บท
ตั้งค่า

หัวใจจะวาย!

ภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์

"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ตัวเล็กมีอะไรอยากจะบอกพ่อไหม?"

ราชันเอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่กำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้ากังวลใจ

"คุณพ่อครับ พี่ราม คือเล็ก...เล็กท้องได้ 7 สัปดาห์แล้ว~"

น้ำเสียงแผ่วเบาปนรู้สึกผิดของรามิล กลับทำให้คนเป็นพ่อและพี่ชายใจพองโตด้วยความตื่นเต้น การมีอีกหนึ่งชีวิตเพิ่มขึ้นมา ไม่ใช่ปัญหาอะไรกับตระกูล กีรติเมธา ทุกคนมีความรักมากจนล้นเหลือที่จะมอบให้เลือดเนื้อเชื้อไขที่กำลังจะเกิดมา

"เรื่องดี เป็นเรื่องดีนะเนี่ย แม่ชื่น แม่ชื่นมาหาฉันเร็วเข้า"

รามิลถึงกับหน้าเหว๋อเมื่อเห็นผู้เป็นบิดายิ้มร่าอย่างผิดคาด เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองคงทำให้พ่อและพี่ชายผิดหวัง ถึงขึ้นอยากจะย้ายออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกน้อยเพียงลำพังเสียด้วยซ้ำ

"มาแล้วค่ะคุณท่าน คุณท่านมีอะไรให้ชื่นรับใช้คะ"

คุณแม่บ้านใหญ่วิ่งกระหืดกระหอบออกมาหาผู้เป็นนายอย่างเร่งรีบ

"เดี๋ยวมื้อเย็นจัดอาหารชุดใหญ่ไว้เลยนะ ฉันจะเลี้ยงต้อนรับการมาของเจ้าตัวเล็ก"

"ได้ค่ะคุณท่าน"

หลังจากรับคำสั่งของผู้เป็นนายเสร็จ คุณแม่บ้านใหญ่ก็ขอตัวออกไปจัดเตรียมงานอย่างรวดเร็ว

"คุณพ่อไม่โกรธเล็กเหรอครับ เล็กท้องตอนนี้ก็กลายเป็นท้องไม่มีพ่อนะครับ"

"แฮ่ม ๆ"

เหนือลมได้ยินแบบนั้นก็รีบกระแอมไอเพื่อเตือนสติรามิล

"ไงเจ้าเหนือ อยากรับเป็นพ่อของหลานฉันรึไง ทำเป็นไอขัดจังหวะเชียวนะ หึ ๆ"

ราชันหันไปยิ้มให้กับลูกน้องในนามอย่างรู้ทัน หลายปีที่ผ่านมาเขาและลูกชายเฝ้ามองดูการกระทำของเหนือลมมาโดยตลอด การรักอยู่ฝ่ายเดียว ซ้ำยังส่งคนที่ตนรักให้ไปเป็นของคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดพอตัว หากเป็นเขายังไม่อาจรู้ได้ว่าจะทนได้เท่าเด็กหนุ่มตรงหน้าหรือไม่

"ขออนุญาตเรียนว่า คุณเล็กตกลงแล้วครับ เผื่อท่านยังไม่ทราบ"

เหนือลมยิ้มกริ่มพร้อมกับจ้องหน้าคนที่ตนเองหลงรักและเฝ้ารอวันนี้มานาน เมื่อรามิลเป็นอิสระแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องรอช้าอีกต่อไป

"หืออ~ ยังไงกันลูก"

"คะ..คือว่า คุณเหนือขอโอกาส เล็กก็เลยตอบตกลงไปแล้วครับ คุณพ่อจะว่าเล็กใจง่ายเกินไปไหม?"

"ไม่เลย พ่อไม่ว่า พ่อเชื่อว่าเจ้าเหนือจะดูแลลูกได้ดีแน่นอน"

"จริงอย่างที่คุณพ่อว่าแหละน้องเล็ก ไอ้เหนือมันรอเรามานานมากเลยนะรู้ไหม อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนคนแถวนี้เลย เดี๋ยวก็ได้อยู่บนคานทองกันพอดี"

ประโยคหลังรามหันไปมองที่ปั้นสิบ คนตัวเล็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเพราะมัวแต่หยิบขนมตรงหน้าเข้าปาก โดยไม่พูดไม่จากับใครเลย

"แหนะ แล้วพี่ใหญ่ไปแขวะปั้นทำไมอ่ะ หรือว่าพี่ใหญ่ก็แอบชอบปั้นอยู่หรอครับ"

คำพูดของรามิลทำเอาคนที่กำลังกินขนมอยู่ถึงกับลำสักจนเกือบสู่ขิต

แค่ก ๆ ๆ ๆ

"ไอ้คุณเล็ก พูดอะไรบ้า ๆ พี่ใหญ่ดุขนาดนี้ ถ้าเอามาเฝ้าบ้านก็ว่าไปอย่าง"

"หึ ระวังมีผัวเป็นหมาโดยไม่รู้ตัวนะ ตัวเล็ก ๆ แบบนี้น้ำหนักกำลังดีเลย เวลาอุ้มเปลี่ยนท่าคงจะสนุกน่าดู"

"ไอ้พี่ใหญ่! ใครเค้าจะเอาตัวมาทำผัวไม่ทราบ ผู้ชายในสังกัดของปั้นยาวเป็นหางว่าวเลยล่ะจะบอกให้ ชิ!"

ระหว่างที่เพื่อนสนิทกำลังถกเถียงอยู่กับพี่ชาย แต่รามิลกับมองไปเห็นผู้เป็นพ่อจ้องมองเลขาส่วนตัวด้วยแววตาเป็นประกาย รามิลอดสงสัยไม่ได้เลยว่าหลายปีที่ผ่านมา ตนเองหมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องของคิรากร จนพลาดเรื่องราวของคนในครอบครัวไปมากแค่ไหน

หลังจากคุยธุระกันเสร็จ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน ราชันได้เอ่ยชวนเลขาส่วนตัวให้อยู่ร่วมทานมื้อค่ำด้วยกัน

"นนท์"

"ครับท่าน"

"ตอนเย็นอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิ ถ้าดึกค่อยให้คนรถไปส่ง ถือเป็นการฉลองเรื่องดี ๆ ให้กับครอบครัวเรา"

คำว่าครอบครัวเราไม่ใช่เพียงทำให้รชานนท์ใจเต้นระส่ำ แต่ลูก ๆ ทั้งสองก็หันมองหน้าผู้เป็นพ่อพร้อม ๆ กัน

"..."

"ว่าไง จะอยู่ไหม พวกเรารอคำตอบจากนายนะ"

"เอ่อ อยู่ครับท่าน แต่ตอนกลับเดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่กลับก็ได้"

"ไม่ได้! ถ้าไม่ให้คนรถของที่นี่ไปส่งก็ค้างที่นี่ พ่อให้นนท์เค้าพักที่นี่ได้ไหมตัวเล็ก ลูกโอเครึเปล่า?"

รามิลเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อ สิ่งที่ท่านอยากรู้ คือลูกจะโอเคไหมถ้าเป็นคนนี้ ถ้าเป็นรชานนท์ ที่ท่านเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลท่าน

"เล็กโอเคครับ เล็กดีใจที่คุณพ่อจะมีคนดูแล"

"ขอบใจนะลูก ได้ยินรึยังนนท์ ต่อไปไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว"

คำพูดของราชันชัดเจนและเปิดเผยมากพอที่จะทำให้ทุกคนรับรู้สถานะของทั้งคู่ ทว่ารชานนท์ยังคงมองว่าตนเองไม่คู่ควรอยู่ดี

"ไม่กล้าครับท่าน ผมต่ำต้อยเกินกว่าจะเข้าไปอยู่ในจุดสำคัญขนาดนั้นได้"

"เฮ้อ~ ทำไมถึงเป็นเด็กดื้อแบบนี้นะ ลูก ๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ เจอกันที่ห้องอาหารตอน 1 ทุ่มนะ พ่อขอตัวไปจัดการกับเด็กดื้อก่อน นนท์ตามมา!"

ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของราชันเฉียบขาดจนรชานนท์อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัว ก่อนที่ร่างน้อย ๆ จะเร่งฝีเท้าเดินตามผู้เป็นนายไปที่ห้องส่วนตัว

"แย่แล้ว พี่นนท์ต้องโดนดุแน่ ๆ เลยไอ้คุณเล็ก แกควรไปช่วยพี่เค้านะ"

"ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเค้า เราอ่ะ มานี่"

ยังไม่ทันที่รามิลจะได้ตอบกลับ ปั้นสิบก็ถูกรามลากตัวออกจากห้องนั่งเล่นไปอีกคน

"อ้าว ไปกันหมดเลย ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะไปที่ไหนกันเหรอครับคุณเหนือ ไปบ้านคุณเหนือที่อยู่เชียงรายใช่ไหม"

รามิลเอ่ยถามคนข้าง ๆ ในประวัติของเหนือลมมีที่อยู่ที่จังหวัดเชียงรายระบุเอาไว้ หากเป็นเช่นนั้นเขาจะได้จัดกระเป๋าได้ถูก

"ไม่ใช่ครับ บ้านที่เชียงรายมีแต่ญาติ ๆ กับคนงานในไร่อยู่ ผมอยากพาคุณเล็กไปพบพ่อกับแม่ที่โปรตุเกสครับ"

"ห๊า! โปรตุเกส ทำไมเล็กไม่เคยรู้เลยล่ะว่าบ้านคุณเหนืออยู่ที่โน่น"

"บ้านพ่อครับ ท่านเป็นคนโปรตุเกส ส่วนแม่เป็นคนเชียงราย แต่คุณเล็กไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะนะครับ ผมให้แม่เตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว เอาแค่ของใช้ส่วนตัวไปนิดหน่อยก็พอ หรือจะไม่เอาอะไรไปเลยก็ได้"

"ได้ยังไงกัน คุณเหนือไปใช้คุณแม่เตรียมของใช้ไว้ให้เล็กแบบนั้น ท่านจะมองเล็กเป็นคนยังไง"

"ไม่เอาครับ ไม่หน้างอสิ เดี๋ยวตัวเล็กในท้องก็เครียดไปด้วยพอดี ท่านไม่ว่าอะไรหรอกครับ แม่ของคุณเหนืออยากเจอคุณเล็กจะแย่ ท่านอยากรู้ว่าเด็กที่ไหนทำให้ลูกของท่านไม่ยอมกับบ้านนานหลายปี"

"ง่า~ ยิ่งกดดันใหญ่เลยทีนี้ ถ้าท่านไม่ชอบเล็กล่ะ"

"คุณเหนือรักใคร ท่านก็รักด้วย ไปพักกันดีกว่าครับ"

"ก็ได้~"

ห้องนอนนายใหญ่ของบ้าน

ราชันเห็นเลขาส่วนตัวเดินตามเข้ามาในห้องก็แอบยกยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้ขุ่นมัวเช่นเดิม

"มานี่!"

"คะ..ครับ"

มือหนาตบลงที่ตักของตัวเองเป็นการบอกให้อีกฝ่ายมานั่งประจำที่

"นนท์รังเกียจฉันใช่ไหม ก่อนหน้านี้ก็กลัวตัวเล็กจะรับไม่ได้ แต่ตอนนี้ตัวเล็กก็รู้เรื่องของเราแล้ว ทำไมนนท์ถึงไม่ยอมมาอยู่ที่นี่กับฉัน หรือจริง ๆ แล้วนนท์รังเกียจที่ฉันแก่กันแน่ ใช่สิ! ฉันมันก็แค่วัวแก่ ๆ ที่หลงรักหญ้าอ่อน อีกไม่นานก็คงถูกทิ้ง"

ประโยคหลังราชันใช้น้ำเสียงแผ่วเบาจนคนฟังใจเจ็บปนรู้สึกผิด

"ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แบบนั้น แต่ผมคิดว่าผมไม่คู่ควร"

"ฉันไม่เชื่อหรอก พิสูจน์ได้ไหมว่านนท์ไม่ได้รังเกียจฉัน"

"ผมไม่เคยรังเกียจคุณท่าน ออกจะเทิดทูนบูชาซะด้วยซ้ำ"

คนตัวเล็กพูดไปมือเรียวก็ปลดกระดุมเสื้อของผู้เป็นนายไปด้วย เรื่องของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน บ่อยครั้งที่ราชันบอกให้รชานนท์มาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทว่าคนที่คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรก็หาเรื่องบ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อยมา

"หึ เด็กดี บูชาผัวมันก็ถูกต้องแล้ว อ๊าาาา~ ลึกอีกที่รัก อ๊าาา~ แบบนั้น"

บล๊วบ  บล๊วบ  บล๊วบ  บล๊วบ

ท่อนเนื้ออวบใหญ่ของคนแก่แต่ยังฟิตปั๋ง ถูกเลขาคู่ใจดูดกลืนเข้าโพรงปากร้อนไปจนมิดลำ ราชันเสียวจนหน้าท้องเกร็งแข็งขึ้นเป็นลอนซิกแพก เส้นขนที่เกิดรำไรตามลอนหน้าท้องทำให้คนตัวเล็กที่ซุกอยู่กลางหว่างขาเหมือนถูกปลุกเร้าอารมณ์ให้เสียวซ่านมากยิ่งขึ้น

แคว่ก~

"อื้อ นายท่าน แล้วผมจะใส่อะไร"

ทันทีที่รชานนท์รู้ตัวว่าเสื้อผ้าของตัวเองถูกฉีกขาด เจ้าตัวก็รีบคายความเป็นชายออกจากปากแล้วบ่นอุบอิบทั้งกังวลใจ

"ไม่ต้องใส่ ฉันก็ไม่ใส่ ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งวัน ช่างหัวเสื้อผ้ามันเถอะ!"

พรึบ

ซวบบ!

"อ๊ะ อ๊าา จะ..เจ็บ!"

"โทษทีนะเด็กดี ฉันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ "

ปัก  ปัก  ปัก  ปัก

"โอ้ว แน่นมาก นะ..น้องนนท์ หนูอย่ารัดคุณป๋าสิ"

"เร็วหน่อยได้ไหมครับ ซี๊ด"

"ไม่ไหวแล้วใช่ไหม?"

พับ  พับ  พับ  พับ

"อ๊าา โอ้ว หัวใจจะวาย"

"คิก!"

คนที่อยู่ใต้ร่างอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา เมื่อเห็นว่าคนแก่เริ่มโยคจนหน้าดำหน้าแดง

"ขำหรอ ขึ้นมาขย่มให้คุณป๋าซะดี ๆ "

พรึบ

"คุณท่านทำอะไรไม่ดูสังขารตัวเองจริง ๆ ทำอย่างกะตัวเองยังหนุ่มยังแน่น อ๊ะ"

ระหว่างที่คนตัวเล็กเปลี่ยนขึ้นไปอยู่ด้านบนแต่ยังไม่ยอมเริ่มทำหน้าที่ เพราะมัวแต่บ่นให้คนเป็นเจ้านายที่ไม่รู้จักประมาณตน คนที่ถูกบ่นจึงถือโอกาสส่งลูกรักเข้าไปกระแทกช่องทางรักด้านหลัง จนรชานนท์เบ้หน้าเพราะความจุกเสียด

"บ่นผัวดีนัก แต่ฉันมีความสุขมานะที่นนท์เป็นห่วง"

"ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับคุณท่านครับ แต่ผมขออยู่ในตำแหน่งนี้ เคียงข้างคุณท่านในฐานะเลขาส่วนตัวแค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ"

หลังจากพูดจบ ร่างเล็กที่อยู่ด้านบนก็เริ่มโยกย้ายขย่มเป็นจังหวะหนักเบาตามที่ผู้เป็นนายเรียกร้อง เสียงของทั้งคู่ครวญครางดังก้องไปทั่วห้อง ทว่ากำแพงเก็บเสียงก็ทำได้ดีสมราคา ไม่ว่าทั้งคู่จะครางกระเส่าแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel