บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“เดี๋ยวผมก็ตบะแตกปล้ำที่รักตอนนี้หรอก หยุดได้แล้ว อืม…” คำท้ายๆ ของเขาติดจะกลายเป็นเสียงคราง สีหน้าก็ดูเหยเกที่ถูกฉันแกล้ง

“สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่รักแอบไปมีกิ๊กมาหรือเปล่า”

“ไม่มีครับ”

“จริงๆ นะ”

“จริงๆ ถ้าไม่จริงขอให้น้องชายผมเหี่ยวก็ได้ อ่ะ…อาห์” ดูเหมือนเขาจะพูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก นั่นเพราะฉันเร่งจังหวะมือให้ถี่ขึ้นอีกหน่อย แก่นกายของสามีสุดหล่อกำลังเต้นตุบๆ อยู่ในมือฉัน มันก็ทำให้อารมณ์ของฉันพลอยกระเจิดกระเจิงจนอยากขึ้นมานั่งคร่อมแล้วจัดการสอดใส่เสียเดี๋ยวนี้ แต่ฉันต้องอดทนไว้ ไม่อย่างนั้นสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เสียเปล่ากันพอดี

“ไม่เอา เกิดเหี่ยวขึ้นมาจริงๆ เค้าก็อดใช้งานน่ะสิ” ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ ส่วนเปรมนั้นดูจะยิ้มไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่

“ไม่มีทางเหี่ยวหรอก เพราะผมไม่มีกิ๊ก ไม่คิดนอกใจที่รักเลย อ่ะ…เห็นไหมว่าน้องชายผมมันแข็งขึ้นมาอีกแล้วเนี่ย อืม…” เปรมครางเสียงกระเส่า เสียงหอบหายใจ เสียงครางของเขามันช่างยั่วยวน

“เสียวไหมคะ”

“เสียวครับ เสียวมาก เสียวจนอยากจับที่รักมากดให้หาย อืม…” ได้ยินแบบนี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด จึงปล่อยมือจากแก่นกายของเขาแล้วสวมกอดเปรมไว้แน่น

“ขอโทษที่แกล้ง แต่อดใจรออีกหน่อยนะ”

“ครับผม”

“อ้อ…ห้ามไปช่วยตัวเองในห้องน้ำเด็ดขาดด้วย” ฉันเงยหน้าขึ้นมอง แต่คำพูดของฉันทำเอาเขาตาค้าง แล้วเอ่ยถามเสียงจริงจัง

“ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ด้วยเหรอ”

“ใช่ค่ะ เพราะการช่วยตัวเองกับการขึ้นเตียงเวลานี้มันก็มีค่าเท่ากันแหละ”

“ไม่เห็นจะเหมือนเลย” สีหน้าของเปรมช่างดูน่าสงสาร

“เหมือน…เพราะสเปิร์มมันถูกรีดออกมาเหมือนกัน จริงไหม”

“แล้วทำไง มันโด่ขนาดนี้แล้ว” ไม่พูดเปล่า เขายังถลกกางเกงลงเพื่อให้ฉันเห็นความโด่ที่ว่า ถ้าเป็นครั้งแรกฉันคงอายหน้าแดง ตัวแดง แต่ตอนนี้นอกจากความอายที่ลดลงแล้ว ฉันยังกล้าที่จะปล้ำเขาก่อนด้วย รอก่อนเถอะ รอให้ครบเดือนก่อน

ฉันคิดหาทางช่วยลดอาการโด่ของสามี พอคิดได้ก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดยูทูปแล้วทำการค้นหาบทสวดมนต์ที่มันยาวๆ หน่อย เมื่อได้ก็เปิดแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเปรม

“งั้นมาฟังบทสวดมนต์กัน จะได้สงบจิตสงบใจค่ะ” เสียงน้ำไหล เสียงระฆัง เสียงบทสวดที่ดังขึ้นทำเอาเปรมหน้าเหวอ ก่อนจะมองฉันตาปริบๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ น้องชายเขามันกลับคืนสู่ขนาดปกติภายในเวลาไม่ถึงสองนาที

เปรมคอตก ส่วนฉันก็รู้สึกผิดที่แกล้งเขาไปแบบนั้น สัญญาว่าถึงปารีสเมื่อไหร่ จะชดเชยให้เขาจนเขาพอใจเลยล่ะ

“ได้ข่าวว่าแกจะไปฮันนีมูนรอบที่สิบที่ปารีสเหรอยะ” คำพูดของเพื่อนสนิท ที่วันนี้ฉันชวนออกมากินข้าวดังขึ้น ฉันยิ้มรับพร้อมกับยักคิ้วให้สองสามครั้ง เพราะนี่คือการฮันนีมูนครั้งที่สิบของฉันจริงๆ แต่จะว่าไปทุกวันของฉันกับสามีก็หวานชื่นเหมือนฮันนีมูนกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ซึ่งก็คงไม่แตกต่างไปจากชีวิตคู่ของปรางทิพย์ ที่แต่งงานแล้วแต่ก็ยังสวีทหวานไม่แพ้คู่รักข้าวใหม่ปลามัน ถึงจะมีสามีมีลูกแล้วแต่ ปรางทิพย์ก็ไม่ลืมที่จะให้เวลาตัวเองได้ออกมาเจอฉัน ได้ออกไปช้อปปิ้งหรือทำกิจกรรมที่อยากทำเหมือนตอนเป็นโสด จะว่าไปเพื่อนฉันก็ได้สามีดีที่เข้าใจ ซึ่งหาได้ยากมากในยุคนี้ โดยสามีของปรางทิพย์จะอาสาดูลูกให้ในวันหยุด

“อื้อ…ไปรำลึกความหลังด้วย”

“โอ๊ย! ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ มีไปรำลงรำลึกความหลัง”

“นิดนึง”

“ขอให้แกได้น้องปารีสติดท้องกลับมาสมใจ” พรจากปรางทิพย์ ฉันรีบพนมมือรับอย่างไม่ลังเล

“สาธุ...เพี้ยง!”

“ยกมือท่วมหัวรับเลยทีเดียว”

“แน่สิ ก็ฉันอยากมีลูกมากนี่นา” ฉันอยากมีลูกจริงๆ ไม่ใช่อยากมีเพราะคนรอบข้างกดดัน แต่ฉันอยากเป็นแม่คน ฉันอยากสัมผัสความรู้สึกของคำว่าแม่ อยากเห็นหน้าลูกของฉันกับเปรมว่าเขาจะหน้าตาออกมาเหมือนฉันหรือเหมือนพ่อมากกว่ากัน

“แล้วถ้าชาตินี้แกมีลูกไม่ได้ แกจะทำไง” คำถามของปรางทิพย์ทำให้ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ

“ฉันต้องมีให้ได้ ถ้าธรรมชาติไม่ติดก็คงพึ่งหมอจริงๆ จังๆ”

“คิดเผื่อไว้ก็ดี แกจะได้ไม่ผิดหวังไง”

“เอาจริงๆ ฉันก็เผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งนะแก แต่ฉันก็ขอพยายามดูก่อน ถ้าทำทุกทางแล้วลูกไม่มาเกิดจริงๆ ฉันก็อยู่กับปั๋วไปสองคนนี่แหละ ไม่อยากรับลูกใครมาเลี้ยงด้วย เพราะยังไงก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของฉัน ฉันไม่มีวันรักได้หมดหัวใจหรอก” นี่คือเรื่องจริง ฉันรักลูกของคนอื่นได้ไม่หมดใจแน่ๆ จึงไม่มีความคิดเรื่องอุปการะเด็กมาเป็นลูก

“ก็จริง เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอมเนอะ”

“กินๆ แก จะได้ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ” ฉันเปลี่ยนเรื่องมันเสียเลย ก่อนจะชวนเพื่อนกินข้าว ที่ตอนนี้พร้อมอยู่บนโต๊ะแล้ว

“นี่กินจนเกินจะซ่อมแซมแล้วย่ะ แล้วดูสั่งยังกับมากินกันสิบคน” ปรางทิพย์บ่นถึงปริมาณอาหารเล็กน้อย แต่กินด้วยกันทีไรก็เห็นหมดทุกที...ชิส์

“ก็มันอยาก สงสัยเมนส์จะมา แต่มาก่อนบินไปปารีสก็ดี ฉันจะได้…”

“พอๆ ไม่ต้องบอก แค่แกอ้าปากฉันก็เห็นยันลิ้นไก่ หื่นไม่มีลิมิต ชีวิตติดเรทสิบแปดบวกจริงๆ แกเนี่ย” ฉันยิ้มขำกับคำเปรียบเทียบของปรางทิพย์ ก่อนจะเอ่ยเสริม

“เอ้า! ก็ห่างมาจะครบเดือน มันต้องหื่นเป็นเรื่องธรรมดาสิ โอ๊ย!...อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆ”

“เป็นเอามาก กินๆ” พอฉันเพ้อมากๆ ปรางทิพย์ก็ยัดปากฉันด้วยข้าวเหนียวคำโต เพราะความที่สนิทกันมาเกือบสิบปี ทำให้ฉันกล้าที่จะพูดทุกอย่างกับเพื่อนคนนี้ ทั้งเรื่องดี เรื่องบ้าๆ บอๆ ของชีวิต

แต่ฉันว่าสองสามวันนี้ฮอร์โมนของฉันมันแปรปรวนแปลกๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร แค่รู้สึกอ่อนไหวและอยากกินนั่นนี่ไปหมด พออิ่มของคาวฉันก็ต่อของหวานทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel