3 แบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเลย
“มาช้าแบบนี้ มันไม่ให้เกียรติกันเลยนะเถ้าแก่ปัญญา” คนกันเองเอ่ยขึ้น จนปัญญา เวชสุวรรณ ต้องรีบแก้สถานการณ์
“นั่นนะสิครับ มันทำแบบนี้ได้ยังไง ใช้ไม่ได้เลย...เฮ้ย พวกเอ็ง ไปตามคุณปอสิว่าถึงไหนแล้ว” รีบหันไปสั่งลูกน้อง ตามแบบฉบับของผู้ที่มีอิทธิพลพอสมควรในตัวจังหวัด แต่อิทธิพลของเขาไม่ได้ข้องเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย และพวกผิดกฎหมายก็ยุ่งกับเขาไม่ได้เสียด้วย
“เดี๋ยวดิฉันขอตัวออกไปโทรหาลูกก่อนนะคะ” อรวรรณรีบว่าอย่างเกรงใจ ตามประสาคนที่เรียบร้อยและมารยาทดีเป็นเลิศ มาแต่ไหนแต่ไร
ในขณะที่พวกผู้ใหญ่พากันร้อนใจ คนนั่งนิ่งเงียบกลับส่งสายตาไปยังพวกเด็กๆ ที่โบกไม้โบกมือให้ หลังจากที่เธอแจกช็อกโกแล็ตไปจนหมดเกลี้ยง
เธอยักคิ้วส่งสัญญาณว่าขอเวลานั่งตรงนี้สักครู่ แบบที่ไม่ได้เดือดร้อนเลยสักหน่อย ว่าคู่หมั้นจะเดินทางมาร่วมงานต้อนรับการกลับมาของเธอหรือไม่
“อ้าว มาพอดีเลย” มานีว่าอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูง ในชุดสุภาพ ที่มีสูทสีเข้มพาดแขนมาแบบเรียบร้อย ราวกับเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานหมาดๆ
เขาเดินมาพร้อมกับอรวรรณที่ยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล ราวกับดีใจที่บุตรชายมาได้เสียที
“สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง” เสียงนุ่มทุ้มอันทรงพลังของเขา เรียกให้คนที่กำลังยักคิ้วให้พวกเด็กๆ ต้องยืดตัวขึ้น เกร็งร่างอัตโนมัติและยังไม่ยอมที่จะหันไป
รัศมีจากเขาที่แผ่ซ่านมาถึง ราวกับตรึงร่างเธอเอาไว้ได้
“รจนา...ทักทายพี่สิลูก” จนมารดาต้องหันมาสะกิดและกระซิบ
“สวัสดีค่ะ” เธอหันไปยกมือไหว้เขา และช้อนสายตาขึ้นมองความกำยำที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีเข้ม แต่เห็นความกว้างใหญ่ชัด ไล่เรียงไปตามสันลำคอแกร่ง ที่มีเส้นขอบเขตได้รูป
ลูกกระเดือกพาดผ่านสะท้อนรับสันคางเขียวครึ้มเล็กน้อย ที่มีริมฝีปากหยักประดับเหนือขึ้นไป...
เธอมองไปถึงได้แค่นั้น ก่อนจะหันหน้าหนี เพราะไม่อาจจะไปสบตาหรือมองเขามากกว่านั้นได้
“ครับน้องรจนา” สุ้มเสียงของเขาที่เธอไม่เคยได้ยินมาร่วมตลอด 3 ปี เช่นกันนั้น ทำเอาร่างทั้งร่างชาวาบ...
เขายังคงมีอิทธิพลในใจ แม้ว่าเธอจะทำใจยอมรับไปได้แล้วก็ตาม
“สบายดีนะครับ” เขาเอ่ยถาม จนเธอต้องชะงักใบหน้าที่หมายจะผินหนี
“คะ...ค่ะ” ตอบแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ จำต้องหันไปมองหน้าเขาอย่างเต็มตา ที่มีเครื่องหน้าคมเข้มตามแบบฉบับที่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
หากแต่เปลี่ยนก็คงจะมีเพียงแต่สีผิวที่เข้มขึ้น จากการทำงานทั้งนอกบ้านและในบริษัท ปรเมศ เวชสุวรรณ เป็นคนขยัน เขาบริหารงานในไร่ บริษัท โรงงานอีกมากมายที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง แบบเต็มตัว ตั้งแต่ที่เถ้าแก่ปัญญาได้เริ่มวางมือ ไปเมื่อสองปีก่อน
จมูกโด่งเป็นสันที่เกินมาตรฐานชายไทยของเขา ส่งให้ดวงตาคมดูเฉี่ยว ราวกับพญาเหยี่ยวที่พร้อมจะโฉบเหยื่อได้ทุกเมื่อ หากแต่แววสะท้อนในดวงตาสีเข้มนั้น เจือความอ่อนโยนอยู่บ้าง...เขาจึงดูไม่ใช่คนดุจนเกินไป
“ปล่อยให้เด็กๆ ได้คุยกันดีไหมคะ เดี๋ยวพวกเราไปดูแลแขกทางโน้นกัน” มานีเสนออย่างแข็งขัน เมื่อเห็นทีท่าเอียงอายของบุตรสาว
“ดีเลยค่ะ...”
“เดี๋ยวก่อนครับ” ไม่ทันที่อรวรรณจะได้เห็นดีเห็นงาม เสียงทุ้มอันคงมั่นก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับที่มีใจของใครบางคนหล่นวูบ
รจนาหันไปมองหน้าเขาด้วยแววตาที่เจ้าตัวเองก็ไม่ทราบ ว่าได้แสดงออกไปในรูปแบบใด แต่อีกฝ่ายก็มองมาที่เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชัดเจน ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“มีอะไรรึตาปอ” เถ้าแก่ปัญญาถามขึ้นด้วยความข้องใจ เพราะบุตรชายไม่เคยแจ้งมาก่อนว่าอยากจะคุยอะไรกับฝ่ายนี้ แม้ว่าจะได้ยินข่าวเรื่องการควงครูสาวออกหน้าออกตามาบ้าง แต่เขาก็คิดว่าบุตรชายไม่น่าจะไปจริงจังอะไร และยังให้ความมั่นใจกับฝ่ายนี้มาตลอด
“ตาปอ...” อรวรรณผู้เหมือนจะทราบอะไรมาบ้าง รีบสะกิดบุตรชายเชิงห้าม
“ผมมีเรื่องสำคัญที่จะเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ และคุณอาทั้งสองทราบครับ” เขาพูดมันออกมาอย่างมั่นคงและใจเย็น พร้อมมองไปยังรจนาที่ตอนนี้ได้หลุบสายตาลงต่ำ ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมามองยังใครทั้งนั้น
“เรื่องอะไร ก็พูดมาสิ” กำนันร้าวถามออกไปด้วยความอยากรู้ ที่เหมือนจะไม่มีแววรู้หรือระแคะระคายมาก่อน
“นั่นสิ พูดมาเลย” และคนจริงอย่างเถ้าแก่ปัญญาก็ไม่อยากจะเสียเวลาลุ้นเช่นกัน
“ตาปอ...” ส่วนอรวรรณก็ยังพยายามที่จะห้าม
“อันที่จริง ผมได้คุยเรื่องนี้กับน้องมาก่อนแล้วบ้าง” มานีหันไปมองหน้าบุตรสาวทันทีที่ได้ยินแบบนั้น พร้อมยิ้มหน้าระรื่นออกมา
“แหมก็นึกว่าเรื่องอะไร ทำไมไม่บอกแม่บ้างเลยฮึลูก” หัวใจของผู้เป็นมารดาพองโตขึ้น รีบจีบปากจีบคอเตรียมตอบรับในสิ่งที่ว่าที่บุตรเขยกำลังจะเอ่ย
“แต่น้องไม่ได้ตอบรับอะไร ผมก็เลยจะใช้โอกาสนี้เรียนผู้ใหญ่ให้เป็นทางการสักทีนะครับ” อรวรรณหน้าเสียเข้าเรื่อยๆ เมื่อสะกิดอย่างไรบุตรชายก็เหมือนจะไม่ฟังเลยสักนิด
“เรียนมาเถอะจ้ะ...อาพร้อมแล้วลูก” เถ้าแก่ปัญญามองหน้าภรรยาสลับกับบุตรชาย เริ่มระแคะระคายว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องดี
“ผมจะขอถอนหมั้นครับ”
“แหม ได้เลยสิ...รอเวลานี้มานานแล้ว ฮะ! อะไรนะ! ถอนหมั้น!!!” เสียงอันดังของมานีที่ลืมตัว พานพาให้คนทั้งงานหันมามองเป็นตาเดียวกัน และหูกางออก 180 องศาทันที!
