บทที่ 6 ภารกิจใหม่ที่คาดไม่ถึง (3/3)
“ฉันตกลงค่ะ ถ้าพวกคุณมั่นใจว่าฉันช่วยฟาโรห์เมเนสได้ ฉันก็จะช่วยอย่างเต็มความสามารถ” เธอตอบตกลงหลังจากนิ่งอึ้งไปสักพัก
เทพโอไซริส เทพีไอซิส เทพโฮรัส และเทพอะนิวบิสยิ้มออกมา
“ขอบใจ” พวกเขาทั้งสี่กล่าวขอบคุณเธอพร้อมกัน
“แต่ฉันมีเงื่อนไขค่ะ”
“เจ้าอยากได้อะไรล่ะ” ครั้งนี้เป็นเทพโฮรัสถามออกมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
“อยากถามหนึ่งเรื่องและอยากได้สามเรื่องค่ะ”
“ว่ามา หากให้ได้ พวกเราจะให้”
“ฉันอยากรู้ว่าทีมสำรวจทีมก่อน พวกเขาถูกใครฆ่าตายคะ” นี่เป็นคำถามที่เธอต้องใช้เวลาสืบหา แต่ในเมื่อมีเทพอยู่ที่นี่ถึงสี่องค์ พวกเขาต้องรู้แน่นอน เธอจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปสืบหาต้นตอให้ยุ่งยาก
“เรื่องนี้ให้อะนิวบิสตอบเถิด” เทพโฮรัสโยนคำถามไปให้เทพอะนิวบิส
“พวกเขาถูกชับตี***ฆ่า” คำตอบสั้นๆ ดังขึ้น และเป็นคำตอบที่นัซย่าไม่คิดว่าจะได้ยิน
“คนเหล่านั้นแตะต้องรูปสลักฟาโรห์และสมบัติแห่งฟาโรห์ ชับตีที่ถูกลงเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์มีหน้าที่รับใช้ผู้เป็นเจ้านาย เมื่อของสำคัญของเจ้านายถูกล่วงละเมิด ชับตีเหล่านี้จึงทำตามหน้าที่ ดังนั้น หากเจ้าคิดหาคนร้ายไปมอบให้นายของเจ้า จึงเป็นไปไม่ได้” เทพอะนิวบิสอธิบายอย่างชัดเจน
“แล้วทำไมฉันถึงไม่เป็นอะไรล่ะคะ” นัซย่าถามอย่างแปลกใจ
“นั่นเพราะเจ้าคือราชินีของเมเนส ย่อมได้รับการยกเว้น”
ฟังคำตอบแล้ว นัซย่าก็เข้าใจแต่...เธอจะไปบอกท่านประธานาธิบดีว่าไงล่ะ ขืนรายงานไปว่าลูกสาวท่านตายเพราะคำสาปฟาโรห์ นอกจากจะโดนหัวเราะเยาะแล้ว เธอคงโดนไล่ออก เสียประวัติการทำงานของเธอหมด
“เอาเถิด เรื่องนี้เราจะให้คนไปบอกประธานาธิบดีอะไรนั่นของเจ้าก็แล้วกัน หากให้เจ้าไปบอกเอง น่ากลัวว่าจะเป็นอย่างที่เจ้าคิด” เทพีไอซิสกล่าวขึ้นอย่างรู้ใจเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของเธอ
สีหน้าของนัซย่าเปลี่ยนเป็นโล่งอกทันที “ขอบคุณค่ะ”
“ส่วนเรื่องที่ฉันจะขอ เรื่องแรกก็คือถ้าฉันช่วยฟาโรห์เมเนสได้สำเร็จ ฉันขอให้พวกคุณพาฉันกลับมายังช่วงเวลาของฉัน”
“พวกเรารับปาก แต่เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าลองไตร่ตรองอีกสักครั้ง แล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย” เทพโอไซริสตอบเธอ
นัซย่าได้แต่แปลกใจ เธอยังต้องคิดอะไรอีกหรือ
“เรื่องที่สอง ฉันขอเวลาเตรียมตัวสามวันให้พร้อมก่อนจะต้องไปช่วยฟาโรห์เมเนสค่ะ ตอนนี้ในสมองฉันมีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณและรายละเอียดทุกอย่างหมดแล้ว แต่สิ่งที่ฉันขาดคือความรู้ในเรื่องที่จำเป็น ฉันควรมีความรู้ด้านการแพทย์ติดตัวไปด้วย พร้อมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นและยาต่างๆ ยุคโบราณขนาดนั้นเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บขึ้นมา ทั้งฉันและฟาโรห์เมเนสไม่ตายก็พิการก่อนจะรวมอียิปต์สำเร็จแน่”
“ความรู้อื่นที่ฉันต้องมีคือความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้าง ยุทธวิธีการรบ และความรู้อย่างอื่นที่อาจจำเป็น ฉันเป็นสายลับสังหารก็จริงแต่ฉันทำงานคนเดียว มีคนช่วยเหลือบ้างก็แค่สองสามคน และแต่ละคนที่มาช่วยฉัน พวกเขามีความรอบรู้และอุปกรณ์เพียบพร้อม แต่ในยุคโบราณนั้นฉันต้องรอบรู้และทำได้ทุกอย่างเพื่อทดแทนพวกเขา”
“รอบคอบดี สมกับเป็นราชินีคู่บัลลังก์” เทพโฮรัสเอ่ยชม นัซย่าได้แต่กระอักกระอ่วน เธอยังไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลยถึงแม้เธอจะรู้สึกดีกับฟาโรห์เมเนสอยู่บ้างก็ตาม
“เรื่องที่สามที่ฉันขอคือภาษาค่ะ อันนี้เกินความสามารถของฉันจริงๆ ฉันไม่รู้ว่ายุคสมัยนั้น พวกเขาใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร ดังนั้น พรที่ฉันขอคือขอให้ฉันฟัง พูด อ่าน เขียนทุกภาษาในยุคสมัยนั้นได้คล่องเหมือนกับภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษที่ฉันใช้เป็นประจำ”
“ได้ สิ่งที่เจ้าต้องการ พวกเราให้ตามที่เจ้าขอ” เทพโอไซริสเอ่ยขึ้น
“แต่สิ่งที่ข้าจะเพิ่มให้คือ ของจำเป็นที่เจ้าสามารถใช้ได้”
“ยังไงเหรอคะ” นัซย่าถามเทพโอไซริสอย่างงุนงง
เทพโอไซริสแบมือออก ปรากฏกำไลทองคำที่ตัวกำไลกว้างราวหนึ่งนิ้วครึ่ง ลวดลายบนกำไลถูกดุนลาย ฉลุลาย และลงยาอย่างประณีต ทั้งยังประดับด้วยอัญมณีและหินมีค่า เช่น ลาพิสลาซูล เทอร์ควอยซ์ คาเนเลี่ยน พลอยอะเมทิส และลูกปัดแก้วสีต่างๆ จนงดงาม จัดเป็นงานฝีมือที่สูงค่าทางโบราณคดีอย่างที่สุด
ลวดลายบนกำไลเป็นรูปเทพโอไซริสประทับยืน กายสีเขียว มีมัสสุดังฟาโรห์ กายเบื้องล่างพันผ้าห่อศพไว้ ฉลองมงกุฏประดับขนนกกระจอกเทศสองข้าง หัตถ์ทั้งสองถือตะขอกับไม้หวดข้าว ถัดมาเป็นรูปสลักของเทพีไอซิสในเครื่องแต่งกายราชินี แขนทั้งสองข้างกางออกพร้อมปีกนก บนศีรษะประดับด้วยศิราภรณ์รูปดวงอาทิตย์อยู่กลางเขาวัว ถัดจากรูปเทพีไอซิสจึงเป็นรูปของเทพโฮรัสที่มีศีรษะเป็นนกเหยี่ยว ทรงมงกุฎสองชั้น ถัดมาจึงเป็นรูปของเทพอะนิวบิส สุดท้ายคืออังค์***
“รับไปและใส่เสีย”
นัซย่ายื่นมือไปรับกำไลมาสวมใส่ที่ข้อมือซ้าย กำไลทองคำขอนนี้พอดีกับข้อมือของเธอราวกับมันถูกทำมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ
“กำไลแห่งความสมบูรณ์พร้อม” เทพโอไซริสบอกนามของกำไลนี้ออกมา
“นี่เป็นเครื่องประดับและเครื่องรางที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ข้าเคยมอบให้มนุษย์ ผู้สวมใส่ย่อมได้รับความคุ้มครองจากพวกเราทั้งสี่ และอังค์จะนำมาซึ่งชีวิตที่ดี เพียบพร้อม”
“เมื่อเจ้าจะใช้กำไลนี้ จงตั้งจิตให้มั่น นึกถึงของที่เจ้าต้องการ แล้วจึงแตะกำไลนี้ เจ้าจะได้ของนั้นจนครบถ้วน แต่หากเจ้านึกถึงของที่ต้องการแล้วไม่ปรากฏของสิ่งนั้น นั่นแปลว่าของนั้นไม่เหมาะกับกาลเวลานั้น”
“หมายความว่าถ้าฉันนึกถึงอาวุธในยุคสมัยฉัน ก็เอาออกมาไม่ได้ใช่มั้ยคะ” นัซย่าถามเสียงอ่อย ก็เธอคิดว่าจะใช้วิธีลัดเสียหน่อย จะได้จบภารกิจช่วยฟาโรห์เมเนสได้ไวๆ
“ถูกต้อง ขืนให้เจ้าเอาของพวกนั้นออกมาใช้ได้ มันเกินกว่าเหตุจนเกินไป”
เธอต้องยิ้มแห้ง “แต่ยังไงฉันก็ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ กำไลนี้ช่วยประหยัดเวลาฉันไปมากเลย ฉันจะได้รวบรวมความรู้ทุกอย่างที่จำเป็นให้ครบ” นัซย่ากล่าวด้วยความดีใจ
“เมื่อครบกำหนดสามวัน พวกเราจะมาพบเจ้าอีกครั้งในเวลานี้ เตรียมตัวให้ดี”
ร่างของเทพแห่งอียิปต์โบราณทั้งสี่ค่อยๆ เลือนหายไป
“ค่ะ ฉันจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” เธอบอกพวกเขาก่อนที่ร่างของเทพทั้งสี่จะเลือนหายไปจนหมดสิ้น
เชิงอรรถ
***ชับตีหรือชับติ (Shabti, Shawabti, Ushabti) เป็นตุ๊กตามัมมี่โดยทั่วไปประมาณ 5 - 30 เซนติเมตรที่พบในสุสานอียิปต์โบราณ ชับตีเป็นตัวแทนของบุคคลที่จะรับใช้ผู้เสียชีวิตในชีวิตหลังความตาย ความหมายของชับตียังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่การแปลที่เป็นไปได้อย่างหนึ่งคือ 'ผู้ตอบ' เพราะบนชับตีมีการเขียนชื่อเจ้าของไว้ด้วย เพื่อให้ชับตีตอบรับการเรียกให้ทํางานในชีวิตหลังความตาย
ชับตีจะสร้างขึ้นจากวัสดุต่างๆ ได้แก่ ไฟ ขี้ผึ้ง ดินเหนียว ไม้ หิน ดินเผา และบางครั้งก็มีแก้วและบรอนซ์ ชับตีของราชวงศ์อาจสร้างด้วยหินปูน หินทราย หินแกรนิต ควอตซ์ไซต์ งาช้าง ทองแดง โลหะมีค่า และหินปูนสีดํา เหล่าขุนนางที่ร่ำรวยและราชวงศ์จะจัดให้มี Shabti เพื่อไปรับใช้พวกเขา ชับตีรุ่นแรกๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของงานที่พวกเขาต้องทำและได้รับเครื่องมือเล็กๆ เพื่อทํางานให้เสร็จ ต่อมาชับตีจะถูกจารึกด้วยเวทมนตร์เพื่อเปิดใช้งานชับตี
Ushabti จะตกแต่งด้วยสีเขียวและสีน้ำเงิน แบ่งเป็นสองกลุ่มได้แก่ ผู้ดูแล (reis) 36 ตัว (หนึ่งคนสําหรับแต่ละกลุ่มของคนงานสิบคน) แต่งตัวอย่างประณีตในเสื้อคลุมคิลต์และผ้ากันเปื้อนรูปสามเหลี่ยม และตามที่เหมาะสมสําหรับผู้ดูแลในสมัยโบราณพวกเขาถือแส้ในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างของพวกเขาอยู่เคียงข้างพวกเขา และคนงาน 365 ตัว (หนึ่งคนในแต่ละวันของปีอียิปต์) ซึ่งถือเป็นทาสมากกว่าคนรับใช้ คนงานจะถือเครื่องมือ เช่น จอบ กระสอบพร้อมเมล็ดพืชสําหรับปลูก พวกเขาทํางานด้วยตนเองทั้งหมด ดังนั้น การฝังศพส่วนใหญ่จึงมี Ushabti ถึง 401 ตัว
***อังค์หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ อังค์จะนำมาซึ่งชีวิตที่ดี เพียบพร้อม มีทุกสิ่งอย่างพอเพียง ทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม สิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต อังค์เป็นความสมบูรณ์แบบแสดงถึงการมีโชคลาภ และทรัพย์สินเงินทอง รวมความแล้วหมายถึงทุกอย่างที่เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์
