แฟนของคุณเล็กรวยมาก
รามิลและเหนือลมใช้เวลาเดินทางนานเกือบ 17 ชั่วโมง กว่าจะเดินทางมาถึงสนามบินเมืองลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส ทันทีที่ผ่านด่านตรวจเข้ามาในตัวสนามบิน คนงานของครอบครัวครูซก็มารอต้อนรับผู้เป็นนายน้อยอยู่ก่อนแล้ว
"นายน้อยครับ เชิญด้านนี้ครับ".
"สวัสดีครับ อาฟรานซิส"
"..."
"คุณเล็ก นี่อาฟรานซิส เป็นมือขวาของคุณพ่อคุณเหนือครับ"
"สวัสดีครับคุณรามิล ยินดีที่ได้รู้จักครับ ทุกคนที่นี่รอคอยการมาของคุณรามิลมานานแล้ว"
รามิลค่อนข้างแปลกใจที่มีคนรู้จักตัวเอง ทั้งยังพูดจาเหมือนรู้จจักตนเองมานานแล้วเสียด้วย เห็นเช่นนั้นคนที่ถูกทักทายจึงได้รีบทักทายกลับด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
"สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ แต่คุณอาเรียกชื่อเล่นของเล็กก็ได้ครับ ชื่อจริงอาจจะดูเป็นทางการไปหน่อย"
"เอ่ออ ได้ครับคุณเล็ก งั้นเชิญด้านนี้เลยนะครับ รถของเราจอดอยู่ประตูทางด้านนี้"
ก่อนจะตอบกลับ ฟรานซิสไม่ลืมที่จะหันไปมองนายน้อยของตนเชิงเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวพยักหน้าฟรานซิสจึงรีบเอ่ยตกลงอย่างไม่ลังเล
"ครับ/ครับ"
เหนือลมและรามิลเดินตามฟรานซิสมาจนพ้นประตูสนามบินก็พบว่ามีรถจอดรออยู่ถึง 3 คัน เมื่อรามิลเห็นว่าเหนือลมเดินนำตัวเองไปที่คันกลาง ร่างสันทัดจึงเดินตามไปติด ๆ โดยมิได้เอ่ยท้วงอะไร แม้จะแปลกใจกับสถานะความร่ำรวยที่เกินกว่าบอดี้การ์ดคนหนึ่งควรจะมีก็ตาม
"คุณเล็กเหนื่อยไหมครับ รออีกนิดนึงนะครับ เดี๋ยวก็ได้พักผ่อนแล้ว"
เหนือลมเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพราะกลัวว่ารามิลจะเหนื่อยล้าเกินไป
"เหนื่อยนิดหน่อยครับ แต่คุณเล็กยังไหว" (^_^)
ยิ้มหวานถูกส่งกลับให้เหนือลมอย่างเป็นธรรมชาติ ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง เหนือลมคอยดูแลรามิลไม่ห่าง คอยห่มผ้า ทาโลชั่น ทาเบบี้ออยล์ให้รามิลจนเจ้าตัวรู้สึกว่าตัวเองถูกประคบประหงมดูแลไม่ต่างจากเจ้าหญิง
"ตอนนี้เดือนเมษา เป็นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิที่นี่จะอยู่ที่ 10-18 องศา ถึงจะไม่หนาวมากแต่ก็เย็นกว่าที่เมืองไทย คุณเล็กอย่าลืมใส่ผ้าพันคอนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"
เหนือลมหยิบผ้าพันคอที่อยู่ในกระเป๋าของรามิลขึ้นมาพันที่คอให้คนตัวเล็กจนเรียบร้อย
"..."
"คุณเล็กมองหน้าคุณเหนือทำไมครับ มีอะไรรึเปล่า"
"คุณเล็กว่าตัวเองโชคดีมากที่เจอคุณเหนือ"
"คุณเหนือก็โชคดีที่เจอคุณเล็กครับ จุ๊บ"
"งื้ออ~ คุณเหนือ คุณเล็กอายคุณอาฟรานซิสนะ"
คนที่โดนขโมยหอมแก้มจนหน้าเปลี่ยนสีรีบงุดหน้าลงที่อกของคนพี่เมื่อเห็นว่าฟรานซิสหันมาเห็นพอดี
"หึ อายก็มานี่ครับ ไม่ต้องมองไปที่อื่น มองแค่คุณเหนือคนเดียวก็พอ อึ๊บ"
เหนือลมถือโอกาสอุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตัก พร้อมกับโอบกอดเอาไว้ด้วยแรงปรารถนา กว่าเขาจะมีโอกาสได้อย่างวันนี้มันเจ็บปวดแค่ไหนเขาไม่เคยลืม การที่ต้องส่งคนที่ตัวเองรักให้ไปเป็นคู่หมั้นของคนอื่น คอยตามรับตามส่งดูแล คอยปลอบใจเวลาที่รามิลร้องไห้เพราะคู่หมั้นไม่สนใจ แต่มันเป็นความเจ็บที่เขาเลือกเอง เขาเลือกที่จะอยู่เคียงข้างคนที่ตัวเองรัก แม้อีกฝ่ายจะมองไม่เห็นก็ตาม ทว่า ฟ้าก็ไม่ได้ใจร้ายเกินไป เมื่อจุดจบของรามิลกับอดีตคู่หมั้นมาถึงนั่นจึงเป็นการเริ่มต้นของเหนือลมเช่นกัน
"ใกล้ถึงรึยังครับ"
"ยังเลยครับ คุณเล็กพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวคุณเหนือปลุกเองครับ"
คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับ ไม่นานก็ผล็อยหลับในอ้อมกอดของเหนือลม ฟรานซิสที่เห็นแบบนั้นก็พลอยอุ่นซ่านในใจไปด้วย ปกติแล้วนายน้อยของเขาค่อนข้างเฉยชากับคนอื่น
กระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน เหนือลมมีปัญหากับเบอร์นาร์ดผู้เป็นพ่อ ด้วยเหตุผลที่ว่าเบอร์นาร์ดอยากให้ลูกชายเข้ามารับช่วงดูแลกิจการต่อ ซึ่งตอนนั้นเหนือลมอายุเพียง 26 ปี เจ้าตัวยังอยากใช้ชีวิตอิสระจึงหนีออกจากโปรตุเกสกลับมาที่เมืองไทยซึ่งเป็นบ้านของ เอื้องฟ้า ผู้เป็นแม่
แต่ยังไม่ทันจะไปถึงเชียงรายก็ไปตกหลุมรักน้องสาวของเพื่อนเสียก่อน จึงเป็นที่มาของหน้าที่บอดี้การ์ดส่วนตัวของรามิล เมื่อผู้เป็นพ่อกับแม่รู้เข้าก็ได้แต่เฝ้าสงสัยว่าใครกัน ที่ทำให้เจ้าลูกชายตัวแสบของตนเฝ้ารออยู่ได้หลายปีขนาดนั้น
เบอร์นาร์ดให้คนสืบข่าวว่าคนที่เหนือลมชอบคือใคร แรก ๆ ที่รู้ว่ารามิลมีคู่หมั้นแล้ว ผู้เป็นพ่อและแม่ก็เป็นห่วงลูกชายไม่น้อย แต่อย่างไรก็ยังเคารพในการตัดสินใจของเหนือลม กระทั่งเอื้องฟ้าได้รับโทรศัพท์จากลูกชายเมื่อ 2 วันก่อน ว่ากำลังจะพาว่าที่ลูกสะใภ้มาเยี่ยม นั่นจึงถือเป็นข่าวดีในรอบหลายปี
"เราต้องเปลี่ยนไปขึ้นเจ็ทต่อแล้วครับนายน้อย"
ฟรานซิสแจ้งต่อผู้เป็นนายน้อยของบ้านด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะไม่อยากรบกวนการนอนของรามิล
"อื้อ"
เหนือลมส่งสายตาให้คนงานเปิดประตูอย่างเบามือที่สุด ร่างสูงโปร่งอุ้มคนตัวเล็กในอ้อมกอดเดินขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนคนที่เพลียจากการเดินทางก็หลับปุ๋ยไม่รู้สึกตัว
กระทั่งเครื่องเทคออฟทะยานสู่ท้องฟ้า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่เกาะ Tesouro ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลาบินจากเมืองหลวงของประเทศไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
"อื้ออ~ หือ คุณเหนือ ทะ..ทำไมเราอยู่บนเครื่องล่ะ ก่อนหน้านี้พวกเราอยู่บนรถไม่ใช่เหรอ?"
รามิลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อเครื่องใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ซึ่งเป็นช่วงตะวันตกดินพอดี คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวาก็แปลกใจเมื่อตนเองอยู่บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ดูเหมือนว่าครอบครัวของเหนือลมจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
"เราแค่นั่งรถไปที่สนามบินส่วนตัวครับ บ้านคุณเหนืออยู่ที่เกาะ tesouro ต้องนั่งเครื่องต่อจากเมืองหลวงอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณเล็กลองมองดูนอกหน้าต่างสิครับ ถึงบ้านเราแล้ว"
เหนือลมส่งสัญญาณให้ฟรานซิสแจ้งกับนักบินอีกต่อหนึ่ง ว่าให้พาบินวนรอบ ๆ เกาะเพื่อให้รามิลได้ดูความงดงามของสถานที่
ภาพของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ทอประกายส่องแสงสะท้อนอยู่เหนือน้ำทะเล บวกกับแสงไฟจากบ้านเรือนที่สูงเป็นลำดับขั้นตามพื้นที่ปลูกสร้าง บางพื้นที่มีชายหาดให้ลงเล่นน้ำได้อย่างสะดวก หากมุมไหนมีโขดหินเยอะก็จะมีสะพานทอดยาวให้ผู้คนเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
"โห~ ว้าว~ สวยมากเลยครับคุณเหนือ คุณเล็กอยากไปเดินเล่นตรงนั้น"
รามิลชี้ไปที่ชายหายที่มองเห็นอยู่ไกล ๆ แม้จะยังไม่รู้ว่าบ้านของเหนือลมอยู่ส่วนไหนของเกาะ แต่คนตัวเล็กก็อดตื่นเต้นกับภาพเบื้องหน้าไม่ได้
"คุณเล็กไปได้ทุกที่เลยครับ เดี๋ยวคุณเหนือจะพาคุณเล็กทัวร์รอบเกาะเอง"
"แล้วบ้านของคุณเหนืออยู่ตรงไหนครับ เวลาเข้าออกจากเกาะนี้ต้องใช้เครื่องบินส่วนตัวเท่านั้นเหรอ แล้วชาวบ้านต้องทำยังไงอ่ะ"
"หึ ๆ คุณเล็กเห็นตึก 3 ชั้นที่อยู่ข้างบนสุดไหมครับ ที่นั่นเป็นบ้านของคุณเหนือ ปกติถ้าชาวบ้านอยากจะเข้าเมือง จะมีเรือจ้างวันละ 1 รอบ แต่ที่เราต้องนั่งเจ็ทเป็นเพราะเราบินตรงมาจากเมืองหลวงของประเทศครับ เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัว คนที่ต้องการเข้ามาเที่ยวต้องติดต่อขออนุญาตก่อนถึงจะเข้าได้ ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เกาะนี้ก็มีแต่เครือญาติและคนงานที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น"
"ครอบครัวของคุณเหนือคงไม่ใช่เจ้าของเกาะนี้หรอกใช่ไหม ฮะ ฮะ ฮะ เล็กคงไม่ได้มีแฟนรวยขนาดนั้นใช่ไหมคุณเหนือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"..."
ฟรานซิสถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแห้ง ๆ ของเจ้านายคนใหม่ เดิมทีทุกคนที่เกาะเข้าใจว่าเหนือลมคงเล่าเรื่องครอบครัวให้อีกฝ่ายฟังบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้
"แฟนของคุณเล็กรวยมากครับ คุณเล็กอย่าโกรธคุณเหนือนะที่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย ไว้เราค่อยศึกษาทุกอย่างไปพร้อม ๆ กันนะครับคนดี"
"งุ้ย~ อ่อนยวบเลย คุณเหนือแสนดีขนาดนี้เล็กโกรธไม่ลงหรอก มีแต่จะหลงหนักกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า"
"ฟอดด มานั่งดี ๆ ได้แล้วครับ เครื่องกำลังจะลงจอดแล้ว"
ร่างเล็กที่กำลังเกาะขอบหน้าต่างถูกดึงเข้ามานั่งบนตักแกร่ง พร้อมกับพวงแก้มเนียนที่ถูกสูดดมจนเกิดเสียงฟอดใหญ่
สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่ารามิลใจง่ายเกินไป เชื่อเถอะว่าถ้าทุกคนเจอกับตัว ไม่มีใครยอมปล่อยให้เหนือลมหลุดมือไปอย่างแน่นอน
