บท
ตั้งค่า

Chapter 12 “โทษทีครับวันนี้เมียพี่มาคุม”

เขาวะว่ายังไงนะ ตอนนี้ฉันไม่อยากจะมองใครในร้านทั้งสิ้น เขินและอายกว่าอยู่บนเวทีประกวดดาวเดือนคณะชะอีก ทำไมพี่หมอพะนายชอบพูดตรงๆออกมาอย่างนี้

“ไอ้ฟองกลับกันเคลียร์บิลเสร็จแล้ว ยืนก้มหน้าหาเศษเหรียญอยู่หรือไงว่ะ”ติวเตอร์เดินมาตบไหล่ของฉันเบาๆเพื่อเรียกสติ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกตัวจากอาการเขินอาย

“ปะเปล่าไม่ได้หาอะไรทั้งนั้นแหละไอ้ติวเตอร์”

“ไอ้หมอพะนายแกทำอะไรน้องฟองจันทร์ของฉันเปล่าวะ”พี่หมอเจมส์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อย่างคนที่กำลังรู้ทัน ขยิบตาให้ฉันที่กำลังมองหน้าเขาอย่างเก็บอารมณ์เหมือนกับเมื่อสักครู่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นสักนิด

“ไอ้เจมส์เลิกแกล้งล้อเลียนหนูฟองได้แล้ว กลับกันได้แล้ว”ฉันอยากจะหันหน้าไปขอบคุณ พี่หมอพะนายเขามาก แต่สาเหตุที่ทำให้ฉันโดนพี่หมอเจมส์เขาล้อเลียนอยู่แบบนี้ก็เกิดจากเขายังไงละพี่หมอเจมส์หยักไหล่หัวเราะหึในลำคอ แล้วพี่เขาก็เดินไปที่รถของพี่เขาพร้อมกับพี่คิงที่ยิ้มล้อเลียนฉันโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ แต่หันไปสบตากับพี่หมอพะนายอย่างคนที่กำลังรู้ทันกันอย่างดี

หลังจากวันนั้นที่ฉันได้ตำแหน่งดาวคณะวิศวะ หลังงานประกวดจบลงและได้ไปกินหมูกระทะหลังมอทำให้ประจักแก่ใจว่าการที่ฉันได้ตำแหน่งดาวคณะวิศวกรรมปีนี้มีคนรู้จักฉันมากขึ้นและชอบมีผู้ชายเข้ามาทักทั้งแบบถามฉันว่าใช้ดาวคณะวิศวะปีนี้หรือเปล่าแล้วจากนั้นก็พูดเหมือนจะจีบฉันกันทุกคน ส่วนผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะมองฉันด้วยสายตาที่หมั่นไส้

“ไงดาววิศวะสุดฮอตแห่งปี ทำไมทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนั้นละเพื่อน”ตอนนี้ฉันกำลังจะนั่งลงโต๊ะใต้อาคารเรียน หลังจากที่เดินไปซื้อน้ำเปล่ามาแล้วกลับมานั่งกับเพื่อนๆที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่

“ก็พี่หมอพะนายอ่ะเขาบังคับให้ฟองไปเที่ยวที่ผับของเขาคืนนี้!”ที่ไม่อยากไปที่ผับของเขาเพราะว่าฉันยังจำวันแรกที่ฉันกับพี่หมอพะนายพบกันได้ เหมือนจะจำได้รางๆแล้วว่าตัวเองได้ทำอะไรที่น่าอายลงไปบ้าง

“เอ้าก็ดีแล้วไปเที่ยวผับ ทำไมต้องทำหน้าบูดบึ้งเหมือนกับผู้หญิงที่ไม่ชอบเที่ยวไปได้ทั้งที่แกก็ออกจะชอบ”

“ก็จำเรื่องที่ฉันตื่นมาในคอนโดของพี่หมอพะนายได้หรือเปล่าละ บอกตามตรงฟองยังอายอยู่เลยนะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะอายทำไมว่ะฉันว่าเฮียหมอเขาลืมไปแล้วแหละฟองจันทร์ แกสบายใจเถอะ”

“ค่ะเพื่อนแสตมป์มันช่วยได้มาก ทำให้เพื่อนคนนี้สบายใจขึ้นอย่างมาก”ฉันพูดประชดแสตมป์มันไป

“เอาน่าไอ้ฟองไม่อยากไปก็แค่บอกพี่หมอพะนายเขาไปตรงๆเลยดิ๊”ติวเตอร์ที่ก้มอ่านหนังสืออยู่พูดขึ้น

“ก็คงต้องไปแหละ เพราะว่าพี่หมอพะนายบอกว่าเขาไม่มีเวลามาเจอฉันทั้งเรียนที่เลิกแล็บดึกและต้องกลับไปนอนบ้านเพราะแม่เขาบ่นคิดถึง พี่หมอพะนายเลยบังคับให้ฟองไปเจอพี่เขาที่ผับ”ตอนนี้ทั้งโต๊ะมี ติวเตอร์ แสตมป์ เพื่อนๆ คนอื่นไปเรียนตัวฟรีที่ลงกันไว้ส่วนพวกเราสามคนวันนี้หมดวิชาที่ต้องเข้าเรียนแล้วเพราะตัวฟรีที่พวกเราลงเรียนด้วยกันอาจารย์ยกคลาส

“เอ่อๆไปเถอะ หรือแกไม่คิดถึงเฮียหมอพะนายเหมือนกัน”

“ไอ้แสตมป์แกพูดอะไรออกมาเนี้ยบางทีฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ ไม่จำเป็นต้องถามกันตรงๆ ขนาดนี้ก็ได้นะเพื่อน”

“เอ้าจะทำเป็นมาเขินทำไมเนี้ยฟองจันทร์ อยู่กันแค่สามคนกับสายตาของเพื่อนๆ ในคณะและรุ่นพี่ที่กำลังเลิกเรียนมองมาที่แกเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เจริญมากเลยค่ะเพื่อนแสตมป์พูดแล้วยังไม่จบยังมีหน้ามาหัวเราะเสียงดังล้อเลียนฉันอีก ไม่ต้องให้บรรยายบรรยากาศของใต้ตึกตอนนี้ที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา และนั่งอยู่ตามโต๊ะต่างก็มองมาที่โต๊ะของพวกเราที่นั่งกันอยู่ จนทำให้ฉันรู้สึกประมาท

ณ.ผับแถวทองหล่อของพี่หมอพะนาย

“.....Trrrrrrrrrr.....”

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขนาดที่ฟองจันทร์ เธอกำลังแต่งตัวอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใคร

“ฮัลโหลค่ะ พี่หมอพะนายฟองกำลังแต่งตัวยังไม่เสร็จทีเลย” ตอนนี้ฉันกำลังวาดโครงคิ้วก่อนที่จะเขียนคิ้วเพื่อให้คิ้วออกมาสวยสมาร์ตโฟนที่ถูกเปิดลำโพงไว้เพื่อคุยกับปลายสาย

“ฮัลโหลครับให้เฮียไปรับที่คอนโดนะครับ เดี๋ยวเฮียไปรับไม่ต้องนั่งแท็กซี่มาหลอกเฮียกำลังขับรถเข้ามารังสิตแล้ว” วันนี้พี่หมอพะนายกลับบ้านของเขาที่ปทุมธานี หลังจากที่เขาเลิกเรียนตอนบ่ายสองครึ่ง แล้วขับรถกลับเข้ามาในกรุงเทพเพื่อเข้ามาผับที่ทองหล่อซึ่งคอนโดของฉันกับทางที่เขากำลังขับรถมามันค่อนข้างที่จะไกลกว่าเขาจะวนรถกลับไปมาหลายรอบ

“ไม่ต้องเลยนะคะ ฟองนั่งแท็กซี่แล้วเราไปเจอกันที่ผับเถอะนะคะ”

“แต่เฮียเป็นห่วงหนูฟอง นี้ก็สองทุ่มแล้วเราเป็นผู้หญิงนั่งแท็กซี่ตอนดึกๆ มันอันตรายนะ”

“นะฟองไม่อยากให้พี่หมอเหนื่อยขับรถไกลๆ ฟองจะโทรศัพท์คุยระหว่างที่นั่งแท็กซี่ไปหาพี่หมอพะนายเลยก็ได้ พี่หมอจะได้ไม่เป็นห่วงนะคะ” ฉันใช้น้ำเสียงออดอ้อนเขาเพื่อให้เขายอมตกลงไม่ต้องวนรถมารับฉันแล้ววนรถไปที่ผับ

“ก็ได้ครับแต่ถ้าหนูขึ้นแท็กซี่แล้วโทรเข้ามาหาเฮียนะ งั้นแต่งตัวต่อเลยนะครับ” ปลายสายตอบกลับมาอย่างจำยอมเสียงติดจะไม่ค่อยพอใจชักเท่าไหร่

“ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่และกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่หมอพะนายตามที่เขาสั่งไว้

“ตอนนี้ฟองใกล้ถึงแถวหน้าผับแล้วนะคะ”

“โอเคถ้าหนูฟองมาถึงแล้วจะมีพนักงานผู้หญิงยืนรอหนูฟองที่หน้าผับนะครับ พี่เอารูปให้เขาดูแล้วเดี๋ยวเขาจะพาหนูขึ้นมาหาเฮียที่ห้องทำงานนะครับ”

“ได้ค่ะพี่หมอ” จากนั้นไม่นานฉันก็มาถึงหน้าผับของพี่หมอพะนายแถวทองหล่อที่เดิมที่ฉันเคยมาตอนที่พี่หน้าโจรป่ากับพี่น้ำผึ้งพามาเลี้ยงสายรหัส

“สวัสดีค่ะคุณฟองจันทร์ ดิฉันนภาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการด้านการเงินของผับที่นี่ค่ะ” ผู้หญิงที่กล่าวทักทายฉันเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กสูงน่าจะไม่เกินหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร แต่เธอมีรูปร่างที่เรียกได้ว่าอวบอิ่มเกินตัวอายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี

“สวัสดีค่ะไม่ต้องเรียกคุณฟองจันทร์ก็ได้นะคะพี่ เรียกฟองเสียๆ ก็พอนะคะพี่นภา ฟองว่ามันดูเหมือนฟองเป็นเจ้านายพี่เลย ฟองก็เป็นเหมือนลูกค้าที่มาเที่ยวในผับทั่วไปนะคะ”

“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณชายพะนายบอกว่าคุณฟองจันทร์เป็นแฟนของเธอ ดิฉันต้องให้เกียรตินะคะ”

“เอ่ออย่างงั้นก็ได้ค่ะ” หลังจากที่พี่นภาผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการเงินของผับ พาฉันขึ้นลิฟต์มาบนชั้นสามของผับซึ่งเป็นชั้นของออฟฟิศ บริเวณภายในชั้นนี้จะตกแต่งแบบบ้านมาเฟียฮ่องกงอย่างในละคร

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก คุณชายพะนายดิฉันนภาพาคุณฟองจันทร์มาแล้วนะคะขออนุญาตเข้าไปนะคะ” ตอนนี้ฉันเดินมาหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นห้องของพี่หมอพะนายที่เขาบอกว่าจะรอฉันอยู่ข้างในห้อง

“เชิญครับ” เสียงพี่หมอพะนายจากข้างในห้องตอบกลับมาจากนั้นฉันก็เดินเข้าไปข้างในห้อง แล้วกล่าวขอบคุณพี่นภาที่เธอพาฉันเดินมาส่ง

“พี่หมอพะนายคะ” ฉันเรียกเขาเสียงไม่ดังมากเพราะตอนนี้เขากำลังเซ็นเอกสารอะไรสักอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ภายในโต๊ะทำงานมีแฟ้มเอกสารประมาณห้าแฟ้ม

“รอเฮียแปบนะครับ เฮียเซ็นเอกสารแฟ้มนี้เสร็จแล้วเราไปทานข้าวกันเฮียคิดว่าหนูฟองไม่น่าจะได้กินข้าวมาทีเฮียให้เด็กในร้านเตรียมไว้แล้ว กินเสร็จค่อยลงไปหาไอ้คิงกับไอ้เจมส์ที่โต๊ะ” แล้วเขาก็ก้มหน้าลงไปเซ็นเอกสารตรงหน้าต่อ ฉันก็เลยเดินไปนั่งลงบนโซฟา

“ได้ค่ะ” ตอนนี้ฉันกินข้าวที่พี่หมอพะนายให้พนักงานเอาเข้ามาให้เสร็จแล้ว

“อิ่มแล้วเราลงไปข้างล่างกันเถอะครับหนูฟอง” พี่หมอพะนายลุกขึ้นยืนจากโซฟาที่เราสองคนใช้กินข้าวในห้องทำงานของเขานั่นแหละ

“โอเคค่ะ!” ฉันเดินนำเขาออกจากห้องแล้วลงลิฟต์ไปชั้นวีไอพีที่พี่คิงกับพี่เจมส์นั่งดื่มกันอยู่

“แหม่ๆ ไอ้เสือสุ่มมาแล้วนะ ปล่อยให้เพื่อนๆ อย่างพวกฉันรอตั้งนาน”

“กินข้าวอยู่หนูฟองเขาไม่ได้กินข้าวที” พี่หมอพะนายนั่งลงโซฟาที่ว่างอยู่ฉุดแขนฉันให้นั่งลงข้างๆ เขา ตอนนี้ภายในโต๊ะประกอบด้วย ฉัน พี่หมอพะนาย พี่คิง เจ้น้ำผึ้ง พี่เจมส์แล้วก็ผู้หญิงของพี่เจมส์ที่เปลี่ยนคนอีกแล้ว

“น้องฟองๆ ดื่มอะไรดี” เจ้น้ำผึ้งรหัสฉันที่นั่งอยู่ข้างพี่คิงถามฉันขึ้น

“เจ้น้ำผึ้ง หนูเอาเหล้าไม่ต้องเข้มมากแก้วหนึ่งค่ะ” เจ้น้ำผึ้งก็หันหน้าไปชงเหล้าให้กับฉัน พี่หมอพะนายก็รับแก้วเหล้าจากพี่คิงที่เจ้น้ำผึ้งชงเสร็จแล้วและยื้นอีกแก้วที่พึ่งชงเสร็จมาให้กับฉัน

“หนูฟองอย่างดื่มเยอะนะครับ” พี่หมอพะนายที่ปรามฉันที่ตอนนี้กำลังยกแก้วเหล้าแก้วที่สามขึ้นดื่ม

“สามแก้วเองฟองยังไหวค่ะ”

“แต่เฮียไม่อยากให้หนูฟองดื่มเยอะค่อยๆ ดื่ม”

“แหม่ๆ ไอ้หมอพะนายนี่มึงจะห้ามน้องฟองจันทร์ทำไมเขาแค่จะกินเหล้า ห่วงไม่เข้าเรื่องนะเพื่อน” พี่หมอเจมส์แซว พี่หมอพะนายแล้วหัวเราะ

“ธรรมดาน้องรหัสฉันมีดีและมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะวิศวะและอาจจะได้ตำแหน่งดาวมหาลัย ดูจากสายตาผู้ชายผับ” พี่หน้าโจรป่าพูดแล้วกวาดสายตาไปรอบๆ โต๊ะที่พวกเรานั่งกันอยู่

“เงียบไปเลยไอ้คิง หนูฟองจะไม่มีวันได้เป็นดาวมหาลัยไอ้พะนายคนนี้สาบานว่าจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด” พี่หมอพะนายพูดเสียงเข้มแล้วยกแขนวาดมาโอบกอดฉันไว้อย่างหวงแหน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่าทางจะต้องใช้อำนาจในทางไม่ควรกับกรรมการตัดสินดาวมหาลัยแล้วแหละงานนี้ไอ้หมอพะนาย” จากนั้นพวกเพื่อนๆ ของพี่หมอพะนายก็เลิกแซวเขาแล้วคุยเรื่องแข่งรถ กันตามประสาผู้ชาย

“พี่หมอพะนายขา วันนี้มานั่งดื่มด้วยเหรอคะ ขอน้องอายนั่งด้วยคนนะคะ” ผู้หญิงหน้าตาน่ารักแต่เธอแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด เกินอายุเดินมาเกาะแขนพี่หมอพะนายที่นั่งโอบเอวฉันอย่างหลวมๆ อีกมือที่ว่างก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ไม่ต้องรอให้พี่หมอพะนายตอบกับอะไรมาเธอคนนั้นก็นั่งเบียดลงเลยพร้อมกับออดอ้อนพี่หมอพะนาย อย่างคุ้นชิน

“ครับวันนี้พี่ลงมานั่งดื่มกับไอ้เจมส์ ไอ้คิง น้องอายมาเที่ยวกับเพื่อนเหรอ”

“ค่ะมากับเพื่อนแต่เพื่อนๆ ของอายมากับแฟนพวกนั้นนั่งเป็นคู่ๆ อายไม่มีคู่พี่หมอพะนายไปนั่งกับอายหน่อยสิคะ” ยัยชะนีชื่ออายยังคงออดอ้อนและเชิญชวนให้พี่หมอพะนายไปนั่งที่โต๊ะของเธอ ฉันพยายามแกะมือของเขาที่โอบเอวฉันออกอย่างโกรธมีอย่างที่ไหนบังคับเรามาหาที่ผับ แต่ตัวเองกับจะไปนั่งกับผู้หญิงคนอื่นตกลงพี่หมอพะนายเขาจริงจังกับฉันจริงหรือเปล่าเนี้ย

“พี่หมอพะนายปล่อยฟอง!” ฉันพูดขึ้นเสียงดันตามอารมณ์โกรธที่เขาไม่ยอมปล่อยและมีผู้หญิงชื่ออายมาเกาะแกะ ตอนนี้บรรยากาศภายในโต๊ะเกิดความเงียบขึ้น ทั้งที่ดีเจในผับเปิดเพลงเสียงดังมาก

“ใจเย็นนะครับหนูฟองของเฮีย” เขาพยายามลูบมือฉันไปมาให้ผ่อนคลายอารมณ์ให้เย็นลง

“ตกลงพี่หมอพะนายจะไปนั่งที่โต๊ะกับอายใช่ไหมคะ” ยัยผู้หญิงชื่ออายเธอยังคงไม่สนใจว่าฉันนั่งอยู่กับพี่หมอพะนายและเราสองคนกำลังจะทะเลาะกัน นางยังคนพยายามฉุดดึงให้พี่หมอพะนายลุกขึ้นจากโซฟา

“โอเคๆ ครับ” จากนั้นพี่หมอพะนายเขาก็ลุกขึ้นยืนตามแรงฉุดของผู้หญิงที่ชื่ออายแล้วเดินตามเธอไป ทำให้ฉันที่นั่งอึ้งอยู่ถึงกับทำหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้ดี จนเจ้น้ำผึ้งขยับมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับฉันแล้วจับมือบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ

“ใจเย็นนะฟอง เจ้ว่าพี่หมอพะนายไม่ได้คิดอะไรกับยัยนั้นหลอกเดี๋ยวเขาก็กลับมา” อารมณ์ตอนนี้เหมือนจะร้องไห้รู้สึกว่าขอบตาร้อนๆ ขึ้นมาทันที

“หนูเสียใจอะเจ้ขนาดไม่ได้คบเป็นแฟนกันเขายังเลือกผู้หญิงคนนั้นทั้งที่ความจริงปฏิเสธก็ได้ถ้าเขาแคร์หนูมากกว่าผู้หญิงคนนั้น” เจ้น้ำผึ้งกอดฉันที่กำลังจะร้องไห้โดยไม่อายคนที่นั่งอยู่โต๊ะในโซนวีไอพีที่เห็นเหตุการณ์ชักนิด

“ใจเย็นๆ นะเชื่อเจ้” พี่คิงกับพี่หมอเจมส์กำลังจะพูดอะไรชักอย่างเพื่อปลอบฉันแต่อยู่ๆ เพลงในผับก็เงียบลงพร้อมกับมีผู้ชายคนหนึ่งเดินไปอยู่กลางเวทีและพูดใส่ไมค์ขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ปิดเพลงทำไมว่ะคนกำลังมันส์!”

“นั้นดิ๊ดีเจปิดเพลงทำไมวะ!” เสียงนักท่องเที่ยวในผับกำลังโห่ร้องประท้วงที่อยู่ๆ เพลงในผับก็เงียบลงกะทันหัน แต่ก่อนที่จะความวุ่นวายไปกว่านี้

“สวัสดีนักท่องราตรีทุกท่าน ผมพะนาย วันนี้สาวๆ ทุกคนในผับไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับผมนะครับ

“โทษทีวันนี้เมียพี่มาคุม!” ฉันที่กำลังจะร้องไห้โดนพี่หมอเจมส์ฉุดให้เดินไปยืนมองดูเวทีข้างล่างที่มีพี่หมอพะนายยืนอยู่ตรงกลางเวทีและกำลังมองขึ้นมาชั้นสองสบตากับฉันอย่างคนกำลังจริงจัง

“หนูฟองจ๋าเฮียจริงจังกับหนูฟองมากนะคนดีโปรดเชื่อใจเฮีย” จากนั้นก็มีเสียงโห่ร้องแซวจากผู้คนในผับที่รู้กันดีว่าพี่หมอพะนายเขาเป็นเจ้าของผับแห่งนี้ จากนั้นพี่หมอพะนายก็คืนไมค์ให้กับดีเจเพื่อเปิดเพลงให้นักท่องราตรีในผับแห่งนี้เต้นกันต่อ

“แหม่ๆ ไอ้เสือ มึงเกือบทำให้น้องรหัสกูร้องไห้แล้วนะเว้ย” เมื่อพี่หมอพะนายเดินกลับเข้ามานั่งในโต๊ะ พี่คิงก็เอ่ยแซวเขาขึ้น

“นี่หนูฟองร้องไห้เหรอเฮียปฏิเสธน้องอายไปแล้วนะ ไม่ได้มีอะไรจริงๆ” พี่หมอพะนายพูดอย่างร้อนรนกลัวฉันไม่เชื่อเขา

“ปะเปล่าฟองยังไม่ได้ร้องชะหน่อย”

“ครับๆ ไม่ร้องก็ไม่ร้อง ดีแล้วครับ” แล้วพี่หมอพะนายเขาก็โยกหัวฉันไปมาเบาๆ อย่างปลอบโยนโดยไม่แคร์สายตาผู้คนในผับที่มองมายังเขาเจ้าของผับผู้ชายที่พึ่งขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำอะไรบ้าดีเดือดเมื่อสักครู่นี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel