บทที่ 5 ข่าวจากเฒ่าแก่โรงเตี๊ยม
หลังจากมีบ่าวคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานอย่างไม่ทันตั้งตัวแล้ว หวงเฉิงเซ่อรีบวางมือจากงานทุกอย่าง แล้วหันมาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ลูกข้ากลับมาแล้วเช่นนั้นฤา”
“เรียนนายท่าน..ยามนี้คุณชายกลับมาแล้วจริง ๆ” ยังไม่ทันที่บ่าวคนเดิมจะรายงานเสร็จ ร่างของชายหนุ่มรูปงามก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เพียงเท่านั้นหวงเฉิงเซ่อก็ลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินไปดึงลูกชายเข้ามาสวมกอดด้วยความคิดถึง
ระยะเวลาสองปีที่ไม่ได้เห็นหน้าลูกชาย หวงเฉิงเซ่อจึงกล่าวต้อนรับเขาด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุด
“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเสียที” พร้อมกับไป๋เยี่ยนมารดาของเขายืนน้ำตารื้นอยู่ใกล้ ๆ หลังจากถอนกอดของผู้เป็นบิดาออกแล้ว จึงถูกมารดาดึงเข้าไปสวมกอดด้วยเช่นกัน
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะกลับมายามนี้ จึงมิได้เตรียมอาหารไว้ให้ หิวฤาไม่” หวงไป๋เยี่ยนกล่าวถามด้วยความห่วงใย ก่อนชายหนุ่มจะกุมมือมารดาแน่น แล้วปล่อยยิ้มอ่อนออกมา
“ข้ายังไม่หิวเท่าใด”
“เจ้ารีบไปเตรียมอาหารให้คุณชายซีเหรินกับอู่เจ๋อ รีบ ๆ ด้วยล่ะ” หญิงกลางคนหันไปสั่งสาวใช้คนหนึ่ง ก่อนชายหนุ่มเลื่อนสายตาสำรวจร่างกายของมารดาด้วยความเป็นห่วง กลัวว่านางจะผอมไปจากเมื่อก่อน
“เจ้ามิต้องห่วง ข้าดูแลแม่ของเจ้าเป็นอย่างดี” เมื่อหญิงกลางคนได้ยินสามีพูดเช่นนั้นจึงปล่อยยิ้มออกมาด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะดึงลูกชายเข้ามานั่งยังเก้าอี้ไม้ที่ตั้งอยู่กลางโถงเรือน
“ผลการสอบของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” สายตาคาดหวังของมารดา ทำให้หวงซีเหรินล้วงหากระดาษยืนยันจากมหาราชวัง ที่แสดงผลการสอบให้กับนาง
“นี่คือผลการยืนยันจากวังหลวง...ท่านเสนาบดีทาบทามให้ข้าอยู่รับใช้ เพื่อถวายงานให้กับฮ่องเต้หวงต้ากวง โดยเสนอค่าตอบแทนที่ข้ายากจะปฏิเสธได้” เมื่อชายหนุ่มพูดถึงข้อนี้ สีหน้าของหวงเฉิงเซ่อก็พลันเปลี่ยนไปเป็นกังวลทันทีอย่างเห็นได้ชัด หากแต่เขาตั้งมั่นยอมฟังลูกชายพูดต่อโดยไม่ขัด
“ในเวลานั้น ข้าสองจิตสองใจอยู่หลายวัน ว่าจะเลือกทางใด ใจหนึ่งข้าก็อยากอยู่รับใช้องค์ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ หากแต่ข้า...มีท่านพ่อและท่านแม่ที่ต้องดูแล จึงตัดสินใจปฏิเสธท่านเสนาบดีไป” เมื่อซีเหรินพูดจบ ชายกลางคนที่ยืนฟังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก็พลอยโล่งใจในทันที
“ข้าดีใจ ที่เจ้าปฏิเสธไปเช่นนั้น หาไม่แล้วแม่คงต้องทรมานใจตาย เพราะคิดถึงเจ้า” หวงไป๋เยี่ยนกล่าว พร้อมกับเลื่อนสายตามองตรงมายังสามี ในขณะที่เสียงฝีเท้าของบ่าวคนเดิมจะเข้ามารายงานบางอย่าง
“เรียนนายท่าน ตอนนี้ใต้เท้าตงซัน และคุณหนูไป่หลานมาขอเข้าพบ” หลังจากสิ้นเสียงของบ่าวคนเดิม หวงซีเหรินและอู่เจ๋อก็พลันหันมองสบตากันอย่างรู้ความหมาย
“เช่นนั้นรีบพาใต้เท้าตงซันเข้ามา” ทว่าท่าทางดีใจของหวงเฉิงเซ่อ ได้รีบจัดแจงต้อนรับท่านผู้ว่าในทันที ไม่นานนักร่างของชายกลางคน และหญิงสาวหน้าตางดงามก็เดินเข้ามา สองสายตาระหว่างซีเหรินและไป่หลานประสานสบกัน หากแต่หญิงสาวเป็นฝ่ายเลื่อนสายตาหลบก่อนด้วยกิริยาอ่อนน้อม พลางย่อตัวเคารพผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยท่างทางอ่อนหวาน
“ข้า...ไป่หลานขอคารวะ” ก่อนรอยยิ้มของหวงไป๋เยี่ยนจะพยักหน้าตอบรับ
“งดงามนัก” เป็นคำชมที่ทำให้หญิงสาวหัวใจเบ่งบานออกมา
“ขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง” หวงเฉิงเซ่อกล่าวขึ้นกับใต้เท้าตงซัน
“ไม่ต้องมากพิธีอะไร ข้าได้ข่าวจากเถ้าแก่โรงเตี๊ยมว่าคุณชายซีเหรินกลับมาแล้ว จึงรีบวางงานแล้วพาไป่หลานมาพบทันที” เมื่อพูดถึงตรงนี้ หญิงสาวปล่อยยิ้มอ่อนพลางก้มใบหน้าที่แดงระเรื่อลงอย่างเขินอาย
ก่อนหวงเฉิงเซ่อจะพาใต้เท้าตงซันไปนั่งยังเก้าอี้อีกฝั่ง แล้วรินน้ำชาร้อน ๆ ให้เป็นการต้อนรับ ในขณะที่สายตาของตงไป่หลานพยายามหลบซ่อนความรู้สึกบางอย่าง ที่มีต่อซีเหรินชายหนุ่มที่มีนิสัยเรียบง่ายและเก็บตัว นางมักจะแอบมองเขาในเวลาที่ได้ติดสอยห้อยตามบิดาออกว่าราชการ หรือมักพบปะกับหวงเฉิงเซ่อเช่นนี้เสมอ
“ไม่ว่ากี่คราที่ข้าได้พบหน้าเขา เหตุใดหัวใจของข้าจึงร้อนรุ่มเช่นนี้” นางลอบคิดในใจแล้วหลุบตาต่ำลง พลางกำชุดตัวเองแน่น เก็บซ่อนความรู้สึกภายในไม่ให้แสดงออกจนเกินงาม
หลังจากใต้เท้าตงซันยกน้ำชาขึ้นดื่มแล้ว จึงเริ่มไต่ถามความเป็นอยู่ในมหาราชวังของซีเหรินหลายอย่าง ก่อนเขาจะค่อย ๆ เล่ารายละเอียดให้ฟังจนหมด ชายกลางคนรู้สึกชื่นชมความสามารถของหวงซีเหรินอยู่ไม่น้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะนึกบางอย่างได้จึงเอ่ยถามด้วยน้ำคำราบเรียบ
“จริงสิท่านอา ข้าเห็นประกาศรางวัลนำจับหัวขโมยรายหนึ่ง ติดอยู่เต็มหัวมุมถนนในตลาด ไม่ทราบว่าโจรร้ายผู้นี้ออกอาละวาดหนักมากเช่นนั้นฤา” ซีเหรินกล่าวถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนรอยยิ้มเมตตาของใต้เท้าตงซันจะแย้มขึ้นเล็กน้อย
“หลายวันมานี้ ข้าได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายราย และนับวันมันก็ยิ่งเหินเกริมมากขึ้น ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากผู้ใดจับได้ก็จะมีรางวัลตอบแทน ข้าเชื่อว่าหัวขโมยผู้นี้ ต้องอาศัยอยู่ที่แคว้นเทียนกู่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกอาละวาดหนักหนาถึงเพียงนี้” ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเผลอเลื่อนสายตามองมายังไป่หลาน และนางเองก็รีบหลบสายตาเขาเช่นเดียวกัน
