บทที่ 2 สังเกตท่าที
หลังจากหญิงสาวสามารถหาเหตุผลมาไขข้อสงสัยได้แล้ว จึงไม่ชักช้ารีบอาบน้ำและลงไปหาลูกสาวตัวน้อยทันใด ซึ่งกำลังนั่งคอยผู้เป็นแม่อย่างใจจดใจจ่อ
“แม่มาแล้ว” หนูน้อยวิ่งไปกอดขาผู้เป็นแม่อย่างดีใจ ก่อนฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี
“รอแม่นานเลยใช่ไหม” เธออุ้มลูกขึ้นมา แล้วพาไปหาสายป่านที่จ้องเธออย่างจับสังเกต
“มีอะไรหรือเปล่าป่าน ทำไมมองพี่อย่างนั้น”
“ตาพี่ขวัญแดง ๆ นะ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“แน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไร เหมือนคนเพิ่งร้องไห้เลย” สายป่านขยับตัวเข้าใกล้พี่สาวเพื่อสำรวจใบหน้า
“พี่พาณดาไปกินข้าวดีกว่า” หญิงสาวตัดบทก่อนพาลูกสาวตัวน้อยเดินเข้าไปในห้องครัว
“ทำตัวน่าสงสัย”
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ขวัญอนงค์พาลูกสาวตัวน้อยไปบนห้องและทำการอาบน้ำให้เรียบร้อย ก่อนพามาบนเตียง
“แม่ขา…”
“ว่าไงจ๊ะคนสวยของแม่” เธอขานรับลูกสาวพลางชำเลืองมองหน้าจิ้มลิ้มของณดาอย่างเอ็นดู นับวันเด็กน้อยวัยสามขวบยิ่งโตขึ้นยิ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงทิศเหนือ บ่อยครั้งมองลูกสาวแล้วคิดถึงพ่อของลูก
“เมื่อไรพ่อจะกลับมาคะ หนูอยากเจอพ่อแล้ว” มองแม่อย่างสงสัย
“พ่อไปทำงาน เก็บเงินมาซื้อของเล่นให้ณดาไงคะ” ทุกครั้งลูกสาวถามถึงผู้เป็นพ่อ เธอมักจะตอบแบบนี้เป็นประจำ เนื่องจากไม่รู้จริง ๆ ชายคนรักหายไปไหน
“แต่พ่อไม่เคยกลับมาหาหนู” สีหน้าของเด็กน้อยสลดลงบวกกับน้ำเสียงเริ่มเศร้า
“นี่ไงคะ ตุ๊กตาพี่หมีที่พ่อให้ณดา” ขวัญอนงค์เอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาบนโต๊ะหัวเตียงมายื่นให้ลูกสาว ซึ่งเป็นของที่ได้มาจากการปาเป้าในงานวัดสมัยเธอกับทิศเหนือไปเที่ยวก่อนจะรู้ว่าท้องณดา เธอเก็บข้าวของทุกอย่างของเขาไว้อย่างดี
“พี่แองจี้ของณดา” หนูน้อยคว้าตุ๊กตาหมีจากมารดามากอดด้วยความดีใจ
“นอนได้แล้วนะคะ คนเก่งของแม่”
“ค่ะ”
ขวัญอนงค์โอบกอดลูกสาวพร้อมร้องเพลงกล่อมจนหลับ ก่อนผงกหัวขึ้นมองหน้าเล็กของณดาตอนหลับ ซึ่งน่าเอ็นดูมากเหลือเกินสำหรับแม่อย่างเธอ
“ไม่ต้องห่วงนะณดา แม่ต้องรู้ให้ได้ทำไมพ่อของลูกถึงไม่เคยกลับมาหาเราเลย” เพราะทิศเหนือแตกต่างไปจากเดิม เธอต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ผ่านมาแล้วเกือบสองสัปดาห์กับการทำงานเป็นเลขาของทิศเหนือ ขวัญอนงค์ยังไม่สามารถสืบเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มได้เลย และแอบเจ็บปวดทุกครั้งต้องทนมองหน้าของอีกคน แต่เขากลับแสดงท่าทีเมินเฉยราวกับไม่รู้จักกันมาก่อนทำเอาใจดวงน้อยเจ็บแปลบบ่อยครั้ง
“น้องขวัญเตรียมตัวให้พร้อมนะ สักพักคุณเหนือมีประชุม น้องขวัญต้องเข้าไปฟังพร้อมพี่”
“ค่ะ พี่จันทร์”
“แล้วเรื่องงานล่ะ ติดปัญหาตรงไหนอีกไหม”
“ไม่ค่ะ ขวัญจดทุกอย่างตามที่พี่จันทร์เคยสอนไว้หมดแล้ว”
“อืม งั้นก็ดีแล้ว”
“เอกสารที่ต้องใช้ในการประชุมพร้อมแล้วใช่ไหม คุณจันทร์” เสียงทุ้มของประธานหนุ่มแทรกขึ้น หยุดการสนทนาระหว่างขวัญอนงค์กับจันทร์วิมล
“เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณเหนือ”
“อืม” ทิศเหนือตอบรับในลำคอพลางเหลือบมองเลขาสาวคนใหม่ด้วยความรู้สึกคุ้นเคย ขณะเดียวกันขวัญอนงค์บังเอิญสบตาคนตัวโต ก่อนอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีและยกเท้าใหญ่จากไป
“ไปกันเถอะน้องขวัญ” จันทร์วิมลสะกิดเรียกคนกำลังเหม่อลอย แล้วทั้งสองไม่รอช้าตามหลังเจ้านายหนุ่มไป
หลังจากเข้ามาอยู่ในห้องประชุม ทุกคนนั่งลงประจำตำแหน่งของตนเอง ก่อนทุกสายตาจับจ้องมองทิศเหนือที่กำลังชี้แจงประเด็นในการประชุมครั้งนี้
ในขณะเดียวกันขวัญอนงค์คอยลอบมองประธานหนุ่มอย่างชื่นชมในตัวเขา แววตาที่ใช้มองคนตัวโตเต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้น ซึ่งส่งผลให้ทิศเหนือรู้สึกอึดอัด
‘ขวัญต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่โซ่กันแน่’ หญิงสาวทำได้แค่พูดในใจ และนั่งฟังประชุมต่อพร้อมกับจด
การประชุมผ่านพ้นไปด้วยดี ทุกคนในห้องต่างทยอยออกจากห้องจนหมด แต่ยังเหลือขวัญอนงค์กับทิศเหนือ
“คุณขวัญ ออกจากห้องประชุมแล้วไปพบผมที่ห้องทำงานด้วย”
คนตัวเล็กกำลังเก็บของบนโต๊ะหยุดชะงักกับเสียงทุ้มของเจ้านายหนุ่ม เมื่อเงยหน้ามองพบว่าเขาจากไปแล้ว
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย” เสียงหวานพึมพำ เธอไม่รอช้ารวบของและเดินตามประธานหนุ่มไปห้องทำงานของเขา
“เอ่อ คุณเหนือมีอะไรจะสั่งขวัญเหรอคะ” ถามพลางสังเกตท่าทางของเจ้านายหนุ่มตรงหน้าที่นั่งอ่านเอกสารเบื้องหน้า โดยไม่ชำเลืองมองเธอสักนิด
“ผมอยากได้รายงานสรุปการประชุมเมื่อสักครู่”
“ได้ค่ะ”
“ขอภายในวันนี้นะครับ ทันหรือเปล่า” คราวนี้ชายหนุ่มยอมเงยหน้าขึ้น ช้อนตามองขวัญอนงค์ด้วยสายตาคาดเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ช่างว่างเปล่ายิ่งนัก
“ทันค่ะ”
“อืม” หลังจากตอบรับ บรรยากาศภายในห้องตกอยู่ในความเงียบสงัดทำเอาเลขาสาวรู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขวัญขอตัวก่อนนะคะ” เธอหมุนตัวเตรียมจะยกเท้าออกจากห้อง ทันใดนั้นเป็นอันหยุดชะงักกับถ้อยคำของเจ้าของห้อง
“ผมมีคู่หมั้นแล้ว ผมพูดแค่นี้หวังว่าจะเข้าใจ”
“…” ขวัญอนงค์ไม่ตอบโต้เจ้านายหนุ่ม เธอรีบก้าวเท้าเดินจากไปทันที ด้วยความกลัวจะเผลอร้องไห้กับวาจาของเขา
“น้องขวัญ…”
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอไม่รอให้จันทร์วิมลพูดจบ จึงสวนขึ้นทันใดและก้าวเท้าจากไปเร็ว ๆ
หญิงสาวเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ปล่อยน้ำตาให้หลั่งรินข้างแก้มนุ่มทั้งสองข้างด้วยความเสียใจกับถ้อยคำของชายคนรัก หลายปีที่เธอรอแต่เขากลับทำเหมือนไม่รู้จักกัน แต่ไม่น่าเจ็บปวดเท่ากับที่เขาบอกว่ามีคู่หมั้นแล้ว
“ฮึก ฮือ ๆ ขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างเราชัดเจนดีจังนะพี่โซ่”
ขวัญอนงค์ใช้เวลาสงบอารมณ์ของตนเองพักหนึ่ง แล้วกลับไปทำงานตามเดิมทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้เพิ่งผ่านการร้องไห้มา
ไม่ใช่ว่าเธอจะตัดใจจากเขาง่าย ๆ เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี จึงขอพักใจชั่วคราว ก่อนพยายามทำตัวให้วุ่นวายเพื่อลืมความรู้สึกปวดหนึบหัวใจชั่วครู่
“คุณจันทร์ พี่เหนืออยู่ในห้องหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ เดี๋ยวจันทร์พาเข้าไปพบนะคะ”
“ไม่ต้อง บีจะเข้าไปหาพี่เหนือเอง”
“ค่ะ”
“ใครเหรอคะ พี่จันทร์” ขวัญอนงค์ถามขึ้นหลังจากสาวคนดังกล่าวหายลับเข้าไปในห้องทำงานของประธานหนุ่ม
“คุณบีน่า คู่หมั้นคุณเหนือ”
“อืม” ตอบรับเพียงสั้น ๆ ในลำคอเนื่องจากรู้สึกจุกอกไปหมดจนพูดอะไรไม่ออก
“เหมาะสมกันดีใช่ไหมล่ะ”
“…”
“คุณเหนือกับคุณบีหมั้นกันเมื่อปีที่แล้ว อีกไม่นานก็คงแต่งกันแล้วแหละเป็นคู่ที่เหมาะกันมากเลยใช่ไหม”
ขวัญอนงค์ทำได้แค่ฟังจันทร์วิมลเล่า โดยไม่ตอบโต้อะไรเลย กระทั่งทิศเหนือกับบีน่าเดินออกมาจากห้องด้วยกัน เธอชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ที่สั่งงานกับจันทร์วิมลก่อนเดินจากไปพร้อมคู่หมั้น
‘ระหว่างเราแค่นี้เองเหรอ พี่โซ่’
เธอน้อยใจเขามากเหลือเกิน แต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ในเมื่ออีกคนลืมกันไปแล้ว ทว่าข้องใจมากที่สุดคือสิ่งใดกันทำให้เขาลืม
ตลอดทั้งวันคนตัวเล็กวุ่นวายกับการทำงาน หญิงสาวพยายามทำตัวเองให้ยุ่งเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดอะไรฟุ้งซ่าน
“น้องขวัญ เลิกงานได้แล้ว”
“กลับก่อนเลยค่ะ ขวัญมีงานต้องเคลียร์อีกนิดหน่อย”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ” พูดจบก็จากไปทันที ทิ้งขวัญอนงค์ไว้ตามลำพัง
“ไปไหนของเขากัน ตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ดวงตากลมโตช้อนตามองไปยังห้องทำงานของประธานหนุ่มด้วยความสงสัย
“ช่างเถอะ จะไปไหนก็เรื่องของเขา” หญิงสาวสลัดความคิดในหัวทิ้ง และจัดการทำงานเบื้องหน้าต่อ
