บทย่อ
"มึงกล้าดียังไงมาทำให้ลิลินร้องไห้! กูเลี้ยงของกูมาอย่างดีไม่เคยให้บอบช้ำ แต่ดูสิ่งที่มึงทำวันนี้!" ผั๊วะ ผั๊วะ
ล้ำเส้น
แอดดด~
"พี่กรครับ พี่ไปดื่มกับเพื่อน ๆ มาใช่ไหม?"
"ใช่ มิลมีอะไรรึเปล่า พี่เหนื่อย พี่อยากไปพักผ่อน"
"มิลแค่อยากถามว่าภาพนี้คืออะไร"
ทันทีที่คิรากรเปิดประตูห้องเข้ามาก็เจอน้ำเสียงเย็นเยียบจากคู่หมั้น พร้อมกับหน้าจอสมาร์ตโฟนที่ฉายภาพของเขากับอดีตคนรักถ่ายร่วมกันด้วยรอยยิ้มที่หวานชื่น
"อะไรกันมิล พี่ก็แค่ไปดื่มกับพวกเพื่อน ๆ มา อย่ามาหาเรื่องกันได้ไหม! แล้วรูปนี้ใครเป็นคนส่งมาให้มิล หรือว่ามิลส่งคนไปสะกดรอยตามดูพี่ใช่ไหม มันจะไม่ล้ำเส้นไปหน่อยหรอ!"
ชายหนุ่มตั้งคำถามแต่ไม่ต้องการคำตอบ ทั้งยังทำทีเป็นโมโหเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง ในเมื่อคนที่เขารักมากกลับมาแล้ว คนตรงหน้าจะมีค่าอะไรกัน? นอกจากเรื่องผลประโยชน์ที่ครอบครัวคิรากรต้องพึ่งพาเงินลงทุนจากครอบครัวของรามิลอยู่เท่านั้น
"ล้ำเส้นเหรอ! ใครกันแน่ที่ล้ำเส้น รูปนี้ที่มิลได้มา ก็เป็นเพราะแฟนเก่าของพี่ส่งมาให้ พี่ดูไม่ออกจริง ๆ เหรอว่าเค้าอยากให้เราเลิกกัน"
"ภีมเค้าจะทำแบบนั้นไปทำไม เราคุยกันรู้เรื่องแล้วว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน พี่ก็พูดกับเค้าไปชัดเจนแล้วว่าตอนนี้พี่กำลังคบกับมิลอยู่ ไม่เอาล่ะ เราเลิกพูดเรื่องพวกนี้กันดีกว่า หนูกินข้าวรึยัง"
คิรากรรีบเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างฉับพลันเมื่อรู้ว่ารามิลไม่ได้ทำในสิ่งที่เขากล่าวหา ซ้ำยังเป็นอดีตแฟนเก่าที่เป็นคนส่งรูปนั้นมาให้รามิลต้องคิดมาก
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ 4 ปีก่อน คิรากร อกหักจากคนรักเพราะอีกฝ่ายเดินมาบอกเลิก สาเหตุที่ภีรภัสบอกกับคิรากรก็คือ เจ้าตัวอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่สิ่งที่คิรากรรับรู้มาก็คือภีรภัสแอบคุยและนัดเดทกับชาวต่างชาติที่มีฐานะ มีหน้าที่การงานที่มั่นคงมากกว่าคิรากรที่เพิ่งเรียนจบ
ตอนนั้นธุรกิจครอบครัวของคิรากรค่อนข้างมีปัญหา จึงไม่สามารถเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับคนที่มีความทะเยอทะยานแบบภีรภัสได้ คิรากรทำใจยอมรับความจริงอยู่พักใหญ่ พร้อมกับเริ่มทำงานในธุรกิจของครอบครัว
กระทั่งผู้เป็นพ่อเอ่ยปากขอให้ลูกชายรับปากการหมั้นหมายกับลูกชายคนเล็กของเพื่อนสนิท ซึ่งคิรากรก็รู้จักกับรามิลมานาน งานหมั้นถูกจัดขึ้นภายใต้ข้อตกลงที่อยู่เบื้องหลังที่ว่า
ครอบครัวกีรติเมธา(ครอบครัว รามิล) พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือและร่วมการลงทุนกับธุรกิจของครอบครัวพงศ์นิธิกุลเดช(ครอบครัว คิรากร)ในทุก ๆ โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทั้งสองครอบครัวต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน
สาเหตุที่ ราชัน กีรติเมธา ผู้เป็นบิดาของ รามิล สร้างเงื่อนไขนี้ขึ้นเป็นเพราะรู้ว่าลูกชายคนเล็กของตนเอง หลงรักคิรากรมานานแล้ว ประจวบเหมาะกับอีกฝ่ายเพิ่งเลิกรากับคนรักไป ทุกอย่างจึงเป็นไปตามที่เขาต้องการ
"มิลกินไม่ลงหรอก พี่กรไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย"
ใบหน้าและดวงตาของรามิลแสดงออกมาชัดเจนว่ามีเรื่องกังวลใจจนไม่มีแก่ใจจะทำอย่างอื่น
ฟอดดด
"โธ่ หนูมิลอย่าคิดมากไปเลยนะ งั้นพี่สัญญากับหนูเลยดีไหม ว่าต่อไปพี่จะไม่เข้าใกล้ ไม่ไปหาเค้าอีก แต่ถ้างานไหนเป็นงานที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ พี่จะให้หนูมิลไปด้วย ดีไหมครับ?"
ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มคนที่กำลังกังวลใจอยู่จนเกิดเสียงดังฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปากสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะเพื่อให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไป
"พี่สัญญากับมิลแล้วนะ"
"ครับ พี่สัญญา"
พูดจบคิรากรก็เดินหันหลังเข้าไปทางห้องนอนของทั้งคู่ ทว่าเดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"ไม่มีใครชอบให้แฟนตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับอดีตคนรักหรอกนะพี่กร ถึงตอนนี้พี่มีมิลอยู่ข้าง ๆ แต่ในใจของพี่ไม่เคยลืมเค้าได้เลย เรื่องนี้มิลรู้มาตลอด ถ้าวันไหนพี่ต้องการกลับไปหาเค้า พี่บอกมิลได้เลย ขออย่างเดียวคืออย่าทำอะไรลับหลังมิล อย่าให้มิลรู้ทีหลังว่าพี่โกหก! ถ้ามิลจับได้ทุกอย่างคงส่งผลเป็นวงกว้าง"
คิรากรตัวชาวาบเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวของคู่หมั้น ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่ย้ายมาให้ชีวิตที่เพนเฮ้าส์แห่งนี้ ทุกอย่างไม่ต่างจากคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ รามิลไม่เคยทำตัวไม่ดี กลับกันเป็นรามิลเสียด้วยซ้ำที่ทำให้คิรากรผ่านช่วงเวลาที่เจ็บช้ำมาได้ ทั้งธุรกิจของครอบครัวก็มั่นคงขึ้นได้เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ลึก ๆ ในใจของคิรากรก็ไม่เคยลืมอดีตคนรักที่เคยวาดฝันอนาคตร่วมกันได้เลย
"อึก หนูมิล"
ร่างสูงหมุนตัวกลับมาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของคู่หมั้น คิรากรได้แต่ภาวนาขออย่าให้รามิลรู้อย่างอื่นไปมากกว่านั้น
"พี่กรมีอะไรอยากจะพูดกับมิลไหมครับ?"
"มะ..ไม่ ไม่ครับ ไม่มี"
"งั้นพี่กรไปพักเถอะครับ คืนนี้มิลจะกลับไปนอนที่บ้าน"
รามิลกำลังจะเดินออกจากห้องไป แต่คิรากรก็เข้ามาดึงมือของอีกฝ่ายเอาไว้
"ดึกขนาดนี้แล้วมิลจะกลับไปทำไม รอพรุ่งนี้ค่อยไปดีกว่าไหม เดี๋ยวพี่พาไป"
"ไม่ดีกว่าครับ คุณพ่อไม่ค่อยสบาย มิลอยากไปดูแลท่าน ขอตัวก่อนนะครับ"
สิ้นบทสนทนา รามิลเดินออกจากห้องมาพร้อมกับความสับสนที่อัดแน่นอยู่ในอก
.
.
"กร เรากลับมาคบกันอีกครั้งได้ไหม ภีมรักกรมากนะ ตอนนั้นภีมเสียใจมากที่ต้องบอกเลิกกรทั้งที่เราวาดฝันอนาคตไว้ด้วยกันมากมาย ให้โอกาสภีมอีกครั้งได้ไหม?"
"รักมากงั้นเหรอ แล้วเป็นเพราะอะไรภีมต้องทิ้งเราแบบนั้น"
"เพราะความเหมาะสมไงกร ภีมเป็นแค่ลูกชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับกรเลย เพราะแบบนั้นภีมถึงพยายามทำให้ตัวเองมีการศึกษาสูง ๆ มีงานดี ๆ มีเงินมากพอที่จะเดินเคียงข้างกรได้อย่างไม่อายใคร ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของเรา แต่ใครจะไปคิด ภีมไปเรียนแค่ 4 ปี กรก็มีคนอื่นแล้ว"
"แต่ที่กรรู้มา ภีมไปเมืองนอกก็เพราะมีแฟนเป็นชาวต่างชาติไม่ใช่เหรอ ไปอยู่ที่โน่นก็เข้ากับครอบครัวเค้าได้แล้วหนิ"
"ภีมดีใจนะที่กรตามติดไทม์ไลน์ของภีมทุกช่วงเวลาเลย แต่มาตินเค้าเป็นแค่รุ่นพี่เท่านั้น ที่ภีมต้องไปบ้านเค้าก็เพราะภีมไม่รู้จักใคร อยู่ที่โน่นชาวเอเชียถูกบลูลี่หนักแค่ไหนกรก็น่าจะรู้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะกว่าภีมจะผ่านมันมาได้ ให้โอกาสภีมอีกสักครั้งเถอะนะ ความฝันของพวกเรายังมีอีกตั้งหลายอย่างที่อยากทำร่วมกัน"
"อึก กรทำแบบนั้นไม่ได้หรอกภีม ตอนนี้กรมีรามิลเป็นคู่หมั้นอยู่แล้ว"
"ภีมจะอยู่เงียบ ๆ ในมุมของภีม ขอร้องนะกร ภีมรักกรมากจริง ๆ กรไม่รักภีมแล้วจริง ๆ เหรอ ฮึก"
พรึบ
"อย่าร้องสิ กรขอถามแค่อย่างเดียว ถ้ากรถอนหมั้นกับรามิล ภีมจะไม่ทิ้งกรไปไหนจริง ๆ ใช่ไหม?"
"ฮึก ไม่มีวัน ภีมจะไม่ไปไหนแล้ว ภีมจะอยู่กับกรไปตลอดชีวิต"
ทุกคำพูดและการกระทำของคิรากรที่โอบกอดอดีตคนรัก ยังคงติดตาและบาดลึกเข้าไปในใจของรามิลจนเจ้าตัวตั้งรอบไม่ไหว ต้องรีบพาตัวเองออกไปจากเพนเฮ้าส์แห่งนี้ก่อน
นอกจากภาพนิ่งที่รามิลเปิดให้คิรากรดู ยังมีคลิปวิดีโอที่รามิลคาดว่าภีรภัสตั้งใจ ตั้งกล้องอัดวิดีโอส่งมาให้เขา เพื่อทำให้สถานะคู่หมั้นของทั้งสองสั่นคลอน
ที่รามิลไม่เปิดคลิปนี้ให้คิรากรดู ก็เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าจะยังสามารถเชื่อใจคนที่ตนรักได้หรือไม่ ชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างคงถึงเวลาที่ต้องนับถอยหลัง
"คนไม่รัก ทำยังไงเค้าก็ไม่รัก ต่างกับคนของใจ กลับมาเมื่อไหร่เค้าก็ต้อนรับเสมอ"
"ขอคืนได้ไหมผู้ชายคนนี้ พี่-อยาก-ได้"
นี่คือคำเยาะเย้ยถากถางที่ถูกส่งตามมาจากภีรภัส หลังจากที่ส่งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอมาก่อนหน้า
.
.
"คุณเล็ก คุณเล็กครับ โอเครึเปล่า ให้ผมพาไปนั่งเล่นที่เดิมดีไหมครับ?"
เสียงของเหนือลมเรียกสติของรามิลให้กลับคืนมา หลังออกจากลิฟต์มาได้เขาก็เดินออกมาหน้าตึกใหญ่ด้วยสติที่เลื่อนลอย รามิลไม่คิดว่าเหนือลมจะยังอยู่ตรงนี้ ดูเหมือนทุกครั้งที่รามิลไม่สบายใจ เหนือลมจะรับรู้และคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
คุณเล็ก เป็นชื่อเล่นที่มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่ใช้เรียกรามิล ส่วน ราม พี่ชายของรามิล ทุกคนที่บ้าน กีรติเมธา จะเรียกเขาว่า คุณใหญ่
"คะ..คุณเหนือ"
"อย่าทำหน้าแบบนั้นครับ ฮึบ ฮึบเข้าไว้ เดี๋ยวผมจะพาคุณเล็กไปสูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอดเลยดีไหม? พร้อมจะซิ่งรึยังครับ"
"อื้อ"
เหนือลมยิ้มให้คนตรงหน้าพร้อมกับส่งหมวกกันน็อกให้อีกฝ่าย ทันทีที่คนตัวเล็กยื่นมือมารีบหมวกไปสวมใส่ เหนือลมก็หันไปหยิบเสื้อแจ็กเกตขนาดพอดีตัวของผู้เป็นนายมาสวมใส่ให้จนแล้วเสร็จ
รามิลส่งยิ้มบาง ๆ ให้เหนือลม สุดยอดบอดี้การ์ดที่อยู่ดูแลความปลอดภัยให้ตนมานานนับ 4 ปีแล้ว คนตัวเล็กยังจำได้ดีว่าครั้งแรกที่พบกัน เป็นเหนือลมที่ถูกล้วงกระเป๋าเงินจนเหลือแต่ตัว รามิลเห็นแล้วอดสงสารท่าทีเด๋อๆ ด๋า ๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้เลยเข้าไปช่วยเหลือและชวนให้มาทำงานกับตนเองและครอบครัว นับแต่นั้นมา เหนือลมจึงกลายเป็นบอดี้การ์ดคนสนิท ที่พ่อและพี่ชายของรามิลไว้ใจให้ดูแลคนอายุน้อยที่สุดในบ้าน

