ตอนที่ 4 อัพเกรดพื้นที่
เช้าวันถัดมา
ทุกอย่างยังคงเป็นปกติเหมือนเดิม เซียงเซียงยังคงฝันเหมือนเดิมกับอีก 2 คืนที่ผ่านมา แต่คราวนี้เธอมีเสื้อเด็กอายุราวๆ 6 ขวบติดมาด้วย สัมผัสดูเนื้อผ้าสีเทาที่เก่าจนถูกปะชุนเต็มไปหมด เด็กผู้ชายคนนั้นทั้งผอมและดูหิวโหย ที่หลังของเขาเป็นรอยโดนไม้แขวนเสื้อตีเต็มไปหมด
มารดาคนนี้ท่าทางจะใจร้ายเหลือเกิน แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่เซียงเซียงก็สาปแช่งเอาไว้ในใจว่าขออย่าให้เธอมีชีวิตที่ดีเลย ทำกับเด็กเล็กๆแบบนี้ได้ไง ปล่อยลูกทิ้งเอาไว้แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน!
ถึงแม้จะอยากช่วยแต่เธอไม่ใช่แม่ของพวกเขา แถมยังเข้าไปได้เฉพาะแค่ช่วงเวลานอนหลับอีก คงทำอะไรได้ไม่มากนักนอกจากแอบหยิบขนมติดไปให้ แต่ตอนนั้นเธอก็ไม่มีสติอีก ขนมจากที่นี่เอาไปไม่ได้ล่ะมั้ง
ถ้างั้นเธอมองเห็นพวกเด็กๆผ่านจากทางไหนกัน แม้จะแค่เวลาไม่นานแต่เธอก็จดจำพวกเขาได้ชัดเจนและรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก
“หิมะยังไม่หยุดตกอีกเหรอ ตกติดต่อกันมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”เธอยืนเกาะขอบหน้าต่างบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
ตอนนี้เป็นเวลา 6.45 น. หมูที่สั่งเอาไว้ก็คงจะมาส่งแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงมองเสื้อที่เก่าที่มีรอยปะชุนตัวนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ลุกขึ้นจากเตียงล้างหน้าล้างตาเสร็จ จากนั้นก็ลงไปตรวจดูว่ามีใครนำของมาส่งหรือยัง
“ตื่นแล้วหรือลูก ป้าเฉินมารออยู่ข้างล่าง แม่ว่าจะขึ้นไปตามอยู่พอดี”
“ป้าเฉินไม่เห็นต้องมาส่งด้วยตัวเองเลยนี่ค่ะ”เซียงเซียงพูดอย่างเกรงใจ
“ตอนแรกป้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะมา แต่คนส่งหมูบอกว่าหิมะตกหนักปิดทางไปส่งหมูที่ตลาด ป้าก็เลยต้องมารออยู่ที่บ้านหนู กว่าจะจัดการหิมะได้ก็คงอีกหลายวัน ตกมาไม่มีพักช่วงให้พวกเราไปช่วยกันโกยออกเลย”ป้าเฉินบ่นอย่างหงุดหงิด นอกจากเสียรายได้แล้วยังออกไปไหนไม่ได้อีกต่างหาก
“แล้วป้าจะเอาเนื้อหมูพวกนี้ไปขายใครได้กันคะ ไม่ใช่น้อยๆเสียด้วย”คล้ายกับว่าเธอพูดแทงใจดำป้าเฉินก็เลยหงอยไป
เซียงเซียงยืนคำนวณเงินที่เธอตั้งงบเอาไว้ ยังมีเงินที่เธอเตรียมเอาไว้เป็นค่าเสบียงเหลืออยู่อีกเธอจึงเอ่ยปากออกไปว่า
“ทั้งหมดเท่าไรคะ ถ้าหนูเหมาหมดป้าลดให้หนูได้ไหม”
“หนูจะซื้อไปหมดนี่จริงๆรึ หมูมันก็มีหมดอายุของมันนะถ้ากินไม่ทันระวังจะเน่าเอาได้”
“อากาศหนาวขนาดนี้หมูไม่เสียง่ายๆหรอกค่ะป้า”
“ก็จริงนะ แบ่งส่วนหนึ่งหมักเกลือเอาไว้ก็ได้ ป้าว่าเอาไปทอดแล้วกินกับข้าวต้มอร่อยดี”ป้าเฉินแนะนำ
“หนูจะลองทำตามที่ป้าว่าค่ะ ป้าลองบอกราคามาก็แล้วกัน หนูจะซื้อเท่าที่ซื้อไหวค่ะ”
สะโพก สันคอ สันนอก ซี่โครง เนื้อสามชั้นอย่างละเกือบ30 กิโลกรัมและหัวหมูอีก 3 หัว ที่ปกติป้าเคยนำไปขายในแต่ละวันถูกครอบครัวเจิ้งซื้อเอาไว้หมด กระเป๋าสตางค์ของเธอเบาหวิวจนน่าใจหาย มีใครที่ไหนซื้อเนื้อหมูทีหนึ่งเป็นหมื่นหยวน…
“ขอบใจหนูมากๆเลยนะ ขอบใจมาก”ป้าเฉินพูดซ้ำๆอย่างดีใจ วันนี้หล่อนจะได้นอนเล่นอยู่ในบ้านอุ่นๆกับลูกแมวตัวกลมอีก 5 ตัวที่เพิ่งคลอดได้ 1 เดือน
หลังจากป้าเฉินนำเนื้อหมูมาส่งเสร็จแล้ว ทุกคนก็ไม่รีรอรีบนำหมูเข้าไปใส่ในมิติจนเต็ม ภายในมีแต่ของกินจนเธอรู้สึกผิด ไม่มีของใช้แม้แต่อย่างเดียว!
“มีแต่เนื้อหมู ไม่ได้ซื้อเสื้อใส่หรืออย่างอื่นติดไปเลย”
“มิติของลูกมีแต่ของกินนะ ดูก็รู้ว่าลูกห่วงเรื่องอะไร”
“ฮ่าๆๆๆ”พ่อได้ยินที่แม่แซวเธอจึงหัวเราะร่วน มีแต่เธอที่ทำหน้าเบ้อยู่คนเดียวเพราะว่ามันคือความจริง 100%
“โถ่คุณแม่ ยุคนู้นต้องใช้คูปองซื้อทุกอย่างเลยนี่คะ”
“ใช่ยุค 60 ต้องใช้คูปองซื้อ อย่างลูกอยากซื้อสบู่ เสื้อผ้า ของใช้ประจำวันต่างๆก็ต้องใช้คูปองที่รัฐแจกฟรี คนละ 5 ใบต่อปีนะ”
“จริงหรือคะแม่”เซียงเซียงถามด้วยหน้าอันซีดเผือด
“ใช่จ้ะ เท่าที่แม่รู้มานะ”
“ตายแล้ว! แต่มิติหนูเต็มจนแทบยัดของไม่ได้แล้วนะ”เซียงเซียงวิ่งรอบตัวมารดาราวกับเด็กๆ
“ทำอย่างไรได้ล่ะคุณ ก็ลูกสาวเราเป็นนักกินตัวยงนี่นา”หลินอี้หรานเปรยขณะที่มองไปยังบุตรสาวด้วยสายตารักใคร่
“หมูเยอะขนาดนี้พวกเราเอาไปแร่แล้วหมักเกลือสักหน่อยดีไหมลูก”
“ดีค่ะแม่ เอาแบ่งใส่เกลือไว้สักครึ่งหนึ่งก็ได้”
เซียงเซียงกำลังจะเดินไปเข้าครัวก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ตึ้ง อยากอัพเกรดขนาดมิติใช่ไหมครับ”
“มาแล้วเหรอ? ใช่ๆ มิตินี้เล็กเกินไปหน่อย”
“ไม่เล็กนะครับ เป็นขนาดมาตรฐานที่เพียงพอจะให้คุณบรรจุของไป เพื่อใช้ชีวิตรอดในต่างแดนมากพอแล้ว”ระบบพยายามอธิบายแต่ว่าเจ้าของระบบดันทำหน้าเศร้า
“เค้ากินเยอะอ่ะตัวเอง พอจะมีทางแก้ไขหรือช่องทางอะไรได้ไหม ของสมนาคุณเปลี่ยนเป็นเพิ่มพื้นที่สัก 10 เมตรก็ยังดี” เซียงเซียงอ้อนระบบ
“ขออนุญาตไปปรึกษากันก่อนครับ มีเงินทุนสำรองในการอัพเกรดประมาณเท่าไรครับ”
“1 แสนหยวนพอไหมคะ”
“เดี๋ยวจะติดต่อกลับมาครับ”
หลังจากได้ยินระบบรับปากอย่างนั้นเธอก็ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี เดินไปช่วยแม่หมักเกลือหมูและทำซาลาเปาไส้ถั่วแดงร้อนๆเอาไว้กินตอนดูละครกับแม่ หวังว่าระบบที่เคารพจะนำข่าวดีกลับมาบอกเธอนะ เธอยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังเลยจริงๆ(?)
ทำอาหารเสร็จก็นั่งๆนอนๆจนกระทั่งถึงช่วงบ่ายหิมะก็หยุดตก หิมะที่เหลืออยู่ก็เริ่มละลายลงบ้าง ชาวบ้านหลายสิบคนออกมาช่วยกันกวาดถนนเพราะต้องการที่จะใช้รถขับเข้าตัวเมืองไปทำธุระบ้าง
“หนูจะออกไปข้างนอกนะคะแม่”
“ได้ลูก ขับรถดีๆนะระวังถนนจะลื่นเอาได้”
“ได้ค่ะ”เธอขึ้นไปหยิบเสื้อโค้ทหนามาสวม สะพายกระเป๋าคู่ใจออกมา เป้าหมายวันนี้เธอจะออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันมาเพิ่มเติม
แต่จะซื้อได้มากน้อยเท่าไรก็ต้องขึ้นกับระบบแล้วว่าจะสามารถเพิ่มพื้นที่ให้เธอได้หรือเปล่า
เงินในบัญชีเหลืออยู่ 1 แสนกับอีก 3 หมื่นหยวนเศษ เธอกำลังพนันกับสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าเรื่องทั้งหมดไม่เกิดขึ้นมันคงจะเป็นเรื่องน่าขันน่าดูเลย แต่การได้มิติแบบนี้มาเก็บไว้กับตัว ไม่ว่ามองในด้านไหนมันก็คุ้มค่าทั้งนั้น ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็มีแค่ต้องเดินหน้าเท่านั้น
“สวัสดีครับ พวกเราได้ปรึกษาหารือกับทีมเรียบร้อยแล้วมีขนาดมิติมานำเสนอให้คุณด้วย”
“มาแล้วเหรอ ว่ามาเลยค่ะฉันรอฟังอยู่!!!”เซียงเซียงนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับตั้งใจฟัง
“ขนาดมิติของคุณเจิ้งเซียงเซียงมีขนาดอยู่ที่ 5x5 เมตรใช่ไหมครับ”ระบบถามเพื่อยืนยันความถูกต้อง
“ใช่ค่ะ”
“การอัพเกรดเพิ่มเป็น 6x6 เมตรใช้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20,000 หยวน
การอัพเกรดเพิ่มเป็น 7x7 เมตรใช้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40,000 หยวน
การอัพเกรดเพิ่มเป็น 8x8 เมตรใช้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60,000 หยวน
การอัพเกรดเพิ่มเป็น 9x9 เมตรใช้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 80,000 หยวน
การอัพเกรดเพิ่มเป็น 10x10 เมตรใช้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100,000 หยวน คุณผู้หญิงสามารถใช้เวลาตัดสินใจก่อนได้ หรือว่าจะยกเลิกการอัพเกรดก็ได้ครับไม่มีปัญหาใดๆทั้งนั้น”
“เอา 10x10 เมตร หักเงินในบัญชีได้เลย”เธอพูดพลางปอกส้มที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือรับประทานอย่างอารมณ์ดี
“?”
“เสร็จกระบวนการหรือยังคะ ฉันจะได้ไปช้อปปิ้งต่อ มีของอีกตั้งเยอะที่ฉันวางแผนจะขนเอาไปด้วย”
“สักครู่ครับ” เซียงเซียงเข้าใจว่าที่ระบบเงียบเพราะคงจะขัดข้องทางเทคนิคแต่อันที่จริงแล้ว ผู้ที่ทำการควบคุมกำลังตกใจในสกิลความเร็วในการจ่ายเงินของเธอต่างหาก
เธอช่าง...เหมาะสมกับบทบาทที่เธอได้รับเสียจริงๆ พวกเขาทุกคนต่างวางพนันกันหมดหน้าตักว่าเจิ้งเซียงเซียงคนนี้ จะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังอย่างแน่นอน
“เรียบร้อยแล้วครับ ขอให้มีความสุขกับการช้อปปิ้ง ขอบคุณที่อุดหนุนบริการของเราครับคุณผู้หญิง”เธอยิ้มรับเปิดมิติขึ้นมาพบว่าพื้นที่ภายในกว้างขึ้นมาเพิ่มเป็นเท่าตัว สามารถจุของได้อีกตั้งเยอะ
เจิ้งเซียงเซียงหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเซิร์สหาความเป็นอยู่และสภาพอากาศของยุค 60 เอาไว้คร่าวๆ จากนั้นก็ขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าทันที ที่เธอกล้าอัพเกรดขนาดมิติเพราะมองว่ามันเป็นประโยชน์มากกว่า
เงินนั้นสำคัญก็จริงแต่ว่ามันเป็นของนอกกาย เธอมั่นใจในความสามารถของตัวเอง และคิดว่าหากไม่ล้มหายตายจากลงเสียก่อน เธอสามารถหาเงินจากการที่มีมิติพกพานี้ได้อย่างแน่นอน
คอยดูไปก่อนก็แล้วกันคุณระบบ ฉันจะหาเงินจากมิติลึกลับนี้ให้ได้มากกว่า 1 ล้านหยวน เซียงเซียงตั้งปณิธานกับตัวเอง
