chapter 5 ฟิวส์ขาด (จบตอน)
“เออ กูเกือบปล้ำเขา มีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไอ้วินซ์! ตอนแรกบอกไม่สนใจไหงตอนนี้จะปล้ำเขาซะแล้ว เล่ามาเลยไอ้สัตว์ความสัมพันธ์ดูจะไปไกลกว่าที่กูคิดเยอะล่ะ ยังไม่ทันถึงอาทิตย์เลย”
วินซ์เงียบกลืนเหล้าเข้าปากอึกหนึ่ง นึกถึงแววตาสุกสกาว ใบหน้ามีความสุขที่ได้ดูแลกัน มันทำให้รู้สึกอบอุ่น…จนอยากจะเป็นเจ้าของ
“ก็ดวงตาคู่นั้นเอาแต่มองกู มองด้วยความห่วงใย มองอย่างรักใคร่เอ็นดู มองเหมือนภาคภูมิใจในตัวกูมาก… แม่ยังไม่เคยมองกูแบบนี้เลย กู…” ‘คงหลงรักเขาให้แล้วว่ะ’ วินซ์ตั้งใจจะสารภาพความในใจออกไป แต่อยู่ๆ เพื่อนก็ตะโกนเรียกชื่อเธอขึ้นมาด้วยความแตกตื่นจนต้องหันกลับไปมอง แต่ภาพที่เห็นก็ทำเอาหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ภาพที่เห็นร่างบางโดนไอ้ซีโร่เดินโอบขึ้นมาในสภาพผมที่เคยรวบตึงหลุดหลุ่ยออกมาจนไม่เป็นทรง ลำตัวสั่นเทากอดก่ายตัวเองเอาไว้แน่นโดยมีเสื้อคลุมของซีโร่ทับอยู่บนไหล่
…คิดดีไม่ได้เลย
เขาเผลอกัดฟันจนเจ็บกรามไปหมด มือไม้สั่นเหมือนคนขาดยา…ทั้งที่ไม่เคยเสพ
“วินซ์…” รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงชิรันเรียกอยู่ไกลๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเปี๊ยะบางอย่างมันขาดสะพรั่นอยู่ข้างหู
“ไอ้วินซ์! ปล่อย! เป็นเชี่ยไรเนี่ย!”
เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นรอบตัวรู้สึกตัวอีกทีก็คร่อมอยู่บนตัวไอ้ซีโร่พร้อมกับขวดปากฉลามก็อยู่ในมืออีกข้างซึ่งไอ้ชิรันกำลังรั้งเอาไว้อยู่ ส่วนไอ้ซีโร่ที่นอนอยู่ใต้ร่างมองมาด้วยสายตาฉงนไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิด วินซ์มองไปรอบๆ เหมือนจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฟรังก์ช็อกจนลงไปนั่งอยู่บนพื้นข้างตัว ส่วนไอ้ชิรันก็ยืนรั้งแขนของผมเอาไว้ด้วยสีหน้าแตกตื่น
ฝ่ามือนั้นค่อยๆ ปล่อยปากขวดลงกับพื้นพร้อมกับทิ้งตัวลงด้านข้าง ยกมือขึ้นลูบหน้าสองสามทีเพื่อเรียกสติเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าเผลอกลั้นหายใจ ตอนนี้เลยอยู่ในสภาพนั่งหอบกอบโกยลมหายใจถี่
ความรู้สึกเมื่อกี้มันคืออะไรกัน… ความรุ่มร้อนที่เหมือนถูกแผดเผาให้ตายทั้งเป็น
ฆ่า…
จิตอาฆาตแค้น และกลัว…
กลัวจับจิตจับใจ…
“สงสัยกูจะเมาแล้ว ขอตัวก่อนนะ”
วินซ์พูดได้เพียงเท่านั้นก็วิ่งลงไปข้างล่างเลย ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งตามไปแต่ชิรันรั้งเธอเอาไว้ก่อนพร้อมส่ายหัวเป็นเชิงว่า ‘ปล่อยมันไปก่อน’
ฟรังก์ลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า… นั่นสิ เมื่อคืนหลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญระหว่างไปเข้าห้องน้ำมีคนเมาที่ไหนไม่รู้พยายามฉุดกระชากลากเธอเข้าไปลวนลามในห้องน้ำ เธอพยายามขัดขืนเต็มที่จนในที่สุดก็มีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งเข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากรู้ว่าเธอมากลับวินซ์เลยพามาส่ง แต่ไม่รู้เพราะเมาหรือกลัวถึงขีดสุดกันแน่เลยทำให้เธอเดินไม่ตรง แล้วด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเมื่อเห็นสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยีก็เลยถอดเสื้อมาคลุมไหล่ให้แล้วเดินประคองขึ้นมาด้านบน ทว่าอยู่ๆ วินซ์ที่เห็นภาพนั้นก็เอาขวดเบียร์ข้างตัวกระแทกโต๊ะจนแตกแล้วกระโจนเข้าหาผู้ชายคนนั้นที่มารู้ทีหลังว่าเป็นเขาชื่อซีโร่ โชคดีที่ชิรันไวกว่าคว้าแขนที่กำปากขวดเอาไว้ทัน ไม่งั้นนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นยังไง
แล้วหลังจากนั้นวินซ์ก็วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย พักให้ฟรังก์หายตกใจสักครู่ชิรันก็ขับรถมาส่งเธอที่อพาร์เม้นต์และ…
…เขาไม่ได้กลับห้องทั้งคืน
เธอสลัดหัวให้สมองโปร่งก่อนจะเดินออกมาข้างนอก
“วินซ์…”
ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งไปหาเขาที่โซฟา แต่สายตาซึ่งเงยขึ้นมาสบนั้นช่างว่างเปล่าจนเธอไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน
“อาบน้ำแต่งตัวซะ คุณต้องไปกับผม”
ฟรังก์เลิกคิ้ว ไปไหน?
ดูจากสภาพเขาแล้วเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน อยากรู้จังว่าเขาหายไปไหนมา แต่ก็ไม่กล้าถามจึงทำได้เพียงพยักหน้า แล้วเดินมาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ชอบใส่ออกมา แต่ก่อนจะปิดตู้สายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งปิดปกติทางฝั่งเสื้อผ้าของวินซ์ก่อนถอนหายใจ แล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าท่ามกลางสีดำออกมาแล้วใส่กลับไปใหม่ในหมู่เสื้อผ้าสีอ่อนก่อนคลี่ยิ้มแล้วรวบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป
หญิงสาวหันมองซ้ายขวาหารถbmwสีฟ้าครามแต่กลับพบเพียงแค่รถซุปเปอร์คาร์คันงามที่น่าจะราคาแพงจนซื้อคฤหาสน์ได้คันหนึ่งจอดอยู่เบื้องหน้า ระหว่างทางมาแม้จะเป็นรถที่ได้ชื่อว่าทั้งเร็วและแรงแต่คนขับก็ไม่ได้ใจร้อนอะไรรถจะทะยานมายังเป้าหมายในความเร็วปกติจนมาเทียบท่าภายในสถานที่ที่เรียกว่าสนามแข่งรถ เธอก็มองหน้าแฟนหนุ่มเหมือนคนไม่เคยรู้จักอีกครั้ง เธอเพิ่งรู้วันนี้เองว่าวินซ์รวยถึงขนาดมีรถซุปเปอร์คาร์ราคาเป็นสิบๆ ล้านแถมยังมีงานอดิเรกเป็นแข่งรถด้วย ขณะที่เธอกำลังอึ้งกับตัวตนใหม่ที่เพิ่งรับรู้คนที่ลงไปจากรถแล้วก็ต้องก้มลงมามองกันด้วยสายตาหงุดหงิด
“จะนั่งอยู่อีกนานมั้ย ลงมา!”
น้ำเสียงที่กระโชกโฮกฮากทำให้เธอสะดุ้งเผลอพยักหน้ารัวๆ รีบถอดเบลท์แล้วลงจากรถทันที เมื่อหยัดกายเต็มความสูงร้อยหกสิบห้าเธอก็ได้เห็นภาพมุมกว้างอย่างเต็มตา มองรถซุปเปอร์คาร์อีกสองสามคันกำลังแล่นอยู่ด้วยความแรงสูงอยู่บนสนามแข่ง สายลมพัดผ่านใบหน้าอย่างเร็วทันทีที่รถขับผ่าน แล้วเบื้องหลังของเธอคืออัฒจันทร์ขนาดใหญ่ วินซ์โยนกุญแจให้ผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งอย่างไม่สนใจว่าเขาจะรับได้มั้ย ดูจากการแต่งตัวของผู้ชายคนนี้แล้วก็รู้ว่าเป็นช่างปรับแต่งตัวเครื่องยนต์
“เออ กูเกือบปล้ำเขา มีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไอ้วินซ์! ตอนแรกบอกไม่สนใจไหงตอนนี้จะปล้ำเขาซะแล้ว เล่ามาเลยไอ้สัตว์ความสัมพันธ์ดูจะไปไกลกว่าที่กูคิดเยอะล่ะ ยังไม่ทันถึงอาทิตย์เลย”
วินซ์เงียบกลืนเหล้าเข้าปากอึกหนึ่ง นึกถึงแววตาสุกสกาว ใบหน้ามีความสุขที่ได้ดูแลกัน มันทำให้รู้สึกอบอุ่น…จนอยากจะเป็นเจ้าของ
“ก็ดวงตาคู่นั้นเอาแต่มองกู มองด้วยความห่วงใย มองอย่างรักใคร่เอ็นดู มองเหมือนภาคภูมิใจในตัวกูมาก… แม่ยังไม่เคยมองกูแบบนี้เลย กู…” ‘คงหลงรักเขาให้แล้วว่ะ’ วินซ์ตั้งใจจะสารภาพความในใจออกไป แต่อยู่ๆ เพื่อนก็ตะโกนเรียกชื่อเธอขึ้นมาด้วยความแตกตื่นจนต้องหันกลับไปมอง แต่ภาพที่เห็นก็ทำเอาหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ภาพที่เห็นร่างบางโดนไอ้ซีโร่เดินโอบขึ้นมาในสภาพผมที่เคยรวบตึงหลุดหลุ่ยออกมาจนไม่เป็นทรง ลำตัวสั่นเทากอดก่ายตัวเองเอาไว้แน่นโดยมีเสื้อคลุมของซีโร่ทับอยู่บนไหล่
…คิดดีไม่ได้เลย
เขาเผลอกัดฟันจนเจ็บกรามไปหมด มือไม้สั่นเหมือนคนขาดยา…ทั้งที่ไม่เคยเสพ
“วินซ์…” รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงชิรันเรียกอยู่ไกลๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเปี๊ยะบางอย่างมันขาดสะพรั่นอยู่ข้างหู
“ไอ้วินซ์! ปล่อย! เป็นเชี่ยไรเนี่ย!”
เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นรอบตัวรู้สึกตัวอีกทีก็คร่อมอยู่บนตัวไอ้ซีโร่พร้อมกับขวดปากฉลามก็อยู่ในมืออีกข้างซึ่งไอ้ชิรันกำลังรั้งเอาไว้อยู่ ส่วนไอ้ซีโร่ที่นอนอยู่ใต้ร่างมองมาด้วยสายตาฉงนไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิด วินซ์มองไปรอบๆ เหมือนจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฟรังก์ช็อกจนลงไปนั่งอยู่บนพื้นข้างตัว ส่วนไอ้ชิรันก็ยืนรั้งแขนของผมเอาไว้ด้วยสีหน้าแตกตื่น
ฝ่ามือนั้นค่อยๆ ปล่อยปากขวดลงกับพื้นพร้อมกับทิ้งตัวลงด้านข้าง ยกมือขึ้นลูบหน้าสองสามทีเพื่อเรียกสติเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าเผลอกลั้นหายใจ ตอนนี้เลยอยู่ในสภาพนั่งหอบกอบโกยลมหายใจถี่
ความรู้สึกเมื่อกี้มันคืออะไรกัน… ความรุ่มร้อนที่เหมือนถูกแผดเผาให้ตายทั้งเป็น
ฆ่า…
จิตอาฆาตแค้น และกลัว…
กลัวจับจิตจับใจ…
“สงสัยกูจะเมาแล้ว ขอตัวก่อนนะ”
วินซ์พูดได้เพียงเท่านั้นก็วิ่งลงไปข้างล่างเลย ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งตามไปแต่ชิรันรั้งเธอเอาไว้ก่อนพร้อมส่ายหัวเป็นเชิงว่า ‘ปล่อยมันไปก่อน’
ฟรังก์ลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า… นั่นสิ เมื่อคืนหลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญระหว่างไปเข้าห้องน้ำมีคนเมาที่ไหนไม่รู้พยายามฉุดกระชากลากเธอเข้าไปลวนลามในห้องน้ำ เธอพยายามขัดขืนเต็มที่จนในที่สุดก็มีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งเข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากรู้ว่าเธอมากลับวินซ์เลยพามาส่ง แต่ไม่รู้เพราะเมาหรือกลัวถึงขีดสุดกันแน่เลยทำให้เธอเดินไม่ตรง แล้วด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเมื่อเห็นสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยีก็เลยถอดเสื้อมาคลุมไหล่ให้แล้วเดินประคองขึ้นมาด้านบน ทว่าอยู่ๆ วินซ์ที่เห็นภาพนั้นก็เอาขวดเบียร์ข้างตัวกระแทกโต๊ะจนแตกแล้วกระโจนเข้าหาผู้ชายคนนั้นที่มารู้ทีหลังว่าเป็นเขาชื่อซีโร่ โชคดีที่ชิรันไวกว่าคว้าแขนที่กำปากขวดเอาไว้ทัน ไม่งั้นนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นยังไง
แล้วหลังจากนั้นวินซ์ก็วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย พักให้ฟรังก์หายตกใจสักครู่ชิรันก็ขับรถมาส่งเธอที่อพาร์เม้นต์และ…
…เขาไม่ได้กลับห้องทั้งคืน
เธอสลัดหัวให้สมองโปร่งก่อนจะเดินออกมาข้างนอก
“วินซ์…”
ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งไปหาเขาที่โซฟา แต่สายตาซึ่งเงยขึ้นมาสบนั้นช่างว่างเปล่าจนเธอไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน
“อาบน้ำแต่งตัวซะ คุณต้องไปกับผม”
ฟรังก์เลิกคิ้ว ไปไหน?
ดูจากสภาพเขาแล้วเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน อยากรู้จังว่าเขาหายไปไหนมา แต่ก็ไม่กล้าถามจึงทำได้เพียงพยักหน้า แล้วเดินมาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ชอบใส่ออกมา แต่ก่อนจะปิดตู้สายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งปิดปกติทางฝั่งเสื้อผ้าของวินซ์ก่อนถอนหายใจ แล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าท่ามกลางสีดำออกมาแล้วใส่กลับไปใหม่ในหมู่เสื้อผ้าสีอ่อนก่อนคลี่ยิ้มแล้วรวบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป
หญิงสาวหันมองซ้ายขวาหารถbmwสีฟ้าครามแต่กลับพบเพียงแค่รถซุปเปอร์คาร์คันงามที่น่าจะราคาแพงจนซื้อคฤหาสน์ได้คันหนึ่งจอดอยู่เบื้องหน้า ระหว่างทางมาแม้จะเป็นรถที่ได้ชื่อว่าทั้งเร็วและแรงแต่คนขับก็ไม่ได้ใจร้อนอะไรรถจะทะยานมายังเป้าหมายในความเร็วปกติจนมาเทียบท่าภายในสถานที่ที่เรียกว่าสนามแข่งรถ เธอก็มองหน้าแฟนหนุ่มเหมือนคนไม่เคยรู้จักอีกครั้ง เธอเพิ่งรู้วันนี้เองว่าวินซ์รวยถึงขนาดมีรถซุปเปอร์คาร์ราคาเป็นสิบๆ ล้านแถมยังมีงานอดิเรกเป็นแข่งรถด้วย ขณะที่เธอกำลังอึ้งกับตัวตนใหม่ที่เพิ่งรับรู้คนที่ลงไปจากรถแล้วก็ต้องก้มลงมามองกันด้วยสายตาหงุดหงิด
“จะนั่งอยู่อีกนานมั้ย ลงมา!”
น้ำเสียงที่กระโชกโฮกฮากทำให้เธอสะดุ้งเผลอพยักหน้ารัวๆ รีบถอดเบลท์แล้วลงจากรถทันที เมื่อหยัดกายเต็มความสูงร้อยหกสิบห้าเธอก็ได้เห็นภาพมุมกว้างอย่างเต็มตา มองรถซุปเปอร์คาร์อีกสองสามคันกำลังแล่นอยู่ด้วยความแรงสูงอยู่บนสนามแข่ง สายลมพัดผ่านใบหน้าอย่างเร็วทันทีที่รถขับผ่าน แล้วเบื้องหลังของเธอคืออัฒจันทร์ขนาดใหญ่ วินซ์โยนกุญแจให้ผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งอย่างไม่สนใจว่าเขาจะรับได้มั้ย ดูจากการแต่งตัวของผู้ชายคนนี้แล้วก็รู้ว่าเป็นช่างปรับแต่งตัวเครื่องยนต์“เออ กูเกือบปล้ำเขา มีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไอ้วินซ์! ตอนแรกบอกไม่สนใจไหงตอนนี้จะปล้ำเขาซะแล้ว เล่ามาเลยไอ้สัตว์ความสัมพันธ์ดูจะไปไกลกว่าที่กูคิดเยอะล่ะ ยังไม่ทันถึงอาทิตย์เลย”
วินซ์เงียบกลืนเหล้าเข้าปากอึกหนึ่ง นึกถึงแววตาสุกสกาว ใบหน้ามีความสุขที่ได้ดูแลกัน มันทำให้รู้สึกอบอุ่น…จนอยากจะเป็นเจ้าของ
“ก็ดวงตาคู่นั้นเอาแต่มองกู มองด้วยความห่วงใย มองอย่างรักใคร่เอ็นดู มองเหมือนภาคภูมิใจในตัวกูมาก… แม่ยังไม่เคยมองกูแบบนี้เลย กู…” ‘คงหลงรักเขาให้แล้วว่ะ’ วินซ์ตั้งใจจะสารภาพความในใจออกไป แต่อยู่ๆ เพื่อนก็ตะโกนเรียกชื่อเธอขึ้นมาด้วยความแตกตื่นจนต้องหันกลับไปมอง แต่ภาพที่เห็นก็ทำเอาหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ภาพที่เห็นร่างบางโดนไอ้ซีโร่เดินโอบขึ้นมาในสภาพผมที่เคยรวบตึงหลุดหลุ่ยออกมาจนไม่เป็นทรง ลำตัวสั่นเทากอดก่ายตัวเองเอาไว้แน่นโดยมีเสื้อคลุมของซีโร่ทับอยู่บนไหล่
…คิดดีไม่ได้เลย
เขาเผลอกัดฟันจนเจ็บกรามไปหมด มือไม้สั่นเหมือนคนขาดยา…ทั้งที่ไม่เคยเสพ
“วินซ์…” รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงชิรันเรียกอยู่ไกลๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเปี๊ยะบางอย่างมันขาดสะพรั่นอยู่ข้างหู
“ไอ้วินซ์! ปล่อย! เป็นเชี่ยไรเนี่ย!”
เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นรอบตัวรู้สึกตัวอีกทีก็คร่อมอยู่บนตัวไอ้ซีโร่พร้อมกับขวดปากฉลามก็อยู่ในมืออีกข้างซึ่งไอ้ชิรันกำลังรั้งเอาไว้อยู่ ส่วนไอ้ซีโร่ที่นอนอยู่ใต้ร่างมองมาด้วยสายตาฉงนไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิด วินซ์มองไปรอบๆ เหมือนจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฟรังก์ช็อกจนลงไปนั่งอยู่บนพื้นข้างตัว ส่วนไอ้ชิรันก็ยืนรั้งแขนของผมเอาไว้ด้วยสีหน้าแตกตื่น
ฝ่ามือนั้นค่อยๆ ปล่อยปากขวดลงกับพื้นพร้อมกับทิ้งตัวลงด้านข้าง ยกมือขึ้นลูบหน้าสองสามทีเพื่อเรียกสติเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าเผลอกลั้นหายใจ ตอนนี้เลยอยู่ในสภาพนั่งหอบกอบโกยลมหายใจถี่
ความรู้สึกเมื่อกี้มันคืออะไรกัน… ความรุ่มร้อนที่เหมือนถูกแผดเผาให้ตายทั้งเป็น
ฆ่า…
จิตอาฆาตแค้น และกลัว…
กลัวจับจิตจับใจ…
“สงสัยกูจะเมาแล้ว ขอตัวก่อนนะ”
วินซ์พูดได้เพียงเท่านั้นก็วิ่งลงไปข้างล่างเลย ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งตามไปแต่ชิรันรั้งเธอเอาไว้ก่อนพร้อมส่ายหัวเป็นเชิงว่า ‘ปล่อยมันไปก่อน’
ฟรังก์ลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า… นั่นสิ เมื่อคืนหลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญระหว่างไปเข้าห้องน้ำมีคนเมาที่ไหนไม่รู้พยายามฉุดกระชากลากเธอเข้าไปลวนลามในห้องน้ำ เธอพยายามขัดขืนเต็มที่จนในที่สุดก็มีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งเข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากรู้ว่าเธอมากลับวินซ์เลยพามาส่ง แต่ไม่รู้เพราะเมาหรือกลัวถึงขีดสุดกันแน่เลยทำให้เธอเดินไม่ตรง แล้วด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเมื่อเห็นสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยีก็เลยถอดเสื้อมาคลุมไหล่ให้แล้วเดินประคองขึ้นมาด้านบน ทว่าอยู่ๆ วินซ์ที่เห็นภาพนั้นก็เอาขวดเบียร์ข้างตัวกระแทกโต๊ะจนแตกแล้วกระโจนเข้าหาผู้ชายคนนั้นที่มารู้ทีหลังว่าเป็นเขาชื่อซีโร่ โชคดีที่ชิรันไวกว่าคว้าแขนที่กำปากขวดเอาไว้ทัน ไม่งั้นนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นยังไง
แล้วหลังจากนั้นวินซ์ก็วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย พักให้ฟรังก์หายตกใจสักครู่ชิรันก็ขับรถมาส่งเธอที่อพาร์เม้นต์และ…
…เขาไม่ได้กลับห้องทั้งคืน
เธอสลัดหัวให้สมองโปร่งก่อนจะเดินออกมาข้างนอก
“วินซ์…”
ฟรังก์ตั้งใจจะวิ่งไปหาเขาที่โซฟา แต่สายตาซึ่งเงยขึ้นมาสบนั้นช่างว่างเปล่าจนเธอไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน
“อาบน้ำแต่งตัวซะ คุณต้องไปกับผม”
ฟรังก์เลิกคิ้ว ไปไหน?
ดูจากสภาพเขาแล้วเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน อยากรู้จังว่าเขาหายไปไหนมา แต่ก็ไม่กล้าถามจึงทำได้เพียงพยักหน้า แล้วเดินมาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ชอบใส่ออกมา แต่ก่อนจะปิดตู้สายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งปิดปกติทางฝั่งเสื้อผ้าของวินซ์ก่อนถอนหายใจ แล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าท่ามกลางสีดำออกมาแล้วใส่กลับไปใหม่ในหมู่เสื้อผ้าสีอ่อนก่อนคลี่ยิ้มแล้วรวบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป
หญิงสาวหันมองซ้ายขวาหารถbmwสีฟ้าครามแต่กลับพบเพียงแค่รถซุปเปอร์คาร์คันงามที่น่าจะราคาแพงจนซื้อคฤหาสน์ได้คันหนึ่งจอดอยู่เบื้องหน้า ระหว่างทางมาแม้จะเป็นรถที่ได้ชื่อว่าทั้งเร็วและแรงแต่คนขับก็ไม่ได้ใจร้อนอะไรรถจะทะยานมายังเป้าหมายในความเร็วปกติจนมาเทียบท่าภายในสถานที่ที่เรียกว่าสนามแข่งรถ เธอก็มองหน้าแฟนหนุ่มเหมือนคนไม่เคยรู้จักอีกครั้ง เธอเพิ่งรู้วันนี้เองว่าวินซ์รวยถึงขนาดมีรถซุปเปอร์คาร์ราคาเป็นสิบๆ ล้านแถมยังมีงานอดิเรกเป็นแข่งรถด้วย ขณะที่เธอกำลังอึ้งกับตัวตนใหม่ที่เพิ่งรับรู้คนที่ลงไปจากรถแล้วก็ต้องก้มลงมามองกันด้วยสายตาหงุดหงิด
“จะนั่งอยู่อีกนานมั้ย ลงมา!”
น้ำเสียงที่กระโชกโฮกฮากทำให้เธอสะดุ้งเผลอพยักหน้ารัวๆ รีบถอดเบลท์แล้วลงจากรถทันที เมื่อหยัดกายเต็มความสูงร้อยหกสิบห้าเธอก็ได้เห็นภาพมุมกว้างอย่างเต็มตา มองรถซุปเปอร์คาร์อีกสองสามคันกำลังแล่นอยู่ด้วยความแรงสูงอยู่บนสนามแข่ง สายลมพัดผ่านใบหน้าอย่างเร็วทันทีที่รถขับผ่าน แล้วเบื้องหลังของเธอคืออัฒจันทร์ขนาดใหญ่ วินซ์โยนกุญแจให้ผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งอย่างไม่สนใจว่าเขาจะรับได้มั้ย ดูจากการแต่งตัวของผู้ชายคนนี้แล้วก็รู้ว่าเป็นช่างปรับแต่งตัวเครื่องยนต์
