7
รีวารินเคลียเอกสารตรงหน้าเสร็จสิ้นพอดี...กับที่แขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาถึงหน้าห้อง เลขาสาวใหญ่ผู้รู้ทุกอย่างจัดการให้แขกเข้ามาแบบที่ยังไม่ได้ขออนุญาต
“สวัสดีค่ะคุณรีวาริน” จิตราเดินเข้ามาด้วยร่างระหงชุดสีเข้มรัดรูป อวดหุ่นเพรียวได้สัดส่วน...เดินเข้ามาอย่างสง่า
รีวารินยิ้มต้อนรับเล็กน้อย...แต่ก็มองอย่างเชิงประเมิน เธอศึกษาเรื่องผู้หญิงของเขามาพอสมควร...และรู้เป็นอย่างดีว่า คนนี้คือคนที่เขากำลังจะไม่เอา...
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงส่งการ์ดงานแต่งไปให้ก่อนหมายกำหนดแจกการ์ด
“สวัสดีค่ะ...ไม่ทราบว่า เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอคะ?” เธอเชิดลำคอขึ้น...และแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องจริงจัง
“อย่าบอกนะคะ...ว่าคุณไม่รู้เรื่องการ์ดงานแต่งงาน ที่คุณแจกมาให้ฉัน”
“ค่ะ...ฉันไม่ได้ดูแลในเรื่องการแจกการ์ดทางฝั่งคุณอภิสรรค์ คุณเป็นแขกฝั่งเขาหรือคะ?” จิตรารู้เลยว่า...ตัวเองกำลังถูกรีวารินปั่นหัว หากแต่เธอจะทำตัวตื่นตูม...หรือโวยวายอะไรไม่ได้
“ดิฉันไม่รู้หรอกนะคะ...ว่าคุณสองคนจะเล่นเกมส์อะไรกันอยู่ แต่ฉันบอกเลยว่า...ฉันคงจะเป็นหมากในเกมส์ให้คุณไม่ได้”
“ดิฉันคิดว่า...คุณคงจะกำลังเข้าใจอะไรผิดไปแล้วล่ะค่ะ ดิฉันไม่เข้าใจเรื่องเกมส์ที่คุณพูดถึง...” รีวารินสวมบทบาทผู้หญิงที่ไม่ได้มีความเจ้าเล่ห์ และจริงจังเกินกว่าจะไปเสียเวลากับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งาน
จิตราหรี่ตามองอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย...และก็ยังไม่วางใจด้วย แต่หัวใจเริ่มจะร้อนรน...
“ถ้าอย่างนั้น...ฉันก็ขอเล่นเกมส์ของฉัน บ้างก็แล้วกันนะคะ” เธอว่าพร้อมสะบัดร่างออกจากห้องนั้นไป... รีวารินยิ้มพรายอย่างพึงพอใจ
เกมส์ที่เธอสร้างขึ้น...หมากในเกมส์กำลังเดินเล่นกันเองแบบที่เธอไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย
“ร้าย” หลังจากรับสายของใครบางคน...ที่โทรเข้ามาตอนที่เธอเพิ่งจะอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน คำแรกที่ปลายสายเอ่ย...คือคำที่ทำเอาเธออยากจะถอนใจ
“อย่าบอกนะคะ...ว่าคุณคิดว่าฉันเล่มเกมส์อยู่” เธอว่าอย่างเบื่อหน่ายจนเขารู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อย
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะ...ว่าคุณมีผู้หญิงที่ควงอยู่กี่คน แต่ฉันก็ไม่โอเค ที่จะมามีผู้หญิงบุกมาถึงที่ทำงาน...แล้วก็มาพูดจามั่วซั่ว” เธอระบายให้ฟังเหมือนตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ทำสุ้มเสียงเหมือนวางใจเขา และไม่ได้มีท่าทีต่อต้านใดๆ
เธอกำลังใช้ทฤษฎีนางเอก...ผู้ถูกกระทำ จนพระเอกสงสารและเห็นใจจนอยากจะปกป้อง
แต่อภิสรรค์ไม่ใช่พระเอก!
“งั้นเชียว...” เขาว่าเหมือนไม่เชื่อ
“แล้วโทรมา...มีอะไรไม่ทราบ” เธอเองก็ขี้เกียจจะสนใจว่าเขาจะเชื่อหรือเปล่า
“จิตราไม่ใช่คนที่น่าจะยุ่งเกี่ยวด้วย” เขาเตือนด้วยใจจริง...จนเธออมยิ้มสมหวัง
ใช่สิ...เธอเองก็รู้มาแบบนั้น เธอถึงเลือกที่จะใช้ผู้หญิงคนนี้ในการเดินเกมส์ครั้งนี้
“อ้อ...เธอชื่อจิตราสินะ” เธอทำเป็นเหมือนเพิ่งเข้าใจจนเขาส่ายหน้า
“จะให้เชื่อจริงๆน่ะเหรอ...ว่าไม่รู้เรื่องอะไร”
“ก็ไม่ได้พยายามจะให้เชื่อนี่...ถ้าไม่มีอะไรจะพูด ฉันขอตัวนอนก่อนนะ”
“อย่าเพิ่ง” แล้วเสียงเงียบก็เกิดขึ้นสักพัก
“มีอะไร”
“ฝันดีนะ” แล้วปลายสายที่กดวางไปทันทีที่พูดจบ...ก็ทำให้ต้นสายถือโทรศัพท์ค้างในมืออยู่อย่างนั้น
แล้วความรู้สึกที่ไม่เคยก่อเกิด...ก็ก่อตัวขึ้นจนเธอไปไม่เป็นอยู่พักใหญ่
“คนบ้า พูดจาประหลาด” เธอแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์...ทั้งๆที่นัยน์ตาเริ่มทอประกาย
หึ...แหงล่ะ เธอได้นอนหลับฝันดีอย่างที่เขาบอกแน่ๆคืนนี้
“สวัสดีค่ะคุณรีวาริน” สาวน้อยในร่างเซ็กซี่ที่เธอพอจะคุ้นตาอยู่บ้าง ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธอ...โดยที่เลขาหน้าห้องไม่ได้ขัดขวาง ตามคำสั่งของเจ้านาย
รีวารินเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าแล้วทำทีเป็นฉงนเล็กน้อย...เธอไม่ได้ต้องเดาก็ทราบดีว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นหนึ่งในผู้หญิงของว่าที่เจ้าบ่าว ที่เธอได้ส่งการ์ดเชิญวันแต่งงานไปให้
“คะ?”
“พอดีว่าวันนี้ที่พี่ซันนัดคุณเอาไว้ว่าจะไปเลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้ง...พี่ซันเขาวานให้ฉันมารับคุณแทนเขาน่ะค่ะ เพราะพี่ซันติดประชุมยาว” ท่าทีคล่องแคล่วปราดเปรียวของสาวตรงหน้า ไม่ได้ทำให้รีวารินเนื้อเต้น...ตรงกันข้าม ซ้ำเธอยังยิ้มใจเย็นส่งให้
“คนขับรถของคุณอภิสรรค์นี่...สวยดีนะคะ” และฝ่ายที่จะต้องเนื้อเต้นกลับเป็นคนที่ตั้งใจมาทำให้เธอเนื้อเต้นแทนเสียงั้น
“อะไรนะ? นี่เธอคิดว่าฉันเป็นคนขับรถของพี่ซันอย่างนั้นเหรอ!”
“ค่ะ...ก็คุณบอกเองว่าเขาให้คุณมารับฉัน และหน้าที่นั้นมันควรจะเป็นของคนขับรถนี่คะ”
“ฉันเป็นแฟนอีกคนของพี่ซัน!” รสสุดาหรือดาด้า ยืดตัวขึ้นอย่างภาคภูมิใจนักหนา รีวารินทำท่าฉงนเล็กน้อย...ก่อนเอ่ยถามอย่างใจเย็น
“แฟนอีกคน...ยอมมาขับรถรับส่งว่าที่เจ้าสาวของแฟนตัวเองให้ ใจหรือทะเลคะเนี่ย?”
“อย่าบอกนะ..ว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่พี่ซันจะมีฉันอีกคน”
“คุณเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร...แล้วทำไมฉันจะต้องรู้สึกด้วยละคะ?”
“ก็ดี...งั้นเราสองคน ก็ต่างอยู่ในที่ของตัวเองก็แล้วกันนะ” รสสุดาพูดเหมือนเจรจาแบ่งของ...และไม่เดือดร้อนอะไร
“ฉันไม่รู้สึกอะไรน่ะไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ...เพราะว่าฉันมีแต่ได้กับได้ แต่คุณน่ะสิคะ...ได้อะไรทำไมถึงยอม?”
“ฉันมักน้อยค่ะ...ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก สรุปว่าคุณจะให้ฉันรอคุณกี่นาทีดีคะ?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ...ดิฉันไปเองได้” ได้ยินดังนั้น..รสสุดาก็กลับไปอย่างสบายใจ...เพราะเธอเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะมารับเธออย่างที่อภิสรรค์สั่งอยู่แล้ว
คนอย่างรสสุดาว่าง่าย...อยู่ได้ด้วยเงิน เธอไม่หวังครอบครองอะไรนอกจากเงินของเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ อภิสรรค์เลือกใช้หล่อน ในการหยั่งเชิงเกมส์ของรีวาริน
“ว่าละ...ต้องต้อนยาก” สายตาคมกริบจ้องมองไปข้างหน้าพร้อมส่ายหัว ทุกอย่างเป็นอย่างที่เขาคาดคิดไม่มีผิด...
รีวารินไม่ยอมมาเลือกชุดพรีเวดดิ้งตามที่นัด...โดยโทรไปฟ้องอาม่าของเขาว่า เขาให้ผู้หญิงอีกคนเข้ามาวุ่นวายกับเธอ โดยมีหลักฐานแน่นหนา
อภิสรรค์รู้ทันเธอก็จริงแต่เขาก็ยังพลาด...รีวารินเข้าถูกทาง เธอเลือกใช้อาม่าของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน...แถมยังเอาจุดที่อาม่าไม่ชอบเขา พุ่งเข้าใส่...หึ และเหมือนเขาวิ่งเข้ากองไฟเองโดยที่เธอเอง ทำเพียงสร้างกับดักแสงไฟขึ้นก็เท่านั้น
“มาได้ละเรอะพ่อตัวดี” เสียงทักทายจากผู้เป็นใหญ่...ทำเอาแม่สาวที่นั่งพับเพียบช่วยอาม่าดูลายผ้าอยู่ ต้องละสายตาจากสิ่งสวยงามตรงหน้า
“แม่ตัวดีอยู่ที่นี่...แล้วพ่อตัวดีจะไปอยู่ที่อื่นได้ยังไงละครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินเข้ามาสวมกอดอาม่าอย่างเอาใจ โดยที่ตั้งใจเบียดร่างสวมส่วนที่นั่งเรียบร้อยอยู่กับพื้น
รีวารินขยับตัวออกเล็กน้อย...แต่กลับถูกขาเขาเกี่ยวเอาไว้อย่างจงใจ
“นี่คุณ..” เธอส่งเสียงปรามเขาเบาๆพร้อมส่งสายตาเขียวปัด
และกิริยาของเธอนั้น...ก็ทำเอาเขาถูกใจซะด้วย!
“มีอะไรจะเคลียกับน้องก็รีบเคลีย...” แล้วอาม่าที่เธอหวังจะให้คุ้มกัน...ก็ได้เปิดโอกาสให้หลานชายสุดที่รัก ที่แม้จะโกรธแค่ไหนก็ให้อภัยได้เสมอ
แค่เขาอ้างว่างอนกันนิดหน่อย...อาม่าก็ชื่นใจ เพราะท่านถือคติว่า...ยิ่งทะเลาะลูกยิ่งดก!
“อาม่าคะ...” รีวารินอ้าปากค้างมองการเดินหายไปของอาม่าและเหล่าสาวใช้ เธอพยายามจะลุกขึ้นเพื่อเดินหนีคนที่นั่งยิ้มกริ่ม หากแต่ลำขาแกร่งที่เกี่ยวเอวเธอเข้าไปหาอย่างถือวิสาสะนั้น กลับไม่ได้ทำให้เธอทำได้อย่างใจหมาย
“นี่คุณ! ปล่อยฉันนะ...”
“ร้าย...” เขากระซิบข้างหู จนเธอต้องหันไปหมายจะต่อว่า...แต่เพียงเสี้ยวหน้าคมสัมผัสเข้ากับแก้มนวลแบบผ่านๆ ก็ทำเอาสติเธอแทบจะไม่อยู่กับเนื้อตัว
“คุณน่ะสิร้าย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” และยิ่งเธอดิ้นมากขึ้น...สองแขนแกร่งก็โอบกอดเธอจากทางด้านหลังอย่างเต็มที่
“คิดว่าจะเล่นเกมส์ที่มันฉลาดกว่านี้ซะอีก...” นอกจากเสียงกระซิบข้างหูแล้ว เขายังส่งลมหายใจร้อนผ่าวราดรดไปทั่วข้างแก้มใส
เธอเบี่ยงใบหน้าหลบแต่ก็ไร้ผล...อภิสรรค์รวบร่างบางขึ้นมานั่งเกยบนตัก และใช้โอกาสเหล่านั้นในการคลอเคลียเธอ
คราแรก...เขาก็หวังจะแกล้ง หากแต่ความหอมเย้ายวนไปทั้งร่างนี่ต่างหาก ที่ทำให้เขาแทบจะหยุดตัวเองไม่ได้
“เกมส์บ้าอะไรของคุณ...ฉันไม่รู้เรื่อง!” คนทำทีเป็นดิ้นไปมา...กลั้นยิ้มเล็กน้อย
เธอรู้สิว่าเขาจะทำอะไรถ้าเธอทำไปแบบนั้น...คนที่กินขาดในเกมส์นี้ก็ยังเป็นเธออยู่ดีนั่นแหละ!
“ถามจริง...อยากให้ถอนหมั้น หรืออยากให้รีบแต่งงานกันแน่” คนรู้ทัน...ก็ยังคงรู้ทัน เธอหยุดดิ้นลงแทบจะทันที
“จะถอนหรือจะแต่ง...มันต่างกันยังไงเหรอ?” เสียงที่เปลี่ยนไปนั้น...ทำเอาเขาต้องหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด ว่าเธอจะใช้ไม้ไหน
“ใช้น้ำหอมกลิ่นใหม่อีกแล้วเหรอ...ชอบน้ำหอมสินะ” แล้วเขาก็เปลี่ยนเกมส์โดยการดึงสติเธอให้หลุดอีกรอบ
“เรื่องของฉัน” เธอเบี่ยงหน้าหลบอย่างไม่ชอบใจ
“ไว้วันหลังจะซื้อมาฝาก”
“ซื้อไปฝากพวกสาวๆของคุณเถอะ...ฉันซื้อเองได้” เธอประชด...ใช่ เขาต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“แน่นอน...ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะซื้อให้คุณคนเดียวนี่” ครานี้เธอหันไปมองเขาตาเขียวปัด! แบบไม่ใช่เกมส์อะไรทั้งนั้น
“ปล่อย!” แรงฮึดที่มากขึ้น...ทำเอาเขายิ้มพราย เธอไม่ได้ดิ้นพอเป็นพิธีตามเกมส์เสียแล้ว
คนบ้างานไม่แพ้กันกับเขาอย่างรีวาริน...เวลาเรื่องพวกนี้ เธอก็บ้าดีเดือดไม่แพ้กันเลยสิน่า
