บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 อาหญิงน้อยแห่งเทพีไอซิส (3/3)

“ทราบหรือไม่ว่าพรที่เจ้าขอ ทำให้เรา เทพโอไซริส เทพโฮรัส และเทพอะนิวบิสต้องเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก” องค์เทพีตรัสคล้ายต่อว่าคล้ายเล่าให้ฟังอย่างขบขัน

เมริทหน้าเสียทันที ไม่คาดว่าสิ่งที่ตนเองขอจะสร้างความยุ่งยากมากมายแก่ทวยเทพถึงสี่องค์

“ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นหรอก นี่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดอยู่แล้วต่อให้เจ้าไม่ได้ขอจากเราก็ตาม” องค์เทพีปลอบเมื่อเห็นสีหน้าของเมริท ทำให้สีหน้าของนางดีขึ้นทันตา

“หญิงสาวที่เจ้าเห็นนี้คืออาหญิงน้อยของเรา นามของนางคือ ‘นัซย่า’ อันหมายถึง ‘การฟื้นคืนชีพ’ เจ้าขอให้นาร์เมอร์หายป่วย อาหญิงน้อยของเราจะช่วยเขาได้ ข้าขอฝากนางไว้กับพวกเจ้า ดูแลนางให้ดี นางจะช่วยให้ความหวังของอียิปต์บนเป็นจริง และเมื่อความหวังนั้นสัมฤทธิ์ผล อียิปต์จะรุ่งเรืองไปอีกนาน” สิ้นประโยคนี้ ร่างของเทพีไอซิสค่อยๆ เลือนหายไป

“ข้าและบุตรสาวจะดูแลพระปิตุจฉา (อา ฝ่ายพ่อ) ของพระองค์ให้ดี ไม่ต้องทรงเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ” แพทย์หลวงเซเตมรับปากด้วยความปลื้มปิติที่ได้รับความไว้วางพระทัยสูงสุดจากเทพีไอซิสให้ดูแลอาหญิงน้อยของพระองค์

พวกเขาลุกขึ้นก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ร่างของนัซย่า เมริทยื่นมือหนึ่งประคองร่างนั้น อีกมือหนึ่งพลิกร่างของนัซย่าให้นอนหงาย

“โอ๊ะ ! !”

เมริทและแพทย์หลวงเซเตมอุทานขึ้นพร้อมกัน เพราะหญิงสาวตรงหน้ามีผิวพรรณขาวผ่องเนียนละเอียดเปล่งปลั่ง จมูกโด่งได้รูป ปลายจมูกเชิดรั้นนิดๆ ริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อ นางงดงามทรงเสน่ห์เสียจนพวกเขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเองว่านางมีตัวตนอยู่จริง

“งะ...งามมาก งามเหลือเกิน” เมริทครางออกมา

“เมริท เจ้าดูที่ข้อมือซ้ายของนาง !” แพทย์หลวงเซเตมกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

ข้อมือซ้ายของนัซย่าสวมไว้ด้วยกำไลทองคำที่ดุนลาย ฉลุลาย และลงยาอย่างประณีต ทั้งยังประดับด้วยอัญมณีและหินมีค่าต่างๆ ลวดลายบนกำไลเป็นรูปเทพโอไซริส เทพีไอซิส เทพโฮรัส เทพอะนิวบิส และอังค์

“เป็นกำไลที่งามประณีตจริงๆ เจ้าค่ะ นี่ต้องเป็นเครื่องรางที่ทรงอำนาจสูงสุดที่องค์เทพมอบให้นาง เพียงการอัญเชิญพระรูปของเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งมาประดับไว้ ของชิ้นนั้นก็ศักดิ์สิทธิ์มากแล้ว แต่นี่กลับมีรูปขององค์เทพถึงสี่และยังมีอังค์ ข้าไม่รู้เลยว่ากำไลนี้จะทรงฤทธิ์และศักดิ์สิทธิ์เพียงใด อียิปต์บนของเราและอียิปต์ล่างไม่เคยปรากฏเครื่องประดับและเครื่องรางที่สมบูรณ์พร้อมเช่นนี้มาก่อน” เมริทกล่าวออกมา นางเป็นสตรีย่อมต้องสนใจเครื่องประดับเป็นพิเศษอยู่แล้ว เรื่องเช่นนี้นางจึงทราบดี

“ท่านนัซย่าต้องเป็นที่รักยิ่งของเทพทั้งสี่แน่นอน มิฉะนั้น องค์เทพไม่มีทางมอบของนี้เพื่อคุ้มครองนางแน่นหนาเช่นนี้” แพทย์หลวงเซเตมเข้าใจได้ทันที

เมริทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ท่านพ่ออุ้มนางขึ้นมาเจ้าค่ะ” เมริทรีบบอก ก่อนจะปลดผ้าคลุมของตนเองออกและคลี่คลุมลงบนร่างของนัซย่าเพื่อปกปิดผมสีทอง ผิวขาว และเครื่องแต่งกายของนาง

นัซย่าถูกพามายังห้องพักแขกห้องใหญ่สุดของคฤหาสน์ แพทย์หลวงเซเตมถอดรองเท้าบูทหุ้มข้อสีดำของนัซย่าออกก่อนจะวางไว้ใกล้ๆ เตียง

“เสื้อผ้าของนางไม่เปียกน้ำเลยเจ้าค่ะ แห้งสนิท” เมริทบอกกล่าวอย่างประหลาดใจขณะกำลังใช้ผ้าซับเรือนผมสีทองที่เปียกชุ่มจนแห้งหมาดๆ

“คงต้องรอให้นางตื่นขึ้นเอง เดี๋ยวพ่อออกไปสั่งไม่ให้ใครเข้าใกล้ห้องนี้ก่อน พวกเราให้ใครเห็นนางไม่ได้ในตอนนี้ เพราะนางต่างจากพวกเรา” แพทย์หลวงเซเตมบอกก่อนจะเดินออกไป เหล่าทาสที่รับใช้ในคฤหาสน์ถูกสั่งห้ามเข้ามายุ่มย่ามแถวห้องพักจนกว่าจะถูกเรียก

ครู่เดียวแพทย์หลวงเซเตมก็กลับเข้ามาและปิดประตูห้องอย่างมิดชิด

“ท่านพ่อ เราจะบอกคนอื่นว่านางเป็นใครดีเจ้าคะ หากบอกว่านางเป็นพระปิตุจฉาขององค์เทพี ไม่มีใครเชื่อพวกเราแน่นอน” เมริทถามอย่างกังวล

“บอกว่านางเป็นบุตรสาวของน้าหญิงอานัทของเจ้าจะเหมาะที่สุด น้าหญิงเจ้าเพิ่งตายได้สองเดือน บ้านของนางที่เมืองนาคาดา พ่อก็เพิ่งขายให้คนอื่นไปไม่นานนี้ ทุกคนรู้กันทั่ว แล้วพ่อก็ให้นางย้ายมาพักกับพวกเราที่นี่ นางจะได้เป็นเพื่อนเจ้า” แพทย์หลวงเซเตมตอบออกมาหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ดีเจ้าค่ะ แค่นี้ก็ไม่มีใครสงสัยแล้ว”

“ส่วนผิวพรรณและผมของนางที่ต่างออกไป เจ้าต้องปรึกษากับนางว่าจะซ่อนมันอย่างไร จะอาศัยคลุมผ้าอย่างเดียว นั่นเป็นไปไม่ได้ อยู่นอกบ้านย่อมคลุมผ้าได้ แต่อยู่ในบ้าน ไม่มีใครเขาคลุมผ้ากัน” แพทย์หลวงเซเตมบอกอย่างกังวล

“เจ้าค่ะ เช่นนั้น คืนนี้ข้าจะนอนในห้องนี้กับนาง พรุ่งนี้เช้านางน่าจะฟื้นแล้ว ข้าจะได้คุยกับนางให้รู้เรื่องเสียก่อน”

นัซย่าลืมตาขึ้น สายตาพร่ามัวชั่วครู่ก่อนจะชัดเจนขึ้นในที่สุด เธอมองภาพเบื้องหน้าด้วยความงุนงง เพราะเห็นชัดว่าเป็นเพดานห้องที่สร้างด้วยอิฐและฉาบด้วยปูนปลาสเตอร์เพื่อให้พื้นผิวเรียบสนิท มีภาพวาดลวดลายงดงามบนเพดาน

กวาดตามองอีกนิด เธอก็พบว่ามุมห้องมีเสาหินทั้งสี่มุม ผนังห้องสร้างด้วยอิฐที่ฉาบด้วยปูนปลาสเตอร์เช่นกัน และมีภาพวาดลวดลายสวยๆ เข้ากับภาพวาดบนเพดาน แม้ไม่มีหน้าต่างในห้องนี้แต่รูระบายอากาศที่ผนังห้องแต่ละด้านก็กว้างและมากพอที่จะถ่ายเทอากาศทำให้ห้องนี้เย็นสบายตลอดเวลา ด้านหนึ่งของห้องมีฉากบังตา หลังฉากนี้ย่อมเป็นพื้นที่สำหรับผลัดเสื้อผ้า

ตอนนี้นัซย่าจึงเพิ่งรู้ว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงหลังหนึ่งที่ปูด้วยเสื่อหนาและมีผ้าลินินปูทับอีกชั้นหนึ่ง ศีรษะของเธอพิงอยู่กับพนักพิงของเตียงนี้ บนร่างของเธอมีผ้าลินินผืนบางคลุมไว้ เหลือบตามองอีกนิดก็เห็นรองเท้าของเธอวางไว้อยู่ใกล้ๆ กับเตียงที่เธอนอน ชัดเจนว่ามีคนพาเธอมานอนในห้องนี้และปล่อยให้เธอหลับอย่างสบาย

นัซย่ารีบผุดลุกขึ้นนั่ง กวาดตามองรอบห้องอย่างรวดเร็ว ก็เห็นหญิงสาวหน้าตาคมขำคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้นห้องอีกมุมหนึ่ง เธอคนนั้นนอนอยู่บนเสื่อหนาที่ปูทับไว้ด้วยผ้าลินินเช่นกัน ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าเจ้าของที่พักนี้และผู้หญิงที่เธอเห็นไม่ใช่คนร้าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel