บทที่ 12 รสชาติความหิวโหย
“พายายฝูออกตามหาเฒ่าเกอไห่ เอาลูกสาวข้ากลับมาให้จงได้” ก่อนที่ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นน้อมรับคำสั่ง แล้วพายายฝูออกออกเดินทางตามหาเฒ่าเกอไห่ทันที
ไป่หลานรีบหลบเข้ามายังมุมมืดด้วยความทุกข์ใจ สายตาหวาดหวั่นของนางแสดงออกมาด้วยความรู้สึกสับสนอย่างถึงที่สุด หญิงสาวกำผ้าในมือแน่น พลางกลืนน้ำตายอึกใหญ่
“นางยังไม่ตาย นางยังมีชีวิตอยู่ หากลูกสาวตัวจริงของท่านพ่อกับท่านแม่กลับมา ข้าจะต้องเป็นส่วนเกินของตระกูลนี้...ข้าจะทำอย่างไรดี” ไป่หลานคิดซ้ำไปซ้ำมา พลางเดินเหม่อเข้ามาในห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งขบคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ท่านพี่ ลูกสาวเรายังไม่ตาย ถึงแม้เราจะไม่พบตัวนาง แต่ข้าก็ดีใจที่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่” เยว่ซินสวมกอดสามีด้วยความหวัง ก่อนที่ชายกลางคนจะปล่อยยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน พลางลูบหลังของภรรยาด้วยความอ่อนโยน
“ข้าจะตามหานาง จะทำทุกอย่างให้นางกลับมาสู่อ้อมกอดของเรา ข้าผิดเองที่ไว้ใจให้หมอตำแยผู้มากด้วยความโลภ ทำให้เจ้าต้องทุกข์ใจมาถึงสิบเจ็ดปีเต็ม” ใต้เท้าตงซันพูดออกมาบางเบาพร้อมยกมือลูบศีรษะนางอย่างถนอม
เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น อาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า เสียงนกกาส่งเสียงเป็นสัญญาณ ว่าแสงแรกของวันกำลังเคลื่อนขึ้นมา พร้อมดวงตาน้อยค่อย ๆ กระตุกลืมขึ้นช้า ๆ หลันฮวางัวเงียพลันรู้สึกแสบร้อนในกระเพาะอาหาร นางประคองตัวขึ้นนั่ง ใช้สองมือแหกตาตัวเองเพื่อไล่ความอ่อนล้า พลางบิดตัวไปมาสองสามที ในขณะที่ท้องน้อยพยายามส่งเสียงทวงหาอาหาร
“เห้อ...” ร่างบางถอนหายใจ แล้วกุมท้องด้วยความทรมาน
“ข้าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน...เพราะเจ้าเอาแต่บิดไส้ข้าจนไม่เป็นอันนอน และถ้าวันนี้ข้าหาปลามาประทังชีวิตไม่ได้ล่ะก็...เจ้าก็ไม่คงปล่อยข้าได้นอนอย่างสบาย” หลันฮวามุ่ยหน้า ก้มลงพูดกับท้องของตัวเองด้วยน้ำเสียงท้อแท้
นางคู้เข่าเข้าหากัน แล้วนั่งเหม่อลอยคิดฟุ้งซ่านไปต่าง ๆ นานาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหันไปยังคันเบ็ดที่วางอยู่ไม่ห่างนัก
“จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกล่ะ ในเมื่อข้ายังมีลมหายใจ ข้าก็ต้องสู้จนถึงที่สุด” นางคว้าคันเบ็ดมา แล้วมุ่งหน้าเดินลงไปยังธารน้ำเช่นเดิม พระอาทิตย์ค่อย ๆ โพล่ขึ้นริมขอบฟ้า เมื่อเดินมาเรื่อย ๆ แสงสว่างก็เริ่มมีมากขึ้น สายลมบนเนินเขายังคงพัดมาปะทะกายพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า โชยมาปะทะที่ปลายจมูก กลิ่นอ่อนละมุนนั้นทำให้หลันฮวาชะงักครู่หนึ่ง แล้วสูดกลิ่นหอมนั้นอย่างพอใจ
“กลิ่นหอมเช่นนี้..ค่อยมีแรงขึ้นมาหน่อย... อย่างไรเสียนับจากเช้าจรดเย็น ข้าหวังว่าสวรรค์จะไม่ใจร้ายต่อข้านัก ให้ข้าได้ปลามาสักตัวสองตัวก็ยังดี” นางพูดกับตัวเอง ก่อนจะก้าวสะดุดก้อนหินที่ขวางอยู่ พลันทำให้ล้มกลิ้งม้วนลงมาชนกับต้นไม้ด้านล่าง นางจุกจนพูดไม่ออก มือบางทิ้งคันเบ็ดแล้วมากุมที่ท้องแทน ด้วยความเจ็บปวดทำให้หลันฮวาแทบหายใจไม่ออก หญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความทรมานอย่างถึงที่สุด
อาการในห้วงแห่งความเจ็บปวดนั้น ทำให้รู้ทันทีว่านางนั้นโดดเดี่ยวเพียงใด เพราะภาพที่แสดงขึ้นมามีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีภาพของบุคคลที่นางระลึกถึงได้เลย หญิงสาวยังคงกุมที่ท้องน้อย พลางบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด พลันภาพในอดีตที่ทุกข์ทรมานจากการถูกยายฝูใช้งานอย่างหนัก รวมถึงเฒ่าเกอไห่ที่พยายามจะล่วงเกินนางหลายครั้ง จนต้องหนีระเห็จออกมาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ภาพเหตุการณ์พวกนี้วนเวียนอยู่ในหัวของหญิงสาวขณะที่นางกำลังบิดตัวไปมาด้วยความทรมาน คล้ายกับใกล้หมดลมหายใจเต็มที ทว่าในเสี้ยวของความคิด หากนางหมดลมหายใจจริง อาจไม่ต้องเผชิญความทรมานอีกต่อไป
ก่อนความเจ็บปวดจะค่อย ๆ ทุเลาจางหายไปในที่สุด หลันฮวาค่อย ๆ มีสติกลับมา แล้วฝืนขยับกายได้เล็กน้อย ดวงตากลมเพ่งมองตรงไปยังคันเบ็ดที่ตกอยู่ด้านหน้า แล้วกลั้นใจลุกนั่งพิงกับต้นไม้
เมื่อบาดเจ็บไม่มากนัก นางจึงนั่งอยู่บริเวณครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นยืน แล้วประคองร่างตัวเองเดินตรงไปยังธารน้ำตามประสงค์เดิม
หากแต่คราวนี้หลันฮวาเดินทวนน้ำขึ้นไปทางเหนืออีกระยะหนึ่ง ก่อนจะมองหาสถานที่เหมาะสม คิดว่าเป็นแหล่งอาศัยของฝูงปลาจำนวนมาก เมื่อแน่ใจแล้วหญิงสาวจึงหลบเข้ามานั่งใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ แล้วโยนเบ็ดติดเหยื่อลงในน้ำด้านหน้าทันทีไม่รอช้า
“สวรรค์ได้โปรด...ประทานปลาน้อยให้ข้าสักตัว สองตัวได้ฤาไม่ ข้าหิวจนคล้ายโดนบิดไส้อยู่ตลอดเวลา โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด” นางชันเข่าแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมคำอ้อนวอน พลันทอดสายตามองไปยังธารน้ำอย่างมีความหวัง
ก่อนจะสะดุดกับบางสิ่งบางอย่าง ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของธารน้ำ หญิงสาวหรี่ตามองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“รถม้าของผู้ใดกัน” หญิงสาวพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ สายตาวาววับจับจ้องมองตรงไปอย่างมีความหมาย ก่อนจะนึกบางอย่างได้
“เอ๊ะ..ในรถม้านั้น จะมีของกินให้ข้าประทังชีวิตฤาไม่นะ” เมื่อหญิงสาวคิดได้ดังนั้น นางจึงดึงเบ็ดขึ้นมาวางไว้ แล้วค่อย ๆ ย่องข้ามลำธารไปอย่างระวัง สองเท้าเล็กลงน้ำหนักอย่างเบา ด้วยกลัวชายสองคน ที่นอนหลับพักอยู่ใต้ต้นไม้จะตื่นขึ้นมาพบเข้า
