ตอนที่ 9. ช่วงเวลาดีๆ และการจากลา/2
เช้าวันต่อมา พะพายนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นซากุระที่เริ่มผลัดใบ แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านเรือนยอดของต้นไม้สูงใหญ่ในสวน ใบไม้สีเขียวสดใสสั่นไหวตามลมแผ่วเบา บรรยากาศเงียบสงบ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาเป็นระยะ มองออกไปพบผู้คนที่มาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ คลอเคล้าไปกับเสียงเด็กหัวเราะคิกคักที่วิ่งเล่นอยู่บนสนามหญ้าเขียวขจี ดอกไฮเดรนเยียหลากสีบานสะพรั่งอยู่ตามแปลงดอกไม้ สร้างความสดชื่นและมีชีวิตชีวาให้กับสวนสาธารณะแห่งนี้
พะพายปล่อยความคิดของเธอให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล... ในหัวมีภาพใบหน้าหวานซึ้ง รอยยิ้มอบอุ่น และแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของน้ำริน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนยังคงอบอวลอยู่ในหัวใจ ราวกับความฝันที่จับต้องได้
สัมผัสอ่อนโยน จูบแรกที่ไม่ได้ตั้งใจและค่ำคืนที่ลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อน พะพายยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากของตัวเองอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกอบอุ่นยังคงติดตรึงอยู่ไม่จาง ราวกับร่องรอยของความรู้สึกใหม่นั้น กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในหัวใจ เธอไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ทั้งแปลกใหม่และลึกซึ้ง กับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกัน
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพะพายอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อหวนคิดถึงบทสนทนาที่ร้านอาหาร ความใส่ใจ และความปรารถนาดีที่น้ำรินมอบให้ ยันต์นำโชคสีชมพูอ่อนในกระเป๋าสะพายข้าง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นเครื่องยืนยันถึงความรู้สึกพิเศษนั้น
แต่...ความสัมพันธ์ครั้งนี้ จะไปได้ไกลแค่ไหนกัน ความกังวลเล็กๆ ผุดขึ้นมาในความคิด พะพายขมวดคิ้วน้อยๆ
ภาพใบหน้าของธนาหรือพี่ท็อป คนรักเก่าที่คบกันมานานผุดขึ้นมาในความคิด ความสัมพันธ์ที่ยังคาราคาซัง ไม่ได้จบลงอย่างเด็ดขาด ธุรกิจของสองครอบครัวที่เกี่ยวพันกัน เป็นเหมือนโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น แต่กลับรั้งเธอไว้แน่น
‘ครอบครัวของเราล่ะ จะว่ายังไง ถ้ารู้เรื่องนี้’
ความรู้สึกสับสนและหนักใจเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของพะพาย
ในขณะที่พะพายกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดถึงและความกังวล โทรศัพท์มือถือในมือก็สั่นครืด เสียงเรียกเข้าดังขึ้นฉุดให้หลุดจากภวังค์ความคิด พะพายมองหน้าจอพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์จากคุณพิมดาวมารดาของเธอนั่นเอง
"สวัสดีค่ะแม่"
พะพายรับสายด้วยน้ำเสียงที่สดใส ซ่อนความหม่นเศร้าไว้ ไม่ให้มารดารู้สึก
"พะพาย...ลูกอยู่ที่ไหน แม่โทรหาคุณเจสเขาบอกว่าลูกไปพักผ่อน"
เสียงปลายสายฟังดูเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความเป็นห่วงตามแบบฉบับของคนเป็นแม่อย่างคุณพิมดาว
"พายอยู่ที่เกียวโต มาพักผ่อนได้สองวันแล้วค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ"
หัวใจของพะพายกระตุกวูบเล็กน้อย ปกติคุณพิมดาวจะไม่โทรหาเธอ หากไม่มีเรื่องด่วนจริงๆ
"คุณยายไม่ค่อยสบายน่ะ"
เสียงคนเป็นแม่ถอนหายใจเบาๆ ขณะเล่าอาการของผู้เป็นยายให้ลูกสาวฟัง
"ความดันขึ้นสูงอีกแล้วน่ะลูก หมอกำลังดูแลอยู่ คุณยายถามหาพะพาย แม่เลยโทรหา"
ความรู้สึกกังวลแล่นริ้วไปทั่วร่างของพะพาย คุณยายมักจะมีอาการความดันโลหิตสูงเป็นประจำ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินข่าว พะพายก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ท่านไม่เคยเรียกหาหลานสาวคนโปรดเพราะรู้ว่าพะพายมีงานเยอะ ไม่ค่อยว่าง
"อาการหนักมากไหมคะ"
"หมอบอกว่าทรงตัวแล้ว แต่ก็ต้องรอดูอาการใกล้ชิด แม่แค่อยากโทรมาบอกลูกน่ะ เผื่อลูกจะแวะมาเยี่ยม"
ความรู้สึกเป็นห่วงคุณยายท่วมท้นหัวใจ พะพายอยากจะกลับไปดูแลท่านให้เร็วที่สุด
"แม่คะ... หนูจะรีบกลับไปหาคุณยายเดี๋ยวนี้เลยค่ะ"
พะพายพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาเจียนจะหยด เมื่อคิดว่าเธอเป็นหลานสาวที่คุณยายรักที่สุด แต่แทบไม่เคยได้อยู่ดูแลท่านเลย
"หนูสะดวกหรือลูก อยู่ตั้งญี่ปุ่น"
คนเป็นแม่รีบท้วง เกรงจะกระทบงานของลูกสาว ปกติพะพายมักจะยุ่งอยู่ตลอดเวลา นานๆ ครั้งจะกลับมาหาครอบครัว
"ไม่ลำบากหรอกค่ะแม่ หนูเป็นห่วงคุณยาย หนูจะจองตั๋วกลับวันนี้เลยค่ะ" พะพายตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
หลังจากวางสาย พะพายรีบลุกขึ้นจากม้านั่ง ความคิดถึงน้ำรินและความรู้สึกพิเศษเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความกระวนกระวายและความเป็นห่วงคุณยาย เธอรีบค้นหาข้อมูลตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ในโทรศัพท์มือถือ นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว เปรียบเทียบราคาและเวลาออกเดินทาง ความรู้สึกเสียดายที่ต้องจากเกียวโตไปอย่างกะทันหัน และยังไม่ได้บอกลาน้ำรินอย่างเป็นทางการแล่นเข้ามาในความคิด แต่ความห่วงใยคุณยายนั้นมีมากกว่าสิ่งอื่นใด
ในที่สุด พะพายก็จองตั๋วเครื่องบินรอบบ่ายวันนี้ได้สำเร็จ เธอมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์...เหลือเวลาอีกไม่มากนักก่อนที่จะต้องเดินทางไปสนามบิน ความรู้สึกสับสนและหนักอึ้งถาโถมเข้ามา ทั้งความห่วงใยคุณยายที่รักสุดหัวใจ และความเสียใจที่ต้องจากน้ำรินไปโดยที่ยังไม่ได้บอกลา...
เธอควรจะบอกน้ำรินไหม แต่จะบอกอย่างไรดี เวลากระชั้นชิดเหลือเกิน พะพายตัดสินใจโทรหาน้ำริน แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ อีกฝ่ายคงกำลังอบรมอยู่อย่างที่เคยบอกไว้
เธอจะต้องรีบกลับไปหาคุณยายก่อน แล้วค่อยติดต่อหาน้ำรินทีหลัง พะพายถอนหายใจยาว มองไปยังท้องฟ้าสีคราม ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เกาะกุมหัวใจเธออย่างแน่นหนา พร้อมกับความกังวลถึงความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น และความสัมพันธ์ที่ยังคาราคาซังที่รอเธออยู่
///
