
บทย่อ
คำโปรย สี่ปีที่เธอรอเขา ก่อนจะกลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะลูกน้องกับเจ้านาย มิหนำซ้ำเขายังจำไม่ได้อีกต่างหากว่าเธอคือใครและเคยรักกันมากแค่ไหน… ตัวอย่าง “จะหนีไปไหน จูบคนอื่นแล้วก็รับผิดชอบด้วยสิครับ” “เปล่า” เบือนหน้าหนีไปทางอื่น “ปากแข็งจังเลยนะครับ” “ปล่อยขวัญนะคะ” พยายามขัดขืนแต่สู้แรงมหาศาลของอีกคนไม่ได้เลย “ถ้าผมไม่ปล่อยล่ะครับ” “นี่คุณ…อุ๊บ” ประธานหนุ่มใช้ฝ่ามือใหญ่รั้งท้ายทอยของขวัญอนงค์ แล้วจูบคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว “อื้อ” เดิมทีหญิงสาวไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา แต่จูบแสนหวานฉ่ำของชายหนุ่มทำเอายากจะปฏิเสธ สุดท้ายขวัญอนงค์หลงใหลไปกับสัมผัสนั้น
อารัมภบท Nc
“อื้อ อ๊ะ พี่โซ่ขา…” เสียงหวานร้องครางลั่นอย่างสุขใจกับบทรักที่ได้รับจากคนเหนือร่าง
การกระแทกของชายหนุ่มทั้งนุ่มนวลและรุนแรงในเวลาเดียวกันทำเอาขวัญอนงค์รู้สึกดียิ่งนัก
“พี่รู้สึกดีเหลือเกิน” คนตัวโตกระซิบข้างใบหูขาวสะอาด ก่อนกดจูบแก้มนุ่มหนัก ๆ ด้วยความหลงใหลในตัวสาวคนรัก
“พี่โซ่ขา…จูบขวัญหน่อย” ขวัญอนงค์คว้าต้นคอแกร่งมารับจูบจากริมฝีปากอวบอิ่ม โดยไม่รอให้คนตัวโตตอบรับ
เขาส่งลิ้นเร่าร้อนเข้าในโพรงปากสาว กวาดต้อนชิมความหวานอย่างหนำใจ ขณะเดียวกันฝ่ามือใหญ่บีบขยำยอดปทุมถันเต่งตึงอย่างเมามัน
ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนไปซุกซอกคอหอมกรุ่นพลางนำปลายลิ้นเลียคอระหงจนเปียกชื้น ไม่วายทำรอยแดงสีกุหลาบมากมายราวกับต้องการประกาศให้คนอื่นรับรู้ว่าเธอคือของเขาเพียงคนเดียว ผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง
“อื้อ ไม่ไหวแล้ว” เสียงหวานร้องปานจะขาดใจพร้อมจิกเล็กบนท่อนแขนกำยำอย่างแน่น เพื่อระบายความเสียวซ่าน
“พี่ขอเอาแรง ๆ ได้ไหม พี่ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน”
“อืม” พยักหน้ารับอย่างไม่ขัดขืน เนื่องจากใกล้ถึงปลายทางเต็มทีจนไม่อาจหักห้ามความรู้สึกขณะนี้ได้อีกแล้ว
“พี่รักขวัญนะครับ ที่รักของพี่” ชายหนุ่มบอกสาวคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นจับยึดเอวคอดพลางซอยสะโพกเข้าออกในตัวเธอถี่ยิบ
“อ๊า อ๊า” เสียงร้องครวญครางของคนทั้งสองดังประสานกัน ไม่ต้องบอกก็พอรับรู้ว่าเธอและเขามีความสุขมากแค่ไหนกับศึกรักในครั้งนี้
“อื้อ อ๊า พี่จะเสร็จแล้ว”
“ปล่อยมาเลยค่ะ” ส่งยิ้มหวานให้คนเหนือร่าง ครู่ต่อมากายแกร่งเกร็งกระตุกสองสามทีก่อนปลดน้ำเชื้อใส่ร่องรักทุกหยดทำขวัญอนงค์รับรู้ถึงอุ่นร้อนเข้ามาในตัวเธอ จนขนกายลุกซู่ด้วยความรู้สึกซาบซ่าน
“อ๊ะ อ๊า” ชายหนุ่มร้องลั่นพร้อมแหงนหน้ามองเพดานห้อง จากนั้นถอดถอนแก่นกายออกจากตัวเธอและไม่วายล้มตัวลงนอนข้างสาวคนรัก
“พี่รักขวัญนะครับ” ดึงสาวคนรักมากอดและทาบริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา เอื้อมมือหนาเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากมนจนเกลี้ยง
“พี่โซ่”
“หื้ม” ผงกศีรษะมองคนตัวเล็ก จู่ ๆ เอ่ยเรียกเขาแต่ไม่ยอมเปล่งประโยคใดออกมาให้รับรู้ “เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ” ขวัญอนงค์ชั่งใจครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจไม่พูด เพราะกลัวทำอีกคนรำคาญ
“มีอะไรเหรอครับ บอกพี่มาสิ” ชายหนุ่มนอนตะแคงพร้อมปัดปอยผมปรกหน้าไปด้านข้าง กวาดสายตาคมมองหน้าหวาน
“พี่โซ่รักขวัญไหมคะ”
“รักสิ รักมากด้วย” ว่าแล้วจุมพิตลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้น “ทำไมถามอย่างนี้ล่ะครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ขวัญอนงค์เด้งตัวลุกขึ้น ขณะกำลังหย่อนเท้าแตะพื้น ทันใดนั้นชายหนุ่มสวมกอดเธอจากด้านหลังและกระชับอ้อมกอดให้แน่นเพื่อไม่ให้หนี
“มีอะไรเหรอ ทำไมถึงไม่บอกพี่หรือว่าเบื่อกันแล้ว”
“ไม่ใช่นะคะ” หญิงสาวรีบตอบปฏิเสธทันขวับ ก่อนเอี้ยวหน้าไปมองเขาและไม่วายโดนชายหนุ่มทาบริมฝีปากหยักลงบนกลีบปากอวบอิ่มแผ่วเบา
“มีอะไรก็บอกพี่มาตรง ๆ เถอะครับ” เขาจับหัวไหล่บอบบางให้หันมาประชันหน้ากัน ซึ่งขวัญอนงค์เอาแต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันด้วยความกังวลว่าถ้าถามอะไรไม่เข้าท่าอาจจะทำให้คนตัวโตโมโห
“มีอะไรเหรอ” เขายังคงถามด้วยน้ำเสียงสุภาพเหมือนเดิม
“เมื่อไรพี่โซ่จะพาขวัญไปเจอครอบครัวพี่ล่ะ”
คำถามจากสาวคนรักส่งผลให้ชายหนุ่มเงียบพลางชำเลืองดูปฏิกิริยาของขวัญอนงค์
“ลืมสิ่งที่ขวัญพูดเถอะ”
“พี่ขอเวลาหน่อยนะขวัญ” เขากระชับกอดเธอแน่น เมื่ออีกคนพยายามจะแกะแขนแกร่งออกจากเอวคอด
“ขอเวลาเหรอคะ” คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น
“ครับ”
“ก็ได้” สีหน้าที่แสดงถึงความกังวลของอีกคนทำให้เธอไม่กล้าเซ้าซี้มากนัก
“ขอบคุณนะครับ ที่เข้าใจพี่”
“ค่ะ”
“งั้นไปอาบน้ำกันเถอะ” ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียง จากนั้นช้อนสาวคนรักในท่าเจ้าหญิงพาเข้าห้องน้ำ
เธอกับเขาใช้เวลาในการชำระล้างร่างกายไม่นานก็เสร็จ ก่อนออกมาแต่งตัวและไปนอนกอดกันตลอดทั้งคืน
ในเช้าวันใหม่ ขวัญอนงค์สะดุ้งตื่นด้วยอาการพะอืดพะอม เธอรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำแทบหมดไส้หมดพุง
“ท้องหรือเปล่านะ” มือเรียวลูบหน้าท้องแบน จากนั้นออกจากห้องน้ำไปหยิบชุดตรวจครรภ์ที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวาน และรีบนำไปตรวจในห้องน้ำซึ่งผลปรากฏว่าขึ้นสองขีด
“ท้องจริงด้วย” ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง เธอแค่สงสัยว่าตนเองจะตั้งครรภ์เนื่องจากประจำเดือนขาดหายสองเดือน แต่ไม่คิดว่าจะท้องขึ้นมาจริง ๆ
หญิงสาวใช้เวลาในการทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ เกือบสิบนาทีก็แบกร่างไร้เรี่ยวแรงไปนั่งบนเตียงข้างคนตัวโต
“ทำไมตื่นเช้าจัง” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียพร้อมคว้าคนตัวเล็กเข้าสู่วงแขน
“พี่โซ่คะ”
“ครับ” เขาลืมตาขึ้นมองสาวคนรักก่อนชะงักกับท่าทางของคนตัวเล็ก “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดอย่างนี้”
“ขวัญท้องค่ะ”
จบคำพูดของขวัญอนงค์ ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด ต่างฝ่ายต่างไม่เปล่งประโยคใดออกมาสักคำ
“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากเงียบหลายนาที แล้วลุกขึ้นจากเตียงหมายจะตรงเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่ขอโทษนะขวัญ”
“จะเลิกกับขวัญด้วยใช่ไหม” หันไปบอกด้วยเสียงสั่นเครือ เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้หลั่งรินประจานความโง่ของตัวเอง
“พูดอะไรนะขวัญ!!” ไม่รอช้ากระโดดจากเตียงไปสวมกอดคนตัวเล็ก
“ฮึก ขวัญเป็นคนชอบพี่โซ่ก่อน คนที่ตามจีบพี่โซ่ก็คือขวัญและคนที่ดื้อรั้นจะคบกับพี่โซ่ก็คือขวัญอีกนั่นแหละ คงไม่แปลกหรอกถ้าพี่จะบอกเลิกขวัญ” พูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมกับหยาดน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนหน้างดงาม
เธอกับเขารู้จักกันเพราะชายหนุ่มเป็นหัวหน้าแผนก หญิงสาวเป็นคนจีบเขาก่อน แรก ๆ ชายหนุ่มปฏิเสธ ทว่าพอนานไปกลับพ่ายแพ้ให้กับความขี้ตื๊อของหญิงสาว กระทั่งได้คบกันและย้ายมาอยู่ด้วยกันเกือบหนึ่งปีแล้ว
“ใครบอกว่าพี่จะเลิกกับขวัญ”
“ฮึก ฮือ ๆ ขวัญท้อง พี่โซ่คงไม่ต้องการลูกของเราหรอก เดิมทีพี่โซ่เองก็ไม่ได้ชอบขวัญอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มถอนหายใจยืดยาวก่อนปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระ แล้วเดินไปเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก
“อย่าคิดไปเองได้ไหมขวัญ ถึงเมื่อก่อนขวัญจะเป็นฝ่ายชอบพี่ก่อน แต่ตอนนี้เราคบกันแล้วและพี่ก็รักขวัญมากด้วย”
“แล้วเด็กในท้องขวัญล่ะ” ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาแหงนมองอย่างกดดันในคำตอบ
“เด็กในท้องขวัญก็เป็นลูกของเราไงครับ” ส่งยิ้มอ่อนแก่คนตัวเล็ก
“ฮึก ฮือ ๆ พี่โซ่” หญิงสาวทรุดกายนั่งกองบนพื้น ยกฝ่ามือเล็กขึ้นมาปิดใบหน้า ปล่อยโฮออกมาด้วยความรู้สึกมากมาย
“ขวัญ” เขาล้มตัวนั่งลงตามสาวคนรักและดึงขวัญอนงค์มากอด
“ฮึก ฮือ ๆ”
“ร้องไห้ทำไม เสียใจขนาดนั้นเลยเหรอที่มีลูกกับพี่” เขาถามอย่างหยอกล้อหวังให้คนท้องอารมณ์ดี
“ไม่ใช่นะคะ” ส่ายหัวไปมา “ขวัญคิดว่าพี่โซ่ไม่ต้องการลูกเสียอีกก็เห็นพี่โซ่พูดว่าขอโทษ”
“พี่ขอโทษนะครับ ถ้าทำให้ขวัญเข้าใจผิด แต่สิ่งที่พี่พูดก่อนหน้านี้คือพี่รู้สึกผิดที่ทำให้ขวัญท้องก่อนแต่ง”
“พี่โซ่” เธอชะงักกับคำพูดของเขา
“เรามาแต่งงานกันนะครับ”
“ค่ะ” เธอโผกอดคนตัวโตอย่างดีใจ
“พี่รักขวัญนะครับ” ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังเล็กอย่างอ่อนโยนราวกับต้องการปลอบประโลมจิตใจของหญิงสาว
ครืด! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะหลายรอบ คราแรกชายหนุ่มไม่อยากรับแต่ขวัญอนงค์คะยั้นคะยอ เพราะกลัวว่าคนปลายสายอาจมีเรื่องด่วน
หลังจากชายหนุ่มคุยกับคนปลายสายเสร็จ สีหน้ากับท่าทางของเขาเปลี่ยนไปทันที ทำให้ขวัญอนงค์ต้องเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“คุณปู่เสียแล้ว” สิ้นคำพูดของคนตัวโต เขารีบโอบกอดคนตัวเล็ก
“พี่โซ่”
“เพราะพี่คนเดียวที่ทิ้งคุณปู่ไว้ตามลำพัง ทุกอย่างมันเลยลงเอยแบบนี้” ชายหนุ่มปล่อยน้ำตาไหลพรั่งพรูด้วยความเสียใจ หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้ประโยคใดนอกจากลูบแผ่นหลังกว้างเบา ๆ
“ขวัญ พี่ต้องกลับบ้าน”
“ค่ะ”
“แต่พี่คงพาขวัญไปไม่ได้เพราะมันอันตราย รอพี่ที่นี่ได้ไหมครับ”
“ขวัญไปไม่ได้เหรอคะ แต่ขวัญอยากอยู่กับพี่โซ่” ถามเสียงเศร้า เธอแค่อยากอยู่ปลอบใจเขาในช่วงเวลาเขาต้องการกำลังใจ
“ใช่ครับ พี่สัญญานะครับ พี่จะกลับมาหาขวัญกับลูกแน่นอนและจะเล่าเรื่องครอบครัวพี่ให้ขวัญฟัง”
“ฮึก สัญญาแล้วนะคะ ห้ามหลอกขวัญนะ”
“สัญญาครับ ไม่ต้องร้องนะคนดีของพี่” ชายหนุ่มช่วยปาดน้ำใสบนแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน ไม่วายคว้าขวัญอนงค์มากอด
นับจากทราบเรื่องการเสียชีวิตของปู่ ชายหนุ่มรีบเดินทางกลับทันใด และต้องจำใจทิ้งขวัญอนงค์ไว้ตามลำพังอย่างไม่มีทางเลือก