ม้าสาวจอมพยศ

50.0K · จบแล้ว
เทพีปรัมปรา
25
บท
6.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำโปรย เขายอมถูกที่บ้านคลุมถุงชน...เพื่อจะได้ศรีภรรยาในโอวาทมาคนหนึ่ง แล้วก็ค่อยมีเล็กมีน้อยไปตามประสาผู้ชายเหลือกินเหลือใช้ทั่วๆไป แต่เหมือนกับว่า... ม้าสาวในปกครองที่เขาดูผิวเผินเหมือนจะเชื่องนั้น พยศเก่งอยู่ไม่น้อย..แถมพยศเงียบๆอีกต่าง งานนี้เห็นทีว่าเขาต้องใช้แรงอยู่มาก...ในการปราบพยศนี้ หึ เขาจะควบให้ไปไหนไม่รอดเลย อารัมภบท “คิดจะยั่วให้หึงล่ะสิ” น้ำเสียงเชิงหงุดหงิดชัดเจนเปล่งออกมาจากริมฝีปากกร้าน ที่เม้มแน่นอย่างสะกดอารมณ์...แววตาไร้แววความพึงพอใจเพ่งพิศไปทั่วเรือนร่างระหงส์ที่บัดนี้กำลังใส่ชุดอวดทรวดทรงเต็มที่ “นี่คุณคิดว่าตัวเอง...มีอิทธิพลพอที่จะให้ฉันทำอะไรให้ อย่างนั้นเหรอคะ?” แววตาใสว่าพาซื่อ ก่อนเอียงใบหน้าเหมือนคิดเล็กน้อย...ความนิ่งอย่างแยบยลของเธอ ทำเอาเขาแทบร้อน เนื้อแทบเต้น...เหมือนแววตาของเธอเป็นน้ำร้อนที่ราดเขาไปได้ทั้งตัว “อย่ามาพูดยั่ว” แล้วเพศชายที่พอทำอะไรไม่ได้นิดหน่อย ก็ใช้กำลัง...ก็บีบแขนดันตัวเธอเข้าหา จนเธอต้องสูดลมหายใจลึก... “ดิฉันว่าเราต่างคนต่างอยู่ เหมือนที่เป็นมาจะดีกว่านะคะ...มันดีกับเราทั้งคู่แล้ว ฉันโอเคที่คุณจะมีใครก็ได้...และฉันก็อยากที่จะให้คุณโอเคเหมือนกัน ที่ฉันจะมีใครก็ได้..” สิ้นประโยคอ่อนไหว...ริมฝีปากช่างพูดก็ถูกเขาหยุดทุกอย่าง แทบจะหมายรวมถึงลมหายใจ! ความดุร้อนที่ส่งมาอย่างถือสิทธิ์ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวหรือกำลังตกเป็นรองเลยสักนิด...เรียวลิ้นเล็กตั้งรับเขาได้เป็นอย่างดี เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป...ใครจะควบใคร ติดตามพวกเขาได้ ใน “ม้าสาวจอมพยศ”

นิยายรักโรแมนติกประธานนางเอกเก่งเศรษฐีโรแมนติกการแต่งงานคู่หมั้นชายคู่หมั้นหญิงความอยากเป็นเจ้าของ

บทนำ

บทนำ

“เจ้าชู้ไปวันๆอย่างลื้อเนี่ย เมื่อไหร่จะมีเหลนให้อั๊วอุ้ม” อาม่าผู้ชอบทำใบหน้าสะบัดใส่เขามาเสมอ สะบัดให้อีกครั้งในวันที่เขาอายุ 37 ปลายๆ แต่ยังไม่ได้มีใครเป็นตัวเป็นตน

“ถ้าอาม่าอยากมี ผมมีให้ได้นะครับ...แต่ขอมีเยอะหน่อย อาม่าเลี้ยงไหวไหมล่ะครับ” อภิสรรค์ว่าเชิงหยอกล้อ พร้อมกอดอ้อนตามนิสัยขี้เล่นอารมณ์ดี

“อั๊วเลี้ยงไหว ถ้าเหลนของอั๊วมาจากผู้หญิงที่เพียบพร้อม และมาจากแม่พันธุ์คนเดียวกัน อั๊วปล่อยให้ลื้อเลือกเองมานานแล้ว หรือว่าลื๊อจะให้อั๊วเป็นคนเลือกให้” ท่ามกลางวงศาคณาญาติที่มองมาที่เขาด้วยความกดดัน เพราะเขาคือทายาทเพียงคนเดียวของกงสี

เหมือนตระกูลต้องคำสาป...ให้เขาเกิดมาเป็นหลานเพียงคนเดียว จนความคาดหวังต่างๆตกมาที่เขา เรื่องงานเขาสานต่อให้ได้สบาย... แต่การจะให้มีผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิต เขาทำไม่ได้...และรู้ตัวเองจนไม่อยากผูกมัดกับใคร เพื่อให้มีปัญหาในภายหลัง แต่เหมือนครานี้...เขาจะขัดคนที่ใหญ่ที่สุดในกงสีไม่ได้เสียแล้ว

“อยู่มาจนปูนนี้แล้ว แกไม่คิดจะหาผัวเหมือนพี่ๆน้องๆคนอื่นบ้างเลยเหรอ?” ร่างสมส่วนในชุดกระโปรงยาวเกือบลากพื้น ชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบนบ้านลง...ก่อนมองไปที่กลุ่มก้อนของวงศาคณาญาติที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้า

รีวาริน เป็นบุตรสาวคนโตของบ้าน...ที่มีน้องชายและน้องสาว ซึ่งแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว และตอนนี้บรรดาน้องๆและลูกพี่ลูกน้องทั้งหลายก็กำลังมารวมตัวกัน ณ ห้องโถงของบ้านใหญ่ อย่างพร้อมเพรียง

“มาทำอะไรกันอ่ะ” เธอถามแบบเนือยๆเพราะเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน เธอรับผิดชอบงานได้ดีจนขึ้นเป็นระดับผู้บริหารในวัยสามสิบต้นๆ จนที่บ้านไม่ต้องห่วงกิจการไปเลยก็ว่าได้

ส่วนพวกน้องๆก็มีความสุขกับชีวิตครอบครัว แบบมีกินมีใช้จากเงินปันผลของบริษัท

“แหม ทำงานจนลืมไปเลยเหรอว่าวันนี้มีความสำคัญยังไงอ่ะเจ้” น้องสาวผู้แต่งตัวเก่งที่สุดในสามโลก อยู่ในชุมคลุมท้องครรภ์ที่สองแบบเปรี้ยวสุดฤทธิ์ แถมดี๊ด๊าเป็นที่สุด

“สำคัญยังไงล่ะ”

“ก็เป็นวันเกิดของเจ้ไง ตายแล้ว...อายุสามสิบสองแล้ว ลืมวันเกิดตัวเองได้ยังไงเนี่ย!”

แล้ววันครบรอบวันเกิดที่นำพาเธอขึ้นเลขสามไปเรื่อยๆนั้น

ทำให้เธอต้องเข้าพิธีหมั้นแบบงงๆ และผู้ชายที่เธอหมั้นด้วยนั้น ประวัติผู้หญิงช่างโชกโชน

เธอพยายามขอให้เขาถอนหมั้น แต่เขาก็ดันไม่สนใจ..เขาไม่เดือดร้อนอะไรกับการถูกจับให้หมั้นหมาย และเขาก็ขอใช้ชีวิตเหมือนเดิม ซึ่งเธอ...จะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ๆ

เธอจะพยศให้สุด...ให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช้ม้าเชื่องๆที่เขาจะควบไปไหนก็ได้ แต่ยิ่งเธอพยศเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากจะควบเธอมากเท่านั้น...แต่การควบของเขานี้เป็นการควบแบบนิ่มๆที่เธอต้องห้ามใจไม่ให้ระทวยไปกับเขาให้ได้!