บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 รู้จักวิถีชีวิตชาวไอยคุปต์ (3/3)

“พี่นัซย่างามจริงๆ นี่ขนาดท่านเหมือนพวกเรา ท่านยังงามขนาดนี้ ข้ากลัวจริงๆ ว่าหากบุรุษชาวอียิปต์ได้เห็นท่าน พวกเขาต้องหลงเสน่ห์ท่านกันหมดแน่ๆ และหากพวกเขาได้เห็นตัวตนแท้จริงของท่าน น่ากลัวว่าจะมีบุรุษคลั่งไคล้หลงใหลท่านทั้งอียิปต์บน” เมริทกล่าวอย่างชื่นชม นัซย่าได้แต่ยิ้ม

“พวกเราออกไปนอกห้องกันเถิดเจ้าค่ะ ป่านนี้ท่านพ่อคงรอรับประทานอาหารกับพวกเราอยู่”

จริงอย่างที่เมริทคาด แพทย์หลวงเซเตมรอบุตรสาวและนัซย่าอยู่ เขามองนัซย่าอย่างแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้างต้อนรับเธอ การสนทนาระหว่างรับประทานอาหารเพียงสามคนจึงเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง

อาหารบนโต๊ะที่นัซย่าเห็นประกอบไปด้วยขนมปัง ผักต่างๆ ปลาแห้ง หมูอบ เนื้อแกะย่าง เนื้อวัวทอด เครื่องเคียงเป็นน้ำจิ้มอะไรสักอย่างที่เพียงได้กลิ่นก็พอทราบว่าใช้น้ำผึ้ง เกลือ กระเทียม และหัวหอมในการปรุงรสให้อร่อย เครื่องดื่มมีทั้งเบียร์และไวน์

นั่นเพราะอาหารหลักของชาวอียิปต์โบราณทุกชนชั้นคือ ขนมปัง เบียร์ หัวหอม ผักต่างๆ และปลาแห้ง การประกอบอาหารคือ อบ ย่าง เผา ต้ม และทอด อียิปต์ยังมีน้ำเชื่อมทำจากผลไม้ เช่น องุ่น เพื่อให้ได้รสหวาน

อาหารของชาวอียิปต์ยังมีการแบ่งชนชั้น ชาวนาจะรับประทานแค่หัวหอม ขนมปัง และพืชพรรณที่เก็บได้ ชนชั้นสูงจะมีเนื้อสัตว์เสริม และชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้ สัตว์ที่นิยมรับประทานคือหมู แกะ วัว

การรับประทานไข่ในอียิปต์ก็มีบ้างแต่ไม่นิยมมากนัก ชาวอียิปต์โบราณนิยมเลี้ยงสัตว์ที่เป็นไข่ให้ฟักออกมา แล้วกินเป็นตัวมากกว่า ส่วนไข่ที่นิยมรับประทานคือไข่เป็ด

แม้จะมีชาวอียิปต์บางกลุ่มนิยมรับประทานเนื้อปลา แต่มีบางกลุ่มเชื่อว่าเนื้อปลาไม่สะอาด เช่น นักบวช การรับประทานเนื้อปลานั้น จะนิยมเนื้อปลาแห้ง ไม่นิยมปลาสด เพราะเชื่อว่าไม่สะอาด ในบันทึกของ Herodotus ยังบอกว่า นักบวชไม่ได้รับอนุญาตให้รับประทานปลา

เห็นอาหารแล้ว นัซย่าต้องแอบถอนหายใจ เพราะอาหารดูจะมากเกินกว่าที่สามคนจะรับประทานกันหมด แต่ที่สำคัญคือทุกอย่างให้พลังงานหลายร้อยแคลอรี่ มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละมื้อ เธอไม่แปลกใจเลยที่แพทย์หลวงเซเตมจะท้วมและลงพุงพอสมควร ส่วนเมริทก็ท้วมเช่นกัน มีเธอที่รูปร่างสวยอยู่คนเดียว

แต่งานนี้ฉันขอเสียมารยาทเถอะ ไม่ถนัดกับอาหารตรงหน้านี้เลยจริงๆ เห็นที ต้องสอนทำอาหารกันบ้างล่ะ ตอนนี้ขออาหารแคปซูลดีกว่า เธอนึกในใจ

นัซย่าแตะที่หัวเข็มขัดอีกครั้ง ในมือปรากฏแคปซูลอาหารสองเม็ด เธอเอามันใส่ปากก่อนจะรินไวน์ลงในถ้วยไวน์ที่วางอยู่และดื่มมันลงไปพร้อมกับกลืนแคปซูลอาหารตามไปด้วย

รสชาติไวน์พอได้ สงสัยต้องสอนทำไวน์ด้วย เฮ้ออออออออออ นัซย่านึกในใจอีกรอบ

แพทย์หลวงเซเตมและเมริทมองนัซย่าอย่างแปลกใจว่าเธอรับประทานอะไร

“ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ต้องขออภัยท่านเซเตมและเมริทด้วยที่ข้าเสียมารยาทไม่รับประทานอาหารของพวกท่าน ไว้วันหลังข้าค่อยอธิบายให้ฟังว่าเพราะเหตุใดข้าถึงไม่รับประทานมัน” นัซย่าบอกอย่างชัดเจน ไม่อยากให้พวกเขาต้องเสียน้ำใจหรือรู้สึกว่าต้อนรับเธอไม่ดี เธอจึงปฏิเสธอาหารของพวกเขา

“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ เพียงเทพธิดาไม่กริ้วกับอาหารที่ข้าถวาย ข้าก็สบายใจมากแล้ว”

“ท่านเซเตมเรียกชื่อของข้า ‘นัซย่า’ เถิดเจ้าค่ะ อย่าเรียก ‘เทพธิดา’ เลย แล้วก็พูดกับข้าธรรมดานะเจ้าคะ”

แพทย์หลวงเซเตมมีสีหน้าไม่สบายใจทันทีกับคำขอนี้

“ท่านพ่อเรียกพี่นัซย่าอย่างที่นางบอกเถิดเจ้าค่ะ หากท่านเรียกพี่สาวเช่นนั้น ความแตกแน่นอน” เมริทเอ่ยออกมา

“จริงสิ พ่อก็ลืมนึกไป”

“พี่นัซย่าเจ้าคะ ก่อนหน้าที่ท่านจะตื่นขึ้น ข้ากับท่านพ่อเห็นว่าจะให้ท่านเป็นบุตรสาวของท่านน้าอานัทของข้า ท่านน้าเพิ่งตายได้สองเดือน บ้านของนางที่เมืองนาคาดา ท่านพ่อข้าก็เพิ่งขายให้คนอื่นไปไม่นานนี้ ท่านพ่อจึงให้ท่านย้ายมาพักกับพวกเราที่นี่ ท่านจะได้เป็นเพื่อนข้า” เมริทเล่าให้นัซย่าฟังถึงแผนการอุปโลกน์ฐานะของเธอในเวลานี้

“ดังนั้น ข้าต้องเรียกท่านว่า ‘ท่านลุงเซเตม’ เพิ่งย้ายมาอยู่กับท่านที่นี่สินะ” นัซย่าเข้าใจได้ทันที

“ใช่ขอรับ เอ่อ...ใช่ เจ้าเข้าใจถูกแล้ว นัซย่า” แพทย์หลวงเซเตมปรับตัวได้ไว

“แล้วเจ้าทำได้อย่างไร ผมและผิวกายของเจ้าจึงเหมือนพวกเรา นัยน์ตาของเจ้าก็เช่นกัน”

“ข้าแค่ย้อมสีผมและสีผิวเท่านั้นเจ้าค่ะ ส่วนสีตาข้าก็เพียงใส่บางอย่างเพื่อเปลี่ยนสี”

แพทย์หลวงเซเตมพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเอ่ยต่อ “องค์เทพีไอซิสบอกว่าเจ้าช่วยเจ้าชายนาร์เมอร์ให้หายประชวรได้”

“ข้าต้องทราบพระอาการของเจ้าชายก่อนเจ้าค่ะ จึงจะรักษาพระองค์ได้ถูกต้อง ท่านลุงเล่าพระอาการให้ข้าฟังสิเจ้าคะ”

“ได้ เวลานั้นที่เจ้าชายเริ่มประชวร พระองค์มีอาการคันเป็นผื่นแดง ต่อมาไม่นานก็ทรงถ่ายเป็นมูกเลือดมาตลอด อาการอย่างอื่นที่ข้าสังเกตเห็นก็คือ พระองค์มักจะจุกแน่นยอดอก ไอเล็กน้อย มีไข้ในยามบ่าย ทรงเป็นลมพิษบ่อยๆ ทั้งยังทรงอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย แค่เพียงลุกขึ้นนั่ง พระองค์ก็เหนื่อยมาก”

นัซย่านิ่งคิด สมองของเธอกำลังนึกถึงอาการของโรคต่างๆ ครู่หนึ่งเธอก็เบิ่งตากว้างอย่างนึกออก

“พระองค์ประชวรด้วยโรคพยาธิใบไม้ในเลือดเจ้าค่ะ”

เพียงฟังชื่อโรค ทั้งแพทย์หลวงเซเตมและเมริทต่างมีสีหน้ามึนงง พวกเขาไม่รู้จักโรคนี้ แต่นัซย่าเป็นคนแรกที่บอกได้

“แล้วต้องรักษาอย่างไร” แพทย์หลวงเซเตมถามต่อทันที

“วิธีรักษาง่ายมาก แค่รับประทานยาถ่ายพยาธิเท่านั้น แต่ถ้าจะให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นอีก ต้องควบคุมสภาพแวดล้อม จุดนี้ล่ะที่ยากที่สุด เพราะต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เจ้าชายนาร์เมอร์และคนอื่นๆ จะทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ โรคนี้จะค่อยๆ หายไปจากอียิปต์”

เพียงได้ยินคำว่า ‘โรคนี้จะค่อยๆ หายไปจากอียิปต์’ ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแพทย์หลวงเซเตมและเมริทอย่างมาก

“จริง?”

“จริงเจ้าค่ะ แต่เงื่อนไขอยู่ที่ข้าได้บอกไป นั่นคือต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต”

“ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต? มันคืออะไร ฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel