บทที่ 3
“เรียนจบแล้วหรือยัง” เสียงทุ้มของเขตต์เอ่ยถามขึ้นพร้อมพินิจมองโครงหน้าเล็กๆ ราวกับต้องมนต์
“จบแล้วค่ะ กำลังรอรับปริญญา”
“เรียนจากคณะอะไร”
“บริหารค่ะ” จอมขวัญเอ่ยบอก ทว่าเมื่อได้สบตาอีกฝ่ายจู่ๆ ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันประหม่าจนใจเต้นแรงหรือเธอจะตากฝนจนไม่สบาย
“คืนนี้ได้ที่พักกันหรือยังถ้ายังไม่มีก็นอนกันที่นี่ เดี๋ยวฉันให้แม่บ้านจัดการให้ อ้อ…นานๆ เราจะเจอกันสักทีคืนนี้โต้รุ่งหน่อยเป็นไร” เมื่อคุยกับเด็กสาวตรงหน้าเสร็จเขตต์ก็หันมาคุยกับเพื่อนเก่า
“ได้ครับคุณเขตต์”
“แต่พ่อ…” จอมขวัญกำลังจะแย้งเพราะสุขภาพของพ่อเธอเวลานี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับการโต้รุ่ง แต่ก็ถูกโรจน์ปรามเอาไว้
คืนนั้นเขตต์และโรจน์นั่งคุยกันตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งคู่ต่างหยิบเอาเรื่องราวในอดีตซึ่งมีทั้งดีและไม่ดีมาเล่าสู่กันฟัง
“ทำไมคุณเขตต์ยังไม่แต่งงานอีกครับ” โรจน์เอ่ยถามเพราะเขานึกว่าช่วงที่ขาดการติดต่อกันเขตต์จะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วเสียอีก
“ตอบยังไงดี อืม…ฉันยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า ผู้หญิงที่ไหนจะมาชอบผู้ชายบ้างานแถมยังไม่โรแมนติกแบบฉัน” เขตต์ส่ายหน้าให้เรื่องความรักของตัวเองเพราะมันเหมือนจุดด่างพร้อยที่พยายามแค่ไหนก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ พอพยายามมากเข้าก็รู้สึกเบื่อและเลือกที่จะโสด
พี่ชายคนโตแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วส่วนคนกลางอยู่ต่างประเทศไม่มีกำหนดกลับเมืองไทย จึงเหลือก็แค่เขาที่ยังโสดและไม่รู้ต้องโสดไปอีกถึงเมื่อไหร่อีกด้วย ทว่าตอนนี้เขากลับสบายตัวดีต่อให้ยังไม่มีใครก็ตาม
แต่ขณะที่คุยกันอยู่นั้น จู่ๆ โรจน์กลับไอเป็นเลือดออกมา เขตต์ตกใจและจะพาไปโรงพยาบาลทว่าโรจน์กลับรั้งไว้ ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงว่าเพราะอะไรเขาถึงมาหาเขตต์กะทันหันรวมไปถึงอยากให้เขตต์ช่วยเรื่องอะไร
“ผมขอโทษนะครับคุณเขตต์ ที่จู่ๆ ก็มาขอให้คุณช่วยแบบนี้”
“ฉันดีใจที่นายคิดถึงฉันเป็นคนแรก ไม่ต้องห่วงฉันจะดูแลลูกสาวของนายเอง”
“ได้ยินแบบนี้ผมก็นอนตายตาหลับแล้วครับ” คำพูดของโรจน์ทำให้เขตต์ลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ นั่นเพราะไม่คิดว่าตอนนี้โรจน์จะป่วยหนักถึงขนาดนี้และการที่ดั้นด้นมาฝากฝังจอมขวัญไว้กับเขา เด็กสาวคนนั้นจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า
วันรุ่งขึ้นเขตต์ตัดสินใจพาโรจน์ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดกับหมอที่เขารู้จักอีกครั้ง แม้คนป่วยจะไม่ยอมไปแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งผลตรวจที่ออกมากลับทำให้เขตต์คิ้วขมวดเพราะมันร้ายแรงกว่าที่เขาคิดไว้มาก ผ่าตัดไม่ได้ ยาที่กินอยู่ตอนนี้ก็เหมือนจะไม่ได้ผล
“เธอรู้เรื่องที่โรจน์กำลังป่วยอยู่หรือเปล่า”
“รู้ค่ะ” จอมขวัญเอ่ยรับ เมื่อก่อนพ่อก็ปิดบังเรื่องนี้ไม่ยอมให้เธอรู้เหมือนกันแต่อาการป่วยที่ทรุดหนักลงทุกวันสุดท้ายพ่อก็ปิดมันไว้ไม่ได้
“หมอที่เก่าพูดว่าไงบ้าง”
“หมอบอกให้หนูทำใจ” คำพูดของจอมขวัญทำให้เขตต์เลือกที่จะไม่เอ่ยอะไรที่กระทบต่อใจเธอไปมากกว่านี้ “แล้วหมอก็ยังบอกให้หนูอยู่กับพ่อให้มากๆ พ่ออยากทำอะไรอยากไปไหนก็ให้พาไป” น้ำเสียงของจอมขวัญสั่นเครือ นั่นเพราะไม่คิดว่าพ่อจะป่วยหนักถึงขนาดที่หมอบอกให้ทำใจล่วงหน้าแบบนี้
“พ่อเธอเคยบอกว่าอยากไปทะเล งั้นพรุ่งนี้เราไปกัน”
“ไปทะเลหรือคะ”
“ใช่ ตอนที่พึ่งรู้จักกันฉันถามพ่อเธอว่าอยากไปที่ไหนโรจน์บอกทะเล ทำหน้าแบบนี้ถ้าให้เดาโรจน์คงไม่เคยบอกเธอ ใช่ไหม” แค่เห็นสีหน้าแววตาเขตต์ก็เดาความคิดของจอมขวัญออก อาจเพราะเขาผ่านโลกใบนี้มามากกว่าเธอ เขาสี่สิบแล้วในขณะที่เธอน่าจะอายุแค่ยี่สิบต้นๆ เพราะพึ่งเรียนจบ
“ค่ะ พ่อไม่เคยบอกเลย หนูถามกี่ครั้งว่าพ่อก็ตอบแค่ว่าไม่มีที่อยากไป”
“ฉันเดาเอาว่าที่โรจน์ตอบแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เธอลำบาก”
“ทำไมพ่อถึงเอาแต่คิดถึงหนูไม่คิดถึงตัวเองก่อน”
“ก็เพราะนั่นคือพ่อเธอ โรจน์เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าเห็นแก่ตัวสักนิดคงไม่ปล่อยให้ตัวเองป่วยหนักขนาดนี้” เขตต์ถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาอายุมากกว่าโรจน์สองสามปีทว่าตอนนี้ร่างกายของโรจน์กลับทรุดโทรมเหมือนคนอายุห้าสิบหกสิบบ่งบอกว่าที่ผ่านมาคงใช้งานร่างกายอย่างหนัก
การได้เห็นทะเลก่อนตายแบบนี้ทำให้โรจน์มีความสุขเหลือเกิน นั่นเพราะหนึ่งในความฝันของคนบ้านนอกแบบเขาคือการได้มานั่งมองทะเล รวมถึงได้ย่ำเท้าเปล่าลงไปบนชายหาดเพื่อสัมผัสเม็ดทรายดูสักครั้ง พอได้ทำอย่างที่อยากทำก็นอนตายตาหลับ
ต่างจากจอมขวัญที่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ตลอดเวลา เธอพยายามส่งยิ้มให้พ่อทั้งๆ ที่มันยากเหลือเกิน ซึ่งเขตต์ก็ไม่รู้จะปลอบยังไงเช่นกัน ค่ำวันนั้นชายหนุ่มเลี้ยงอาหารทะเลทั้งคู่ชุดใหญ่ก็ว่าได้ อะไรที่โรจน์กับจอมขวัญไม่เคยกินก็ได้กินรวมถึงการได้นอนค้างในโรงแรมสุดหรู
“พ่อบุญน้อยอยู่กับหนูได้อีกไม่นานแล้ว”
“ทำไมพูดแบบนั้นละคะพ่อ”
“ต่อไปนี้คุณเขตต์จะดูแลลูกของพ่อเอง เป็นเด็กดีรู้ไหม”
“พ่อ”
“อีกเรื่องที่พ่อยังไม่ได้บอก บ้านหลังนั้นไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว พ่อขายบ้านไปแล้วนะลูก” จอมขวัญพยักหน้ารับ เธอรู้ว่าเพราะอะไรพ่อถึงยอมตัดใจขายบ้านหลังนั้น
พ่อยอมขายทุกอย่างในบ้านก่อนเพื่อส่งให้เธอเรียนต่อ เพราะไม่อยากให้เธอไปกู้เงินมาเรียนแล้วพอเรียนจบต้องทำงานงกๆ ใช้ทุนคืน พ่ออยากส่งให้เธอถึงฝันด้วยสองมือของพ่อเอง กระทั่งค่าใช้จ่ายมันมากขึ้นตอนที่พ่อล้มป่วย จากที่แค่เอาบ้านไปกู้ก็เป็นการขายขาด
“ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานแล้วเก็บเงินให้เยอะๆ จากนั้นก็จะซื้อบ้านใหม่ของเรานะคะ พ่ออยู่กับขวัญนะ” โรจน์ไม่ตอบรับคำขอนั้นของลูกสาว ทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้เท่านั้น
เวลาสองวันหนึ่งคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะขณะนี้ทั้งสามกำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ระหว่างทางนั้นจู่ๆ โรจน์ก็เงียบไปอย่างผิดปกติ
