บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8. ช่วงเวลาดีๆ และการจากลา/1

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ทั้งสองก็ลงมายังห้องอาหารของโรงแรม ภายในตกแต่งอย่างเรียบหรูแต่ก็อบอุ่น พนักงานต้อนรับด้วยรอยยิ้มสุภาพ พะพายกับน้ำรินเลือกนั่งริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ต้นไม้เขียวขจีและโคมไฟหิน สร้างบรรยากาศสงบและงดงาม

“วันพรุ่งนี้ฉันต้องไปอบรมการจัดสวน โดยอาจารย์โทรุ ทามาดะ ท่านเป็นนักจัดสวนระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น “

น้ำรินเล่าถึงความตื่นเต้นกับการอบรมการจัดสวนที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ วิทยากรของงานคืออาจารย์ โทรุ ทามาดะ นักจัดสวนชื่อดัง

“ท่าทางน้ำริน จะปลื้มอาจารย์โทรุมาก”

พะพายสังเกตเห็นท่าทางปลาบปลื้ม ที่น้ำรินมีต่อนักจัดสวนคนนี้

“ใช่ค่ะ อาจารย์โทรุ คือนักจัดสวนที่ฉันประทับใจการทำงานของท่านมาก พอมีข่าวว่าจะเปิดอบรมก็รีบสมัครทันที นี่ที่นั่งเกือบเต็มแล้ว โชคดีที่ตัดสินใจเร็ว”

น้ำรินชื่นชมเขามาก เมื่อมีการเปิดอบรมจึงสมัครเข้าร่วมทันที

“การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น เป็นที่นิยมของลูกค้ามาก กลับไปคราวนี้ฉันจะนำความรู้ไปต่อยอดธุรกิจจัดสวนของฉัน”

ดวงตาของน้ำรินเปล่งประกายคาดหวัง เมื่อพูดถึงความฝันที่จะสานต่อธุรกิจของครอบครัว พะพายจ้องมองใบหน้าของน้ำรินอย่างตั้งใจ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมในสิ่งที่อีกฝ่ายทำ รู้สึกประทับใจในความมุ่งมั่นและความสดใสของน้ำริน

"ฉันอยากเห็นสวนที่น้ำรินจัดจังเลยค่ะ คงจะสวยมาก"

พะพายเอ่ยขึ้นด้วยความสนใจ น้ำเสียงของเธออ่อนโยนและอยากรู้อยากเห็น

"ถ้ามีโอกาส...ฉันจะพาพะพายไปดูนะคะ หลังจากการอบรมเสร็จ...ฉันอยากใช้เวลากับคุณให้มากกว่านี้"

น้ำรินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แก้มแดงระเรื่อเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอหนักแน่นและจริงจัง สายตาที่สบกับพะพายเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

พะพายรู้สึกอบอุ่นลึกซึ้งในหัวใจ เธอเอื้อมมือไปวางทับบนมือของน้ำรินที่วางอยู่บนโต๊ะ สัมผัสแผ่วเบานั้นสื่อถึงความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ มันเป็นความรู้สึกประทับใจ ความเสน่หา และความหวังถึงอนาคต

หลังจากอาหารเช้า ทั้งสองตัดสินใจไปเยี่ยมชมวัดคิโยมิสึ วัดเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเกียวโต แสงแดดยามเช้าสาดส่องเจิดจ้า ใบไม้สีเขียวสดใสพลิ้วไหวตามลม เสียงกระดิ่งลมดังกรุ๊งกริ๊งเป็นระยะ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนเดินชมวัดด้วยความสงบ บ้างก็พนมมือไหว้พระ บ้างก็เดินชมสถาปัตยกรรม

พะพายและน้ำรินเดินเคียงข้างกันอย่างเงียบๆ ชมสถาปัตยกรรมไม้โบราณที่แสดงถึงความประณีตและความสง่างาม พวกเธอสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างช้าๆ ราวกับต้องการซึมซับความสงบของสถานที่แห่งนี้ แสงแดดส่องลอดใบไม้ลงมาเป็นเงาพาดผ่านพื้นหิน

ทั้งสองแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พะพายมองตามน้ำรินที่พนมมืออธิษฐานด้วยความตั้งใจ แววตาของเธอดูสงบและแน่วแน่ พะพายเองก็หลับตาลง อธิษฐานขอพรในใจถึงความสุขและความราบรื่นในชีวิต และแอบหวังถึงความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ นี้ ขอให้ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธอเติบโตงอกงาม

จากนั้น ทั้งสองเดินไปยังบริเวณที่แขวนแผ่นไม้เอมะเล็กๆ น้ำรินบรรจงเขียนด้วยลายมือที่สวยงาม พะพายมองตามด้วยความสนใจ อยากจะรู้ว่าคำอธิษฐานของอีกฝ่ายคืออะไร เมื่อเขียนเสร็จ ทั้งสองแขวนแผ่นไม้เอมะคู่กันใต้ชายคา ราวกับเป็นการผูกพันความหวังของพวกเธอไว้ด้วยกัน สายตาของทั้งสองสบกันครู่หนึ่ง เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

"คุณอธิษฐานขออะไรเหรอคะ"

พะพายเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา

"ฉันขอให้ทุกวัน พบเจอแต่เรื่องดีๆ"

น้ำรินยิ้มบางๆ ดวงตาเป็นประกายอ่อนโยน ขณะเอ่ยอีกว่า

“และขอให้คนที่ฉันรัก มีความสุข...”

สายตาของเธออ่อนโยนขณะมองพะพาย ยามเอ่ยคำว่าคนรักน้ำเสียงอบอุ่นยิ่งนัก ทำให้พะพายรู้สึกถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในทุกถ้อยคำนั้น หัวใจพลันพองฟูขึ้นมา

พะพายรู้สึกอบอุ่นลึกซึ้งในหัวใจ เธอเองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาทอประกายความสุขออกมา

"ฉันก็ขอคล้ายๆ กันค่ะ..."

น้ำรินเดินไปยังแผงขายเครื่องรางเล็กๆ ที่มีสีสันสดใสและหลากหลาย เธอเลือกอยู่นาน ดวงตาคมกวาดมองเครื่องรางแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะหยิบยันต์นำโชคสีชมพูอ่อน ที่เชื่อกันว่าจะนำพาความรักและความสุขมา ยื่นให้พะพาย พร้อมด้วยรอยยิ้มละมุนละไม

"ฉันอยากให้คุณพกติดตัวไว้นะคะ เป็นของที่ระลึกจากฉัน และเป็นกำลังใจให้คุณด้วย"

พะพายรับยันต์นั้นมาด้วยความซาบซึ้ง ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ลวดลายบนยันต์อย่างเบามือ เธอจ้องมองดวงตาของน้ำรินอย่างอ่อนโยน

"ขอบคุณนะคะ ฉันจะเก็บรักษาไว้อย่างดี"

ความรู้สึกขอบคุณและความประทับใจ เอ่อล้นอยู่ในหัวใจของพะพาย ของที่ระลึกชิ้นนี้แม้ไม่ได้ราคาสูง แต่มีคุณค่าต่อจิตใจของเธอมาก

“ฉันก็อยากให้ของที่ระลึกกับน้ำรินด้วย”

พะพายหยิบยันต์แห่งความสำเร็จและราบรื่นสีฟ้า มาส่งให้น้ำริน เธอคิดว่าน้ำรินมุ่งมั่นกับงานของตัวเองมาก ย่อมต้องการความสำเร็จในเร็ววัน

“ชอบคุณนะพะพาย”

บนระเบียงไม้กว้างของวัด ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกัน มองลงไปยังเมืองเกียวโตที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่าง แสงแดดสาดส่องกระทบหลังคาวัด สายลมพัดแผ่วเบา พัดเส้นผมของพวกเธอให้ปลิวไสว น้ำรินยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับพะพาย เก็บภาพรอยยิ้มและความสุขที่ปรากฏบนใบหน้าของทั้งสองไว้เป็นที่ระลึก รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่มาจากใจจริง

หลังจากเดินเที่ยวจนพอใจ น้ำรินก็พาพะพายกลับมาส่งที่โรงแรม น้ำรินต้องกลับไปที่พักของตัวเองเพื่อเตรียมตัว สำหรับการอบรมในวันพรุ่งนี้

“นี่เบอร์ของฉันนะคะ ถ้าฉันไม่รับสายแปลว่ากำลังอบรมอยู่ ส่งข้อความทิ้งไว้แล้วฉันจะรีบตอบกลับ”

น้ำรินให้เบอร์โทรของเธอกับพะพาย อีกฝ่ายก็แลกเปลี่ยนเบอร์ส่วนตัวเช่นกัน

“นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของฉันค่ะ เบอร์นี้ฉันให้สำหรับคนสำคัญเท่านั้น”

พะพายย้ำความสำคัญของเบอร์พิเศษที่เธอให้เฉพาะคนในครอบครัว และเพื่อนสนิท น้ำรินถึงกับอมยิ้มแก้มตุ่ย

“ดีใจที่พะพายจัดลำดับฉัน ไว้เป็นคนสำคัญของคุณ”

หญิงสาวจับมือพะพายไว้แน่น สายตาจ้องมองใบหน้าอ่อนหวานของอีกฝ่าย ราวกับต้องการพิมพ์ประทับภาพของนางแบบสาวไว้ในใจ

"การอบรมอาจจะใช้เวลาประมาณสองวัน เสร็จแล้วฉันจะรีบกลับมานะคะ"

น้ำเสียงของน้ำรินเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ แม้พบกันและรู้จักเพียงแค่ข้ามวัน แต่ในใจกลับรู้สึกกับพะพายอย่างลึกซึ้ง มากกว่าเพื่อนคนไหนๆ

"ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ แล้วเจอกันค่ะ"

พะพายพยักหน้าและยิ้มให้ น้ำตาคลอหน่วยตา หัวใจวูบโหวงเล็กน้อย ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจในครั้งนี้ เกิดเป็นสายใยผูกพันร้อยรัดหัวใจของเธออย่างไม่รู้ตัว

แม้จะต้องจากกันในอีกไม่ช้า การจากลาที่หน้าโรงแรมเต็มไปด้วยความอาลัย แต่ในแววตาของทั้งคู่กลับฉายความหวังถึงวันที่ได้พบกันอีกครั้ง...

ความรู้สึกพิเศษที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นนั้น ยังคงอบอวลอยู่ในหัวใจของพวกเธอ ราวกับเป็นสัญญาเงียบๆ ที่ผูกพันหัวใจสองดวงไว้ด้วยกัน

///

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel