รวมเรื่องรักฉบับติดเรท 2

65.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
43
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

'รวมเรื่องรัก ฉบับติดเรท 2'  จะประกอบไปด้วย 3 คู่รัก 3 รสเช่นกัน 1. 'เหมือนฝัน' กับ 'เปรม' >> เบบี๋ที่รัก 2. ‘เนติธร’ กับ ‘กรดา’ >> เมื่อการแอบรักพี่ชายเพื่อนสนิท ค่อยๆ ขยับมาเป็นได้รักจนหมดใจ (คู่นี้ตามมาจาก 'รวมเรื่องรัก ฉบับติดเรท 1' ค่ะ) 3. 'เวียงพิงค์' กับ 'อาปัถย์' >> สาวน้อยวัยแรกแย้ม รักแรกและรักเดียวของเธอคือเพื่อนมารดา ผู้เงียบขรึม เข้าถึงยาก

นิยายรักโรแมนติกประธานเลขาหมอดาวมหาลัยผู้ชายอบอุ่นรักแรกพบรักหวานๆโรแมนติก

บทที่ 1

เรื่องที่ 1 'เหมือนฝัน' กับ 'เปรม'

“แต่งงานมาก็ตั้งปีกว่าแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะท้องอีกเหรอ...หืม” ฉันถูกถามประโยคนี้อีกครั้งจนได้ และคนที่ถามฉันก็ไม่ใช่ใครอื่น หม่อมแม่ของฉันนั่นเอง

ฉันชื่อเหมือนฝัน ปีนี้อายุสามสิบเอ็ด แต่งงานกับสามีสุดหล่อที่ชื่อว่าเปรมเมื่อปีก่อน เราคบกันมาห้าปี ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน และเมื่อแต่งงานฉันก็หวังว่าจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีด้วย หน้าที่ภรรยานั้นฉันทำได้ดี ยกเว้นหน้าที่แม่ ที่ฉันยังไม่มีโอกาส

“ยังเลยจ้ะแม่”

“ผัวไม่มีน้ำยาหรือยังไง” ประโยคนี้ทำเอาคนข้างๆ ที่กำลังขับรถอยู่สะดุ้งเบาๆ เพราะฉันเปิดสปีกเกอร์โฟนให้เปรมได้ยินด้วย ว่าฉันคุยอะไรกับแม่

“ก็มีอยู่นะ แม่อยากกินน้ำยาอะไร กะทิ หรือป่า เอาน้ำเงี้ยวไหม”

“ไปตลกไกลๆ ลูกคนนี้นี่” ฉันถูกเอ็ดที่เล่นตลกไม่ดูเวลา ส่วนคนข้างๆ ก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ เดี๋ยว...กลับบ้านก่อนเถอะ จะเอาให้น่วมเลยคอยดู

“หนูก็แค่ไม่อยากให้แม่เครียด” ถูกต้อง…เพราะยิ่งแม่เครียดเรื่องนี้ก็ยิ่งกดดันให้ฉันรีบๆ ท้อง

“แม่อยากอุ้มหลาน กลัวจะตายก่อนได้เห็นหน้า”

“ไม่หรอก แม่ต้องอยู่กับหนูอีกนาน เผลอๆ นู่น ร้อยกว่าปี”

“แก่ไป ขี้เกียจอยู่” คำพูดของแม่ทำเอาฉันส่ายหน้าให้ แม่ฉันแก่มากแล้ว ปีนี้อายุห้าสิบกว่า และฉันก็เป็นลูกคนเดียว ท่านจึงมักจะฝากความหวังไว้เสมอๆ

“เอาเป็นว่าเรื่องหลาน แม่ไม่ต้องห่วง ท้องเมื่อไหร่ หนูบอกแม่ก่อนคนแรกเลย”

“เดือนหน้าเลยยิ่งดี ไม่งั้นแม่จะยกมรดกให้คนอื่น”

“เอ้า! ทำไมเป็นงั้นไปได้ล่ะแม่จ๋า แม่คนงามของลูก” ฉันรีบห้ามทัพด้วยการเยินยอผู้เป็นแม่เข้าไว้ ขืนแม่บ้าจี้ทำอย่างที่พูดมาจริงๆ ฉันจะเหลืออะไรให้ลูกที่จะเกิดมาในอนาคตกันเล่า

“อย่ามาเฉไฉ ถ้าไม่อยากชวดมรดกก็รีบๆ ท้อง เข้าใจไหมฝัน”

“โอ๊ย! แม่ก็”

“แค่นี้นะ”

“จ้ะแม่ สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยลา พอวางสายจากแม่ก็หันมามองหน้าสามีตาปริบๆ เพราะเปรมเองก็ได้ยินที่เธอคุยกับแม่ทุกประโยค

“ที่รักว่าเราควรไปตรวจร่างกายกันดีไหมอ่ะ เค้าอยากรู้ว่าทำไมเค้าถึงยังไม่ท้อง ทั้งๆ ที่เราก็ฟิตเจอริ่ง กันออกบ่อย”

“เอาจริง” เปรมหันมาเลิกคิ้วถาม

“จริง เกิดมีปัญหาเราจะได้หาทางออกกันแต่เนิ่นๆ ไง ที่รักไม่อยากมีลูกเหรอ”

“อยากมีสิ แต่ผมอยากให้ลูกมาเองมากกว่าไปใช้วิธีทางการแพทย์” ฉันก็เห็นด้วยกับความคิดของเปรม แต่พอถูกกดดันมากๆ ก็เริ่มเป๋

“แค่ไปปรึกษาดูก่อน คงไม่เสียหายอะไรหรอก...นะๆ”

“ครับๆ” เสียงทุ้มของสามีสุดน่ารักเอ่ยรับ ฉันโล่งใจมาเปลาะหนึ่งที่เปรมไม่คัดค้านเรื่องการไปพบหมอ หวังว่าผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดจะไม่มีปัญหาอะไร

การไปพบหมอเพื่อตรวจร่างกายก็เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติอะไรที่บ่งชี้ว่าฉันหรือเปรมมีความไม่พร้อม เราทั้งคู่แข็งแรงดี

“อย่าเครียดไปเลยที่รัก ทำใจให้สบาย อีกหน่อยลูกก็มาเอง”

“แต่มันอดเครียดไม่ได้นี่นา” ฉันรู้สึกห่อเหี่ยว

“คิ้วขมวดแบบนี้ไม่ดีนะ มันส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย จะยิ่งท้องยาก”

“ไม่เครียดก็ไม่เครียด เฮ้อ...”

“เอ้า! มีถอนหายใจอีก” เปรมส่ายหน้าให้ฉัน ก่อนจะยิ้มขำ ฉันรู้ว่าเขาเองก็อยากมีลูกมาก เปรมชอบเล่นกับเด็กๆ ที่หมู่บ้าน ภาพที่เห็นทำให้ฉันยิ่งอยากมีลูกของเรา ฉันอยากเห็นเวลาที่เปรมเล่นกับลูก มันคงน่ารักมุ้งมิ้งมากแน่นอน

“ไม่ถอนแล้วๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ซีฟู้ดบำบัดได้ไหมคะที่รักขา”

“ได้สิครับ” ฉันยิ้มแป้นเมื่อเปรมตามใจ ซึ่งปกติเขาก็มักจะตามใจฉันอยู่แล้ว แทบจะไม่เคยขัดใจด้วยซ้ำ อยู่กับเปรมฉันมีแต่ความสบายใจ จนไม่รู้ว่าหากไม่มีเปรม ชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อไป

“ปั๋วแกแข็งแรงดี ส่วนแกก็แข็งแรงดี แล้วทำไมแกถึงยังไม่ท้อง” คิ้วสวยๆ ของปรางทิพย์เพื่อนซี้ของฉันขมวดเข้าหากันจนยุ่ง เมื่อฟังที่ฉันเล่าจบ เพราะนางเองก็ลุ้นกับฉันในทุกๆ เดือนว่าฉันจะท้องหรือไม่ท้อง

“นั่นน่ะสิ” คิ้วของฉันมันพลอยขมวดตามคนข้างๆ ไปด้วย

“หรือว่าปั๋วแกแอบไปไข่ทิ้งไว้กับแฟนเก่า ก็เลยไม่อยากมีลูกกับแก โอ๊ย…เจ็บ” ฉันตีต้นแขนคนพูดไปสุดแรงจนเจ้าตัวหน้านิ่ว พร้อมขยับหนีให้ห่างจากฝ่ามือพิฆาตของฉัน

“ปากหรือยะนั่น เดี๋ยวเถอะ” ขณะพูดก็เงื้อมือขึ้นสูง รอตีซ้ำอีกทีสองที

“ฉันก็แค่สันนิษฐานเฉยๆ” น้ำเสียงนางดูอ่อนลง ฉันทั้งขำ ทั้งเคือง ที่อยู่ๆ ก็หาว่าเปรมไปไข่ทิ้งไว้ที่อื่น

“สันนิษฐานอย่างอื่นเซ่ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”

“เออๆ ถอนคำพูดก็ได้ ขอโทษ”

“ให้อภัย” ฉันให้อภัยความปากไวของเพื่อนคนนี้เสมอ เพราะรู้ว่าปรางทิพย์ไม่มีอะไร คิดแบบไหนก็พูดออกมาแบบนั้น บางครั้งก็ตรงยังกับไม้บรรทัด

“แล้วแกเอาไงต่ออ่ะ”

“เอาไง ก็ซั่มต่อไปแบบนี้นี่แหละ มันต้องท้องสักวันสิ” นี่คืออุดมการณ์อันแน่วแน่ของฉัน มันต้องมีสักวันที่ฉันเฮดังๆ เพราะท้องสิ

“นี่แสดงว่าแกมีอะไรกับเปรมทุกวันเลยเหรอ” คนถามตาโต ส่วนฉันก็แอบเขินเล็กๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ

“อื้อ”

“หูย…อิจฉาริษยาคนมีปั๋วขยันส่งการบ้าน”

“บางทีฉันก็ปล้ำเปรมก่อน...โฮะๆ” ฉันยิ้มกรุ้มกริ่ม ส่วนคนฟังก็แอบแลบลิ้นใส่ฉัน อ้อ…ลืมบอกไปว่าปรางทิพย์ก็แต่งงานแล้ว มีลูกชายน่ารักๆ หนึ่งคน ตอนนี้เรียนอยู่อนุบาลสอง

“ยัยหื่น เอ้!...หรือว่าที่แกยังไม่ป่อง เพราะแกมันหื่นเกินไป”

“หื่นเกินไป ทฤษฎีไหนของแกอีกเนี่ยยัยปราง”

“ทฤษฎีด็อกเตอร์ปรางทิพย์นี่แหละจ้ะ ฉันว่าแกลองห่างกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปสักเดือนนึงแล้วค่อยซั่ม คราวนี้เปอร์เซ็นต์ที่จะติดน่าจะมากขึ้นนะ” ยัยเพื่อนตัวแสบยกตัวเองเป็นด็อกเตอร์ไปซะแล้ว แต่ทฤษฎีนี้ของปรางทิพย์ฉันไม่เคยได้ยิน แต่มันก็ไม่เสียหายที่จะลอง แต่หนึ่งเดือนมันนานไปไหม ฉันจะอดใจได้หรือเปล่า...งื้อ