บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ของสมนาคุณ

เซียงเซียงเดินเข้าบ้านไปยังห้องนอน เห็นสภาพเตียงและผ้าปูที่ดูเก่าคร่ำครึแล้วก็ถอนหายใจ บ้านนี้ไม่ได้ยากจนขนาดนั้นไหม

ป๋อเหวินเป็นทหารส่งเงินกลับมาที่บ้านไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40 หยวนซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากพอสมควรในสมัยยุค 60 นี้

แล้วเงินมันไปไหนหมด? เสื้อผ้าลูกและข้าวของเครื่องใช้ในบ้านต่างๆก็ดูเก่าซอมซ่อ

เธอเดินสำรวจห้องจนกระทั่งได้เปิดตู้ก็ค้นพบในทันทีว่าเงินมันไปอยู่ที่ไหนหมด ในนิยายไม่ได้บรรยายรายละเอียดของเจิ้งเซียงเซียงเอาไว้มากนัก เพราะจะเน้นไปที่รายละเอียดของวายร้ายทั้งสามคนมากกว่า

ในตู้ไม้หน้าตาธรรมดาๆภายในบรรจุไปด้วยชุดกี่เพ้าเนื้อดี และเสื้อผ้าที่มีลวดลายที่ดูทันสมัย ต้องยอมรับว่าเจิ้งเซียงเซียงคนก่อนมีพรสวรรค์ในการเลือกเครื่องแต่งกายจริงๆ

เธอหยิบซองบรรจุเงินที่เก็บเอาไว้ในกล่องออกมาดู ภายในนั้นมีเงินอยู่ประมาณ 350 หยวน

เงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บที่เจ้าของร่างเก็บรวบรวมเอาไว้ เงินเดือนล่าสุดที่สามีของเธอเพิ่งส่งมาให้ยังอยู่ในซองกระดาษอีกซอง แม่ตัวดีเลยยังไม่ได้นำออกมาใช้ช้อปปิ้ง

แม้จะดูว่าเป็นคนใช้เงินเก่งแต่เจ้าของร่างเดิมก็ยังมีเงินเก็บ ก่อนจะล้มป่วยเธอยังคิดอยู่เลยว่า

ถ้ามีเวลาว่างเธอจะเข้าไปในตัวอำเภอเพื่อหาชุดและหาผ้ามาตัดชุดใหม่ ไม่ได้คิดจะซื้อของที่จำเป็นเลยสักนิด แล้วเป็นยังไงสุดท้ายก็นอนขิตไปเฉยๆให้เธอมาสวมร่างเนี่ย

สาเหตุของการจากไปของเจ้าของร่างเดิมคืออะไร ไม่มีใครแจ้งให้เธอทราบ

เธอรู้แค่ว่าต่อไปนี้เธอจะเป็นเจิ้งเซียงเซียงในเวอร์ชั่นของเธอเอง เวอร์ชั่นที่เธอต้องรอด ครอบครัวนี้ต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น

เมื่อเด็กๆไม่อยู่เซียงเซียงจึงทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่ รื้อผ้าปูที่นอนเก่าๆออกไปซัก นำฟูกและผ้าฟูชุดใหม่ออกมาใช้แทน มองดูผ้าปูสีเทาเข้มที่ปูเสร็จก็ยิ้มด้วยความภูมิใจ

ห้องนอนของเธอกลายเป็นห้องที่สะอาดและน่าอยู่ขึ้นแล้ว ขนาดห้องกว้างพอสมควร มีโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เก็บเสื้อผ้า ชั้นวางของ และชั้นหนังสืออยู่ด้านข้าง

นั่งพักให้หายเหนื่อยครู่หนึ่งก็เดินไปห้องของเด็กๆที่อยู่ติดกัน จัดการนำผ้าปูและผ้าห่มออกมาซักเช่นกัน จะปล่อยให้บ้านสกปรกอยู่แบบนี้ไม่ได้

บ้านหลังนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 ห้อง ห้องของเธอและสามี ห้องของเด็กๆ ห้องว่าง 1 ห้องและห้องเก็บของ 1 ห้อง

ห้องครัวจะอยู่ติดทางหลังบ้าน พื้นที่ที่เหลือจะเป็นห้องโถงกว้างเป็นมุมสำหรับนั่งเล่น เธอวางแผนว่าจะตกแต่งบริเวณนี้ใหม่เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว

ห้องเก็บของมีฝุ่นขึ้นเต็มไปหมด เธอจึงเดินมากวาดถูจนห้องสะอาดขึ้น นำเอาข้าวสารที่มีอยู่ออกมาจัดเรียง นำน้ำมันและพวกน้ำตาลทราย น้ำตาลกรวดออกมาจำนวนหนึ่ง เวลาเดินมาหยิบใช้จะได้ไม่น่าสงสัย

“สะใภ้สามอยู่หรือเปล่า”เสียงสะใภ้รองตะโกนเรียกทำให้เธอต้องละมือจากงานที่ทำไปเปิดประตู

“พี่เอาไข่ไก่กับผักกาดขาวที่เพิ่งเก็บมาให้ เอาไว้ทำให้พวกเด็กๆกินก็แล้วกัน”

สตรีผิวขาวตากลมโต มีโครงหน้าเหลี่ยมเล็กน้อยยื่นตะกร้าใส่ไข่มาให้เธอพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร

“ขอบคุณมากจ้ะ พี่เข้าไปนั่งข้างในบ้านก่อนไหม”

“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวพี่ต้องไปทำมื้อกลางวันก่อน”ไฉ่หงบอกพลางลูบท้องที่เริ่มใหญ่โต

“ช่วงนี้เด็กในครรภ์เป็นอย่างไรบ้าง”

“ก็ดิ้นซนเป็นธรรมดา อีก 3 เดือนก็คงจะคลอดแล้ว”

“พี่รออยู่นี่ก่อนฉันจะไปเอาของมาให้”

เซียงเซียงจำได้ว่าพี่สะใภ้รองเป็นคนดี คอยใส่ใจดูแลครอบครัวของเธอเสมอแม้ว่าเธอจะพูดจาไม่ค่อยดี และไม่ค่อยมีสัมมาคารวะ แลดูหัวสูงกว่าสะใภ้คนอื่นสักหน่อย

แม่หวังมักจะคอยห้ามปรามและดึงสติเธอเสมอ เวลาที่เห็นเธอซื้อเสื้อผ้าราคาแพงหรือว่าซื้อหมู ซื้อไก่ที่ดูจะสิ้นเปลืองมากไปหน่อย

บางคราวเธอก็ส่งเงินกลับบ้านไปให้พ่อกับแม่และน้องๆบ้าง แม้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเซียงเซียงจะไม่ค่อยดี แต่เธอก็ไม่ได้ทอดทิ้งให้พวกเขาต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก

เป็นพวกเขามากกว่าที่เห็นว่าเธอเป็นถุงเงินถุงทอง เงินหมดเมื่อไรถึงจะถามหาหรือเห็นว่าเธอเป็นลูกสาว

หากไม่จำเป็นเซียงเซียงตั้งใจว่าจะไม่ติดต่อพวกเขาดีกว่า ส่งเงินให้ใช้บ้างนานๆครั้งก็คงจะเพียงพอแล้ว

“เธอเอาอะไรมาให้พี่กัน เอากลับไปให้พวกเด็กๆกินเถิดพวกเขาตัวผอมยิ่งกว่าอะไร”สะใภ้รองบอก

“พี่มีน้ำใจกับฉัน ฉันก็อยากจะแบ่งปันให้พี่บ้าง รับเอาไว้เถิดจ้ะ หากฉันเข้าเมืองอีกเมื่อไรจะหาซื้อมาเผื่อพี่อีก”

เซียงเซียงยื่นน้ำตาลทรายแดงที่มีราคาแพงจำนวน 1 ชั่ง(ประมาณ 500 กรัม) และเนื้อหมูสามชั้นอีกประมาณครึ่งชั่งให้พี่สะใภ้รอง แม้ปากหล่อนจะปฏิเสธแต่ก็อดดีใจไม่ได้ นั่นมันน้ำตาลทรายแดงเลยนะ ของมีค่าและราคาแพง

คนตั้งครรภ์สมัยนี้ไม่ค่อยมีอะไรบำรุงสักเท่าไรนัก ต้องรับประทานอาหารเข้าไปตามมีตามเกิด ว่ากันว่าน้ำตาลทรายแดงนี่ดีต่อคนท้องเธอจึงเอามาให้พี่สะใภ้รอง

“ขอบใจมาก”

เดาว่าความมีน้ำใจในครั้งนี้ และเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเธอต้องถึงหูแม่หวังอย่างแน่นอน ค่อยๆให้ทุกคนปรับทัศนคติที่มีต่อสะใภ้สามอย่างเธอไปทีละนิดจะดีกว่า

สะใภ้รองเดินกลับบ้านใหญ่ไปแล้ว เธอกำลังยืนเหม่อมองออกไปยังบริเวณบ้านอย่างท้อแท้ ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกเขาจะรอดชีวิตไหมหรือว่าจะทะลุมิติมาในนิยายเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนเธอ หากได้มาอยู่เรื่องเดียวกันก็คงจะดีไม่น้อย

ตั้งแต่มาเกิดใหม่ในร่างนี้ก็ไม่มีเสียงของระบบมาพูดคุยหรือชี้แจงอะไรเลย เดาว่ามันคงทำหน้าที่พาเธอข้ามภพมาเรียบร้อยจึงไม่ได้ติดต่อมาอีกแล้ว

ไหนว่าจะให้ของสมนาคุณเธอล่ะ นี่ลูกค้าชั้นดีที่อัพเกรดพื้นที่ด้วยเงินเก็บ 1 แสนหยวนนะ เห็นบอกว่าการอัพเกรดพื้นที่เป็นคนละส่วน กับของที่ว่าจะให้กดรับตอนที่มาถึงที่นี่อย่างไรล่ะ ไม่ให้กันแล้วเหรอ?

“คิดว่าคุณลืมไปแล้วเสียอีก”เสียงที่เคยได้ยินคราวนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าฉันลืมระบบอย่างคุณก็จะทำเนียนใช่ไหม”เธอถามกลับไปอย่างเคืองๆ

“ไม่ลืมหรอก เพียงแต่ 50% ของคนที่เข้ามาในโลกนี้ส่วนมากจะไม่มีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างติดมา ผมก็เลยไม่คิดว่าคุณจะยังจำได้”

ก็…เนียนนั่นแหละ!!!

“คุณจะให้อะไรฉันล่ะ แล้วพ่อกับแม่ฉันมาอยู่ในโลกอื่นด้วยหรือเปล่า”

“พ่อแม่คุณยังมีชีวิตและปลอดภัยดีอยู่ในโลกที่คุณจากมา พวกเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย คุณไม่ต้องเป็นห่วง

ส่วนเรื่องที่พวกเขาจะเข้ามาในโลกนี้ได้ไหม ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถบอกข้อมูลอะไรมากไปกว่านี้ได้”

“อืม ขอบคุณมากนะแค่ท่านปลอดภัยฉันก็ดีใจมากแล้ว” เซียงเซียงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ผมจะให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดออนไลน์ใหม่ ที่ผมเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนได้ 1 ครั้งก็แล้วกัน”

“ตลาดออนไลน์เหรอ”

“ใช่”

“ซื้อของได้คราวละมากแค่ไหน”

“ไม่จำกัด”

“ใช้เงินที่มีอยู่ในโลกนี้ซื้อใช่ไหม”

“ใช่ ค่าเงินตามโลกขณะปัจจุบันนี้ ซื้ออย่างเดียวขายไม่ได้”

“เปิดเมื่อไร”เซียงเซียงถามอย่างตื่นเต้น

“ทุกวันที่ 10 ของเดือน วันนี้เป็นวันที่ 13 เดือนกันยายน ปีคศ. 1965 คงต้องรออีกเดือนหนึ่งคุณถึงจะสามารถซื้อของได้”

“…” ตามนั้นก็ตามนั้น หลังจากที่เธอและระบบตัดการติดต่อกันไป เธอก็พยายามคิดทบทวนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

นึกเสียดายที่ตนน่าจะอ่านหนังสือนิยายให้ละเอียดมากกว่านี้ หากนิยายเรื่องนี้เขียนอิงตามความจริงการหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

ต้องมีคูปองที่รัฐแจกให้และแหล่งใหญ่ที่จะหาของต่างๆได้ก็คือตลาดมืดนั่นเอง เซียงเซียงเดินไปค้นดูในห้องแล้วก็ไปเจอคูปองปึกใหญ่ที่เจ้าของร่างเดิมยังไม่ได้ใช้ เพราะทุกอย่างมีอยู่อย่างจำกัดมันก็เลยเป็นของล้ำค่า

เธอคนเก่าคงสนใจแต่เสื้อผ้าเท่านั้น ไม่ได้ดูความเป็นอยู่ที่บ้านเลยว่ามันสะดวกสบายหรือไม่ พวกหม้อ เตาถ่าน จานชามหรือเครื่องทำครัวไม่ค่อยจะมีเลย

คำถามที่มีอยู่ในใจตอนนี้ก็คือ เธอจะเอาเงินจากไหนไปซื้อของพวกนี้กัน แต่ละชิ้นแพงๆทั้งนั้นเลย T T

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel