ย้อนเวลากลับมาเลี้ยงลูกและสามี

101.0K · จบแล้ว
Tuk Kung
40
บท
30.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ชาติก่อนนางทอดทิ้งทั้งลูกและสามีไปเพื่อเอาตัวรอดเพียงคนเดียว เด็กน้อยวัยเพียงสี่หนาวที่ร้องไห้น้ำตานองหน้า ร้องหาท่านแม่ เขาเอาแต่ร้องเรียกท่านแม่อย่าไป อย่าทิ้งเสี่ยวหลงไป ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ ส่วนสามีที่ป่วยนอนติดเตียงขยับตัวไม่ได้ ก็ได้แต่จ้องมองและตัดพ้อในความใจร้ายของภรรยาอันเป็นที่รัก ลูกก็ยังเล็กสามีก็พิการ นางกลับทิ้งพวกเขาไปอย่างไม่ไยดี ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนางเองที่เป็นคนอยากได้พวกเขามา พอรักแล้วกลับไม่เห็นคุณค่า หนีไปพร้อมกับเงินก้อนสุดท้าย ทิ้งให้สองพ่อลูกต้องอดตายในกระท่อมหลังเก่าผุพัง สมควรแล้วที่ในชาติปัจจุบันถูกพ่อทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ส่วนแม่ก็ไม่เคยจะดูแลหรือให้ความสนใจเธอเลยสักนิด ใช้ชีวิตอย่างลำบากแสนเข็ญ เมื่อเธอได้กลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง คราวนี้เธอจะขอแก้ตัว ต่อให้ลำบากหรือเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ขอแค่ให้ลูกและสามีสุขสบาย ข้าผู้นี้จะเป็นคนหาเลี้ยงพวกเจ้าเอง *เนื้อหาไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ตัวละครไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น*

นิยายย้อนยุคผู้ชายอบอุ่นเกิดใหม่จีนโบราณตลก18+

บทที่ 1 นางสาวหวานเจี๊ยบ

แก๊กๆ

ฉู่ ๆ ๆ ๆ

ฉ่า ๆ ๆ ๆ

เสียงตะหลิวกระทบกับกระทะดังลั่นร้านอาหารตามสั่ง ผู้คนภายในร้านแน่นขนัด หวานเจี๊ยบที่คอยรับออเดอร์จากลูกค้าแทบจะเดินขาขวิด อากาศร้อนก็ร้อนพัดลมเป่าแต่ละทีผิวแทบลวก เหงื่อไหลไคลย้อยเปียกโชกทั้งตัว ยิ่งคนที่อยู่หน้าเตาด้วยแล้วไม่ต่างอะไรกับการยืนย่างตัวเอง

“ป้าแตน โต๊ะสามไข่เจียวหมูสับหนึ่ง สุกี้แห้งหนึ่ง แล้วก็ต้มเลือดหมูไม่ใส่เลือดหมูจ้ะ”

“นับวันลูกค้าชักจะสั่งเมนูชวนงงขึ้นทุกวัน” นางแตนได้แต่บ่นอุบ สั่งต้มเลือดหมูแต่ไม่เอาเลือดหมู แล้วมันจะเข้าถึงต้มเลือดหมูได้ยังไง

“งั้นหวานไปเคลียร์โต๊ะก่อนนะจ๊ะป้า” หลังจากที่นำรายการอาหารมาให้ป้าเจ้าของร้าน หวานเจี๊ยบก็รีบไปเคลียร์โต๊ะที่เพิ่งกินเสร็จต่อ เพื่อจะได้ต้อนรับลูกค้าชุดใหม่เข้ามาแทน

“น้องสั่งน้ำหน่อย”

เพียงลูกค้าร้องสั่งออเดอร์ หญิงสาวร่างผอมบางก็รีบวางมือจากงานตรงหน้า เข้ารับออเดอร์ต่อทันที

“รับอะไรจ๊ะพี่” หวานเจี๊ยบยกสมุดจดปากกาพร้อม เตรียมจดรายการที่ลูกค้าสั่ง

“น้ำกระเจี๊ยบหนึ่ง โอเลี้ยงหนึ่ง เป๊ปซี่หนึ่ง”

“รอสักครู่นะพี่” เมื่อจดรายการน้ำเสร็จร่างเล็กก็รีบเข้าไปหาลุงที่ทำหน้าที่ชงน้ำ

“ลุงพงษ์ ออเดอร์จ้ะ หวานเอาไว้ตรงนี้นะ” ทันทีที่บอกลุงสามีเจ้าของร้าน หวานเจี๊ยบก็ได้เสียบกระดาษไว้ที่แท่งเหล็กแหลม ก่อนจะเตรียมกลับไปทำความสะอาดโต๊ะที่ทำค้างไว้ให้เสร็จ

“ได้ ๆ ที่เหลือลุงจัดการเอง” พงษ์เห็นเด็กสาวแล้วก็ได้แต่ยิ้มตาม นับถือกับความขยันของอีกฝ่ายเหลือเกิน ตัวก็เล็กแค่นี้แต่พลังกลับมีมากเหลือล้น ไม่มีบ่นเหนื่อยให้ได้ยินเลยสักครั้ง

หวานเจี๊ยบหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุสิบแปด เพราะทนพ่อเลี้ยงหื่นกามไม่ไหว ส่วนแม่ก็เข้าข้างพ่อเลี้ยงไม่ลืมหูลืมตา หาว่าเธอเป็นฝ่ายยั่วสามีใหม่ก่อน แม่เชื่อสามีใหม่ทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรไปก็รังแต่จะเข้าตัว จากนั้นจึงได้เก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านอย่างไม่เหลียวหลังกลับ พร้อมกับเงินติดตัวมาด้วยห้าร้อยบาท

แม่ที่ไม่เห็นว่าเธอเป็นลูกหลงสามีใหม่เมื่อออกมาจากนรกนั่นได้เธอก็ไม่คิดจะกลับไปเหมือนกันแม้ว่าในตอนที่เก็บกระเป๋าออกมาจะถูกเรียกว่าคนอกตัญญูก็ตาม เรียกได้ว่าตายจากกันไปเลยในชาตินี้ก็แล้วกัน หลังจากที่หนีออกมาได้ เธอก็อาศัยนอนตามวัดบ้าง ป้ายรถเมล์บ้าง จนสุดท้ายก็มาได้งานที่ร้านอาหารตามสั่งนี่แหละ จึงพอจะลืมตาอ้าปากได้

หวานเจี๊ยบทำงานกับป้าแตนและลุงพงษ์มาได้สามปี ตอนนี้เธอก็อายุเข้ายี่สิบเอ็ดปีแล้ว สูตรการทำอาหารต่าง ๆ ป้าแตนได้ถ่ายทอดวิชาให้เธอจนหมด กะว่าจะเก็บเงินให้ได้สักก้อนก็จะไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าชาติไหนถึงจะได้ ค่าแรงก็ไม่ได้มากมายอะไรเพราะเป็นเพียงร้านตามสั่งข้างทางเท่านั้นเอง

ครั้นจะออกไปหางานใหม่ที่ได้เงินมากกว่านี้ วุฒิการศึกษาของเธอก็ไม่ได้มากพอที่จะหาสมัครงานดี ๆ ทำได้ จึงได้แต่อดทนทำงานที่ร้านต่อไป ถึงในแต่ละวันจะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่เธอก็ไม่เคยได้รับความคับแค้นใจจากเจ้าของร้านเลย ลุงกับป้าออกจะเอ็นดูเธอเหมือนลูกหลานด้วยซ้ำ จึงทำให้ในแต่ละวันผ่านไปด้วยความสนุกมากกว่าจะรู้สึกอึดอัด

วันนี้ขายดีกว่าทุกวันทำให้แทบจะไม่มีเวลาได้พักกันเลย กว่าจะได้ปิดร้านก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม หลังจากที่ช่วยกันปิดร้านเสร็จเรียบร้อยทุกคนจึงได้มานั่งทานข้าวด้วยกัน นางแตนได้หยิบของบางอย่างออกมาแล้วยื่นให้กับหวานเจี๊ยบ

“นังหวานเจี๊ยบเอ้านี่ ไอแพด นังแนทหลานป้ามันซื้อเครื่องใหม่เครื่องเก่าไม่ใช้แล้วป้าเลยเอามาให้เอ็ง จะได้เอาไว้เล่นแก้เหงา” เดิมทีร้านนางก็ไม่ได้ขายดีจนถึงขั้นรับเด็กเสิร์ฟหรอก แต่เพราะสงสารอายุเท่านี้ต้องออกมาเร่ร่อนเลี้ยงตัวเอง ซึ่งนางก็ไม่อยากจะขุดคุ้ยเรื่องราวในชีวิตให้เด็กน้อยต้องช้ำใจ ก็เลยไม่ได้ถามอะไรมากเกี่ยวกับครอบครัวของหวานเจี๊ยบ

ในวันที่เจอกันครั้งแรก เด็กสาวเดินหิวโซมาขอข้าวกิน นางก็เลยให้ข้าวผัดไปหนึ่งจาน จากนั้นจึงได้ถามความเป็นมาของหญิงสาว พอรู้เรื่องนางก็อดที่จะสงสารไม่ได้จึงให้มาทำงานที่ร้าน แลกกับค่าแรงวันละสองร้อยห้าสิบบาท และให้พักหลังร้านไปก่อนมีเงินเมื่อไหร่ก็ค่อยขยับขยายออกไป

เมื่อเห็นว่าความประพฤติดีขยันขันแข็ง นางจึงเพิ่มให้เป็นวันละสามร้อยบาท จนเด็กน้อยพอลืมตาอ้าปากได้จึงได้ออกไปหาห้องเช่า

“ขอบคุณจ้ะป้าแตน งั้นหวานไม่เกรงใจนะ” หญิงสาวยกมือไหว้พร้อมกับรีบรับมาโดยไว เธออยากได้มานานแล้วแม้แต่โทรศัพท์สักเครื่องก็ยังไม่มี ถ้าได้ไอแพดมาเธอก็จะสามารถค้นหาสิ่งต่าง ๆ ที่อยากจะรู้อยากเห็นได้ โดยที่ไม่ต้องไปคอยยืนมองกับเด็กน้อยคนอื่นในซอย

“ไม่ต้องเกรงใจพวกข้าหรอก เอ็งก็เหมือนลูกเหมือนหลาน” นางแตนได้แต่ยิ้มตามกับความดีอกดีใจที่สาวน้อยเอาแต่ยิ้มกว้าง จับพลิกซ้ายขวาตื่นเต้นกับของที่ได้รับ แม้จะเป็นของเก่าที่คนอื่นไม่ใช้แล้วก็ตาม

“ลุงกับป้าให้ วันนี้วันเกิดเอ็งไม่ใช่หรือ” ลุงพงษ์ยื่นซองสีแดงให้หวานเจี๊ยบ ตั้งแต่ได้มาช่วยงานเขากับภรรยาก็ช่วยเบาแรงได้เยอะ จึงคุยกันว่าจะให้ของขวัญกับหวานเจี๊ยบสักหน่อย เพื่อเป็นการตอบแทนในความขยันและเป็นเด็กดี

“ขอบคุณลุงกับป้ามากนะจ๊ะ” หญิงสาวรับซองสีแดงมาไว้ในมือ พร้อมกับเปิดมันออกดู ภายในนั้นมีเงินอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งไม่ได้มากอะไรแต่นั่นก็ทำให้เธอถึงกับน้ำตาซึม แม่แท้ ๆ ที่เป็นคลอดเธอออกมา ยังไม่ดีกับเธอขนาดนี้เลย

“ไม่ต้องร้อง ๆ ไป กลับห้องได้แล้วมันดึกแล้ว” นางแตนรีบไล่ให้กลับห้องตนเองไป ขืนมัวแต่นั่งคุยกันอยู่ตรงนี้มีหวังได้นั่งกอดคอกันร้องไห้กันหมดทั้งสามคน

“งั้นหวานกลับก่อนนะจ๊ะ” หวานเจี๊ยบเก็บของที่ได้รับมาในวันนี้เข้ากระเป๋าสะพายข้าง พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจะนอนเล่นไอแพดที่ได้มาให้หนำใจ

หลังจากนั้นหวานเจี๊ยบก็ได้กลับห้องพักของเธอ ซึ่งเพียงแค่เดินซอยถัดไปก็จะถึงห้องเช่าเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ หญิงสาวกอดไอแพดไว้แน่นอยากจะให้ถึงห้องเร็ว ๆ จะได้ลองเล่นมันเสียที เมื่อก่อนได้แต่ไปขอเล่นกับคนอื่น ทีนี้แหละจะเล่นให้ฉ่ำปอดไปเลย

หญิงสาวเดินข้ามสะพานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แค่ข้ามสะพานนี้ไปก็จะถึงห้องเช่าแล้วอีกนิดเดียวเท่านั้น

“แฮ่”

“โฮ่ง ๆ”

เจ้าถิ่นเจ้าเก่าเจ้าเดิม ยืนจังก้าอยู่สามตัว พยายามแยกเขี้ยวใส่คู่อริให้กลัวพวกมันมากที่สุด

หวานเจี๊ยบเล็งเห็นแล้วว่าหากเธอดึงดันจะฝ่าวงล้อมไปด้วยมือเปล่าคงไม่รอดแน่ หญิงสาวพยายามมองหาไม้หรืออาวุธที่พอจะไล่พวกขาใหญ่ประจำสะพานไปได้ แต่ทว่ามองหาเท่าไหร่ก็ไม่มีเหมือนดั่งเช่นเคย ปกติจะมีเศษไม้วางอยู่บริเวณสะพาน แต่วันนี้คงจะเป็นคราวซวยของเธอจริง ๆ ถึงได้ดูสะอาดมากกว่าทุกวัน

“ไอ้แต้ม ไอ้มอม ไอ้มืด ถอยไปเลยนะชิ่ว ๆ” ปกติไอ้สามสหายเพียงแค่เห็นเธอตั้งท่าจะฟาดกลับ พวกมันก็วิ่งหางจุกตูดกันไปแล้ว แต่ทำไมรอบนี้พวกมันถึงได้กัดไม่ปล่อยกันนะ

บ้าจริง จะรีบกลับไปเล่นไอแพดที่ได้มาสักหน่อย แต่กลับต้องมาเสียเวลากับหมาจรซะได้

“กรร”

“โฮ่ง ๆ”

“ไอ้พวกหมาหมู่ อย่าเข้ามานะ” เมื่อเห็นว่าหมาทั้งสามไม่ยอมรามือ เธอก็เตรียมตั้งท่าจะหันหลังวิ่งกลับทันที อุตส่าห์มาได้ถึงครึ่งสะพานแล้วต้องวิ่งกลับร้านเหรอเนี่ย หวานเจี๊ยบได้แต่โอดครวญใจในพร้อมกับสาปส่งหมาหมู่ทั้งสามตัว

“โฮ่ง ๆ”

เพียงแค่ตัวแรกก้าวขา หวานเจี๊ยบก็หันหลังวิ่งกลับทางเดิมทันที กระนั้นพอขาก้าวได้ไม่ถึงสามก้าวกลับต้องมาสะดุดขาตัวเองถลาเลยขอบสะพานออกไป

“ว้าย”

ตูม!!

ไม่นะ เธอจะมาตายเพียงเพราะตกใจหมาจรแล้วตกน้ำไม่ได้นะ นี่มันคลองแสนแสบเชียวนะ กะว่าจะไม่ให้เธอรอดชีวิตกลับไปเลยหรือ

แต่ถึงจะไม่ตายเธอก็มั่นใจว่าหากตกลงไป ฟื้นขึ้นมาก็คงจะเลี้ยงไม่โต หญิงสาวได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตนเอง ได้แต่หลับตาทำใจจนกระทั่งร่างผอมบางตกลงสู่พื้นน้ำสีดำสนิท

เธอพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาเหนือน้ำ แต่ด้วยความตกใจทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ถูก แข้งขาหรือก็แข็งตีขาในน้ำไม่ออกเอาเสียเลย สุดท้ายทนกลั้นใจในน้ำไม่ไหว ร่างของหวานเจี๊ยบหยุดดิ้นรน จากนั้นก็ค่อย ๆ ดำดิ่งลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ลงสู่พื้นดินใต้น้ำ