ตอนที่ 3 – ตื่นในวัย 21
คเชนทร์ตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกหนักอึ้งในอก เหมือนหัวใจถูกบีบจนแทบแตก และลมหายใจยังไม่เต็มปอด ความมืดที่เคยโอบกอดเขาในห้วงโคม่าค่อย ๆ จางหาย ร่างกายเขายังเจ็บปวดจนแทบลืมหายใจ แต่ความเจ็บปวดนี้กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขายังมีชีวิตอยู่
“นี่…ฉันอยู่ที่ไหนกัน…” เสียงคิดกระซิบในหัว แต่เมื่อกวาดสายตามองรอบตัว กลับพบว่าห้องนอนที่เห็นไม่เหมือนห้อง ICU หรือห้องพักในโรงพยาบาลเลย มันเล็กและเรียบง่ายกว่ามาก — โต๊ะไม้เก่า ๆ เต็มไปด้วยหนังสือและสมุดจดที่เขาคุ้นตาแต่เหมือนกับผ่านไปหลายสิบปี
เขารีบลุกขึ้นนั่ง แต่ร่างกายอ่อนแรงและเจ็บแปลบทุกอณู ทำให้ต้องจับโต๊ะเก้าอี้ไว้แน่น ความทรงจำจากชีวิตวัยผู้ใหญ่ก่อตัวเป็นภาพซ้อนในหัว — การประชุมธุรกิจ การจัดการบริษัท ความสำเร็จและความล้มเหลวที่ผ่านมา
เสียงฝนกระทบหลังคาเบา ๆ ดังลอดหน้าต่างเข้ามา สอดคล้องกับฝันและภาพในมิติเมื่อครู่ ราวกับว่าโลกนี้กำลังเชื่อมต่อกับอีกโลกหนึ่งที่เขาเพิ่งออกมาจากโคม่า
คเชนทร์ยืนตัวแข็งทื่อ พยายามสำรวจร่างกายตัวเอง รู้สึกถึงมือที่แข็งแรงและผิวที่เนียนขึ้นกว่าเดิม หัวใจเต้นแรงมากกว่าที่เคย เขาจับแขนตัวเองแล้วหยิก — ความเจ็บปวดกระจายขึ้นมาทันที — นี่ไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างสมจริงเกินกว่าความฝันจะให้ได้
เขาเดินไปที่กระจก เห็นภาพเงาของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังและความกระชุ่มกระชวย ใบหน้าคุ้นเคยแต่กลับเป็นเวอร์ชันหนุ่มวัย 21 — นี่คือร่างของเขาเองในอดีต ทั้งข้อมือทั้งแขนยังไม่มีริ้วรอยของวัย 50 ปี ไม่มีร่องรอยความเหนื่อยล้า ไม่มีบาดแผลจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง
คเชนทร์พยายามพูดออกมา แต่เสียงของเขาแผ่วเบาเหมือนลมผ่านห้องเปล่า ใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสน — นี่มันเกิดอะไรขึ้น? โลกที่เขาอยู่เป็นเพียงความฝันจากอาการโคม่า หรือเขากลับมาในอดีตจริง ๆ
เขาเปิดประตูห้อง เดินลงบันไดไม้ที่เอียงเล็กน้อย หยาดฝนจากหน้าต่างลอดเข้ามาเป็นละอองน้ำบาง ๆ ผสมกับกลิ่นดินและหญ้าเปียก รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้อนรับเขากลับสู่วัยหนุ่มของตัวเอง
เมื่อออกไปยังโลกภายนอก เขาพบว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อาคารเรียนเก่า ๆ ถนนลาดยางที่ไม่เหมือนในปัจจุบัน รถจักรยานและนักศึกษาที่สวมเครื่องแบบปีหนึ่งวนไปมา ทุกอย่างชัดเจนจนทำให้เขาเกือบไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่…ฉันกลับมา…จริง ๆ ใช่ไหม?” เขาเอ่ยถามตัวเองเสียงเบา แต่ไม่มีใครตอบ ทุกเสียงที่ได้ยินเป็นเพียงเสียงฝนกระทบหลังคา เสียงลมพัดใบไม้ และเสียงนักศึกษาที่หัวเราะสนุกสนานกับเพื่อน
คเชนทร์เริ่มเดินไปตามถนนที่คุ้นเคย แต่ความรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยวยังตามหลอกหลอน แม้ร่างกายของเขายังอ่อนแรง ความทรงจำจากวัย 50 ทำให้เขารู้สึกว่าทุกความสุขที่เห็นรอบตัวเป็นเพียงภาพลวงตา เขาเห็นเพื่อนเก่าเดินผ่านไป แต่ทุกอย่างดูห่างไกลราวกับเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริง ๆ
เขาเดินเข้าสู่สนามมหาวิทยาลัย หยาดฝนที่เปียกปอนบนเสื้อทำให้เขาหยุดคิด — ทุกสิ่งเหมือนอดีตที่เขาจำได้ ทั้งมุมอาคาร ลานกว้าง และต้นไม้ใหญ่ที่เขาเคยปีนเล่นตอนวัยรุ่น
“นี่…ฉันย้อนเวลาได้จริง ๆ หรือ…?” เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหม่น ความสงสัยผสมความกลัวและความหวัง รู้สึกถึงความเป็นไปได้ใหม่ของชีวิตแม้ใจยังสั่นสะท้าน
คเชนทร์เดินกลับเข้าไปในห้องพักของนักศึกษาเก่าที่เคยอยู่ในอดีต ข้าวของทุกชิ้นเป็นของเดิมที่เขาจำได้ชัดเจน หนังสือเก่า ๆ สมุดบันทึกยังวางอยู่ในมุมโต๊ะ เขาลองหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา — รู้สึกถึงสัมผัสแห่งเวลา ทุกหน้าที่พลิกผ่านมือเขาเหมือนพาย้อนสู่อดีต
เขานั่งลงและเริ่มมองลึกเข้าไปในชีวิตตัวเองอีกครั้ง ร่างกายหนุ่มทำให้เขาตระหนักว่าโอกาสครั้งที่สองมาถึงแล้ว สิ่งที่เขาเคยพลาดไปในชีวิตตอนวัยรุ่นตอนนี้สามารถแก้ไขได้ แม้หัวใจยังเจ็บปวดจากความเสียใจและความโดดเดี่ยวที่สั่งสมมา
คเชนทร์หยุดและปิดตา ลมหายใจสั่นเครือ ความรู้สึกเหมือนเวลาและความทรงจำปะทะกันอย่างรุนแรง ทุกอย่างในชีวิตวัย 50 ปีรวมกับชีวิตวัย 21 ปีทำให้หัวใจเขาสับสน — เขาเป็นใครกันแน่? ชีวิตไหนคือความจริง?
แต่เพียงชั่วครู่ แสงจ้าจากความฝันส่องเข้ามาอีกครั้ง — ภาพชายหาด แสงสลัว และกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจเป็นสัญญาณบางอย่างว่า เขาไม่ใช่เพียงคนที่หลงไปในอดีตเท่านั้น
คเชนทร์หันมองรอบตัวอีกครั้ง สัมผัสทุกอย่างราวกับเขากำลังถูกจับจ้องโดยโชคชะตา ทุกหยาดฝน ทุกเสียงหัวเราะ ทุกลมพัดใบไม้ที่เปียกชื้น — ทุกอย่างเหมือนบอกว่านี่คือโอกาสครั้งใหม่ที่เขาต้องเลือกให้ถูกต้อง…
เช้าวันใหม่ แสงแดดลอดผ่านม่านสีขาวในห้องเล็ก ๆ ของหอพักเก่าที่มีกลิ่นไม้ชื้นอ่อน ๆ คเชนทร์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง — คราวนี้ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ไม่มีฝนตก ไม่มีความมืดมิด มีเพียงเสียงนกร้องและลมหายใจตัวเองที่ชัดเจนจนแทบไม่กล้าขยับ
เขายังคงอยู่ในร่างหนุ่ม — แขนขาที่เคยปวดเมื่อยกลับเต็มไปด้วยพลัง ใบหน้าสะอาดใสไร้รอยย่น ผมดำหนาเหมือนสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย กลิ่นสบู่ราคาถูกจากห้องน้ำข้าง ๆ ลอยมาแตะจมูก — กลิ่นที่เขาจำได้ดีว่ามันเคยอยู่ในชีวิตเขาเมื่อสามสิบปีก่อน
คเชนทร์ยันตัวลุกขึ้นช้า ๆ เหมือนกลัวว่าการเคลื่อนไหวแรงเกินไปจะทำให้ภาพทั้งหมดนี้พังลง เขาเดินไปหน้ากระจกอีกครั้ง — ภาพสะท้อนตรงหน้ายังเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดในเสื้อยืดสีเทาจาง ๆ ดวงตายังไม่มั่นคงเหมือนคนเพิ่งเริ่มต้นชีวิต
ในแววตานั้น — มี “ความแก่ชรา” ที่ไม่มีใครมองเห็น
“นี่มัน...ไม่ใช่ความฝันแน่ ๆ แล้วสินะ” เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงแหบแผ่วแต่มั่นคงขึ้น
เขากระชับกำปั้นตัวเองและกระซิบเบา ๆ ว่า:
“ครั้งนี้…ฉันจะไม่พลาด…ฉันจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีกแล้ว…”
