บทที่ 4 กำจัดเหา
“กินเสร็จแล้วตามแม่ออกไปตรงลานอาบน้ำ ถ้วยจานไม่ต้องเก็บเดี๋ยวแม่จัดการเอง” หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แค่วันแรกที่ย้อนเวลากลับมาก็งานหนักถึงเพียงนี้เชียวหรือ
จือหลินเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง แล้วจากนั้นจึงเรียกของวิเศษออกมาแล้วจัดการหาชุดสำหรับเด็กและผู้ใหญ่อย่างละสามชุด ผ้าเช็ดตัว สบู่ก้อนสำหรับเด็ก ครีมนวดผม แชมพู และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือหวีเสนียด นางสังเกตเห็นในตอนที่บุตรชายเดินผ่าน เด็กน้อยเกาหัวยุกยิกในบางครั้งจะมีตัวเหาไต่ขึ้นมาด้านบนให้เห็น สิ่งแรกคงจะต้องจัดการอาบน้ำให้เสี่ยวหลงเสียใหม่
หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ร่างบางจึงได้หอบเอาของทั้งหมดออกไปตรงลานสำหรับใช้อาบน้ำ จะเรียกว่าลานก็ไม่ได้ เป็นเพียงแค่ไม้ไผ่สานตั้งเป็นฉากสูงถึงปลายคาง แล้วเอาใบไม้มาแปะทับไว้เพื่อไม่ให้คนภายนอกได้เห็น ส่วนน้ำก็ต้องไปตักมาจากลำธาร และก็ต้องเดินไกลออกไปพอดู
“ขอโทษขอรับท่านแม่ ที่ยังไม่ได้ตักน้ำ” เด็กน้อยยืนก้มหน้าจนปลายคางชิดอก เตรียมรับโทสะจากมารดา วันนี้เขาตื่นสายกว่าทุกวัน และมัวแต่ดีใจที่มารดาพูดดีด้วยจนลืมไปว่ายังไม่ได้ไปตักน้ำใส่อ่างน้ำใช้ ตามคำสั่งของท่านแม่ที่เขาจะต้องทำเช่นนี้ทุกวัน
“ถอดชุด” ในระหว่างนำชุดและผ้าเช็ดตัวที่หอบมาพาดไว้กับราว ก็สั่งให้เสี่ยวหลงถอดชุดที่สวมอยู่ออก ก่อนจะหันกลับมาหยิบขันตักน้ำในอ่างรอบุตรชาย
น้ำเหลือเพียงครึ่งถัง อาบให้เสี่ยวหลงเสร็จก็คงจะหมดพอดี ไม่รู้ว่าไอแพดจะสามารถเนรมิตเอาน้ำมาไว้ในอ้างได้หรือไม่ ถ้าได้จะเป็นการดีมากมันสามารถทุ่นแรงนางได้เยอะเชียวล่ะ
เสี่ยวหลงรีบทำตามที่ท่านแม่บอกแต่โดยดี เขารู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยที่วันนี้ท่านแม่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เมื่อวานยังลงโทษด้วยการใช้ไม้ตีก้นเขาอยู่เลย ทำโทษที่ตนมัวแต่เล่นละเลยการทำงานบ้าน
“เสี่ยวหลงมานั่งตรงนี้สิ”
“ขอรับ”
จือหลินให้บุตรชายเดินมานั่งตั่งข้างถังน้ำ จากนั้นนางจึงจัดการแกะมวยผมของเสี่ยวหลงออก เหาที่เห็นในตอนแรกเพียงตัวสองตัว แต่พอแกะมวยผมออกกลับไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้เอาแต่เกายุกยิกทั้งวัน
ก่อนจะสระผมนางให้เสี่ยวหลงก้มหัวลง จากนั้นจึงเอาหวีเสนียดหวีผมที่พันกันจนยุ่ง ค่อยสางออกทีละนิดๆ แต่บางปอยผมก็พันกันจนไม่สามารถหวีลงได้ เล่นเอาเจ้าเด็กน้อยร้องโอดโอยฉี่แทบเล็ด ในยามที่มารดาพยายามสางผมออกให้ได้ เจ้าตัวทนไม่ไหวร้องต้องร้องเสียงหลง
“ท่านแม่ ข้าเจ็บขอรับ โอ๊ยยย!”
“ทนอีกนิดนะเสี่ยวหลง เชื่อแม่แล้วจะดีเอง” ยิ่งเจอเหาติดมากับหวีมากเท่าไหร่ อาการอยากจะสางมันออกจากหัวบุตรชายก็ยิ่งมากเท่านั้น เรียกได้ว่านางกำลังมันมือนั้นเอง ตอนสมัยเด็กๆ ยายก็เคยทำแบบนี้กับนางอยู่บ่อยๆ ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้เอง
“โอ๊ย!! ท่านแม่ โอ๊ยยยยย” ท่านแม่ดึงจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมดแล้ว แต่จะบอกให้มารดาหยุดก็ไม่กล้า จึงได้แต่ก้มหน้าจำใจยอม
“นั่นเจ้าทำอะไรเสี่ยวหลงน่ะ สตรีร้ายกาจปล่อยลูกข้าเดี๋ยวนี้นะ”
เสียงที่ดังลอยมาจากภายในบ้านทำเอาสองแม่ลูกถึงกับชะงัก เด็กน้อยที่รู้ตัวว่าตนเองส่งเสียงดังจึงรีบยกมือขึ้นปิดปาก แต่กระนั้นก็ไม่วายตะโกนบอกบิดาที่เข้าใจผิดคิดว่ามารดาตีเขา
“ท่านแม่ไม่ได้ทำอะไรขอรับ”
“เจ้าไม่ต้องกลัวนาง บอกพ่อมานางตีเจ้าใช่ไหม” ชายหนุ่มที่นอนรอฟังบุตรชายได้แต่กัดฟันข่มความโกรธ ถ้าหากเขาไม่พิการ ถ้าหากเขาสามารถเดินได้ช่วยเหลือตนเองได้ สาบานได้เลยว่าจะไม่ปล่อยให้ลูกต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้แน่
“ลูกไม่ได้โกหกขอรับ ท่านพ่อวางใจเถิด”
เสียงตอบรับของบุตรชายดังแว่วมาจากหลังบ้าน ทำให้เหมาเสี่ยวถงได้แต่นิ่งเงียบ หากบุตรชายยืนยันเช่นนั้นเขาจะทำอันใดได้
“ท่านพ่อเงียบไปแล้วขอรับ” เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับจากบิดา เสี่ยวหลงจึงได้ก้มหัวลงให้มารดาจัดการกับเหาบนหัวเขาต่อ ถ้าการทนเจ็บตัวสักหน่อยให้ท่านแม่หวีมันออกให้ แลกกับการที่เขาจะได้ไม่ต้องทนคันไปทั้งหัวเขาก็ยอม
จือหลินพยักหน้า จากนั้นก็จัดการอาบน้ำกำจัดเหาให้บุตรชายอย่างเมามัน ทั้งขัดตัวและสระผม ดูเหมือนเสี่ยวหลงของนางจะชอบมากทีเดียว เอาแต่พูดว่าหอมๆ ไม่หยุด ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนางใจร้ายกับบุตรชายที่น่ารักเช่นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ ต่อไปนี้แม่จะทำให้เจ้ามีแต่เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่สดใสเอง
“ท่านแม่ขอรับ ผงสีขาวนี่คืออะไร หอมมากเลยขอรับ” ไม่เพียงแค่หอมเหมือนดอกไม้ แต่มันยังเย็นสบายตัวมากอีกด้วย
“สิ่งนี้เรียกว่าแป้งเย็นจ้ะ” เมื่ออาบน้ำทาแป้งให้เสี่ยวหลงเสร็จ ก็นำผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้พอหมาด แล้วจึงให้ใส่ชุดใหม่ที่นางนำมาด้วย จะว่าไปบุตรชายนางก็หล่อเหลาเหมือนกันนะเนี่ย โตขึ้นพนันได้เลยว่าหัวกระไดไม่มีวันแห้ง
“ท่านแม่ให้ชุดใหม่ข้าหรือขอรับ” เด็กน้อยกระโดดโลดเต้น ดีใจที่ได้รับชุดใหม่ เขาใส่ชุดเดิมมาหลายเดือนแล้ว เดิมทีมีสองชุดไว้ผลัดเปลี่ยนแต่เมื่อไม่นานมานี้เขาทำขาดในตอนที่เข้าป่าไปเก็บฟืน มันขาดเสียจนไม่สามารถนำมาปักชุนได้อีกจึงจำใจต้องทิ้งไป พอเหลือชุดเดียวเขาจึงต้องนำมันซักในตอนกลางคืน ส่วนตนเองก็คลุมผ้าห่มตอนนอนเพื่อแก้ขัดไปก่อน
“เสี่ยวหลงชอบหรือไม่”
“ชอบขอรับ” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ดีใจที่ตนเองได้ชุดใหม่ มันทั้งมีกลิ่นหอมใส่แล้วสบายตัว และที่สำคัญเป็นของชิ้นแรกที่มารดาให้เขาด้วย ชุดนี้จะต้องดูแลไว้เป็นอย่างดี
“เสี่ยวหลงอย่างมัวแต่ยืนยิ้ม รีบเก็บของตามแม่มาเร็ว ท่านพ่อยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย” ไม่รู้ว่าบุตรชายเป็นอะไร นางเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขยับเอาแต่ยืนยิ้มอยู่เช่นนั้นอยู่นานสองนาน หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาให้กับความลุกลี้ลุกลนรีบเก็บของวิ่งตามมารดาเข้าบ้านไป
หลังจากที่เอาของเข้ามาเก็บภายในกระท่อมหลังน้อยเสร็จ ร่างบางจึงเข้าไปตักข้าวต้มหมูสับหนึ่งถ้วย พร้อมกับไข่ตุ๋น เพื่อจะได้ป้อนให้กับสามีที่นอนรอในห้อง แต่ก่อนจะเข้าไปจือหลินได้ยื่นผลส้มลูกใหญ่ให้กับเสี่ยวหลงสองลูก เอาไว้ให้เขากินเล่นระหว่างรอป้อนข้าวคนป่วย
จือหลินวางถาดถ้วยข้าวไว้ข้างเตียง ก่อนจะยกตัวเหมาเสี่ยวถงให้นั่งพิงหัวเตียง โดยมีเสี่ยวหลงบุตรชายแสนน่ารักและรู้หน้าที่ช่วยท่านแม่จับท่านพ่อนั่ง ด้านเหมาเสี่ยวถงไม่กล้าสะบัดตัวแรงเพราะกลัวว่าจะโดนบุตรชายเข้า เขาจึงได้แต่ทำตัวนิ่งให้จือหลินจัดการ
ชายหนุ่มเอาแต่จ้องมองไปที่บุตรชาย ที่กำลังแกะผลส้มกินอย่างละเมียดละไมค่อย ๆ ละเลียดชิมทีละนิด เพราะกลัวว่ามันจะหมดเร็วจนเกินไป
เสี่ยวหลงไปเอามาจากที่ใด ใครๆ ก็รู้ว่าผลส้มเป็นผลไม้ราคาแพง ซึ่งคนจนอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะได้กินมันอย่างแน่นอน ในตอนที่เขากำลังจะอ้าปากขึ้นถามเรื่องผลส้ม กลับมีข้าวต้มหมูสับหอมๆ ส่งเข้าปากเขาแทน มันทั้งนุ่มกลมกล่อม ข้าวเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ใช่เพียงแค่น้ำต้มข้าวอย่างที่เขาได้กินเป็นประจำ
เพราะทนหิวมาหลายวันทำให้เขาไม่พูดไม่จา ยอมเสียหน้ากินอาหารที่ภรรยาป้อนให้จนหมดถ้วย จือ
หลินจัดการเช็ดปากแล้วส่งน้ำดื่มให้สามี แค่เห็นว่าเขายอมกินข้าวที่นางทำให้ก็รู้สึกดีมากแล้ว ในคราแรกคิดว่าเขาจะมีทิฐิไม่ยอมรับสิ่งใดจากนาง เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว
หญิงสาวเห็นว่าเหมาเสี่ยวถงเอาแต่มองบุตรชายกินผลส้มไม่วางตา นางจึงคิดว่าเขาคงอยากจะกินด้วยเช่นกัน จึงได้รีบปอกเปลือกส้มดึงใยออกให้เสร็จสรรพ จากนั้นได้ยื่นมันจ่อไว้ที่ปากของชายหนุ่ม รอให้เขาอ้าปากรับมันไป
“ท่านไม่กินหรือเจ้าคะ ข้าเห็นนั่งมองลูกอยู่นานแล้ว” พอเขาเอาแต่เงียบไม่ยอมอ้าปากรับ นางจึงถามออกไปอย่างสงสัย สิ่งที่นางคิดไม่ใช่หรอกหรือ แล้วเขาต้องการอะไรกันล่ะ
“เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากที่ใด ทั้งผลส้ม ข้าว หมู และไข่ ของราคาแพงพวกนี้คงไม่ได้ไปขโมยของผู้ใดมาหรอกนะ” เหมาเสี่ยวถงหรี่ตามองภรรยาอย่างจับผิด ทั้งบ้านมีเงินอยู่ไม่ถึงสิบอีกแปะ ไม่พอซื้อผลส้มหนึ่งลูกด้วยซ้ำ แต่ที่เขาเห็นนางถือเข้ามามันมีมากกว่าห้าลูก อีกทั้งข้าวที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ชาวบ้านตาดำๆ ได้กินเพียงข้าวชั้นเลวเท่านั้น ไข่นั้นก็ด้วยไม่มีบ้านใดกินไข่วันหนึ่งหลายฟองกันหรอก มันสิ้นเปลืองมากเกินไป
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดแน่นอนเจ้าค่ะ เอาไว้ให้อะไรลงตัวมากกว่านี้ข้าจะบอกทุกอย่างกับท่านเอง ขอเวลาข้าสักนิดนะเจ้าคะ” เอาไว้ให้เขาใจเย็นลงมากกว่านี้ นางค่อยบอกเขาก็แล้วกัน
“สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าจะทำเรื่องดี ๆ เป็นด้วยหรือ” พูดเพียงแค่นั้นเหมาเสี่ยวถงก็ได้ค่อย ๆ ไถลตัวลงนอน ถึงช่วงล่างเขาจะไม่มีความรู้สึกใช้งานไม่ได้ แต่ช่วงบนเขายังสามารถขยับได้อยู่เพียงแค่ว่าไม่มีแรงมากพอที่จะออกแรงทำอะไรได้มากกว่าการขยับตัวเล็กน้อยหลังจากที่นอนลงได้แล้วเหมาเสี่ยวถงก็แกล้งหลับไม่สนใจภรรยาอีก
“เสี่ยวหลง เจ้าอยู่เล่นเป็นเพื่อนท่านพ่อก่อนนะ แม่จะไปจัดการอะไรสักหน่อย” เมื่อเห็นว่าสามีไม่ต้องการสนทนากับนางอีก หญิงสาวจึงใช้โอกาสนี้คิดจะออกเดินสำรวจบ้านสักหน่อย ดูแล้วคงจะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่
“ขอรับท่านแม่” ไม่ว่าท่านแม่ให้ทำอะไรเขาก็ทำได้หมด แค่ให้อยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อ งานสบายเช่นนี้เสี่ยวหลงทำได้อยู่แล้ว
“ดีมาก หากเสี่ยวหลงทำดีแม่จะมีรางวัลให้”
“จริงหรือขอรับ ท่านแม่ไม่ต้องห่วงลูกจะดูแลท่านพ่ออย่างดี” แค่คิดว่าจะได้รางวัลจากมารดาเจ้าเด็กน้อยก็ตาลุกวาวแล้ว ตื่นเต้นเหลือเกินท่านแม่จะให้อะไรเขาน้า
