้อย เธอจึงค่อยๆ ยื่นมือไปวางใกล้ๆ จมูกและสิ่งที่ได้รู้ก็ทำให้จอมขวัญตัวเย็นวาบทันที

“พ่อ” เสียงร้องตะโกนของเธอดังลั่นรถทำให้เขตต์หยุดรถทันที ชายหนุ่มโทรเรียกรถฉุกเฉินทว่าทุกอย่างกลับสายไปแล้ว

จอมขวัญร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ทั้งๆ ที่หมอก็เคยบอกให้เธอเตรียมใจรับมือกับเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียพ่อมาบ้างแล้วแต่พอวันนั้นมาถึงจริงๆ เธอกลับช็อกจนรับมือกับมันไม่ได้ ใจสลายสิ่งเดียวที่ทำได้คือร้องไห้แล้วกอดศพของพ่อผู้ให้กำเนิดไม่ยอมปล่อย

แต่แม้จะอยากยื้อแค่ไหนพ่อก็จากเธอไปอยู่ดี ขณะที่จอมขวัญยังตั้งสติไม่ได้เขตต์ก็เข้ามาจัดการเรื่องงานศพโรจน์เพราะรู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว จอมขวัญยังคงร้องไห้แทบจะตลอดเวลาและคืนก่อนที่จะเผาศพเธอก็ฝันถึงพ่อ

ในฝันพ่อบอกเธอว่ามาลาและบอกให้เธอเข้มแข็ง ซึ่งในฝันจอมขวัญเห็นว่าสีหน้าของพ่อดูสดใสไม่ได้ดูอิดโรยเหมือนที่ผ่านๆ มา เสื้อผ้าที่สวมใสก็ใหม่และสะอาดไม่ได้มอซอเช่นกัน

“พ่อ” จอมขวัญสะดุ้งตื่นก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องแต่กลับเจอเพียงความว่างเปล่า หัวใจเธอเต้นแรงกับความฝันเมื่อครู่ “ขวัญสัญญาว่าจะเข้มแข็งค่ะ”

วันรุ่งขึ้นจอมขวัญก็ทำหน้าที่ส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างดี โดยแขกที่มาร่วมงานมีแค่เธอกับเขตต์สองคนเท่านั้น ขณะที่ยืนมองดูเปลวเพลิงสีแดงที่กำลังลุกไหม้เผาร่างผู้เป็นพ่ออยู่ในเมรุจอมขวัญก็ปาดน้ำตาเช่นกันและบอกกับตัวเองว่าเธอจะขอร้องไห้เป็นครั้งสุดท้าย

อัฐิส่วนหนึ่งของโรจน์ถูกเก็บไว้ที่วัดในขณะที่ส่วนหนึ่งจอมขวัญได้นำไปลอยอังคาร โดยทุกๆ อย่างเขตต์มักจะคอยช่วยเหลือเสมอและเพราะเกรงใจมากหลังเสร็จสิ้นงานศพพ่อจอมขวัญจึงเลือกที่จะออกไปจากบ้านชายหนุ่มด้วยการหิ้วกระเป๋ามาบอกลาเขา

“ได้ที่อยู่ใหม่แล้วเหรอถึงจะออกไปจากบ้านฉัน” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ในใจก็นึกเป็นห่วงที่จอมขวัญอยากออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองแบบนี้ เพราะมั่นใจว่าเธอเป็นแค่นกที่พึ่งหัดบินได้ไม่นาน ขืนออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อมได้ถูกเด็ดปีกแน่

“ยังค่ะ แต่หนูตั้งใจว่าวันนี้จะไปเดินหาห้องเช่าก่อน” จอมขวัญตั้งใจว่าจะหาห้องเช่าและหางานทำที่กรุงเทพฯ เธอคงไม่ไปที่ไหนเพราะบ้านหลังสุดท้ายก่อนหน้านี้ได้ขายไปแล้ว

“เดิน”

“ค่ะ เดิน” คนถูกถามตอบรับอย่างหนักแน่น แต่เขตต์รู้ว่าการใช้ชีวิตที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกับผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

“รู้ใช่ไหมว่าที่นี่คือกรุงเทพฯ คือเมืองหลวงที่ไม่ได้สวยหรูถึงขนาดที่เธอ ผู้หญิงคนเดียวจะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าหาห้องเช่าหางานแล้วจะได้มันง่ายๆ”

“คือว่าหนู” คำพูดของเขตต์ทำให้จอมขวัญอึกๆ อักๆ ทันที นั่นเพราะเธอยอมรับว่าไม่ได้คิดอะไรให้มันรอบคอบ ใจคิดแค่อย่างเดียวว่าไม่อยากอยู่รบกวนเขตต์ไปมากกว่านี้แค่นั้น

“แล้วก็รู้ใช่ไหมว่าก่อนตายพ่อเธอฝากฝังเธอไว้กับฉัน”

“รู้ค่ะ แต่หนูไม่อยากเป็นภาระของคุณ”

“การที่เธอออกไปจากบ้านทั้งๆ ที่ยังไม่มีที่อยู่ด้วยซ้ำรวมถึงยังไม่ได้งานแบบนี้คิดว่าดีแล้วอย่างนั้นเหรอ ถ้าพ่อเธอโกรธแล้วมาหักคอฉันขึ้นมาทำไง” เขตต์แกล้งเอาเรื่องโรจน์มาขู่ ซึ่งเดาว่าจอมขวัญต้องแย้งทันทีและก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“พ่อหนูไม่ใช่คนแบบนั้นนะคะ”

“ใครจะไปรู้ เอาเป็นว่าเธอควรอยู่ที่นี่ไปก่อน เรื่องงานถ้าจะทำฉันไม่ห้ามผ่านทดลองงานเมื่อไหร่ค่อยย้ายออกก็ได้นี่” ชายหนุ่มเสนอทางเลือกซึ่งคราวนี้จอมขวัญบอกเหตุผลเขาไปตรงๆ เช่นกัน

“หนูเกรงใจคุณ”

“เกรงใจก็ต้องอยู่ที่นี่แล้วทำตามที่ฉันบอกไปก่อน แบบนั้นมันน่าจะดีทั้งกับฉันแล้วก็เธอ รวมถึงโรจน์เองก็ด้วย”

“ถ้าคุณจะให้หนูอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหนูขอช่วยงานบ้านได้ไหมคะ” นั่นเพราะจอมขวัญไม่รู้ว่าจะตอบแทนชายหนุ่มยังไง

“เอาสิ อยากทำงานบ้าน งานสวน ปลูกผัก ปลูกดอกไม้อะไรก็ตามสบาย”

“หนูทำแบบบนั้นได้จริงๆ เหรอคะ” แววตาของเด็กสาวเปล่งประกายขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขตต์อนุญาต

“ได้ อยากทำอะไรก็ทำขอแค่ไม่เปลี่ยนบ้านของฉันเป็นป่าดงดิบก็พอ”

“ขอบคุณค่ะ” จอมขวัญยกมือไหว้ขอบคุณเขตต์ซึ่งชายหนุ่มก็รับไหว้เช่นกัน ยิ่งเธอทำตัวเหมือนเขามีบุญคุณล้นฟ้าแบบนี้กลับยิ่งไม่ชอบใจเท่าไหร่

“เรื่องงาน เดี๋ยวฉันช่วยหาให้อีกแรง”

“ขอบคุณค่ะ คุณคือผู้มีพระคุณของหนูกับพ่อ” คำพูดซื่อๆ ของจอมขวัญทำให้เขตต์ลอบยิ้มออกมา ก่อนจะบอกให้เธอเอากระเป๋าไปเก็บแล้วอยากทำอะไรก็ไปทำ

ตำแหน่งงานที่บริษัทหรือที่โรงงานของเขตต์นั้นว่างอยู่หลายตำแหน่งและบางตำแหน่งที่เปิดรับก็ตรงกับคุณสมบัติของจอมขวัญ ทว่าหากให้เธอไปทำงานที่นั่นก็เกรงจะถูกจับผิดเพราะตอนนี้จอมขวัญยังอาศัยอยู่ที่บ้านเขา หากเกิดเรื่องซุบซิบนินทาก็คงยิ่งปานปลายเป็นไฟลามทุ่ง

ทางออกของเขตต์คือการฝากเธอให้ไปทำงานกับบริษัทของเพื่อนสนิทแทน โดยเล่าที่มาที่ไปว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องทำแบบนี้ให้เกื้อฟังเสียก่อน

“โอเค แต่เพื่อไม่เป็นที่ครหาเดี๋ยวให้เธอทำตามขั้นตอนแล้วกัน เกิดคนอื่นรู้เธอจะถูกหมายหัว”

“ฝากด้วยแล้วกันเกื้อ”

“ไม่มีปัญหา ว่าแต่ตอนนี้นายเป็นไงบ้าง” คำถามของเพื่อนสนิททำให้เขตต์คิ้วขมวดเล็กน้อยหรือว่าเรื่องนั้นจะลอยไปเข้าหูเกื้อให้แล้ว

“เป็นไงบ้างคือยังไง”

“อ้าว! ได้ข่าวว่ากำลังไปดูตัวไม่ใช่เหรอ”

“อ้อ เรื่องนั้น” เขตต์เดาไว้ไม่มีผิด สังคมที่เขาอยู่ว่าจะกว้างก็กว้างจะว่าแคบก็แคบ เพราะแค่ขยับตัวหรือมีเรื่องอะไรให้ต้องสนใจเป็นพิเศษก็เหมือนจะรับรู้กันได้อย่างรวดเร็ว

“ว่าไงครับ ถูกใจใครบ้างหรือยัง”

“ยัง” คำตอบของเขตต์ทำให้เกื้อค่อนข้างแปลกใจ เพราะเท่าที่รู้โปรโฟล์ของคู่เดตเขตต์แต่ละคนนั้นไม่ธรรมดา ทั้งทายาทนักธุรกิจพันล้านหรือไม่ก็ลูกหลานนักการเมืองเบอร์ต้นๆ ของประเทศด้วยซ้ำ

“สงสัยฟ้าจะให้แต่ความหล่อรวยไม่ได้ให้เนื้อคู่นายมาด้วยมั้ง”

“คงแบบนั้น แค่นี้นะ พอดีติดประชุม”

“ครับผม” เกื้อเอ่ยรับแล้ววางสายไป ในขณะที่เขตต์ก็เก็บเอาคำพูดของเพื่อนสนิทมาคิด

“สงสัยฟ้าจะลืมติ๊กถูกตรงเนื้อคู่อย่างที่เกื้อพูดมั้ง ช่างเถอะ” เขตต์พึมพำกับตัวเองก่อนจะสะบัดหน้าเล็กน้อยเพื่อไล่เรื่องไร้สาระให้ออกไปจากสมองแล้วดึงสติกลับมาเพื่อทำงาน

ชีวิตนี้เขาเหมือนจะอุทิศให้กับงานเท่านั้น เพราะทำอย่างอื่นหรือสนใจอะไรได้ไม่นานก็เบื่อโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีรูปแบบซ้ำซากเดาทางได้เกือบทั้งนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel