บท
ตั้งค่า

Chapter 14 ร่มสีชมพูลายคิตตี้ในวันที่ฝนตก

หลังจากที่พี่หมอพะนายเขารีบวิ่งออกไปซื้อยาแก้ปวดประจำเดือนสักพักแล้ว

“โอ๊ยเมื่อไหร่จะกลับมาเนี้ยฟองปวดท้องจะตายอยู่แล้วนะพี่หมอ!”ตอนนี้ฉันนอนขดตัวอยู่บนโซฟามือทั้งสองข้างก็กุมท้องเอาไว้ เหงื่อเริ่มออกมาเต็มหน้าแล้ว เป็นวันนั้นของเดือนที่ทรมานที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมาเลยนี่มันศึกวันแดงเดือดชัดๆ

แก๊ก แก๊ก แก๊ก ปัง! เสียงไขกุญแจเข้ามาในห้องอย่างคนที่กำลังเข้ามารีบร้อนรน แล้วเจ้าตัวก็โผล่หน้ามาพร้อมกับถุงยาในมือถุงใหญ่!?

“หนูฟองครับยาได้แล้ว เดี๋ยวเฮียไปเอาน้ำมาให้นะ”จากนั้นร่างสูงของพี่หมอพะนายก็ก้าวเดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องครัว

“อ๊ะรีบกิน เหงื่อออกเต็มหน้าเลยอดทนหน่อยนะครับกินยาแล้วเดี๋ยวก็หาย”พี่หมอพะนายเอากระดาษทิชชูสำหรับเช็ดหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกมาซับเหงื่อออกจากใบหน้าของฉันอย่างเบามือสมกับที่เขาเรียนหมอมือเบามาก

“ขอบคุณพี่หมอพะนายมากนะ” ฉันที่กินยาแก้ปวดประจำเดือนแล้วยิ้มอย่างอ่อนแรงให้กับพี่หมอพะนายเขา

“แล้วพี่หมอพะนายซื้ออะไรมาอีกเยอะแยะถุงยาถุงใหญ่เชียว”ตอนนี้ฉันแอ่นตัวลงนอนบนโซฟาแล้วส่วนพี่หมอพะนายเขาก็ขยับให้ฉันเหยียดตัวนอนได้เต็มตัว

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ถ้าไม่หายปวดท้องบอกเฮียนะ”

“อ่อในถุงยานี้มีถุงประคบร้อนเฮียแวะเซเว่นขอน้ำอุ่นพนักงานมานี่แหละครับ หนูฟองเอาถุงประคบร้อนไปประคบไว้ที่ท้องนะ”

“ขอบคุณค่ะ” ถุงประคบร้อนที่มีน้ำอุ่นถูกประคบลงบนหน้าท้องแบนราบภายใต้เสื้อยืดที่ฟองจันทร์สวมใส่อยู่

“ในขณะมีประจำเดือน ผนังมดลูกจะสร้างสารชนิดหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า พรอสตาแกลนดิน ซึ่งสารตัวนี้จะทำให้มดลูกมีการหดตัว ก่อให้เกิดอาการปวดท้อง เฮียก็เลยซื้อชาคาโมไมล์ ที่สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ เนื่องจากคาโมไมล์มีไกลซีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สามารถบรรเทาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งได้ ด้วยความสามารถในการทำให้มดลูกคลายตัว จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากประจำเดือน มาให้หนูฟองดื่มด้วยครับ”

“อ้าวจริงเหรอคะ! ฟองพึ่งรู้นะเนี้ยว่าชาคาโมไมล์ด้วยช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ด้วย”

“เฮียเคยเรียนมา เดี๋ยวไปชงให้หนูฟองดื่มนะ”

“ค่ะ” ฉันยิ้มแห้งๆ ให้เขาแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นจากโซฟาเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกรอบ พี่หมอพะนายบรรยายสรรพคุณของชาคาโมไมล์ให้ฉันฟังบอกเลยว่าไอ้ฟองแอบงงกับศัพท์ที่เขาใช้พูดหน่อยๆจะว่าฉันโง่ก็ได้นะก็ฉันเรียนวิศวะเคยได้ยินศัพท์แพทย์จากที่ไหนละผ่านไปชักพักฉันกำลังจะเคลิ้มหลับเพราะฤทธิ์ของยาบรรเทาอาการปวดประจำเดือนที่กินเข้าไปเมื่อสักครู่

“หนูฟองอย่าพึ่งหลับนะครับดื่มชาคาโมไมล์ก่อนไม่ร้อนมากอุ่นกำลังดีแล้วค่อยเข้าไปนอนในห้องนอนนะ”

“ค่ะ ชานี่หอมดีนะคะ” ก่อนจะดื่มฉันสูดดมกลิ่นของชาคาโมไมล์ที่มีกลิ่นหอมถูกใจมากทีเดียว รสชาติเหมือนเราดื่มน้ำต้มสมุนไพรโบราณของคุณยายรสหวานนิดๆไม่มีรสขม จากนั้นฉันก็วางแก้วที่ดื่มน้ำชาหมดแล้ววางลงไปไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างในคืนนี้มากๆ นะค่ะ แล้วก็ขอโทษที่เมื่อตอนกลางวันฟองเหวี่ยงใส่พี่หมอพะนายด้วย เอาเป็นว่าคืนนี้ฟองไม่รบกวนพี่หมอพะนายแล้วนะคะ”

“คืนนี่เฮียจะมานอนเฝ้าหนูฟองเผื่อหนูฟองปวดประจำเดือนขึ้นมาอีก”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะนอนพักแล้วก็คงหายปวดแล้ว”

“ไม่ยังไงวันนี้เฮียก็ต้องมานอนที่ห้องหนูฟอง และหนูฟองก็ห้ามล็อกห้องเดี่ยวเฮียไปอาบน้ำและเอาชีทมาอ่านสอบก่อน”

“ก็ได้ค่ะ แต่พี่หมอพะนายต้องนอนโซฟาในห้องรับแขกนะ!”

“โอเคครับเฮียนอนไหนก็ได้สบายมาก หนูฟองเข้าไปนอนในห้องนอนเถอะเดี๋ยวเฮียไปอาบน้ำที่ห้องเฮียก่อน”

“โอเคค่ะ” จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปนอนในห้องนอนและเผลอหลับจนสนิทโดยไม่รู้ตัว จนรู้สึกตัวตอนตีสองแล้วเดินออกไปกินน้ำที่ห้องครัวก็พบกับพี่หมอพะนายยังไม่นอนและเขาก็อ่านหนังสืออยู่

“ตีสองแล้วพี่หมอพะนายยังไม่นอนอีกเหรอคะ พรุ่งนี้เรียนแปดโมงไม่ใช้เหรอคะ”

“อ่านหน้านี้จบเฮียก็จะนอนละครับ หนูฟองตื่นมาทำไมหรือปวดท้องอีก!” เขาทำหน้าตกใจแล้ววางเอกสารประกอบการเรียนของเขาลงบนโต๊ะแล้วรีบเดินมาหาฉันที่ยืนอยู่ห่างจากโซฟาและกำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแก้กระหาย

“ปะเปล่าค่ะ ฟองหายปวดท้องแล้ว” ฉันยิ้มให้เขาอย่างเขินๆ ก็ชุดที่ฉันกำลังสวมใส่ตอนนี้เป็นชุดกระโปรงแขนยาวสีขาวบางๆ แถมสั้นกว่าหัวเขามาตั้งฝ่ามือหนึ่ง มืออีกข้างที่ว่างจากถือแก้วน้ำพยายามดึงกระโปรงลงแต่มันเป็นชุดกระโปรงและไม่ใช้ผ้ายืดดึงเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะยืดลงมาได้

“ชุดนอนหนูฟองเซ็กซี่จังเลยนะครับ!” ร่างสูงโน้มตัวลงมากระซิบใกล้ๆ ใบหูของฉัน

“ฟอด!!! หอมชื่นใจด้วย”

“มาหอมแก้มฟองทำไมเนี้ย” ฉันผลักพี่หมอพะนายออกจากตัว

“เฮียขอเป็นค่าตอบแทนที่ไปซื้อยาให้หนูฟองนะครับ” พี่หมอพะนายยืนล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“คนขี้ฉวยโอกาส กลับไปนอนห้องตัวเองเลยนะ!” ฉันยืนจ้องหน้าเขาอย่างจริงจัง เขาทำอย่างนี้ทำให้ฉันไม่ไว้ใจเขาเลย

“โอ๋ๆเฮียขอโทษที่ฉวยโอกาส สัญญาว่าครั้งน่าจะขออนุญาตหนูฟองก่อน อย่างอนเฮียเลยนะครับ” พี่หมอพะนายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันแล้วฉายหัวไปมาแล้วยิ้มจนเห็นลักยิ้ม เหมือนเขากำลังง้อหลานสาวตัวเล็กของเขาอยู่

“หึ!ก็ได้ครั้งนี่ ฟองจะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น” ฉันอมยิ้มกอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้นจนแทบคอเคล็ด

“ไม่ได้นะ! มันเกิดขึ้นแล้ว และหนูฟองต้องจำให้ขึ้นใจตัวว่าเฮียหอมแก้มเราในวันแดงเดือด!”

“จะบ้าหรือไงใครเขาจะจำว่าโดนผู้ชายหอมแก้มในวันที่เป็นเมนส์”

“ก็เฮียไงจะจำไว้ว่าครั้งแรกในชีวิตที่ได้หอมแก้มหนูฟองในวันที่เป็นเมนส์ ฮ่าๆ”

“หยุดหัวเราะเลยนะ ฟองง่วงแล้วไปนอนดีกว่า ส่วนพี่หมอถ้าอยากนอนขดตัวอยู่บนโซฟาห้องรับแขกก็ตามสบายนะคะ ราตรีสวัสดิ์"

“เฮียจะนอนที่โซฟานี่แหละคืนนี้ แต่ทำไมแอร์มันหนาวจังนะอยากได้อะไรอุ่นๆ กอดให้หายหนาวจังเลย”

“ทำไมพี่หมอพะนายพูดด้วยสีหน้าแบบน้องหมาที่กำลังจะโดนทอดทิ้งจากผู้เป็นนายที่รักละค่ะ”

“นี่! หนูฟองหาว่าเฮียเป็นหมาเลยเหรอเดี๋ยวนี่ชักจะกลายเป็นยัยอสูรน้อยแบบที่แสตมป์บอกเฮียเข้าไปแล้วนะ”

“แบร่ๆ ฮ่าๆ น้องหมาน้อยของเค้า” จบประโยคไอ้ฟองก็ไม่ยืนอยู่ที่เดิมแล้วฉันรีบใส่เกียร์หมาวิ่งเข้าห้องนอนล็อกอย่างแน่นหนาเลย

“ปัง ปัง ปัง เปิดประตูออกมาเคลียร์เลยนะยัยอสูรน้อย”

“หาว หาว หาว ฟองง่วงแล้วนอนก่อนนะคะราตรีสวัสดิ์อีกรอบค่ะ” พี่หมอพะนายโวยวายเสียงดังอยู่หน้าประตูห้องนอนของฉันอีกชักพักเสียงก็เงียบลงพร้อมกับไฟในห้องรับแขกที่ส่องเข้ามาในห้องนอนของฉันก็ดับลงสงสัยเขาจะนอนแล้วก็คงไม่แปลกตอนนี้เกือบจะตีสามอีกแค่สิบนาทีเสียงนาฬิกาปลุกอันรบกวนเวลาหลับเวลานอนของคนสวย ทำให้ไอ้ฟองอยากจะปานาฬิกาปลุกบนหัวเตียงให้ไปตกกระทบกับแรงเสียดทานอย่างผนังห้องเลยจริงๆ

“ปัง! ปัง! ปัง! หนูฟองครับตื่นได้แล้วจะเจ็ดโมงแล้วนะ รีบอาบน้ำเดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก” แต่ก็ไม่เท่าเสียงเคาะประตูไม่สิต้องเรียกมันว่าเสียงทุบประตูทั้งก่อนเข้านอนและตอนตื่น จากฝีมือคุณพี่หมอพะนายไงจะใช้ใครอื่น

“คะๆ ฟองตื่นแล้วขอเดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ!”

“ได้ๆ ครับวันนี้ไม่ต้องโทรเรียกแสตมป์มารับนะเดี๋ยวเฮียจะไปส่งเอง!” ในขนาดที่ฉันลุยขึ้นจากเตียงด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงแต่ก็ยอมก้าวขาลงจากเตียงเพื่อเดินตรงไปยังห้องน้ำแล้วอาบน้ำไปเรียน

“อ้าวนี่พี่หมอพะนายตื่นเช้าขนาดได้ลงไปซื้อโจ๊กหน้าปากซอยมาเลยเหรอคะ โหนอนตั้งเกือบตีสามตื่นได้ยังไงสุดยอด!” บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กหมูใส่ไข่แดงยางมะตูมพร้อมโรยหน้าด้วยต้นหอมขิงซอยบางๆ และปาท่องโก๋ราดนมข้นหวาน แต่โจ๊กมีกลิ่นหอมของกระเทียมเจียวอย่าอบอวล แค่มองน้ำลายก็จะไหล พานให้ท้องร้องออกมาประจานฉันแล้ว

“จ๊อกๆ”

“ฮ่าๆ หิวแล้วอ่ะดิ งั้นนั่งลงแล้วกินข้าวก่อนค่อยไปเรียนนะเฮียอุตส่าห์ตั้งใจทำเองกับมือเลย”

“หะนี่พี่หมอทำเองจริงเหรอ”

“ถึงกับอ้าปากค้างเลยดิ๊แน่นอนครับเฮียทำเองบอกเลยนะ นอกจากจะหล่อ เรียนหมอ แล้วยังมีคุณสมบัติเป็นพ่อของลูกที่ดีด้วยไม่รู้ว่ามีคนแถวนี้จะสนใจให้เฮียเป็นพ่อของลูกไหมเฮ้อคิดแล้วก็ท้อตามจีบจนจะสี่เดือนแล้วผู้หญิงเขายังไม่ยอมคบเป็นแฟนกับเราเลย”

“ถ้าท้อก็เลิกจีบสิคะ!” ฉันถึงกับน้ำตาคลอหน่วยตารู้สึกร้อนๆ ขอบตาเมื่อนึกว่าพี่หมอพะนายเขาแค่อยากจีบฉันเล่นๆ

“ไม่! เฮียท้อแต่ไม่มีวันถอยและหนูฟองต้องเป็นแม่ของลูกเฮียคนเดียวเท่านั้น!”

“บะบ้าแม่ของลูกอะไรกันละพี่หมอพะนายโอ้เว่อร์ไปไหม”

“เฮียพูดจริงนะครับ”

“ไม่คุยด้วยแล้วกินโจ๊กดีกว่าไม่รู้ว่าจะอร่อยเหมือนหน้าตาที่น่ากินและกลิ่นหอมๆ ไหมนะ”

“รับรองว่าหนูฟองต้องติดใจจนไปไหนไม่รอดเลยครับ” พี่หมอพะนายยิ้มอย่างหมั่นอกมั่นใจสายตาจ้องฉันที่กำลังใช้ช้อนตักโจ๊กพร้อมกับหมูสับปั้นเป็นก้อนหนึ่งชิ้นเข้าปากค่อยๆ บดเคี้ยวอย่างช้าๆ แล้วชำเลียงสายตามองดูคนทำโจ๊กที่ไม่ยอมกินโจ๊กเอาแต่มองฉันอย่างลุ้นๆ

“อืม…อร่อยมากเลยค่ะพี่หมอพะนาย” ตอนแรกฉันแกล้งทำหน้าคลุกคิดก่อนจะค่อยๆ ยิ้มกว้างออกมา

“เฮ้ย! ทำหน้าให้เฮียลุ้นแทบตาย”

“ฮ่าๆ ไหนบอกมั่นใจในฝีมือตัวเองอย่างไงละคะ”

“ไม่ต้องพูดเลยรีบกินเดี๋ยวสายมาโทษเฮียไม่ได้นะครับ”

“โอเคๆ ค่ะพี่หมอ”

ฉันกับพี่หมอพะนายกำลังจะไปเรียน เดินออกจากลิฟต์เพื่อเดินไปที่รถของพี่หมอพะนายที่เขาจอดรถไว้ลานหน้าคอนโด แต่วันนี้ฝนตกและหนักมาก

“เอาไงดีว่ะเนี้ย รถเฮียไม่มีร่มชักคันเอาไงดีตอนนี้ก็เจ็ดโมงสี่สิบแล้วด้วย” พี่หมอพะนายเขาทำหน้าอย่างคนที่กำลังคิดไม่ตก มองหนังสือสองเล่มและสมุดเลคเช่อร์หนึ่งเล่มในมือของฉันอย่างกังวล ส่วนของพี่หมอพะนายไม่มีหนังสืออะไรนอกจากกุญแจรถที่อยู่ในมือสงสัยเมื่อเช้าตอนออกไปซื้อของมาทำโจ๊กเขาจะเอาไปไว้ในรถแล้ว

“ไม่ต้องห่วงนะคะฟองมีร่มในกระเป๋า” ร่มคันโปรดของฉันที่ขนมาจากบ้านที่ต่างจังหวัดบอกเลยร่มอันนี้ไอ้ฟองรักมากเพราะเป็นของแท้ที่ได้มาจากญี่ปุ่น

“จริงเหรอครับ งั้นเดี๋ยวเฮียจะกางร่มไปเอารถมารับ หนูฟองรอเฮียที่หน้าตรงนี้แปบนะ” ฉันร่วงเอาร่มสีชมพูลายคิตตี้ลูกรัก ยื่นให้พี่หมอพะนาย

“นี่คะ” พี่หมอพะนายกางร่มของฉันออก ก่อนจะทำหน้าอ้ำอึ้งอย่างกับคนที่กำลังลังเลใจว่าจะเอายังไงต่อดี

“พี่หมอเป็นไรค่ะ ไม่รีบแล้วเหรอ” เขายังทำหน้าลังเล

“โอเคไปแล้วนะ” จากนั้นพี่หมอพะนายก็เดินกางร่มออกไปกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมา ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีทั้งนั่งรอยืนรอให้ฝนหยุดตกก่อนค่อยออกไปข้างนอก

“เฮ้ยแกนั้นพี่หมอพะนาย ตกลงเขาแอ๊บแมนเหรอว่ะแกทำไมเขากางร่มสีชมพูลายคิตตี้อย่างนั้น”

“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง” เสียงผู้หญิงที่กำลังจับกลุ่มพูดถึงพี่หมอพะนาย

“ฉันได้ยินมาว่าเขาออกจะเจ้าชู้ไม่น่าจะแอ๊บแมนหรอกนะ”

“แต่พี่ฉันที่เรียนคณะแพทย์บอกว่าพี่หมอพะนายไม่เคยครบกับใครเป็นแฟนเลยนะ พี่เขาเป็นแน่ๆ” จากนั้นก็มีคนอื่นๆ ออกความคิดเห็นเรื่องความแมนของพี่หมอพะนาย ซึ่งทำให้ไอ้ฟองคนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่พี่หมอพะนายกางร่มสีชมพูลายคิตตี้ลูกรักของฉัน เขาถึงทำหน้าอย่างกับมีใครเอาสัตว์ประหลาดโยนไปใส่ในมือของเขา ฟองขอโทษนะพี่หมอฟองไม่รู้ว่าลูกรักของฟองจะทำให้พี่หมอโดนคนอื่นเข้าใจผิด!!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel