ตอนที่ 2 – เสียงเครื่องยนต์สุดท้าย
ถึงตอนนี้...ความมืดเข้าปกคลุมทุกสิ่ง คเชนทร์รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองกำลังจมลงไปในน้ำลึก ไม่มีแรง ไม่สามารถขยับนิ้วได้แม้แต่สักนิ้ว เสียงฝนยังคงตีกระทบหน้าต่างของความทรงจำ เขารู้สึกถึงความเงียบที่หนักอึ้งกว่าเสียงสายฝนราวกับโลกหยุดหมุนไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างนอกที่จะทำให้หัวใจเต้นแรงได้อีก
“คุณคเชนทร์…ได้ยินไหม…คุณคเชนทร์…” เสียงแผ่วเบา ทุ้มต่ำ แต่ชัดเจน ก้องอยู่ในสมอง เสียงนั้นเหมือนคลื่นที่สั่นสะเทือนในอก ทำให้หัวใจของเขากระตุก ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ แต่เป็นเพราะความรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังเรียกให้เขากลับมาจากที่ที่เขาไม่มีสิทธิ์จะอยู่
เขาพยายามขยับมือ แต่ร่างกายเหมือนถูกล่ามด้วยโซ่เหล็ก แขนขาเหมือนเป็นของคนอื่น เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ดังแว่ว ๆ “ปี๊บ…ปี๊บ…ปี๊บ…” จังหวะชีวิตของเขาไม่ใช่การเต้นของหัวใจ แต่เป็นเสียงเครื่องมือวัดชีพจรที่จับจังหวะความมีชีวิตของเขาไว้อย่างไม่ปราณี
คเชนทร์รู้สึกถึงความเวิ้งว้างในตัวเอง ความโดดเดี่ยวที่เขาไม่เคยเผชิญในชีวิตปกติของผู้ชายวัย 50 ปีที่มีเงิน มีชื่อเสียง มีทุกอย่าง แต่ไม่มีใครรอเขาอยู่ในโลกนี้จริง ๆ เขาพยายามจำสิ่งรอบตัว — แสงสลัว สีของผนัง เสียงฝน เสียงลม — แต่ทุกอย่างกลายเป็นภาพเบลอ คล้ายภาพถ่ายที่ลืมปรับโฟกัส
ความคิดของเขาวนเวียนอยู่กับชีวิตที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่เขาเคยคิดว่ามีค่าที่สุด — ธุรกิจที่สร้างขึ้น ความสำเร็จที่ใคร ๆ ยกย่อง — ทั้งหมดเหมือนเถ้าถ่านในสายลม ไม่มีใครจำความเจ็บปวดของเขา ไม่มีใครรู้ว่าหัวใจที่ว่างเปล่าของเขาเต็มไปด้วยความเหงาและความเสียใจ
คเชนทร์ลอยออกจากร่างตัวเองในความมืดของจิตใต้สำนึก เขามองเห็นภาพย้อนอดีต ของชีวิตที่ผ่านมา — การประชุมที่เครียด, รอยยิ้มเย็นชาในงานเลี้ยง, การตัดสินใจที่ทำร้ายคนที่เขาไม่เคยรักอย่างแท้จริง เสียงผู้คนพูดคุยรอบตัวเขากลายเป็นเสียงสะท้อนในหัว ทุกอย่างดูห่างไกลจนแทบจะไม่มีความหมาย
แล้วภาพหนึ่งปรากฏขึ้น — เหมือนแสงที่ลอดผ่านม่านฝน ร่างของชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง ล้อมรอบด้วยเครื่องมือแปลกประหลาด เสียงเตือนชีพจรดังประสานกับเสียงฝนราวกับโลกสองใบกำลังทับซ้อนกัน คเชนทร์รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ฝัน แต่เหมือนเป็นหน้าต่างที่เปิดไปยังอีกโลกหนึ่ง
เขาพยายามกวาดตามองไปรอบ ๆ ความมืดนั้นไม่ใช่ความว่างเปล่าธรรมดา แต่มันเต็มไปด้วยความเงียบที่กดดัน คำถามผุดขึ้นในหัว:
“ฉัน…ยังมีชีวิตอยู่จริงหรือ?”
“ฉัน…จะกลับไปอยู่ที่เดิมได้ไหม?”
ทุกคำถามไร้คำตอบ เสียงแผ่วเบายังคงก้องอยู่ในหัว — เรียกชื่อเขาเหมือนการกระซิบจากขอบโลก
คเชนทร์เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่าง เสียงเครื่องยนต์ของรถที่ตกสะพานยังคงดังซ้ำ ๆ ในหัว เขาเห็นภาพความมืดและแสงวูบวาบของไฟหน้ารถ เหมือนกับอดีตและปัจจุบันชนกัน เขาพยายามยิ้ม — แต่ไม่มีรอยยิ้มที่ออกมาได้ มีเพียงความรู้สึกว่างเปล่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามาเป็นระลอก— เจ็บปวดกาย, เจ็บปวดใจ, เจ็บปวดจากการสูญเสียทุกสิ่งที่เคยคิดว่ามีค่า ช่วงเวลานั้น เขารู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองถูกดึงออกจากอก
ร่างกายของคเชนทร์ยังคงนิ่งสนิท แต่จิตใจของเขาราวกับโบยบินอยู่เหนือความจริง เขารู้สึกถึงแรงดึงบางอย่าง ดึงเขาออกจากร่างที่บาดเจ็บหนัก ดึงเขาออกจากโลกที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ไม่มีใครได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจริง ๆ นอกจากเขาเอง
“ฉัน…อยู่ไหนกันแน่…” เสียงคำถามนั้นก้องอยู่ในหัว แต่ไม่มีลมหายใจใดพาออกมาข้างนอก
เขาเริ่มเห็นภาพแสงสีขาวประปรายในความมืด เหมือนหลอดไฟเก่าที่กะพริบในความทรงจำเก่า ๆ ช่วงเวลาในวัยเด็กและวัยรุ่นโผล่มาอย่างไม่เรียงลำดับ เขาเห็น ความล้มเหลวในชีวิตวัยผู้ใหญ่แวบเข้ามา ภาพห้องประชุมที่เสียงหัวเราะลวง ๆ ของเพื่อนร่วมงาน, การตัดสินใจทางธุรกิจที่ทำร้ายใครบางคนโดยไม่รู้ตัว, และทุกครั้งที่เขามองเห็นภาพเหล่านั้น หัวใจของเขาก็เต้นแรงจนเหมือนจะระเบิด
ฝนตกหนักอยู่ในหัวของเขาเอง เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาในอดีต ผสมรวมกับเสียงเครื่องมือทางการแพทย์ ปี๊บ…ปี๊บ…ปี๊บ… ทำให้เขาแทบแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นความจริงหรือความทรงจำ เสียงเรียกชื่อ “คุณคเชนทร์…ได้ยินไหม…” ยังคงสะท้อนในหัว เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างสองโลก
เขาพยายามขยับร่าง แต่มือและขาของเขาไม่ตอบสนอง ความรู้สึกของการถูกจำกัดนี้ยิ่งทำให้เขาสิ้นหวังมากขึ้น รู้สึกถึงความว่างเปล่าอย่างที่สุด — ชีวิตที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความสำเร็จ แต่ไม่มีใครรอเขาจริง ๆ
ในความมืดนั้น เขาเริ่มเห็น ภาพฝันสั้น ๆ — เป็นภาพแวบเดียวที่เหมือนประตูเปิดสู่โลกอื่น ภาพนั้นเป็นชายหาดในยามฝนพรำ แสงสลัวของไฟจากบ้านเล็ก ๆ ส่องสะท้อนน้ำ คเชนทร์รู้สึกถึง กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยมาในอากาศ แม้จะเป็นเพียงภาพฝัน มันกลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงกว่าครั้งไหน ๆ
“นี่…มันคือความฝัน หรืออะไร…?” เขาพูดกับตัวเองในหัว แต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับ มีเพียงความเงียบและการเต้นของหัวใจในเครื่องวัดชีพจร
แต่แล้ว ความรู้สึกแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น — ราวกับโลกสองใบกำลังชนกัน เขาเห็น มือที่ยื่นออกมาจากแสงสีขาว มือที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความคุ้นเคย แม้เขาจะไม่รู้จักใคร แต่บางสิ่งในใจบอกว่า เขาต้องไปหามัน
คเชนทร์รู้สึกถึงแรงดึงรุนแรง ราวกับถูกพัดไปยังอีกที่หนึ่ง ร่างกายที่นิ่งสนิทถูกดึงเข้าสู่ อาณาเขตที่ไม่ใช่โลกเดิม มุมมองเริ่มเบลอ ภาพชายหาด, เสียงฝน, กลิ่นกาแฟ — ทุกอย่างผสมรวมกันเป็นความรู้สึกไม่อาจอธิบายได้
แล้วแสงสีขาวก็กว้างขึ้นจนกลืนทุกสิ่งในความมืด เขาได้ยินเสียงเรียกชื่ออีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงจากโลกแห่งความจริง เสียงนั้นอบอุ่นและชัดเจนกว่าที่เคย — เป็นเหมือนสะพานสู่ชีวิตอีกมิติหนึ่ง
ร่างของคเชนทร์เริ่มเบาลง ราวกับถูกยกขึ้นจากความเจ็บปวด ความมืดรอบตัวค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย เหลือเพียงแสงสลัวและความรู้สึกของชีวิตใหม่ที่กำลังรอเขาอยู่
ในหัวเขาเกิดความคิดหนึ่ง:
“ฉัน…ยังมีโอกาสอีกครั้งใช่ไหม…?”
แต่ก่อนที่เขาจะตอบตัวเองได้ เสียงฝนและเสียงเครื่องมือทางการแพทย์ ค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงแสงสว่างที่กำลังดึงเขาไป…
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโลกใบใหม่ — โลกที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาตลอดไป
