บท
ตั้งค่า

10 พาเสี่ยเข้าวัด

บรรยากาศในยามเช้าตรู่ของวันนี้ ออกจะดูวุ่นวายหน่อย เพราะเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ ที่เป็นเดือนเข้าพรรษาพอดี คุณนายกำนันอย่างมานีก็เลยเกณฑ์คนมาช่วยทำอาหารตั้งแต่เช้า

หนึ่งในนั้นก็คือบุตรสาว ผู้พอจะทำอาหารได้บ้าง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก

“เตรียมปอกผลไม้หรือยัง เออตรงนั้นน่ะ เอามาปอกให้หมดเลย” เสียงของมาลัยดังมาเป็นระยะ เพราะช่วยบริหารจัดการเรื่องงานบ้านเรือนได้เก่งกว่าน้องสาว ผู้ที่ตอนนี้มัวแต่ไปแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องหับ ที่จ้างช่างแต่งหน้ามาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

“ส่วนพวกอาหาร จัดใส่ปิ่นโตได้เลย พร้อมแล้ว เหลืออีกสองสามอย่าง เดี๋ยวค่อยจัดตามทีหลัง” รจนารู้สึกชื่นชมคุณป้ามากกว่ามารดา เพราะคุยแล้วเข้าใจกันมากกว่า

หน้าที่ของเธอในวันนี้ มีเพียงแต่ช่วยจัดพวกดอกไม้ ที่จะเตรียมไปใช้เพื่อไหว้พระ จัดเป็นช่อสวยงามให้พร้อมสำหรับคนในครอบครัว

ส่วนพวกเทียนพรรษาและสังฆทาน มารดาของเธอได้จัดซื้อเตรียมขึ้นรถไว้เรียบร้อย

กำนันร้าวมีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในตัวจังหวัดค่อนข้างมาก นอกจากนั้นยังมีไร่นาสำหรับทำกินและให้ชาวบ้านเช่าอีกหลายบ้าน ทำให้มีลูกน้องมากมาย จึงเรียกหาเรียกใช้ให้มาช่วยงานต่างๆ ได้ตลอด

“รถใครมากันน่ะ” มาลัยชะเง้อไปมองหน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดเทียบ ในขณะที่นั่งรอมานีแต่งตัวลงมาจากบนบ้าน

“เดี๋ยวรจนาไปดูให้จ้ะป้า” รจนาอาสา เพราะตอนนี้เธอพร้อมแล้ว เพียงแค่นุ่งผ้าถุงสีขาวลวดลายปักดิ้นทองกับเสื้อแขนยาวทรงกระบอกสีขาวตัวโคร่งหน่อย ก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้

เพราะความอวบของร่างกาย ต้องการพื้นที่ให้ขยาย ไม่ใช่รัดรูปจนอึดอัด

“คุณ!” เธอตกใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นว่าเจ้าของรถที่มาจอดหน้าบ้าน คือชายหนุ่มร่างสูง สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวกางเกงสแล็กสีดำ ผิวที่ขาวอยู่แล้วถูกขับให้สว่างมากขึ้น แบบที่ไม่เคยเห็นเขาในภาพลักษณ์นี้มาก่อน

“ขาวแค่นี้พอได้ไหม” ถามออกมาด้วยใบหน้าตึงๆ เหมือนไม่ได้เต็มใจ แต่ก็พยายามที่จะทำ

“เอาจริงเหรอเนี่ย?”

“อืม” เธออ้าปากเชิงอ๋อขึ้นทันที วันนั้นเธอไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ ว่าคำว่า ‘อืม’ ของเขาเป็นการตอบรับไปทางไหน

แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว!

“โอเค แล้วเตรียมอะไรไปบ้างคะ พวกของใส่บาตรเตรียมมาหรือยัง?” เธอว่าอย่างห่วงใย รู้สึกดีใจที่ได้นำพาคนเข้าสู่สายบุญเป็นครั้งแรก

“ต้องเตรียมด้วยเหรอ”

“อ้าว...”

“โอเค เดี๋ยวรจนาเตรียมเผื่อ เข้าไปรอในบ้านก่อนไหมคะ” เขาไม่ตอบรับแต่เดินตามเธอเข้าไปอย่างว่าง่าย

เอาจริงๆ คนที่คิดไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขามาก่อน ประหลาดใจไม่หาย ที่ได้มาเห็นเขาในมุมมองนี้

และก็ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ประหลาดใจ คนทั้งวัดก็พากันตกตะลึง หลบเสี่ยผู้ทรงอิทธิพลเป็นแถบๆ โดยเฉพาะพวกลูกหนี้ที่ติดค้างเขากันอยู่ ไม่เป็นอันทำบุญกันสักราย

“ยิ้มหน่อยคุณ ชาวบ้านไม่เป็นอันทำบุญกันหมดแล้ว” ร่างสูงที่นั่งเคียงข้างรจนา ลดระดับหูลงเล็กน้อย เมื่อเสียงอันดังก้องของวัด ทำให้เขาไม่อาจได้ยินอะไรชัดเจนเท่าไหร่

“หือ?”

“ยิ้มหน่อย ยิ้ม...” เธอกระซิบข้างหูเขา พร้อมฉีกยิ้มกว้างๆ ให้ดู เสือยิ้มยากหลุดยิ้มตามออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ พร้อมหยักหน้า

“นั่นแหละ แบบนั้นแหละ...” เธอว่าอย่างดีใจ พร้อมหันไปทักทายชาวบ้าน เชิงจะบอกกลายๆ ว่า ‘เสือตัวนี้ไม่กัดนะ’ อะไรทำนองนั้น!

คนที่ไม่เคยย่างกรายเข้าวัดมาก่อน มองไปรอบๆ บริเวณศาลาใหญ่ ที่มีหลังคาทรงสูง ลมพัดปลอดโปร่ง เกิดความสงบเล็กๆ ขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว

ตั้งแต่ที่บิดาเสียชีวิต เขาก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในวัดอีกเลย นี่ก็คงจะร่วม 20 กว่าปีแล้วได้

แววตาคมกริบกระตุกเล็กน้อย เมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น และคนข้างๆ ที่กำลังจะมาชวนเขาเดินไปกราบพระประธานถึงกับต้องสะดุด

เมื่อเห็นความเจ็บปวดฉายชัดในแววตาของเขา

“มีอะไรรึเปล่าคุณ” มือบางวางไปบนต้นแขนแกร่ง ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตตัวยาว เชิงห่วงใย

จนคนที่ไม่เคยได้รับอุ่นไอประเภทนี้มาก่อน ถึงกับตัวอุ่นวาบ

“เปล่า” แต่กำแพงที่สูงของเขา ทำให้รีบสะบัดแขนออก จนมือเธอร่วงลง และกลับมามีใบหน้าเรียบตึงเหมือนเดิม

คนช่างสังเกตและเป็นนักคิดวิเคราะห์ตัวยง เก็บข้อมูลพฤติกรรมของเขาเงียบๆ และเลือกที่จะไม่ถามอะไรออกไปในตอนนี้ หรือว่า...เขาจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดเรื่องคนอื่น เรื่องของตัวเองก็ตามมาให้คิดต่อแบบแทบจะทันที

กึก! สองสายตาประสานกันแบบไม่ได้นัดหมาย

ชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อสีขาว กางเกงยีนทรงสุภาพ เดินเคียงข้างมากับผู้หญิงที่สวยที่สุดในพื้นที่ เขาไม่ใช่ใครที่ไหน...เขาคือคนที่ทำให้เธอต้องเป็นหม้ายขันหมั้นนั่นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel